พัทยา-(2 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 02.30 น. ขณะที่ พ.ต.ท.ปัญจนนท์ วิจิตรโท สวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และอาสาสมัครตำรวจบ้าน ตั้งด่านตรวจสอบสิ่งของผิดกฎหมาย อยู่ที่บริเวณกลางซอยกรมที่ดิน พัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามนโยบายผู้บังคับบัญชา เพื่อลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่เมืองพัทยา

ระหว่างที่กำลังตั้งด่านอยู่นั้น ได้พบรถเก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ ทะเบียน ฌส 7789 กรุงเทพมหานคร ขับขี่เข้าด่านตรวจแสดงท่าทางมีพิรุธ ตำรวจจึงเรียกเพื่อขอตรวจค้นหาสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ปรากฏว่ารถเก๋งคันดังกล่าว กลับเร่งเครื่องขับหลบหนีด่านตรวจมุ่งหน้าไปทางถนนสายสามพัทยากลางอย่างรวดเร็ว ทางเจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงยางสกัดจับรถเก๋งผู้ต้องสงสัย เพราะเกรงว่ารถเก๋งผู้ต้องสงสัยอาจจะเฉี่ยวชนชาวบ้านจนเป็นเหตุบานปลาย เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวได้มีพนักงานบาร์เบียร์ตามสถานบันเทิงเลิกงานเป็นจำนวนมาก ก่อนรถผู้ต้องสงสัยจะไปหมดฤทธิ์ บริเวณหน้าบริษัท ศรีมงคลขนส่ง ถนนสายสามพัทยากลาง โดยมีชาวบ้านพากันมุ่งดูเหตุการณ์จำนวนมาก

จากการตรวจสอบ ทราบชื่อคนขับนายนพพงศ์ ทรัพย์ประเสริฐ อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดกรุงเทพมหานคร อาชีพรับจ้างทำป้ายโฆษณา เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุม ก่อนช่วยกันตรวจค้นหาสิ่งของผิดกฎหมาย ภายในรถเก๋งคันดังกล่าว พร้อมทั้งตัวบุคคล โดยพบขวานขนาดเล็กจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายนพพงศ์ คนขับมาที่ สภ.เมืองพัทยา จากการตรวจสารเสพติดพบเป็นฉี่ม่วง

เบื้องต้น นายนพพงศ์ ให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงกับเพื่อนๆ จากนั้นเพื่อนในกลุ่มได้ใส่อะไรบ้างอย่างไปในแก้วเหล้า หลังจากเที่ยวเสร็จก็ได้ขับรถเล่นในเมืองพัทยา จนกระทั่งมาเจอด่านตรวจรู้สึกกลัว เนื่องจากกลัวว่าสิ่งของที่เพื่อนใส่ในแก้วเหล้าอาจจะเป็นยาเสพติด เลยตัดสินใจซิ่งเก๋งแหกด่านดังกล่าว แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำในการ จึงทำการควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

น้องชายตำรวจเจอภาพบาดใจ เมื่ออดีตแฟนสาวควงหนุ่มหน้าใหม่โชว์กลางร้านหมูกระทะ พูดจาแขวะกันไปมาแฟนใหม่ชักปืนยิงแสกหัวตายคาร้าน ด้าน ผกก.สภ.หนองปรือ เร่งสั่งชุดสืบสวนออกติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

พัทยา-(1 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 23.30 น. พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผกก. สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขึ้นภายใน ร้านนัดพบ หมูกระทะ ถนนสุทธาวาส ม.7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณพื้นกลางร้านนัดพบหมูกระทะ พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายอานนท์ จุนสุมทร อายุ 25 ปี นอนหงายจมกองเลือดหายใจรวยริน หลังจากถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯได้ปั้มหัวใจยื้อชีวิต แต่คนเจ็บถูกอาวุธปืนยิงโดนจุดสำคัญและเสียเลือดมาก ซึ่งทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวน น.ส.วิริยา สรรพรุน อายุ 31 ปี เจ้าของร้าน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมเพื่อนชายรวม 4-5 คน ลูกค้าหน้าใหม่ซึ่งไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ได้เข้ามานั่งดื่มกินภายในร้านตามปกติ ส่วนกลุ่มคนร้ายนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ กับผู้ตายมาด้วยกันเป็นรวมทั้งหมด 4 คน และมีผู้หญิงร่วมวงด้วย 1 คน ซึ่งเป็นโต๊ะลูกค้าเจ้าประจำ จากนั้นทั้งสองฝ่ายเกิดตระโกนพูดแขวะกัน ซึ่งไม่ทราบสาเหตุเกิดจากอะไร

หลังจากผู้ตายเดินออกมาจากห้องน้ำ โดยในมือยังถือแก้วเหล้า คนร้ายก็ได้ชักอาวุธปืนออกมาจากเอวขึ้นมาจ่อผู้ตายพร้อมกับพูดท้าทายกัน ก่อนคนร้ายจะตัดสินใจลั่นไกยิงเข้าที่ศีรษะผู้ตายจนล้มฟุบนอนกองไปกับพื้นร้าน โดยคนร้ายได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า “มึงพูดเองนะ” ต่อหน้าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการค่อนข้างเต็มร้าน หลังจากเกิดเหตุก็ไม่ได้สังเกตว่าใครเป็นใคร เนื่องจากพากันวิ่งหนีเอาตัวรอด

พ.ต.อ.ปราโมทย์ เปิดเผยว่า สำหรับผู้ตายนั้นเป็นน้องชายเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดขึ้นจากผู้ตายพบเห็นภาพบาดใจเมื่อคนร้ายได้ควงอดีตแฟนเก่าของผู้ตายมานั่งดื่มกินในร้านนัดพบหมูกระทะ ทำให้ทั้งสองฝ่ายซึ่งนั่งอยู่โต๊ะใกล้กันประกอบอาการเมาสุราแล้วพูดจาแขวะกันไปมา คนร้ายจึงเกิดความแค้นใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจนเสียชีวิตคาที่ ก่อนคนร้ายจะพากันขึ้นรถยนต์เก๋ง สีดำ พากันหลบหนีไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ทราบตัวคนร้ายแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งในขณะนี้ได้สั่งการชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวดำเนินคดีแล้ว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(1 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 03.30 น. ร.ต.ท.อมรเทพ ใหม่มา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักชนรถแม่ค้าที่จอดอยู่ข้างทางได้รับความเสียหาย เหตุเกิดบริเวณหน้าทางเข้าถนนวอล์คกิ้ง สตรีท ถนนเลียบชายหาดพัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กูภัยสว่างธรรมสถานเมืองพัทยา รีบรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแตกตื่นกับเหตุการณ์ โดยรถตู้โดยสารร่วม บขส.(ช) สายกรุงเทพฯ-พัทยา ทะเบียน 15-7938 กทม. พุ่งชนเข้ากับรถขายกาแฟโบราณ รถขายปลาหมึกย่าง ก่อนชนอัดเข้ากับแท่นแบลิเออร์ ได้รับความเสียหายข้าวของกระจัดกระจายแตกเกลื่อนพื้นถนน

ตรวจสอบภายในรถตู้มีชาย 3 คนอยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนักพูดจาไม่รู้เรื่อง โดยมี นายศักย์ศรณ์ กิตติชัยภูมิ อายุ 25 ปี เป็นผู้ขับขี่ และนายกิตติศักดิ์ หาญมนตรี อายุ 65 ปี (เจ้าของรถ) อีกรายทาบชื่อคือนายเก่ง พร้อมสุรายี่ห้อดัง 2 ขวด ขวดโซดาและแก้วเหล้า โดยที่นายกิตติศักดิ์ อยู่ในอาการเมาโวยวายไม่ยอมรับผิดชอบใดๆ เจ้าหน้าตำรวจจึงควบคุมตัวไปยัง สภ.เมืองพัทยา

สอบถาม น.ส.เนตรทราย เอกอุ่น 51 ปี เจ้าของรถกาแฟโบราณ เล่าว่าในขณะเธอได้จอดรถไว้ริมทางเพื่อเดินเอาน้ำไปส่งลูกค้าที่วินจยย.รับจ้างบริเวณข้างเคียง จากนั้นรถตู้คันดังกล่าวก็ขับมาด้วยความเร็วส่ายไปสายมา และเสียหลักชนกับรถกาแฟของตนเอง รถขายปลาหมึกอย่างที่จอดแอบอยู่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเวลาดังกล่าวนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปมาจำนวนมาก ทั้งวินจยย.บริเวณใกล้เคียงต่างพากันโดดหนีตายกันอลหม่าน โชคดีมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายถึงชีวิต

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัว นายศักย์ศรณ์ ผู้ขับขี่ ไปตรวจวัดระดับปริมาณแอลกฮอล์ในร่างกาย ส่วนรถตู้จะยึดไว้เป็นของกลางพร้อมแจ้งขอกล่าวหาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(29 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายทุบกระจกรถยนต์ ก่อนลักทรัพย์สินไปหลายรายการ เหตุเกิดบริเวณร้าน ก๋วยเตี๋ยวบ้านบึง ริมถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าพัทยา เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนสุขุมวิท ก่อนถึงร้านก๋วยเตี๋ยวประมาณ 50 เมตร พบรถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ สีบอร์นทอง ทะเบียน บร-335 พิษนุโลก จอดอยู่สภาพบริเวณกระจกด้านซ้ายแตกทั้งบาน ตรวจสอบภายในรถพบว่า กระเป่าเป้ภายในบรรจุ ไอแพด 1 เครื่อง (มูลค่าประมาณ 10,000 บาท) บัตรเอทีเอ็ม และเอกสารสำคัญต่างๆ สูญหายไป

สอบสวน น.ส.เอ(ขอสงวนนาม) อายุ 28 ปี พนักงานขายประกันบริษัทเอไอเอ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้เดินทางมาดูงานสัมมนาที่สำนักงานใหญ่สาขานาจอมเทียน ระหว่างเดินทางกลับจึงแวะกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านดังกล่าว หลังจากกินเสร็จใช้เวลาประมาณ 30 นาที ตนจึงกลับมาที่รถจนพบว่ารถถูกคนร้ายทุบกระจกและทรัพย์สินสูญหายไปจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ และใช้แอพพลิเคชั่นตรวจหาสัญญาณของไอแพด เพื่อติดตามหาเบาะแสของคนร้ายต่อไป

พัทยา-(1 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 00.10 น. ร.ต.อ.จันดา เดิมพันธ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะพลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดถนนคู่ขนานสาย 7 ตอน 2 บ้านหนองปลาดุก ฝั่งขาเข้าเมืองพัทยา หลักกิโลเมตรที่ 115 ม.3 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุชาวบ้านจำนวนมากพากันมุ่งดู รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ด เรนเจอร์ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน 4915 อุดรธานี สภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า ตัวรถพังยับเยินเสียหายทั้งคัน ชิ้นส่วนอะไหล่รถแตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน ตรวจสอบภายในซากรถพบศพชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) อายุประมาณ 30-35 ปี มือข้างซ้ายด้วนพิการ เสียชีวิตคาเบาะนั่งฝั่งคนขับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงนำอุปกรณ์ตัดถ่างช่วยกันงัดร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้สำเร็จ

จากการสอบถามในที่เกิดเหตุทราบว่า ผู้ตายได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาสุดทางคู่ขนานได้เกิดพุ่งขึ้นไปบนกองดินสูงประมาณ 2 เมตร ทำให้ตัวรถนั้นตีลังกาหลายตลบ ก่อนตัวรถจะกระเด็นตกลงไปอยู่ข้างทาง เป็นเหตุให้คนขับเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะไม่ชำนานเส้นทางดังกล่าว หรือไม่ก็น่าจะเกิดอาการหลับใน จนเกิดอุบัติเหตุสลดครั้งนี้

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

สองมือปืนแต่งตัวผู้ดีบุกคอนโดหรูกลางเมืองพัทยา ยิงหนุ่มนักธุรกิจสาหัส ก่อนซิ่งเบนซ์หลบหนี ตำรวจเตรียมเช็คกล้องวงจรปิดล่าตัวคนร้าย

พัทยา-(29 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 05.00 น. ร.ต.อ.พิชิตพงศ์ ยอดพิกุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา ว่ามีผู้ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสเข้ามารักษาตัว ภายหลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจสอบ

จากการตรวจสอบภายในห้องฉุกเฉิน พบทีมแพทย์กำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายภูมิสิทธิ์ หรือโอ๋ อัครณีวงศ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112/19 ม.2 ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงเข้าที่หน้าท้อง 1 นัด และที่ขาซ้ายอีก 1 นัด ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เบื้องต้นยังไม่สามารถให้การใดๆ ได้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นที่ คลับรอยัล คอนโดมิเนียม อาคาร เอ ตั้งอยู่ภายในซอย 12 นาเกลือ เมื่อไปตรวจสอบปรากฏว่า บริเวณหน้าห้องพักคนเจ็บหมายเลข 502 ชั้น 5 ของคอนโดมิเนียมหรูดังกล่าว พบคราบเลือดเป็นทางยาว โดยประตูห้องพักนั้นมีร่องรอยการถูกอาวุธปืนใส่หลายนัดจนเป็นรูพรุน

จากการเข้าไปตรวจสอบห้องพักคนเจ็บ พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 6 ปลอก นอกจากนี้บริเวณหน้าห้องพัก เจอหัวกระสุนตกอยู่จำนวน 2 หัว และบริเวณประตูหน้าลิฟท์พบหัวกระสุนตกอีกจำนวน 1 นัด โดยที่เจอทั้งหมดรวม 3 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบ

สอบสวน นายในกึม อายุ 18 ปี สัญชาติ กัมพูชา พนักงานรักษาความปลอดภัย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชายไทยจำนวน 2 คน อายุประมาณ 30-35 ปี แต่งตัวดีมีภูมิฐาน ได้เดินเข้ามาแสดงตัวเป็นเจ้าของห้องพักหมายเลข 502 ซึ่งเป็นห้องพักคนเจ็บ ซึ่งก็นึกว่าคนร้ายเป็นเจ้าของห้องจริง เนื่องจากเพิ่งได้มาทำงานคอนโดแห่งนี้เพียงไม่นาน
จากนั้นไม่นานได้ยิงเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 2 นัด จึงรีบวิ่งไปบอกหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ตึกข้างๆ เพื่อให้มาช่วยดู โดยมีพนักงานรักษาความปลอดภัยอีกคนเฝ้าอยู่ด้านหน้า เห็นว่าหลังจากคนร้ายก่อเหตุเสร็จแล้วได้เดินลงมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะพากันขับรถเบนซ์ สีดำ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

จนกระทั่งพบคนเจ็บได้เดินลงมาข้างล่างคอนโด สภาพเลือดท่วมตัว ก่อนคนเจ็บจะไปเอารถยนต์บริเวณลาดจอด และร้องขอให้ตนเองนั่งรถไปเป็นเพื่อนด้วย เมื่อคนเจ็บถึงมือแพทย์ จึงได้เดินทางกลับคอนโดแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบเหตุดังกล่าวขึ้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า คนเจ็บนั้นเป็นนักธุรกิจ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าประกอบธุรกิจอะไร ส่วนประเด็นการลงมือก่อเหตุได้ก็ได้ตั้งไว้หลายประเด็น เช่น หักผลประโยชน์ทางธุรกิจ ชู้สาว และความแค้นส่วนตัว อย่างไรก็ตามทางตำรวจชุดสืบสวนได้เร่งตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด เพื่อคลี่คลายคดีนี้แล้ว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(27 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.อนันต์ ภู่ระหงษ์ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายอำนาจ หรือบอล กองฆ้อง อายุ 28 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อค พร้อมเครื่องกระสุน 39 นัด โทรศัพท์ซัมซุง เตาแก๊ส หม้อหุงข้าว เครื่องใช้ฟ้าอีกหลายรายการ รถยนต์กระบะอีซุซุ รถจักรยานยนต์คาวาซากิ เคเอสอาร์ พร้อมชุดที่ใส่ในการก่อเหตุ

โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนั้นหลังจากได้รับแจ้งคนร้ายเป็นชายไทย 2 คน ลักษณะอ้วน-ผอม ใช้อาวุธก่อเหตุชิงทรัพย์ นางละเอียด เงินท้วม อายุ 51 ปี ที่บ้านเลขที่42 ม.10 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี จนกระทั่งพบรถกระบะคันดังกล่าววิ่งอยู่บนถนนหลวงสาย 36 มุ่งหน้าเข้าตำบลโป่ง ผ่านอ่างเก็บน้ำมาบประชัน และเข้าไปในซอยมาบยายเลีย47

เจ้าหน้าที่จึงติดตามสืบสวนจนทราบเบาะแสของคนร้ายทั้ง 2 คน ก่อนนำกำลังเข้าจับกุม นายอำนาจ ได้ที่บ้านพักเลขที่ 22 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลางบางส่วน ส่วนคนร้ายอีกคนที่มีรูปร่างลักษณะผอม ทราบชื่อคือ นายสัญชัย ประดา อายุ 21 ปี ซึ่งได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก

จากการสอบสวน นายอำนาจ คนร้าย อ้างว่า สาเหตุที่ก่อเหตุเพราะตกงานไม่เงินใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ปักเชื่อคำให้การ พร้อมกับส่งตัวดำเนินคดีในข้อกล่าวหา ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นในเคหะสถาน โดยใช้อาวุธปืน ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น ร่วมกันใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัว นายสัญชัย ผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีเช่นกัน

พัทยา-(27 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.ท.สุรพล ศรีโหร พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ รับแจ้งเหตุ รถบรรทุกสารเคมีพลิกคว่ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและติดภายใน เหตุเกิดบนถนนหลวงสาย 36 (กระทิงลาย – ระยอง) บริเวรหน้าสนามแข่งพีระเซอร์กิต ฝั่งขาเข้าพัทยา ม.5 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์พัทยา รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบ รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ของ บริษัท พีทีที โพลิเมอร์ โลจิสติกส์ จำกัด หมายเลขทะเบียน 70-5511 ฉะเชิงเทรา สภาพพลิกตะแคงได้รับความเสียหาย ส่วนผู้บาดเจ็บสามารถช่วยเหลือตัวเองออกจากตัวรถได้ก่อนหน้านี้ ทราบชื่อต่อมา นายขวัญใจ ประสานศักดิ์ อายุ 32 ปี โชเฟอร์ผู้ขับขี่ ได้บาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณขา

สอบถาม นายขวัญใจ ประสานศักดิ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขนเม็ดพลาสติกจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เพื่อเดินทางไปส่งยังพื้นที่ ต.พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางลงเนิน ตนสังเกตเห็นว่า พื้นถนนเป็นหลุมเป็นบ่อจึงหักเลี้ยวเปลี่ยนเลนกะทันหัน จนทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ จากนั้นตนซึ่งติดอยู่ภายในตัวรถจึงพยายามถีบกระจกหน้ารถจนหลุด และสามารถช่วยเหลือตัวเองออกจากตัวรถได้ดังกล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนประสานบริษัทเจ้าของรถเพื่อเรียกประกันภัยมารับผิดชอบดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ตำรวจพัทยาตั้งด่านตรวจเจอหนุ่มวัย 19 ปี กร่างอ้างเป็นนักข่าวโวยวายตำรวจจราจรที่เรียกตรวจสอบเอกสารรถ ยังโทรไปเรียกลูกพี่ที่ว่าเป็น บก.มาเคลียแต่ ตร.ไม่สนจับข้อหาติดไฟไซเรนตำรวจโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 25 ก.พ. 59 ผู้สื่อข่าวประจำเมืองพัทยารายงานว่า ขณะที่ ด.ต สรรเสริญ เซื้อสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ ผบ.หมู่ งานจราจร ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ทำการตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณป้อมทางเข้าพัทยาปาร์ค ถนนจอมเทียนสายสอง ได้เรียกตรวจรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่มี นายชัยฤทธิ์ คุณเพียร อายุ 19 ปี เป็นคนขับพร้อมเพื่อน อีก 2 คน จากนั้นทาง นายชัยฤทธิ์ คุณเพียร ได้เอาบัตรสื่อมวลชนมาอ้างตัวเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพ โดยอ้างกับทางตำรวจว่าตนเป็นนักข่าวอยู่ประจำเขตอำเภอบางละมุง หลังจากที่นายชัยฤทธิ์ คุณเพียร พร้อมกับพวก ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีบีอาร์ 150 และไม่สามารถนำเอกสารรถมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ พร้อมยังพูดจ่าข่มขู่เจ้าหน้าที่และตำรวจอาสาที่ร่วมทำการตรวจสอบ

ภายหลังได้รับรายงานจึงเดินทางไปร่วมทำการตรวจสอบ ไปถึงพบชายไทย 3 คน โดย นาย ชัยฤทธิ์ แสดงท่าทีพูดจาใหญ่โต และโทรหาลูกพี่อย่างเดียวทางตำรวจจึงให้โทรติดต่อมาคุย หลังจากลูกพี่มาถึงก็เอามาบัตรผู้สื่อข่าวออกมาโชว์ต่อหน้าตำรวจและกลุ่มตำรวจอาสาและสื่อมวลชนช่องต่างๆ

จากการสอบถามทราบชื่อคือ นายประยวน เสพสุข อายุ 59 ปี โดยอ้างตัวว่าตนเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพไทย ตำแหน่ง หน.ศปก.ฉก.ลทท.ภ.2 เดินทางมาพร้อมลูกน้อง 7 คน ทุกคนมีบัตรผู้สื่อข่าวเก้าเหล่าทัพ พร้อมรถกระบะสีดำติดไฟไซเรนสีแดงบนหลังคารถและที่หน้ากระจกรถติดโลโก้หนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพและประตูรถทั้ง 2 ข้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบใบรับอนุญาตติดไฟไซเรน แต่นายประยวน ไม่มีมาแสดงให้ดู ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวทั้งหมดมาทำการสอบประวัติที่ สภ.เมืองพัทยา พร้อมแจ้งข้อหาติดไฟไซเรนโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการสอบถาม นายประยวน ที่อ้างตัวเป็น หัวหน้า ให้การว่าบัตรสื่อมวลชนที่ได้มา ต้องไปประชุมที่ทางหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพจัดขึ้นมาแล้วต้องเสียค่าทำบัตรและสมาชิก คนละ 300-500 บาท จึงจะได้บัตร มี พันโท ขจรศักดิ์ ขจรศิลป์ บรรณาธิการบริหาร กอ.9 ลทท.เป็นคนออกบัตรให้ สอบถามว่าเคยเห็นหน้านายทหารที่อ้างว่าเป็นคนออกบัตรให้เคยเห็นหน้าหรือไม่ ทางนายประยวนบอกไม่เคยเห็นหน้า รู้แต่เป็นนายทหารแต่ไม่รู้อยู่ประจำที่ไหน ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามว่าแต่ละคนมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง โดยทั้งหมดอ้างว่ามีหน้าที่แจ้งเบาะแสเหตุต่างๆ รวมถึงเบาะแสผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งในคำกล่าวอ้างนั้นไม่เกี่ยวกับงานด้านผู้สื่อข่าวและบัตรที่ติดตัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานของผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

พัทยา-(25 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 02.00 น. พ.ต.อ.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.นราวิชญ์ รอดกสิกรรม สวป. สภ.หนองปรือ พ.ต.ท.คมชนะ อนันตา สวป. สภ.บางละมุง ได้แถลงข่าวจับกุม 2 ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดในพื้นที่ ประกอบด้วยนายฤทธิ์เดช วงศ์ไว อายุ 40 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ 10 กรัม ยาบ้า 200 เม็ด และเงินสด 4,000 บาท และนายณัฐวุฒิ ศรีบุญเรือง อายุ 22 ปี ของกลางเป็นยาไอซ์ 0.5 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ

สืบเนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ ได้ตรวจด่านตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย บริเวณหน้าหมู่บ้านการเคหะเอื้ออาทร นาเกลือ ถนนชัยพรวิธี ตามแผนยุทธการปิดล้อมเมือง ซึ่งเป็นนโยบายของ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ระหว่างกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้พบนายฤทธิ์เดช ขับขี่รถจักรยานยนต์ แสดงท่าทางมีพิรุธจึงได้เรียกเพื่อตรวจสอบ แต่นายฤทธิ์เดช กลับเร่งเครื่องแหกด่านตรวจหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่จึงไล่ล่าติดตามไปอย่างกระชั้นชิดและสามารถจับกุมได้ในที่สุด ตรวจค้นกระเป๋าใส่เหรียญห้อยติดอยู่กับพวงกุญแจรถ พบยาไอซ์จำนวน 10 กรัม ยาบ้า 200 เม็ด และเงินสด จึงยึดไว้เป็นของกลาง สอบสวน นายฤทธิ์เดช ให้การอ้างว่า ยาเสพติดทั้งหมดเพิ่งไปรับซื้อมาจากเอเย่นต์รายใหญ่ในพื้นที่อำเภอบางละมุง เพื่อจะนำมาจำหน่ายต่ออีกทอดหนึ่ง ให้กับลูกค้าซึ่งเป็นวัยรุ่นติดยาเสพติดตามแหล่งชุมชน

ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือ นายณัฐวุฒิ สามารถจับกุมได้เพราะว่า ขณะที่ตัวนายณัฐวุฒิ ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากหมู่บ้านการเคหะเอื้ออาทร นาเกลือ เจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ กลับวนรถพร้อมกับแสดงท่าทางพกสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไปเพื่อตรวจค้น แต่ในระหว่างนั้น นายณัฐวุฒิ ได้โยนยาไอซ์ทิ้งไว้ใต้รถพ่วงซาเล้ง เพื่อหนีความผิด แต่เจ้าหน้าที่ตาไวเห็นสามารถจับกุมและยึดของกลางไว้

ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พร้อมกับให้ชุดสืบสวนทำการสอบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายเอเย่นต์ยาเสพติดผู้ต้องหาอีกด้วย

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย