ซัมมิท แคปปิตอล รุดตลาดภาคตะวันออก เปิดสาขา 2 ในเมืองพัทยา

ซัมมิท แคปปิตอล รุดตลาดภาคตะวันออก เปิดสาขา 2 ในเมืองพัทยา เจาะตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ รับการเติบโตเปิด EEC ชี้เป็นภูมิภาคที่มีผู้ซื้อรถจักรยานยนต์สูงสุดในประเทศ

ที่ศูนย์บริการซัมมิท แคปปิตอล สาขาพัทยาใต้ พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี นายหเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีซซิ่ง จำกัด นายพีรพงศ์ กี้ประสพสุข รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ และนายยาซูมาซ่า โอโมริ กรรมการบริการฯ ร่วมตัดริ้บบิ้นเปิดซัมมิท แคปปิตอล สาขาพัทยาใต้ อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทซัมมิทฯ ให้บริการในด้านสิน เชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่ เป็นผู้นำตลาดสินเชื่อ 1 ใน 3 ของประเทศ มีสาขาทั้งหมด 31 สาขา สาขานี้ถือเป็นสาขาลำดับที่ 11 ในภาคตะวันออก การเลือกเปิดสาขาพัทยา เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งจะมีโรงงานเกิดขึ้นอีกหลายแห่ง และเกิดความต้องการในการใช้พาหนะเพิ่มมากขึ้น

อีกทั้งภาคตะวันออกยังคงมีสถิติการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศ และยังเป็นภูมิภาคที่มีจำนวนผู้ใช้บริการสินเชื่อ เช่าซื้อรถ จักรยานยนต์กับ ซัมมิท แคปปิตอล สูงที่สุดเป็นอันดับแรกในช่วงครึ่งปี 2560 ที่ผ่านมาถึงร้อยละ 33 จากทั้งประเทศ ดังนั้นทาง ซัมมิท แคปปิตอลจึง พยายามพัฒนาการให้บริการ และเข้าถึงความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุดด้วยการขยายพื้นที่ให้บริการอย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และเสริมทัพเปิดให้บริการเพิ่มอีก 1 สาขาในพัทยาใต้ ซึ่งนับเป็นสาขาของซัมมิทแคปปิตอล สาขาที่ 11 ในภาคตะวันออก

นายวิชิต กล่าวต่ออีกว่า สำหรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รถจักรยานยนต์ใหม่เพียงคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5% ต่อปี และ 35% ต่อปี ขึ้นอยู่กับขนาดของรถนั้นๆ โดยก่อนจะมีการเปิดสาขาใหม่ๆ ทางบริษัทต้องมีการสำรวจและทดลองตลาดฐานความต้องการของลูกค้าก่อน ซึ่งก็ได้รับผลตอบเป็นอย่างดีในทุกสาขา และยังมีนโยบายจะเปิดสาขารองรับการเจริญเติบโตในฐานเศรษฐกิจรถจักรยานยนต์ 1 สาขาในทุกๆเดือน

“เอสเซ็นโซ่” บุกตลาดภาคตะวันออก เลือกพัทยา จัดกิจกรรมชงชิม ฟรี!! 4 ภาคทั่วไทย

“เอสเซ็นโซ่” บุกตลาดภาคตะวันออก เลือกพัทยา จัดกิจกรรมชงชิม ฟรี!! 4 ภาคทั่วไทย บริษัท เอส ซี เอ็ม แอล (ประเทศไทย) จำกัด นำ โดยนายสรพล บุญภากร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท พี.เอส.บี.จำกัด จูงมือแบรนด์แอมบาสเดอร์ อาเล็ก ธีรเดช จัดกิจกรรม “เอสเซ็นโซ่” ชงชิม ฟรี!! 4 ภาคทั่วไทย ส่ง 2 รสใหม่ เต็มรสเต็มกลิ่นเอาใจคนรักกาแฟดำ โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ที่ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเฟสติวัลเฟสติวัลพัทยาบีช

นายสรพล บุญภากร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท พี.เอส.บี.จำกัด กล่าวว่ส หลังทำการเปิดตัว “เอสเซ็นโซ่ ” กาแฟ ไมโครกราวด์ บุกตลาด 3 in 1 และ 2 in 1 เป็นกาแฟคั่วบดละเอียด (กาแฟสด) ในปี 2559 ที่ ผ่านมา จนประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยยอดขายกว่า 165 ล้านบาท ในปีแรก และเพื่อทำการตลาดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ในปี 2560

บริษัท เอส ซี เอ็ม แอล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายกาแฟปรุงสำเร็จ ภายใต้แบรนด์ “ซุปเปอร์กาแฟ” และแบรนด์ “เอสเซ็นโซ” จากประเทศสิงคโปร์ ได้ใช้งบประมาณ 180 ล้านบาท สำหรับการออกสินค้าใหม่ “เอสเซ็นโซ่ ไมโครกราวด์ แบล็ค คอฟฟี่” เป็นกาแฟคั่วบดละเอียด (กาแฟสด) มาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะ 2 สัมผัสใหม่ ได้อย่างเต็มรสเต็มกลิ่นในแบบกาแฟดำที่ปราศจากน้ำตาลและนม เพื่อเพิ่มจำนวนกลุ่มผู้บริโภค แตกไลน์ไปสู่กลุ่มที่ชื่นชอบดื่มกาแฟดำให้มีมากขึ้น

โดยบริษัทได้ทำการประชาสัมพันธ์ และจัดกิจกรรมการตลาดส่งเสริมการขาย ในทุกเซ็กเมนต์ พร้อมกันนี้ ยังดึงศิลปินชื่อดัง “อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ และ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อเข้าถึงคอกาแฟได้ทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งแฟนๆ ของดาราทั้ง 2 คน สามารถติดตามชมโฆษณาของทั้ง 2 คน ได้ทางช่องโทรทัศน์หลักๆ และสื่อต่างๆ นอกจากนี้ “อาเล็กและแต้ว” แบรนด์แอมบาสเดอร์ จะสลับผลัดเปลี่ยน เดินสายพบปะแฟนคลับ ในการนำ “เอสเซ็นโซ่ ไมโครกราวนะแบล็ค คอฟฟี่” ชงให้ได้ชิมกันสดๆ ถึง 4 จังหวัด 4 ภาค

รพ.กรุงเทพพัทยา อัญเชิญพระครุฑพระราชทานขึ้นประดิษฐานบนอาคาร

โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา อัญเชิญพระครุฑพระราชทานขึ้นประดิษฐานบนอาคาร โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จัดพิธีอัญเชิญครุฑพระราชทานประดิษฐานบนอาคาร เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความซื่อสัตย์สุจริต และเคยมีส่วนทำการค้าติดต่อกับราชสำนักด้วยความจงรักภักดี โดยมีคณะผู้บริหารบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) คณะผู้บริหารในเครือฯ พร้อมแขกผู้มีเกียรติ และบุคลากรโรงพยาบาล ร่วมพิธีอันทรงเกียรติในครั้งนี้อย่างภาคภูมิใจ

พัทยา-ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ บริเวณอาคารส่วนหน้าโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานพิธีบวงสรวงและอัญเชิญครุฑตราตั้งพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ขึ้นประดิษฐานเหนืออาคารเอ ของโรงพยาบาลฯ โดยมีคณะผู้บริหารในเครือฯ พร้อมแขกผู้มีเกียรติ และบุคลากรโรงพยาบาล เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก

นับเป็นความภาคภูมิใจอันหาที่เปรียบมิได้ทั้งยังเป็นขวัญกำลังใจให้แก่คณะผู้บริหารและบุคลากร ในอันที่จะประกอบคุณงามความดีและดำเนินกิจการด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต สืบไป อนึ่ง “ครุฑ” ถือเป็นสัญลักษณ์แทนพระมหากษัตริย์ ดังที่ปรากฏอยู่ในดวงตราหรือพระราชลัญจกรประจำพระองค์ ประจำแผ่นดิน ประจำราชวงศ์ และประจำรัชการ นอกจานี้ตราตั้งครุฑ เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 ทรงพระราชทานแก่ผู้ประกอบธุรกิจการค้าที่ทรงใช้สอยในกิจการราชสำนัก ในรัชมัยต่อๆ มาได้ขยายขอบเขตการพระราชทานตราตั้งแก่บริษัทห้างร้าน ผู้ประกอบธุรกิจกว้างขวางมากขึ้น เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ที่ประกอบธุรกิจต่างๆ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และเป็นการส่งเสริมการประกอบธุรกิจในประเทศ สำหรับบริษัท ห้าง ร้านที่ได้รับพระราชทานตราตั้งนั้น เปรียบเป็นเอกสารรับรองว่า มีการประกอบการค้าด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีกิจการหลักฐานมั่นคงเป็นที่เชื่อถือแก่มหาชน และเคยมีส่วนทำการค้าติดต่อกับราชสำนักด้วยความจงรักภักดี

“ครุฑพระราชทาน” ของโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา มีขนาด กว้าง 5 เมตร สูง 4.5 เมตร และหนัก 700 กิโลกรัม ขึ้นประดิษฐานบนอาคารเอ ของโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ซึ่งเป็นอาคารหลังแรกที่ได้เริ่มต้นก่อตั้งและดำเนินกิจการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา มายาวนานกว่า 26 ปี ในการดูแลสุขภาพให้กับประชาชน

ม .นเรศวร ดันกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง สู่แหล่งท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ จัดนิทรรศการยกระดับศักยภาพ 5 จังหวัดสักครั้งในชีวิต ในพื้นที่เมืองพัทยา

มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 โดยมี 5 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก และ เพชรบูรณ์ จัดนิทรรศการชูศักยภาพ ภายใต้โครงการพัฒนาสมรรถนะการจัดการแหล่งท่องเที่ยวชุมชน แหล่งท่องเที่ยวนิเวศและเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ณ ศูนย์การค้า Harbor Pattaya

ดร.อาทิตย์ พงษ์พานิช รองผู้อำนวยการวิทยาลัยประชาคมอาเซียนศึกษา และหัวหน้าโครงการพัฒนาสมรรถนะการจัดการแหล่งท่องเที่ยวชุมชน แหล่งท่องเที่ยวนิเวศ และเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2558-2560 ได้กำหนดไว้ 3 ยุทธศาสตร์ คือการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว การพัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยว การบริหารจัดการการท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มภาคเหนือตอนล่าง 1 คือ จังหวัด พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก และเพชรบูรณ์ มีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่สำคัญหลากหลายทั้งทางนิเวศ เช่น อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อุทยานแห่งชาติเขาหลวง อุทยานแห่งชาติเขาค้อ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมเช่น อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย พระราชวังจันทร์

ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและมีศักยภาพในการพัฒนาได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านกายภาพของภูมิภาคสามารถเชื่อมโยงภายในและภายนอกโดยสะดวก เป็นพื้นที่ผสมผสานทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการบริการอย่างครบถ้วน จุดเด่นของภูมิภาคดังกล่าวทำ ให้มีโอกาสในการพัฒนาและสร้างสรรค์เศรษฐกิจได้กว้างไกลหลากหลายเช่น การเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวด้วยความหลากหลายของทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้องในรูปแบบต่างๆ

ดร.อาทิตย์ กล่าวต่ออีกว่า งานนิทรรศการการท่องเที่ยวและนำเสนอผลิตภัณฑ์ 4 ภาค ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 จะเวียนไปตามภาคต่างๆ โดยมีธีมงานหลักคือ 5 จังหวัด สักครั้งในชีวิต โดยนำเสนอศักยภาพและจุดเด่นการท่องเที่ยวทางนิเวศ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ผลิตภัณฑ์เด่นจาก ทั้ง 5 จังหวัด นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมพิเศษต่างๆ การ เจรจาธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ จุดแสดงภาพถ่าย ของทั้ง 5 จังหวัด