คลังเก็บป้ายกำกับ: คนร้าย

เสี่ยบีเอ็ม ถูกโจรพัทยาฉายเดี่ยว ซิ่ง จยย. กระชากสร้อยคอหนัก 3 บาท แต่ยังโชคดี

เสี่ยบีเอ็ม ถูกโจรพัทยาฉายเดี่ยว ซิ่ง จยย. กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท แต่ยังโชคดีที่พระเลี่ยมทองหลักแสนตกอยู่ที่พื้น

พัทยา-(23 เม.ย. 60) เมื่อเวลา 20.30 น. ร.ต.อ.อนุพงษ์ พวงพี่ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านปลาทองซีฟู้ด นาเกลือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.จักรทิพย์ ธาราพันธกุล ผกก.สภ.บางละมุง ก่อนนำกำลังรีบไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบ นายยุทธการ กลั่นมั่น ยืนข้างรถยนต์หรูบีเอ็มดับเบิ้ลยู ในมือกำพระเครื่องไว้แน่นด้วยความรักและหวงแหน พร้อมให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หลังจากทำธุระเสร็จก็ได้เดินมาขึ้นรถ เมื่อเปิดประตูกำลังก้าวเท้าขึ้นรถ มีคนร้ายเป็นวัยรุ่นขับขี่จยย.มาคนเดียว เข้ามาประกบแล้วเอื้อมมือมากระชากสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท แล้วซิ่งจยย.หลบหนีไป แต่คนร้ายได้ทำพระเครื่องชื่อดังราคาหลักแสนเลี่ยมทองตกไว้ จึงรีบวิ่งไปเก็บพระเครื่องมาเก็บไว้ หลังเกิดเหตุตั้งสติได้ก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับคนร้ายตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีผ่านไปแต่ก็ไร้วี่แวว พ.ต.อ.จักรทิพย์ ผกก.สภ.บางละมุง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหารูปพรรณสัณฐานของคนร้าย เร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้เสียหายจำลองเหตุการณ์ ที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุ เพื่อให้ประชาชนได้ระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งวิ่งราวรายนี้ต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

คนร้ายอุกอาจควงปืนจี้ชิงทรัพย์ แม่นักมวยดีกรีแชมป์โลก

พัทยา-(23 เม.ย. 60) เมื่อเวลา 23.30 น. พ.ต.ต.จีระศักดิ์ แอบแฝง สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ เหตุเกิดภายในซอยบุญสัมพันธ์ 14 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนรีบไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นซอยเปลี่ยวไม่มีแม้แต่ไฟส่องสว่าง โดยมี นางปราณี กลิ่นมี อายุ 48 ปี เป็นผู้เสียหายให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถูกคนร้ายสองคนใช้อาวุธปืนจี้บังคับเอาเงินไปจำนวน 19,000 บาท และโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง จากนั้นก็พากัน ซิ่งจยย.หลับหนีไปอย่างรวดเร็ว หลังเกิดเหตุจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

สอบถาม นางปราณี ได้เล่าว่าว่าในขณะที่ได้ขับขี่จยย.เข้ามาภายในซอยดังกล่าวมีชายวัยรุ่น 2 คนรูปร่างเล็ก คนขับสวมเสื้อสีขาว คนซ้อนสวมเสื้อสีแดง สวมหมวกกันน็อคนิรภัยปิดบังใบหน้า เข้ามาปาดหน้ารถจนเสียหลักเข้าข้างทาง คนซ้อนท้ายก็ชักปืนออกมาจ่อที่ศีรษะแล้วบังคับให้ส่งทรัพย์สิน ภายในผ้ากันเปื้อนไป ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ขายข้าวแกงได้

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีไปแต่ก็ไร้วี่แวว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบหาเบาะแสของคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากการก่อเหตุอย่างอุกอาจและไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ข่าวยังรายงานอีกว่านางปราณี (ผู้เสียหายนั้น) เป็นมารดาของ นายสม กลิ่นมี หรือ สุดสาคร ส.กลิ่นมี นักมวยชื่อดังระดับประเทศ เป็นนักมวยผู้ครองแชมป์โลกรายการเวิลด์คิกบ็อกซิ่งเน็ตเวิร์กมวยไทยรุ่นเวลเตอร์เวท วันที่16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 อีกด้วย

ภาพ/ข่าว Ku Salick

นร.ชายหัวเกรียน พ่อตามกลับบ้านถูก 2 คนร้ายพัทยา ปาดหน้าต่อยชิงรถจยย. หนีลอยนวล

พัทยา-(17 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 02.00 น.พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งว่ามีคนร้ายก่อเหตุทำร้ายร่างกายชิงรถจักรยานยนต์แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดเมืองพัทยา ถนนทัพยา ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบ นายธณัฐพล อภิเนตร อายุ 15 ปี นักเรียนโรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยา พร้อมผู้ปกครองคือ นายพิทักษ์ อภิเนตร อายุ 48 ปี พ่อค้าหมูย่าง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูก 2 คนร้าย ทำร้ายร่างกายแล้วชิงเอารถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง แต่งสวย ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม ซุปเปอร์คับ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 2กก 9487 ชลบุรี ไป พร้อมทั้งโชว์รูปถ่ายรถจักรยานยนต์คู่ใจ ที่พ่อได้เก็บหอมรอมริบซื้อให้ไว้ขับขี่ไปโรงเรียน ซึ่งรถคันนี้เพิ่งออกมาใช้งานได้ยังไม่ถึง 3 เดือน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู

image

สอบถาม นายธณัฐพล ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่จยย.ออมานั่งเล่นที่ชายหาดจอมเทียนกับกลุ่มเพื่อน แต่พอดีพ่อได้โทรตามกลับบ้าน จึงขอแยกกับเพื่อนแล้วขับขี่จยย.มาตามถนนทัพยา จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนอายุ ประมาณ 18-20 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์มาปาดหน้า จากนั้นคนซ้อนท้ายได้ลงมาชกต่อยจนล้มลงกับพื้น แล้วแย่งชิงเอารถจยย.รีบขับหลบหนีไป ด้วยความตกใจจึงทำได้ได้แค่ยืนมองคนร้ายขับรถจยย.หลบหนีไปตามถนนเส้นทัพยา เมื่อตั้งสติได้ผมจึงขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีที่ผ่านไปมาดังกล่าว

image

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีไปแต่ก็ไร้วี่แวว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะประสานทางเมืองพัทยาตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

แหม่มรัสเซียถูก วินจยย.รับจ้างเข้าซอยเปลี่ยวแล้วชิงทรัพย์ทำร้ายบาดเจ็บ

พัทยา-(9 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 06.00 น. ขณะที่ พ.ต.ท.กิตติพงษ์ ศรีชำนาญ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้มีนายดนุพล เชียงทอง อายุ 26 ปี พลเมืองดี พาตัวน.ส.ไลลา อิบาฮิมโมวา อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ถูกคนร้ายลวงเข้าที่เปลี่ยวแล้วชิงทรัพย์และทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเดินร้องไห้ขอความช่วยเหลืออยู่ริมถนนบริเวณซอยตลาดร่มโพธิ์ จอมเทียน

จากการสอบสวน น.ส.ไลลา ให้การว่า หลังจากดื่มเที่ยวจากวอล์กกิ้งสตรีท ได้เรียกชายไทย ขับวินจักรยานยนต์รับจ้าง อยู่ที่บริเวณโรงแรมสยามเบย์ชอร์ ไปส่งพักแถวโรงแรมพัทยาปาร์ค แต่ปรากฏว่าชายคนดังกล่าว ได้ขับขี่เลยที่พักเข้าไปในซอยเปลี่ยว ก่อนชายดังกล่าวจะจอดรถจักรยานยนต์แล้วกระชากกระเป๋าสะพาย ภายในทรัพย์สินประกอบด้วยเงินสกุลต่างประเทศจำนวน 100 ดอลลาร์ เงินสด 140 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเอกสารต่างๆ จากนั้นได้ผลักอกจนล้มลงกับพื้นถนนได้รับบาดเจ็บถลอกตามร่างกาย หลังจากก่อเหตุชายดังกล่าวก็ได้รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือและพาเข้าแจ้งความกับตำรวจดังกล่าว

ภายหลังสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนสั่งการชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบว่าคนร้ายเป็นวินจยย.รับจ้างจริงหรือไม่ หรือกลุ่มคนร้ายแอบแฝงเข้าก่อเหตุลักษณะนี้ อย่างไรก็ตามคงจะต้องเช็คภาพกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและเส้นทางที่ใช้สัญจรไปยังจุดก่อเหตุ เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

สองโจ๋เมาต่อยหนุ่มญี่ปุ่นปากฉีก ฝรั่งเข้ามาช่วยโดนเตะเสยปลายคางสลบ

พัทยา-(9 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 02.30 น. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ กนกวิลาศ สวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดภายในซอยแอลเค เมโทร ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 2 ราย ทราบชื่อคือนายทาเรยูกิ คามิยามา อายุ 41ปี สัญชาติญี่ปุ่น ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ริมฝีปากบนเป็นแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ อยู่ในอาการมึนงง และนายสตีเว่น อายุ 44 ปี สัญชาติสวีเดน ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

image

สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า นายทาเรยูกิ ได้เดินทางมาเที่ยวพัทยาเป็นวันแรก เข้ามาใช้บริการกลุ่มบาร์ในละแวกดังกล่าวในขณะที่เดินอยู่ตามปกติ ผู้ก่อเหตุได้เดินเข้ามาทำร้ายร่างกายจนล้มนอแน่นิ่งอยู่กับพื้น นายสตีเว่น เห็นเข้าจึงรีบวิ่งเข้ามาช่วยผู้บาดเจ็บ แต่กลับถูกผู้ก่อเหตุเตะเสยปลายคางจนสลบเหมือดไม่หนำซ้ำกระเป๋าเงิน ภายในมีเงินสด 5,000บาท ได้สูญหายไปอีกด้วย หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้วิ่งถอดเสื้อหลบหนีไปกับหญิงสาวชาวไทย
ต่อมาไม่นานเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ได้ทราบชื่อต่อมาคือ นายพัฒนะ หรือแจ๊ค หมื่นแสง อายุ 24 ปี ชาว อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี นายปฏิภาณ หรือต้นกล้า ถือความซื่อ อายุ28 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ทั้งคู่อยู่ในอาการเมาสุรา จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนยัง สภ.เมืองพัทยา แต่ทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายนักท่องเที่ยว ตนเองต่างหากที่ถูกทำร้ายแต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจะต้องรอตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อมัดตัวผู้ก่อเหตุต่อไป

image

ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า นายพัฒนะ หรือแจ๊ค หมื่นแสง นายปฏิภาณ หรือต้นกล้า ถือความซื่อ เคยถูกจับกุมและแถลงข่าวในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2558 อีกด้วย

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

มือปืนขับเก๋งประกบยิง “กัน หนองเกตุ” ทีมอุ้มฆ่าหมกป่าแก๊งยานรก

พัทยา-(2 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. พ.ต.ต.ธีทัต ตลุณจันทร์ สารวัตรสอบสวน สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าร้านผ้าม่านสวย เลขที่ 222/70 ถนนหนองปรือ ม.7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังมุงดูร่าง นายวิทวัส เหลาเคน หรือ “กัน หนองเกตุ” อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี นอนจมกองเลือด สภาพถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่จุดสำคัญกว่า 3 แห่ง ประกอบด้วย บริเวณขมับขวา ใต้ราวนมขวา และขาข้างขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปฐมพยาบาลพร้อมกับปั้มหัวใจยื้อชีวิต แต่คนเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาล

ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ผู้เสียชีวิต ยี่ห้อ คาวาซากิ เอสเอสอาร์ สีเขียว ทะเบียน กกร 254 ชลบุรี สภาพพลิกคว่ำอยู่และบริเวณถังน้ำมันมีร่องรอยกระสุนจำนวน 1 นัด แต่ไม่พบปลอกกระสุนหรือหัวกระสุนตกอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากจุดเกิดเหตุ เพื่อสะดวกแก่การเก็บวัตถุพยานหลักฐาน

สอบถาม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุพบคนตาย ขับขี่รถจักรยานยนต์ มุ่งหน้าไปทางตลาดหนองปรือ โดยมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ตามหลังมาในระยะกระชั้นชิด ก่อนเร่งเครื่องแซงขึ้นมาประกบข้าง จากนั้นคนนั่งอยู่ประตูหลังฝั่งซ้าย ได้ลดกระจกมาครึ่งบาน แล้วชักอาวุธปืนใส่จำนวน 3 นัดซ้อน ก่อนพากันเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

จากการตรวจสอบประวัติ ผู้ตาย พบว่า เมื่อเดือนธันวาคม 2556 ผู้ตายกับพวกรวม 4 คน ได้เคยก่อคดีใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิง นายนัด สุวรรณขำ อายุ 29 ปี จำนวน 3 นัด เสียชีวิตบริเวณป่ายูคาลิปตัส ข้างสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำมาบประชัน หมู่ 3 ต.หนองปรือ สาเหตุมาจากแค้นเรื่องหักยาเสพติดจากนักโทษในเรือนจำกลาง จ.อยุธยา แต่ภายหลังไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตรวจติดตามจับกุมไว้ได้ยกแก๊ง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ พบรถเก๋งคนร้ายเข้ามาประกบแล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจริงตามที่พยานให้การ สำหรับสาเหตุการลงมือสังหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ แต่เบื้องต้นคาดว่าปมน่าจะมาจากปมหักธุรกิจมืด หรือการล้างแค้นส่วนตัว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมือปืนรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

คนร้ายย่องขึ้นบ้านเสี่ยธุรกิจรับซื้อขายฝากงัดตู้เซฟกวาดทรัพย์สินหลายรายการ

พัทยา-(1 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 22.30 น. ร.ต.อ.กฤชฐา ประทุมแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในบ้าน สูญทรัพย์สินหายหลายรายการ เหตุเกิดที่บ้านแตงโม เลขที่ 210/12 ม. 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรู 3 ชั้น พบผู้เสียหายทราบชื่อต่อมาคือ นายอุดม พิมมาส อายุ 46 ปีพร้อมภรรยาและลูกๆ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกคนร้ายเป็นชายไทยรูปร่างท่วม ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ เข้าไปก่อเหตุงัดตู้เซฟนิรภัยภายในบ้าน มีทรัพย์สินสูญหายให้รีบวิทยุสกัดจับ แต่ยังไม่สามารถติดตามคนร้ายได้ทัน

ซึ่ง นายอุดม เจ้าของบ้านเล่าว่าตนเองและครอบครัวประกอบธุรกิจรับซื้อขายฝากในเขตพื้นที่เมืองพัทยา หลังจากที่ตนเองและภรรยาเลิกงานได้เดินทางกลับบ้านตามปกติ ได้สังเกตเห็นว่ามีรถยนต์เก๋งจอดอยู่ในซอยมืดข้างบ้านแบบผิดปกติ จึงลงไปสอบถามพูดคุยคนร้ายก็มีท่าทีพูดจาดีจึงไม่เอะใจอะไร

จนกระทั่งตนเองขึ้นไปยังชั้นสองก็พบว่าข้าวของภายในห้องถูกรื้อค้น ตู้เซฟนิรภัยถูกงัดจนเปิดออกทรัพย์สินภายในเป็นแหวนทองและเศษทองอีกจำนวนหนึ่งสูญหายไป เมื่อตรวจสอบห้องที่สองก็พบว่าเงินที่เก็บไว้ในกล่องจำนวน 13,000 บาทก็สูญหายไปด้วย โดยคนร้ายงัดแงะเข้าทางหน้าต่างด้านหลัง ตนเองคิดว่าเป็นรถเก๋งคนดังกล่าวแน่จึงรีบวิ่งออกมาดู แต่คนร้ายก็รีบเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนร้ายคาดว่าจะมาไม่ต่ำกว่า 2 คน โดยคนที่อยู่ที่รถเป็นคนดูต้นทาง เมื่อเจ้าของบ้านมาจึงส่งสัญญาณให้ผู้ร่วมก่อเหตุรีบออกจากบ้านแล้วหลบหนีไป อย่างไรก็ตามได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีผ่านไป เพื่อติดตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

นักธุรกิจชาวอินเดียถูกสองสาวใช้มีดจี้ชิงทรัพย์เกลี้ยงตัว

พัทยา-(28 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 01.30 น. ร.ต.อ.สมบัติ แก้วมูลมุข รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เหตุเกิดขึ้นที่ซอย 9 ถนนชายหาดเมืองพัทยา บริเวณหลัง สภ.เมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ธุรกิจเครื่องหนัง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หลังจากที่ตนเองและเพื่อนได้รับประทานอาหารจากร้านอาหารไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุได้เดินเข้าซอยดังกล่าว ถูกสองสาวขับขี่ จยย.ใช้อาวุธมีดจี้แล้วชิงทรัพย์สินเป็นเงินไทย 7,000 บาท เงินต่างประเทศ 2,000 รูปี เงินต่างประเทศ 200 ดอนล่าสหรัฐ และเอกสารสำคัญหลายรายการ แล้วขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับตามเส้นทางที่คนร้ายจะหลบหนีผ่านไป แต่ก็ไม่พบร่องรอย จึงได้ประสายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสคนร้ายแต่ก็ยังไร้วี่แวว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวคนร้านมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยาสั่งด่วน ย้ายพิธีถวายราชสดุดี วันแม่แห่งชาติ เพื่อความปลอดภัย

พัทยา-(12 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา เรียกประชุมด่วนหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เป็นการเร่งด่วน เพื่อร่วมหารือในการจัดเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ปัญหาความไม่ปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยว หลังเกิดเหตุความไม่สงบจากการลอบวางระเบิดในหลายพื้นที่ของประเทศในช่วงวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีของการป้องกันเหตุร้ายในช่วงระหว่างการชุมชนของตัวแทนจากองค์กรภาครัฐ เอกชน ผู้นำชุมชน และประชาชนจำนวนมากที่จะมาร่วมตัวกันเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมการถวายราชสดุดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ในเวลา 18.30 น.ของวันเดียวกันนี้ ที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ จ.ชลบุรี ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่เมืองพัทยาจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี

นายชนัฐพงศ์ กล่าวว่า กิจกรรมนี้ในทุกปีจะมีตัวแทนจากภาคต่างๆ เข้าร่วมงานนับพันคน เพื่อร่วม กันแสดงความจงรักภักดีและถวายราชสดุดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนารถ แต่จากเหตุ การณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นจึงต้องมีการหารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์ด้านการท่อง เที่ยวอีกด้วย จึงมีคำสั่งด่วนให้ยกเลิกการเดินขบวนเทิดพระเกียรติที่มีเส้นทางผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างถนนวอล์คกิ้ง สตรีท พัทยาใต้ และการจัดกิจกรรมบริเวณสถานที่เดิมคือท่าเรือแหลมบาลีฮาย เนื่อง จากเป็นพื้นที่เปิดและค่อนข้างล่อแหลม อีกทั้งยังมีความยากลำบากในการเฝ้าระวังป้องกันเหตุ โดยมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ในการจัดกิจกรรมมายังบริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี แทน โดยได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เข้าร่วมทราบไปแล้ว

ในการนี้ได้มีการประสานสนธิกำลังจากทุกภาคส่วนในการเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ทั้งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดหรือ EOD กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ในส่วนสังกัดของเมืองพัทยา เพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รวมทั้งขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะ แสเกี่ยวกับบุคลหรือวัตถุต้องสงสัยเพื่อเป็นการป้องกันเหตุอย่างรัดกุม ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวจะมีการดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมภาคีทุกเครือข่ายที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

รวบแก๊งปลอมเอกสารราชการ ไปเช่าซื้อรถจยย. ส่งขายตลาดมืด สารภาพก่อเหตุหลายสิบคัน

พัทยา-(29 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.อำพล บำรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง.ผบก. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายนุกูล พิริยะปราณี อายุ 38 ปี,นายศตวรรษ พรหมมา อายุ 26 ปี และนายเอกสิทธิ์ ป้อมคำ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาแก๊งปลอมแปลงเอกสารราชการ เพื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ก่อนนำส่งขายตลาดมืด พร้อมของกลาง บัตรประชาชนปลอม ทะเบียนบ้านปลอม ใบทะเบียนการปลอม และสำเนาเอกสารปลอมจำนวนมาก โดยมีนายสุพัฒน์ จารุเรืองไพศาล ผู้จัดการบริษัท มิตรยนต์พัทยา จำกัด พร้อมพนักงาน เป็นผู้เสียหายยืนยันชี้ตัว

image

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการเช่ารถจักรยานยนต์ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่ามีกลุ่มแก๊งนำบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านปลอม มาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และไม่ผ่อนตามสัญญา ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจาก พนักงานบริษัท มิตรยนต์พัทยา จำกัด สาขาพัทยาใต้ ว่าพบผู้ต้องสงสัยนำบัตรประชาชนปลอมมาเช่าซื้อรถ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ ก่อนจับกุม นายเอกสิทธิ์ ป้อมคำ ได้พร้อมบัตรประชาชนปลอมระบุชื่อ นายจีรศักดิ์ เกาะกลาง จึงทำการสอบสวนขยายจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้อีก 2 ราย ส่วนหัวหน้าแก๊ง ทราบชื่อคือ นายธงไชย หรือแบงค์ อภิยางกุล อายุ 24 ปี ไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว

image

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การว่า ได้มาร่วมกับ นายธงไชย หรือแบงค์ หลายเดือนแล้ว ก่อเหตุมาประมาณ 20 -30 คัน โดยพฤติกรรม นายธงไชย หรือแบงค์ จะเป็นผู้ปลอมแปลงเอกสารราชการทั้งหมด โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และนำมาแจกจ่ายให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ซึ่งนายเอกสิทธิ์ จะทำหน้าที่ไปเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เมื่อได้รถแล้วจะให้ นายศตวรรษ หรือนายนุกูล นำไปส่งให้กับลูกค้าตามใบสั่ง โดย นายธงไชย หรือแบงค์ ให้ค่าจ้างครั้งละ 500 บาท นอกจากนี้ นายธงไชย หรือแบงค์ ยังมีพฤติกรรมปลอมแปลงเอกสารราชการ เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าของตนอีกด้วย

ด้าน นายสุพัฒน์ จารุเรืองไพศาล ผู้จัดการบริษัท มิตรยนต์พัทยา จำกัด เปิดเผยว่า ทางร้านสาขาต่างๆในเครือบริษัทได้ถูก นายเอกสิทธิ์ ป้อมคำ นำเอกสารปลอมมาเช่าซื้อรถจำนวนทั้งสิ้น 22 คัน ก่อนที่พนักงานของบริษัทจะพบพิรุจและแจ้งเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในที่สุด

image

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จะทำการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมหัวหน้าแก๊งต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้