ผวภ วิโรจน์ พิพัฒน์ไชยศิริ ผู้ว่าการ โรตารี่ 3340 ปีบริหาร 2566-2567 เยี่ยมสโมสรโรตารีพัทยาเซ็นเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล  

        ที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ว่าการภาค วิโรจน์ พิพัฒน์ไชยศิริ ผู้ว่าการ โรตารี่ 3340 ปีบริหาร 2566-2567 เดินทางเยี่ยมสโมสรโรตารีพัทยาเซ็นเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล โดยมี น.ส.จาน่า สุวรรณศรี นายกก่อตั้งสโมสรโรตารีพัทยาเซ็นเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสโมสรชุดก่อตั้ง สมาชิกของสโมสรโรตารีพัทยาเซ็นเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับ

         น.ส.จาน่า สุวรรณศรี นายกก่อตั้งสโมสรโรตารีพัทยาเซ็นเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นการต้อนรับ ผู้ว่าการภาค วิโรจน์ พิพัฒน์ไชยศิริ ผู้ว่าการโรตารี่ 3340 ปีบริหาร 2566-2567 ซึ่งได้ให้เกียรติมาเยี่ยม สโมสรโรตารีพัทยาเซ็นเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล และนอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนความคิดในกลุ่มสมาชิกของสโมสรโรตารีพัทยาเซ็นเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล

         ด้าน ผู้ว่าการภาค วิโรจน์ พิพัฒน์ไชยศิริ ผู้ว่าการโรตารี่ 3340 ปีบริหาร 2566-2567 เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมาเยี่ยมสโมสรโรตารีพัทยาเซ็นเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นการเยี่ยมประจำปีของทีมบริหารนี้ ซึ่งสโมสรนี้เป็นสโมสรที่ 15 ทั้งนี้ก็เพื่อมาให้กำลังใจทีมบริหาร นายกผู้ก่อตั้ง รวมไปถึงการแนะนำให้คำปรึกษารในการขับเคลื่อนสโมสรโรตารี่ให้มีความเข้มแข็งสามารถทำคุณประโยชน์ให้กับชุมชนอย่างสูงสุด และนอกจากนี้และจะเดินทางไปเยี่ยมทุกๆ สโมสรในภาค 3340

           สำหรับโรตารีคือองค์กรของนักธุรกิจและวิชาชีพจากทั่วโลกซึ่งบำเพ็ญประโยชน์เพื่อเพื่อนมนุษย์ ส่งเสริมมาตรฐานจรรยาบรรณในทุกวิชาชีพ พร้อมทั้งช่วยสร้างไมตรีจิตและสันติสุขในโลก และมีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมอุดมการณ์แห่งการบำเพ็ญประโยชน์ในการดำเนินกิจกรรมที่มีคุณค่าเป็นหลัก

หนุ่มน้ำตาตก ออกรถได้สองวัน ถูกแก๊งโจรกรรมมอไซค์ลักหายลอยนวล

นายสุภากร ไชยสุวรรณ อายุ 24 ปี ได้นำกล้องวงจรปิดมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน เพื่อนำเสนอเป็นเบาะแสในการติดตามคนร้ายแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ภายในอพาร์ทเม้นท์ ซอย 4 เขาตาโล หลังเกิดเหตุได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ แล้ว

แสดงใบแจ้งความหลังรถจักรยานยนต์หาย

โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ 1 คน เป็นผู้ชายสูงประมาณ 160-165 เซนติเมตร สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า สวมหมวกแก๊ป เข้ามาเดินเลือกรถจักรยานยนต์ภายในอาพาร์ทเม้นท์ ราวกับเลือกซื้อ เมื่อเจอรถที่สามรถโจรกรรมได้ แล้วเข็นออกไปอย่างง่ายดาย โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที
สอบถาม นายสุภากร ไชยสุวรรณ อายุ 24 ปี ทราบว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณตีสี่ ตามกล้องวงจรปิด มีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักรถจยย.ไป ซึ่งรถที่ถูกโจรกรรมไปนั้น เป็นรถของลูกสาว ออกมาได้เพียงสองวันเท่านั้น หลังเกิดเหตุ จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมนำกล้องวงจรปิดไปมอบไว้เป็นหลักฐาน

โชว์รูปจักรยานยนต์ให้ผู้สื่อข่าวดู

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด โดยตรวจกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี หากประชาชนมีเบาะแสก็สามารถช่วยแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งแต่ยังไม่สามารถจับกุมได้

แก๊งโจรกรรมมอไซค์ อาละวาด ขโมยยก 2 คันรวด

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 4 มีนาคม 2565 นายสมภพ บุญเสริม อายุ 41 ปี อาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย ได้นำกล้องวงจรปิดมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน เพื่อนำเสนอเป็นเบาะแสในการติดตามคนร้ายแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ภายในอพาร์ทเม้นท์ ซอย 10 เขาตาโลหลังเกิดเหตุได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือแล้ว

กล้องวงจรปิดจับภาพคนแก๊งโจรรถจักรยานต์

โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ 2 คน เป็นผู้ชายสูงประมาณ 165-170 เซนติเมตร สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เข้ามาเดินเลือกรถจักรยานยนต์ภายในอาพาร์ทเม้นท์ ราวกับเลือกซื้อ เมื่อเจอรถที่สามรถโจรกรรมได้ ก็ยกล้อหน้าแล้วเข็นออกไปที่ละคัน คันแรกเป็นรถจยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า อาร์ 15 คันที่สองเป็นจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 แต่กล้องด้านหน้าไม่สามารถบันทึกภาพยานพาหนะของกลุ่มผู้ก่อเหตุไว้ได้
สอบถามนายสมภพ บุญเสริม อายุ 41 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย ทราบว่าตนเองเอารถมาจอดไว้ช่วงเย็นตามปกติทุกวัน กระทั่งช่วงเช้าออกมาก็ไม่เจอรถแล้ว จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมนำกล้องวงจรปิดไปมอบไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด โดยตรวจกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี หากประชาชนมีเบาะแสก็สามารถช่วยแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งแต่ยังไม่สามารถจับกุมได้

เพจ สภ.เมืองพัทยาโพสต์ จับหนุ่มวัย 18 ปี ส่งน้ำท่อมผู้กักตัวโควิด 19 หวั่นติดเชื้อแพร่รอบนอก

จากกรณี เพจ สภ.เมืองพัทยาโพสต์ภาพผู้ชายวัยรุ่นสวมเสื้อแขนยาวสีเทา ใส่เครื่องพันธนาการที่มือทั้งสองข้าง นั่งชี้ขวดเครื่องดื่มชาชนิดหนึ่งจำนวน 4 ขวด พร้อมระบุข้อความเป็นคำกลอนว่า ยาคงแรงไม่พอขอแรงเสริมสักขวดสองขวด ชีวิตติดไข้หัวใจติดท่อม แม้ติดไข้ได้กักก็แค่กาย แม้ชีพวายก็ไม่ยอมขาดท่อมไป กักตัวไม่ได้กักใจ มีโอกาสเมื่อไหร่ขอสักหน่อยเห๊อะ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม” ต้อง อาฉลองภัคดีวิจิตร แต่ถ้า..”ไม่ตัดผมแต่มาต้มกระท่อม” ..ต้องเขาคนนี้ ผู้กักตัว…ออเดอร์​สั่งน้ำกระท่อม..จึงรีบมาส่ง เจ้าหน้าที่โรงแรม..เห็นเข้า..จึงรีบหลบหนี เมื่อตำรวจรับแจ้งจึงออกติดตาม พบผู้ต้องสงสัย.. เข้าตรวจค้น  พบน้ำกระท่อมบรรจุในขวดชาพร้อมดื่ม จึงจับกุม​ตัวข้อหาจำหน่ายยาเสพติด​ประเภท​5 เกมส์​ทันทีไม่มีอุทรณ์… จบ สายตรวจศุภชัย​ พร้อมทีมงานกัดไม่ปล่อย ติดตาม​ผู้ก่อเหตุ​มาควบคุม ทำให้มีผู้เข้ามากดไลค์ กดแชร์ และคอมเมนต์ เป็นจำนวนมาก ทั้งชื่นชนและวิพากษ์วิจารณ

ล่าสุดทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยาได้ทำการจับกุม เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. หน้าโรงแรมแกร์นเบลล่า (พื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ )ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก พนักงานของโรงแรม ว่ามีบุคคลต้องสงสัยเกรงว่าจะนำสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 พืชกระท่อมแบบน้ำ มาส่งให้กับผู้กักตัวโควิด 19 ที่กักตัว แต่ได้หลบหนีไป จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตาวจสอบ จนกระทั่งได้ตัวผู้ต้องสงสัยลักษณะตามที่ผู้แจ้งแจ้ง จึงทำการตรวจสอบพบมีน้ำต้มกระท่อมบรรจุอยู่ในขวดเครื่องดื่มขนาด 800 มิลลิลิตร จำนวน 4 ขวด ก่อนทำการสืบสวนจนทราบว่าได้นำมาส่งให้กับผู้กักตัวเป็นผู้ชายอายุ 33 ปี ที่กักตัวอยู่ภายในโรงแรม แลกค่าจ้าง 200 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งกำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว

อย่างไรก็ตามหลังจากได้มีการโพสต์ภาพพร้อมข้อความดังกล่าวออกไปมีสมาชิกเข้ามาแสดงความคิดเห็น เป็นจำนวนมาก บางคอมเมนต์ว่าน้ำกระท่อมเป็นของดี บางคอมเมนต์ว่ายืนยันผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้ก็นำความวิตกกังวลใจให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง หากผู้ที่นำไปส่งได้รับเชื้อจากผู้กักตัว แล้วนำมาแพร่สู่คนภายนอกจะเป็นเช่นไร แต่ก็ยังไม่ได้รับการเปิดเผยรายละเอียดจากทางเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

รวบแล้ว วิน จยย.โหด เตะหน้าหนุ่มชิลีดั้งหัก

         จากกรณีเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 25 ก.พ. 64 MR.SALVATORE ANDRES CASTROMEDINA อายุ 24 ปีสัญชาติ ชิลี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.พุทธรักษ์ สอนคำหาร รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ในสภาพดั้งจมูกหักแตกเลือดกลบปากอาบใบหน้า หลังถูกทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดภายในถนนคนเดิน วอล์คกิ้ง สตรีทพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับ ตำรวจ สภ.พัทยา บุกจับวิน จยย. ทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยว

         ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 25 ก.พ.64 พ.ต.อ.พิศิษฐ์ พูลทรัพย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ร่วมกับพ.ต.ท.สมบูรณ์ เอื้อสมานไมตรี สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุมนายอมร หรือเจี๊ยบ  บุญมี(นามสกุลเดิม นพตากูล) ได้ที่บ้านเลขที่ 149/2 หมู่ 10 ซ.บ่อนไก่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ. ชลบุรี พร้อมของกลางเสื้อวิน และเสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ 

         จากนั้น ได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา ส่วนสาเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผย กำลังอยู่ในระหว่างการสอยปากคำผู้ก่อเหตุ  พร้อมติดตามผู้เสียหายมายืนยันชี้ตัว

เสื้อ วิน จยย. ที่ใส่ตอนใช้ก่อเหตุ

นายกเมืองพัทยารับมอบรถยนต์โดยสารขนาดกลางปรับอากาศ และรถบรรทุก 6 ล้อ สนับสนุนภารกิจหลักด้านการศึกษา

วันที่ 24 กุมภาพัน 2564 ที่ ลานจอดรถเวิลด์เจมส์ นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานรับมอบรถยนต์โดยสารขนาดกลางปรับอากาศ จำนวน 10 คัน และรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 11 คัน จากบริษัทเอ็ม.แซท.ดี คาเซ็นเตอร์ จำกัด

โดยมีนายบรรลือ กุลละวณิชย์ นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา หัวหน้าส่วนราชการ  และผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนเมืองพัทยา ร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบครั้งนี้

สำหรับการรับมอบรถดังกล่าวเป็นโครงการจัดหาคุรุภัณฑ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษาของเมืองพัทยา เพื่อเป็นยานพาหนะที่จะอำนวยความสะดวกในมิติการสนับสนุนภารกิจหลักการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพมีประสิทธิภาพและตอบสนองกับความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

รวมทั้งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้นอกสถานที่ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่นักเรียนจะได้รับประสบการณ์โดยตรง รู้จักการสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่นภายนอกห้องเรียน อันเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการพัฒนาด้านการศึกษาให้เยาวชนในท้องถิ่นของคณะผู้บริหารเมืองพัทยาชุดนี้

ภาพ/ข่าว เก่ง ณ สงขลา

หนุ่มขับเก๋งหลับในตกร่องน้ำติดภายใน กู้ภัยฯ เร่งงัดซากรถช่วยชีวิต

เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งพลิกคว่ำมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนน 331 ขาเข้าสัตหีบ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา พร้อมรถอุปกรณ์ตัดถ่างเร่งรัดเข้าช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ มิราจ สีดำ ทะเบียน 1กส-6096 กทม. เสียหลักตกลงไปในร่องน้ำข้างทางสภาพรถล้อชี้ฟ้าพังยับเยิน ภายในรถยังพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายณัชพล  สุขมนัส อายุ 33 ปี ติดคาอยู่ภายในรถทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงได้ใช้เครื่องตัดถ่างช่วยกันงัดโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที​ จึงสามารถนำตัวออกมาได้ พบว่าขาหักทั้ง 2 ข้างอาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์อย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวรเจ้าของคดีจะลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป

ชาวเน็ตชื่นชม!! วินมอเตอร์ไซรับจ้างหญิงพัทยาน้ำใจงาม เก็บกระเป๋าเงินส่งคืนนักท่องเที่ยวต่างชาติ

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า “บังรอน ฟินเล่” ได้โพสต์รูป วินมอเตอร์ไซรับจ้างหญิงส่งประเป๋าเงินคืนให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมข้อความว่า “เออขอบคุณเพื่อนเพื่อนที่ช่วยกันแชร์วันนี้ฝรั่งได้กระเป๋าสตางค์คืน แล้วเค้ามีความสุขมากเราก็มีความสุขขอบคุณเพื่อนเพื่อนมากนะ ครับ” และอีกหนึ่งโพสต์ว่า “กระเป๋าสตางค์ได้ส่งคืนฝรั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วขอบคุณเพื่อน เพื่อนชาวพัทยาทุกคนที่ช่วยกันแชร์ขอบคุณมอเตอร์ไซค์ที่เอา กระเป๋าตังค์มาคืนด้วยครับผม” หลังจากโพสต์ได้มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเม้นท์ชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก

          ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.กัลยา สุภาผล อายุ 43 ปี วินมอเตอร์ไซน้ำใจงาม ได้เล่าว่า ตนได้ขับขี่มอเตอร์ไซรับจ้างอยู่ที่บริเวณหน้าแม็คโดนัล ถนนพัทยาใต้สายสองอ.บางละมุง จ.ชลบุรี และขณะที่กำลังไปส่งลูกค้านั้นตนได้เห็นกระเป๋าเงินตกอยู่ที่พื้นแต่ไม่เห็นเจ้าของจึงได้พาลูกค้าวนกลับไปเก็บที่บริเวณถนนพระตำหนัก ซ.5 จากนั้นจึงได้ไปส่งลูกค้า และได้เปิดดูภายในกระเป๋ามีเพียงใบขับขี่ และเอกสารแต่ไม่มีเงินสด ด้วยความกลัว และรู้สึกไม่สบายใจตนยังไม่กล้ากลับไปที่วิน จนมีคนโพสต์ตามหากระเป๋าเงินจึงได้แสดงตน และพาพี่สาวที่ขับวินมอเตอร์ไซรับจ้างไปด้วยเนื่องจากตนพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง ไปพบกับเจ้าของกระเป๋าเงินที่ร้านอาหารเจ๊โอ๋อาหารทะเลสดใกล้กับที่เก็บได้ตนจึงได้มอบกระเป๋าเงินคืนให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไป นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้สึกดีใจและได้มอบเงินจำนวน 1,000 บาท เพื่อแทนคำคุณ ตนรู้สึกสบายใจมากหลังจากที่ได้คืนกระเป๋าเงินให้กับนักท่องเที่ยวแล้ว

          จึงอยากฝากไปถึงผู้ขับมอเตอร์ไซรับจ้างด้วยกัน หากพบเจอหรือเก็บกระเป๋าเงิน สิ่งของสำคัญ ให้นำส่งคืนเจ้าของ ซึ่งสามารถนำไปฝากไว้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือโพสต์ลงกลุ่มเฟสบุ๊คต่างๆ เพื่อตามหาเจ้าของให้มารับคืน

HungryNow สตาร์ทอัพเดลิเวอรี่อาหารไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการในพัทยาวันนี้

HungryNow สตาร์ทอัพเดลิเวอรี่อาหารไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการในพัทยาวันนี้ หลังจากเวอร์ชั่นทดสอบได้เริ่มใช้งานมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ปัจจุบันได้ขยายพื้นที่การให้บริการกว่า 80% ในเมืองพัทยา

 หลังจากได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากสังคม HungryNow ได้มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนนำมาสู่  การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงโดยใช้นวัตกรรมใหม่ล่าสุดสำหรับ แอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์

 งานเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่จะจัดขึ้นในบ่ายวันนี้ที่เซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยา งานจะมีไปจนถึงวันที่ 11 ตุลาคมและเต็มไปด้วยความสนุกทั้งเกมและของขวัญ โดย HungryNow ได้ดำเนินการแจกคูปองส่วนลดฟรี ตั้งแต่ 100,000 บาทไปจนถึง 15,000 บาทและคูปองส่วนลดต่างๆมากมาย เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในตลาดที่มีการแข่งขันสูง งานนี้ HungryNow หวังว่าจะดึงดูดผู้ใช้ใหม่ ๆ มากขึ้นและสนับสนุนการจดจำแบรนด์

 Mikael Löfberg ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ HungryNow กล่าวว่า “เราได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าร้านค้าและผู้ขับขี่ของเรา แม้ว่าการบริการอาหารของเราจะเป็นของใหม่ แต่เราก็ได้รับการต้อนรับอย่างสูงจากผู้คนทั่วเมือง หลังจาก 7 เดือนของการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จเต็มรูปแบบ HungryNow ก็พร้อมที่จะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยแอปพลิเคชันเวอร์ชันใหม่ (iOS & Android) และเว็บไซต์ HungryNow ได้เสนอราคาที่สุดคุ้มพร้อมรูปแบบการบริการที่ไร้ที่ติ”

สำหรับแอปส่งอาหาร HungryNow ผู้บริโภคสามารถเพลิดเพลินกับอาหารจากร้านค้ากว่า 200 รายที่นำเสนอบนแพลตฟอร์มตั้งแต่ผู้ขายอาหารข้างทางไปจนถึงร้านอาหารสุดพิเศษ อัลกอริทึมของ HungryNow ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนผู้ค้าทั้งหมด ไม่เพียงเฉพาะร้านที่ขายที่ดีที่สุด แต่รวมถึงร้านค้าทุกร้านที่เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับฮังกรี้นาว เพื่อช่วยส่งเสริมการขายและเพิ่มการรับรู้ถึงร้านอาหารทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม 

HungryNow ให้บริการจัดส่งฟรีภายใน 20 กิโลเมตรสำหรับลูกค้าทั้งหมดในเมืองพัทยา ลูกค้า HungryNow จะได้รับส่วนลด 25% สำหรับการสั่งซื้อครั้งแรกเมื่อพวกเขาลงทะเบียนครั้งแรกกับ HungryNow และจะได้รับส่วนลด 10% สำหรับการสั่งซื้อครั้งที่สองจาก HungryNow และเมื่อเปรียบเทียบแล้วพวกเขาจะได้รับโปรโมชั่นหลากหลายประเภทในทุกการสั่งซื้อ

 HungryNow เป็นพาร์ทเนอร์การจัดส่งอาหารใหม่ของคุณ สำหรับมื้ออาหารเช้าและมื้อดึกของคุณ เวลาเปิดทำการคือ 08:00 น. – 00:00 น

HungryNow ง่าย เร็ว ปลอดภัย

สั่งซื้อง่าย – เพียงเลือกร้านอาหารที่คุณชื่นชอบก็มาส่งตรงถึงที่

อาหารหลากหลายสุดโปรดของคุณ ตั้งแต่แฮมเบอร์เกอร์จากร้านโปรดของคุณ หรือซันเดย์โรสในมื้อสุดพิเศษ รับอาหารที่คุณชื่นชอบได้เร็วขึ้นด้วยการสั่งซื้อที่ง่ายและรวดเร็ว

จัดส่งที่รวดเร็ว

การจัดส่งถูกออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าคำสั่งซื้อของคุณถูกมอบหมายให้กับผู้ขับขี่ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อการจัดส่งที่รวดเร็วที่สุด

การชำระเงินที่ปลอดภัย

HungryNow บริการ – ชำระเงินปลายทาง และ บัตรเครดิต เมื่อคุณทำการสั่งซื้ออาหาร เพียงแค่คลิกเดียวที่คุณสั่งซื้อก็สามารถรอรับอาหารส่งตรงถึงหน้าประตูบ้านของคุณ

เพื่อกระตุ้นการรับรู้ของผู้บริโภคในพัทยา HungryNow จึงเปิดตัวแคมเปญโฆษณาที่ครอบคลุมผ่านช่องทางหลักทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ ในช่วงเปิดตัวผู้ใช้จะได้รับส่วนลดสูงสุด 50% จากร้านอาหารสุดพิเศษทุกวันตั้งแต่ 10 ตุลาคม – 31 ตุลาคม รวมถึงคูปองส่วนลดสุดพิเศษทั้งจาก Facebook และ Instagram

 แอป Hungry Now สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store และ Play Store

หากต้องการติดตามข่าวสารล่าสุดกับ HungryNow:

กดไลค์บน Facebook: https://www.facebook.com/HungryNow.TH

ติดตามได้ที่ Instagram: https://www.instagram.com/hungrynow.th/

เพิ่มเพื่อนกับเรา LINE: https://lin.ee/BssQnUG

 เกี่ยวกับ HungryNow

HungryNow เป็นบริการจัดส่งอาหารที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ในพัทยาซึ่งเชื่อมโยงผู้คนกับร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมือง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจในท้องถิ่นและในทางกลับกันก็สร้างวิธีใหม่ ๆ ให้ผู้คนมีรายได้ทำงานและใช้ชีวิต

โดยฮังกรี้นาวได้เริ่มต้นด้วยการอำนวยความสะดวกในการจัดส่งแบบถึงที่ ซึ่งพวกเรามองว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของโอกาสที่เป็นไปได้ในการใช้ชีวิตคนได้ง่ายขึ้น – มื้อเย็นแสนสะดวก, วันที่มีความสุขมากขึ้น, เงินเก็บที่มากขึ้น, มุมมองที่กว้างขึ้นและชุมชนที่เข้มแข็งขึ้น

HungryNow มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯประเทศไทยและมีสำนักงานสาขาแห่งแรกในพัทยาและแห่งที่สองกำลังจะเกิดขึ้นในชลบุรีในปลายปี 2563 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://hungrynow.co.th

3 จังหวัดผนึกกำลังจัดงานสีสันตะวันออก ครั้งที่ 11 สีสัน EEC น่ากิน น่าเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวจังหวัดชายฝั่งทะเล

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 14 ตุลาคม 2563 ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีช จ.ชลบุรี นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา นางกัญญ์ชลา สุขิตรกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฉะเชิงเทรา และนายพงษ์อนันต์ จันทร์ไพร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง ร่วมเป็นประธานแถลงข่าวจัดงานสีสันตะวันออก ครั้งที่ 11  “สีสัน EEC น่ากิน น่าเที่ยว”

สำหรับงานสีสันตะวันออกในครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวครั้งใหม่และครั้งยิ่งใหญ่ของกลุ่มจังหวัดท่องเที่ยวใหม่ในเขตภาคตะวันออก ทั้งชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่าง 22-25 ตุลาคม 2563 ที่บริเวณเลียบขายหาดพัทยา ตั้งแต่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีช ไปจนถึงซอย 11 ถนนเลียบชายหาดพัทยา

           และในปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างภายใต้คอนเซ็ปต์สีสัน EEC น่ากิน น่าเที่ยว ที่คงเอกลักษณ์สำคัญของงานเทศกาลสีสันตะวันออกคือ การรวมตัวของผู้ประกอบการระดับคุณภาพและมีชื่อเสียงของภาคตะวันออก โดยมีการจัดกิจกรรมแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ  รวมทั้งรวบรวมร้านดัง สไตล์ Street Food มาให้ชิมกันมากมาย

การจัดงานในครั้งนี้เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้เกิดกระแสการเดินทาง และเกิดการใช้จ่ายในพื้นที่ เป็นการกระจายรายได้ และสร้างรายได้สู่ท้องถิ่น สามารถสร้างอาชีพ และลดปัญหาการว่างงานของคนในท้องถิ่นได้ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการกระตุ้นตลาดยุคใหม่ โดยนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเป็นส่วนประกอบในการจัดงานแบบออนไลน์ควบคู่ไปกับการจัดงานของท้องถิ่นด้วยเช่นกัน

พัทยาอัพเดทนิวส์ นำเสนอ ฉับไว เพื่อสังคม