พัทยา-(16 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 16.00 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บผูกคอตัวเอง เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่145/3 ม.2 ซ.นาเกลือ2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานนำรถพยาบาล รุดไปช่วยเหลือ

              ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านได้ช่วยเหลือนำร่างผู้บาดเจ็บออกมาจากบ้านก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อคือ นายปึ๋ง อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปฐมพยาบาลและปั้มหัวใจกว่า 20 นาที แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บชีพจรอ่อนมากและยังไม่ฟื้นคืนสติ เจ้าหน้าที่จึงเคลื่อนย้ายร่างผู้บาดเจ็บส่ง รพ.บางละมุง เพื่อให้แพทย์เร่งช่วยเหลือต่อไป

                สอบถาม ด.ช.ธนกร  เทียมทอง หรือน้องเบสบอล อายุ 9 ปี เล่านาทีระทึกว่า ขณะกำลังเดินกลับเข้ามาในบ้านได้พบเข้ากับร่างของ นายปึ๋ง น้าชาย สภาพหมดสติคอห้อยน้ำลายยืด และมีเชือกผูกอยู่บริเวณคอยึดกับเหล็กราวตากผ้า บริเวณหลังบ้าน ด้วยความตกใจกลัวจึงรีบวิ่งไปบอกญาติๆ และน้าสาว

               ด้าน นางอุไรรัตน์ กีรเกียรติ อายุ 32 ปี แฟนสาว เปิดเผยว่า ตนเองคบหาและอยู่กินกับ นายปึ๋ง คนเจ็บ ได้หลายเดือนแล้ว ซึ่งปกติ นายปึ๋ง เป็นคนคิดมากขี้น้อยใจ และชอบคิดระแวงกลัวตนจะมีชายอื่น ก่อนเกิดเหตุตนได้ขายอาหารอยู่ที่ร้านบริเวณปากทางเข้าบ้าน ซึ่ง นายปึ๋ง อยู่ในบ้านเพียงลำพัง จนกระทั่ง น้องเบสบอล หลานชาย มาบอกว่า นายปึ๋ง ผูกคอฆ่าตัวตาย จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือและแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

พัทยา-(15 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 00.10 น. ร.ต.อ.พัลลภ หริ่งรอด รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกอาวุธมีดฟันได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าทางเข้าโรงพยาบาลเมืองพัทยา ถนนพัทยาสายสาม ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบพลเมืองดีสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายวันชนะ ตุลาทอง อายุ20 ปี พร้อมอาวุธมีดปลอกผลไม้ 1 ด้าม ที่ใช้ในการก่อเหตุ ส่วนคนเจ็บได้มีชาวบ้านพาส่งโรงพยาบาลเมืองพัทยา ไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่มาถึง เป็นชายนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ถูกอาวุธฟันบริเวณหน้าท้องยาวกว่า 10 ซม. เบื้องต้นแพทย์รักษาล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

สอบถาม เพื่อนของผู้บาดเจ็บ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและผู้บาดเจ็บได้ขับขี่รถจักรยายนต์เที่ยวชมบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองพัทยา จากนั้นได้มีชายวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คน เข้ามาประชิดข้าง จึงทำให้รถทั้งคู่เกิดเฉี่ยวชนและจอดรถข้างทาง ก่อนจะมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ต่อมาหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นจะชักมีดออกมาฟันเข้าที่ท้องจนได้รับบาดเจ็บ และมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยจับกุมคนร้ายไว้ได้ 1 ราย ส่วนอีกรายหลบหนีไปได้

เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่าที่ลงมือก่อเหตุฟันนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้นเพราะโมโหที่ขับรถมาเฉี่ยวชนและด่าทอตนเอง ส่วนเพื่อนที่มากับตนได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(6 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 18.00 น. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผกก.สส.สภ.นาจอมเทียน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมMr.Chinedu odunze อายุ 29 ปี สัญชาติไนจีเรีย พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 2 ถุง น้ำหนักประมาณ 10 กรัม

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.นาจอมเทียน ได้จับกุมเอเย่นต์ยาเสพติดรายย่อยและสืบสวนขยายผลจนทราบว่า ได้ซื้อยาเสพติดมาจากเอเย่นต์ชาวต่างชาติคนหนึ่งในเมืองพัทยาเจ้าหน้าที่จึงวางแผนส่งสายลับทำการล่อซื้อโดยใช้เงินสดจำนวนหนึ่งซึ่งมีการถ่ายเอกสารเป็นหลักฐานก่อนหน้านี้ ซึ่งได้นัดแนะส่งของกับเอเย่นต์ที่บริเวณหน้า แมคโดนัล ริมถนนสุขุมวิทพัทยากลาง

กระทั่งคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติ 1 คน และหญิงชาวไทย 1 คน ได้ขับรถโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน กธ.3554 จันทบุรี มาจอดบริเวณจุดนัดแนะ สายลับจึงได้เข้าไปหาคนร้ายและขณะที่กำลังเจรจากันตกลงกันอยู่นั้น คนร้ายเกิดไหวตัวทันและเร่งเครื่องขับรถหลบหนีออกจากบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงติดตามไล่ล่า พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เพื่อขอกำลังช่วยสกัดจับ

ต่อมาคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไปภายในซอยสุขุมวิทพัทยา 46 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง และชนกับรถ จยย.ของชาวบ้านจนได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ล่าจนสามารถจับกุมตัวMr.Chinedu odunze พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวน 2 ถุง ซึ่งซุกซ่อนภายในรถใต้เบาะนั่งข้างคนขับ ส่วนแฟนสาวชาวไทยได้หอบยาไอซ์จำนวนหนึ่งวิ่งหลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว Mr.Chinedu odunze ผู้ต้องหาไปสอบสวนและขยายผลเพื่อติดตามจับกุมตัวแฟนสาว ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว หมีซิก

พัทยา-(7 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ต.จีระศักดิ์ แอบแฝง สารวัตรสอบสวน สภ.หนองปรือ รับแจ้งเหตุคนตกจากรถกระบะและถูกรถที่วิ่งสวนทางมาเหยียบซ้ำเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณถนนชัยพรวิถี ช่วงทางเข้าอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ม.3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมา นายทีปพนธ์ ภัคดี อายุ 23 ปี สภาพศพสวมเพียงกางเกงยีนขาสั้น กะโหลกศีรษะยุบเลือดไหลนองพื้น ใกล้กันพบ รถแท็กซี่ บริษัท สหกรณ์เดินรถพัทยา จำกัด ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน-เหลือง ทะเบียน ทข-234 ชลบุรี สภาพกันชนหน้าด้านขวาได้รับความเสียหาย โดยมี นายต้อย จูสิงห์ อายุ 43 ปี เป็นโชเฟอร์ผู้ขับขี่ นอกจากนี้ พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน 1กฒ-2427 กทม. ซึ่งเป็นรถที่ผู้ตายนั่งโดยสารมาด้วย จอดรถบริเวณใกล้เคียง ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าของบรรดาเพื่อนผู้เสียชีวิต

สอบถาม นายโชติวรจักร โพธิ์พรมศรี อายุ 37 ปี ผู้ขับขี่รถกระบะ และกลุ่มเพื่อนของผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนหนุ่มสาว และนายทีปพันธ์ ผู้ตาย รวมกว่า 10 คน ได้ขับรถกระบะเที่ยวดื่มกินบริเวณชายหาดพัทยา และระหว่างขากลับบ้านพักในพื้นที่ ต.โป่ง ผู้ตายได้นั่งโดยสารมาด้านท้ายกระบะพร้อมกลุ่มเพื่อนคนอื่นๆ กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุจู่ๆ ผู้ตายที่นั่งอยู่บริเวณขอบกระบะเกิดล่วงลงจากท้ายกระบะ ทำให้รถแท็กซี่ที่วิ่งสวนทางมาชนอัดเข้าอย่างจังและเหยียบจนเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน นายต้อย จูสิงห์ โชเฟอร์แท็กซี่ เล่าว่า ตนเพิ่งเลิกงานและกำลังกลับบ้านพัก กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุผู้ตายได้ล่วงจากรถกระบะที่วิ่งสวนทางมาอย่างกะทันหัน ทำให้ตนหักหลบไม่ทันจึงชนเข้ากับร่างของผู้ตายและเหยียบซ้ำจนเสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง และดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้ส่งไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.บางละมุง เพื่อรอญาติมาติดต่อรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

ฉาวอีกแล้ว แชร์สนั่นโซเชียล คลิปผีมะพร้าวชายหาดพัทยารุมทำร้ายนักท่องเที่ยว ขนาดยกมือไหว้ยังไม่หยุด ถือเป็นการทำภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก

พัทยา-(6 มี.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเพจเฟสบุ๊ค “เรารักพัทยา” มีการแชร์ภาพคลิปวีดีโอที่มีความยาวประมาณ 46 วินาที มีเนื้อหาเกี่ยวกับ มี 2นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถูกผีมะพร้าวหรือสาวประเภท 2 จำนวนหลายคน มารุมล้อม ก่อนมีสาวประเภท 2 ที่สวมชุดดำและชุดแดงตรงเข้าชกต่อยนักท่องเที่ยว ขนาดนักท่องเที่ยวยกมือไหว้แบบไทยสาวประเภท 2 นั้นยังไม่ยอมหยุด ก่อนมีเพื่อในกลุ่มสาวประเภท 2 เข้ามาห้ามและแยกให้นักท่องเที่ยวเดินออกไป

โดยโพสระบุข้อความว่า “ฝากด้วยครับการทำมาเฟียชายหาด แล้วต่างชาติเขาจะมาเที่ยวบ้านเราเมืองเราอีกหรือ ถึงกับเขายกมือไหว้แบบไทยๆ เราเป็นเจ้าบ้านน่าอายมาเลยครับ” จนมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมากทั้งด้านบวกและด้านลบ โดยส่วนใหญ่จะแสดงความคิดเห็นเป็นกลางที่ไม่เข้าข้างใคร

ซึ่งที่ผ่านมา ปัญหาลักษณะดังกล่าวส่วนใหญ่เกิดจากสาวประเภท 2 หรือ ผีมะพร้าวที่มักทำร้ายภาพพจน์เมืองท่องเที่ยวจนเสียหายมาหลายครั้ง โดยจะเป็นฝ่ายกระทำตลอด และเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการกวาดล้างจับกุม บันทึกประวัติ และเปรียบเทียบปรับ ก่อนปล่อยตัวกลับไป ซึ่งกลุ่มผีมะพร้าวก็จะไม่เข็ดหลาบและจะกลับมาทำตัวเหมือนเดิมอีก

ทั้งนี้ จึงอยากวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เอาจริงเอาจังในการกวดขันจับกุม กวาดล้าง หรือหามาตรการในการควบคุมดูแล กลุ่มผีมะพร้าว หรือสาวประเภท2 เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่เมืองพัทยาต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

พัทยา-(4 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 05.30 น. ร.ต.อ.บัญญัติ มาวัง รอง สวป.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิด ที่ห้องเช่าเลขที่ 318 ม. 13 ซอยวัดธรรม ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา

ที่เกิดเหตุพบ น.ส.ภัทราวดี ท่าเลิศ อายุ 25 ปี เช่าอยู่ที่ห้องดังกล่าว สภาพนอนจมกองเลือด ที่บริเวณใบหน้า มีแผล ถูกตีด้วยไม้หน้าสาม เป็นแผลฉกรรจ์อาการสาหัส ทางมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา ช่วยกันนำส่ง รพ.บางละมุง ส่วนตัวผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้โดยพักอยู่ห้องตรงข้ามกับผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายสมศักดิ์ ศรีแก้ว อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดหนองคาย พร้อมของกลางไม้หน้าสามเปื้อนเลือดที่ใช้ก่อเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน คนร้าย ให้การ สับสนพูดจาไม่รู้เรื่อง โดยอ้างว่าสาเหตุที่ทำเพราะได้คุยทางจิตกับหมอโดยหมอเป็นผู้สั่งให้ทำ บางทีก็ว่าผู้บาดเจ็บนั้นหลอกเมียให้ขายที่ดินและยังให้การว่าก่อนจะก่อเหตุได้เสพยาบ้าจำนวน 2 เม็ด

ภายหลังจากการสอบสวนจึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นคาดว่าผู้ก่อเหตุน่ามีอาการหลอนทางประสาท เนื่องจากเสพยาบ้า ประกอบกับอาจมีความเครียดเรื่องปัญหาครอบครัว จึงทำให้เกิดประสาทหลอนไล่ทำร้ายชาวบ้านดังกล่าว

ภาพ/ข่าว ซิก

พัทยา-(2 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. ร.ต.อ.พัลลภ หริ่งรอด รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายภักดี นาคะสถิตย์ อายุ 46 ปี พร้อมของกลางสร้อยคอทองรูปพรรณปลอมหนัก 5 บาท จำนวน 2 เส้น สร้อยข้อมือทองปลอม 1 เส้น และแหวนเพชรอีก 2 วง ในฐานความผิด “คดีฉ้อโกงทรัพย์” โดยมี นายวิโชค ค้าขาย อายุ 71 ปี เป็นผู้เสียหาย

สืบเนื่องจาก ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายได้แจ้งกับตำรวจว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ได้มีผู้ต้องหา ซึ่งรู้จักกันแต่ไม่สนิทอะไรมาก ทำทีเข้ามาเสนอขายสร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 5 จำนวน 2 เส้น ขอเสนอราคามาที่150,000 บาท ซึ่งอ้างว่าสร้อยดังกล่าวเป็นของญาติที่ให้มานานแล้ว โดยต้องการขายเพราะว่าต้องการใช้เงินเอาไปใช้หนี้ จึงตกลงกับผู้ก่อเหตุว่าเอาเงินสดจำนวน 52,000 บาท ไปก่อน เมื่อจ่ายเงินก็เสร็จเรียบร้อย

จากนั้นผู้เสียหาย ได้นำสร้อยคอทองคำที่ซื้อต่อคนร้ายไปตรวจสอบดูปรากฏว่าเป็นทองปลอม จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนผู้เสียหายจะวางแผนจะขอซื้อแหวนเพชรเพิ่ม หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าทำการจับกุมตัวทันที ตรวจค้นพบแหวนเพชรปลอมจำนวน 2 วง สร้อยข้อมือทองคำปลอมอีก 1 เส้น พระเครื่องจำนวนหนึ่ง เงินสดจำนวนหนึ่ง และยากล่อมประสาท ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า สร้อยทองปลอมดังกล่าวได้สั่งซื้อเพื่อนที่อยู่กรุงเทพมหานคร ก่อนจะนำมาหลอกขายให้กับผู้เสียหายในราคาถูก เพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้การพนันฟุตบอล แต่ก็ไม่รอดถูกผู้เสียหายซ้อนแผนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีได้ในที่สุด

นอกจากนี้ ทางผู้เสียหาย ระบุว่า ตลอดเวลาที่ผู้ก่อเหตุมาเข้าทุกครั้ง ก็จะนำเครื่องดื่มชูกำลังให้ดื่มตลอด โดยทุกครั้งจะรู้สึกง่วงซึม ใครพูดอะไรก็จะเชื่อแบบง่ายๆ ทั้งนี้ จึงอยากฝากไปยังประชาชนอย่าหลอกเชื่อกับบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะถ้าถูกกลหลวงก็อาจจะตกเป็นเหยื่อได้

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

กรณี นายอานนท์ จุนสุมทร อายุ 25 ปี น้องชายเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ “ด.ต.” สังกัดโรงพักแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ถูกชายคนรักใหม่ของอดีตแฟนสาว ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดจ่อยิงศีรษะจนเสียชีวิต ภายในร้านนัดพบหมูกระทะ&เหล้าปั่น ตั้งอยู่ริมถนนสุทธาวาส ม.7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อกลางดึกวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา สาเหตุ โดยเบื้องต้นทาง พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผกก.สภ.หนองปรือ สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งออกหาข่าวติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามที่รายงานไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าของคดีนี้ เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 2 มี.ค. 59 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผกก.สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน แถลงข่าวจับกุม นายเมธี หรือธี มุ่งหาดี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/1 หมู่ 8 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก โดยมีบิดา-มารดา และพี่ชายของผู้ตายซึ่งเป็นตำรวจยศ ด.ต. สังกัดโรงพักแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) เดินทางมาดูหน้าคนร้ายและเข้าขอบคุณตำรวจชุดจับกุม

สอบปากคำนายเมธี ให้การรับสารภาพว่า ปกติตนมีอาชีพขับรถแท็กซี่ป้ายดำในเมืองพัทยา ในวันเกิดเหตุตนกับ น.ส.ซารดา ดลฉกรรจ์ อายุ 24 ปี ภรรยา และเพื่อนชายอีก 1 คน เดินทางไปนั่งรับประทานหมูกระทะที่ร้านดังกล่าว และไปพบกับกลุ่มของนายอานนท์ อดีตแฟนเก่าภรรยาตน พร้อมกับเพื่อนชายวัยรุ่นรวม 7 คน ที่นั่งกินอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งในระหว่างที่นายอานนท์ เดินผ่านโต๊ะของตนเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ก็มักจะพูดจาเหน็บแนมและให้ของลับตนตลอดเวลา แต่ที่ตนโมโหจนทนไม่ไหวคือคำพูดที่ว่าเคยมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของตนมาก่อน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นการดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย

ภายหลังตนจึงขับรถยนต์กลับไปเอาอาวุธปืนลูกโม่ที่ซื้อผ่านทางเว็บไซต์ในราคา 40,000 บาท แล้วกลับมาที่ร้านและเปิดฉากชกต่อยกับนายอานนท์ เมื่อเห็นว่าสู้ไม่ได้ตนจึงชักอาวุธปืนออกมาและเกิดการยื้อแย่งกัน จนทำให้ปืนลั่นถูกศีรษะนายอานนท์ จนเสียชีวิตจากนั้นจึงหนีกลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อนตัดสินใจเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ ส่วนสาเหตุที่ทำไปเพราะความแค้น

ทางด้าน น.ส.ซารดา ภรรยาของนายเมธี ได้นำทะเบียนสมรสมาโชว์ต่อหน้าสื่อมวลชนในระหว่างแถลงข่าว พร้อมกับระบุว่า ตนกับนายเมธี ผู้ต้องหาในคดีนี้ แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นกิ๊กตามที่สื่อมวลชนรายงานในตอนแรก โดยก่อนหน้านี้ได้คบหาเป็นแฟนกับนายอานนท์ ผู้ตาย แต่มาระยะหลังนายอานนท์ ติดยาเสพติดและถูกตำรวจจับในคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครอง ซึ่งศาลตัดสินจำคุก 4 ปีและเพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ตนทนพฤติกรรมไม่ไหวจึงขอบอกเลิกและมาแต่งงานอยู่กินกับนายเมธี ได้กว่า 1 ปีเศษแล้ว

พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.หนองปรือ เร่งออกหาข่าวติดตามจับกุมคนร้ายมาให้ได้ เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ คนร้ายลงมือยิงผู้อื่นต่อหน้าลูกค้าจำนวนมากที่เข้าไปนั่งรับประทานหมูกระทะ ซึ่งในเวลาต่อมาคนร้ายทนแรงกดดันไม่ไหว จึงยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายเมธี ว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะฯ และใช้อาวุธปืนโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อดีตตำรวจวัยเกษียนชาวสวิตเซอร์แลนด์ กินก๋วยเตี๋ยวไก่ เกิดหายใจไม่ออกดับอนาถคาโต๊ะ เพื่อนชาติเดียวกันมาช่วยล้วงคอพบเศษเส้นก๋วยเตี๋ยวติดคาเต็มปาก ด้านตำรวจยังไม่ฟันธงสาเหตุการตาย

พัทยา-(1 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 16.00 น. ร.ต.ท.นิวัตน์ เพ็งแคน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีชาวต่างชาติกินก๋วยเตี๋ยวแล้วเกิดเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุที่บริเวณหน้า “สบายๆ เก็สเฮ้าส์” ตั้งอยู่ในซอย 12 ถนนเลียบชายหาดจอมเทียน หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังตำรวจสายตรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบศพชายชาวต่างชาตินอนหงายเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าทางเข้าเก็สเฮ้าส์ ซึ่งมีโต๊ะ-เก้าอี้ตั้งไว้หลายชุดเพื่อให้ลูกค้าได้นั่งพักผ่อนและรับประทานอาหาร สอบสวนทราบชื่อต่อมา Mr.Meier Ernst Albert อายุ 58 ปี อดีตนายตำรวจเกษียณอายุ ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ภายในปากพบเศษเส้นก๋วยเตี๋ยวคาอยู่ในหลอดลมเล็กน้อย คาดว่าน่าจะเสียชีวิตไม่เกิน 1 ชั่วโมง

สอบปากคำ น.ส.จันจิรา สุขปรุง อายุ 32 ปี แฟนสาวของเพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองพร้อมกับแฟนหนุ่มชาวสวิตเซอร์แลนด์ และ Mr.Meier ผู้ตาย ที่เพิ่งเดินทางจากบ้านเกิดมาท่องเที่ยวในเมืองไทยไม่ถึง 1 เดือน ก่อนเกิดเหตุได้พากันเดินออกจากโรงแรมสาลิตา ในซอยเดียวกัน เพื่อมากินก๋วยเตี๋ยวไก่ ที่ร้านฝั่งตรงข้ามโรงแรมสบายๆ เก็สเฮ้าส์ โดย Mr.Meier ได้สั่งก๋วยเตี๋ยวไก่เส้นเล็กไม่ใส่ผัก ที่เคยชอบสั่งมารับประทานเป็นประจำมานั่งรับประทานที่โต๊ะหน้าทางเข้าเก็สเฮ้าส์ ซึ่งในระหว่างที่กำลังตั้งใจกินอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น

จู่ๆ Mr.Meier เกิดอาการหายใจติดขัดกะทันหันคล้ายโรคหอบกำเริบ ก่อนที่จะหมดสติจนหน้าฟุบลงกับโต๊ะ แฟนหนุ่มของตนจึงพยายามเข้าไปช่วยด้วยการจับ Mr.Meier แล้วใช้มือล้วงเข้าไปในปากจนพบว่า มีเส้นก๋วยเตี๋ยวติดคาอยู่ในปากเป็นจำนวนมาก จึงค่อยๆ ใช้มือถึงเส้นก๋วยเตี๋ยวออกมาจนทำให้ฟันปลอมหลุดออกมาด้วย ก่อนโทรศัพท์แจ้งไปยัง รพ.พัทยาเมโมเรียล เพื่อให้ส่งทีมแพทย์-พยาบาล มาช่วยแต่ก็ไม่อาจยื้อชีวิตไว้ได้ดังกล่าว

ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุของการเสียชีวิตน่าจะมาจากโรคประจำตัว เพราะจากการตรวจสอบประวัติพบว่าป่วยเป็นโรคหืดหอบ ส่วนประเด็นเส้นก๋วยเตี๋ยวติดคอจนขาดอากาศหายใจก็ไม่ได้ตัดทิ้งไป อย่างไรก็ตาม คงต้องส่งศพผู้ตายไปให้แพทย์ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อผ่าชันสูตรหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตให้รับทราบต่อไป