คลังเก็บป้ายกำกับ: นักท่องเที่ยว

สนั่นโซเชียล คลิประบุชาวอาหรับปะทะชาวไทย

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าบนโลกออนไลน์มาการเผยแพร่คลิปใน “youtube” เป็นวีดีโอความยาวประมาณ 3.17 นาที ชื่อ Arab & thai bloody fighting in Pattaya, Thailand (https://youtu.be/Ig3q0A7oOtI )(ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2559 พร้อมมีคำบรรยายเป็นภาษาต่างประเทศ โดยคลิปดังกล่าวเป็นวินาทีที่กลุ่มชายไล่ตีกันกลางวันแสกๆ ท่ามกลางสายตาประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้อยู่ในความสนใจและถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก

S__1163331

ซึ่งภาพเหตุการณ์เป็นชายชุดดำระบุว่าเป็นคนไทย มีเรื่องทะเราะวิวาทชกต่อยกับนักท่องเที่ยวชาวอาหรับสวมเสื้อสีแดงลายดำ โดยมีคำบรรยายว่านักท่องเที่ยวไม่อยากมีเรื่องแต่คนไทยไม่หยุด จนกระทั่งเหตุการณ์เริ่มบานปลายทั้งสองกลุ่มชกต่อยกันอย่างชุลมุน โดยไม่สนใจเสียงห้ามปราม จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บก่อนแยกย้ายกันไปคนละทาง สร้างความแตกตื่นเป็นอย่างมาก

S__1163332

อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบว่าคลิปวีดีโอดังกล่าวถูกเผยแพรด้วยวัตถุประสงค์อะไร และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงกับวันเวลาที่ระบุในการเผยแพร่หรือไม่ต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick 

วีดีโอ/ Tiger Tv

นร.นอกลูกเจ้าของ บ.เคมีภัณฑ์ เที่ยวพัทยาถูกโจรกระชากสร้อย ก่อนยกล้อเย้ยแว้นหนี

หนุ่มลูกเจ้าของบริษัทเคมีภัณฑ์ ดีกรีนักเรียนอเมริกาวัย 16 ปี พร้อมกลุ่มเพื่อน เดินทางเที่ยวพัทยาวันแรก ขับรถเล่นกินลม ถูกคนร้ายกระชากสร้อยคอหนัก 2 บาท ก่อนยกล้อเย้ยซิ่งหนีเข้าซอยเปลี่ยว

พัทยา-(19 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 20.00น. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ กนกวิลาศ สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ เหตุเกิดบนถนนเส้นเฉลิมพระเกียรติสายสาม ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบกลุ่มนักเรียน 5 คน โดย มีนายกฤติน ณ ระนองอายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ศึกษาอยู่โรงเรียนในประเทศอเมริกา ลูกชายเจ้าของบริษัทเคมีภัณฑ์เขตกทม.ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นขับขี่จักรยานยนต์ มาประกบข้างแล้วอาศัยจังหวะเผลอเอื้อมมือกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทหลบหนีเข้าไปภายในซอยมืด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้วิทยุสกัดจับแต่ก็ยังไร้ร่อยรอยคนร้าย

IMG_0327

สอบถาม นายกฤติน (ผู้เสียหาย)พร้อมเพื่อน เล่าว่าผมพร้อมเพื่อนรวม 5 คนเดินทางมาเที่ยวพัทยาในช่วงวันหยุดปิดภาคเรียนตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (19 มิ.ย.59) ซึ่งเป็นวันแรก จึงได้ออกมาขับขี่จักรยานยนต์เที่ยวตามที่ต่างๆ จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่จักรยานยนต์ถึงบริเวณสี่แยกไฟแดงแยกมุมอร่อย สังเกตเห็นว่ามีวัยรุ่นขับขี่ตามมา จนกระทั่งจังหวะที่เผลอ ชายวัยรุ่นคนดังกล่าวได้เข้ามาประชิดข้างแล้วเอื้อมมือมากระชากสร้อยที่คอ ก่อนจะบิดยกล้อท้าทายให้ติดตาม ก่อนเลี้ยวเข้าซอยเปลี่ยว พวกผมไม่กล้าที่ติดตามจึงรีบแจ้งเจ้าตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้นพ.ต.ท.สุรศักดิ์ กนกวิลาศ สวป.สภ.เมืองพัทยา ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ให้ลงพื้นที่หาเบาะแสพร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อหารูปพรรณสัณฐานผู้ก่อเหตุ คาดว่าใช้เวลาไม่นานจะได้ตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ยังได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่อีกว่า กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้บางส่วน เนื่องจากกล้องวงจรปิดบางตัวเกิดการขัดข้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

ไกด์นำเที่ยวปล่อยนักท่องเที่ยวชาวจีนลอยแพ 38 ชีวิต

พัทยา-(19 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 02.00 น. พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุไกด์นำเที่ยวปล่อยนักท่องเที่ยวชาวจีนลอยแพ เหตุเกิดขึ้นที่ โรงแรมอาร์คอน วงศ์อมาตย์ เลขที่ 677 ตั้งอยู่ซอย 16 นาเกลือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจท่องเที่ยวและอาสาสมัครเดินทางไปตรวจสอบทันที

เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณโซฟาบริเวณหน้าล็อบบี้โรงแรมดังกล่าว พบนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 38 ชีวิต พากันนอนสลบไสล บางตานั่งหน้าตาละห้อย หลังจากถูกไกด์นำเที่ยวปล่อยทิ้งลอยแพ เมื่อทางนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มดังกล่าว เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาให้ความช่วยเหลือต่างพากันดีอกดีใจ จากการตรวจสอบพบว่ากรุ๊ปนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มนี้ ซื้อแพ็คเกจทัวร์จากบริษัท ไต วัน กั่ว ตั้ง จำกัด

จากการสอบถาม นักท่องเที่ยวเบื้องต้น ได้ความว่า ได้ซื้อแพ็คเกจทัวร์จากบริษัทดังกล่าวจริง แต่ในเบื้องยังทราบราคาว่าจำนวนเท่าไหร่ โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ได้ท่องเที่ยวอยู่ในกรุงเทพมหานครจนกระทั่งวันเกิดเหตุได้เดินทางมาท่องเที่ยวต่อยังเมืองพัทยา ซึ่งมาถึงโรงแรมที่พักประมาณช่วง 21.00 น. ที่ผ่านมา ระหว่างนั้นทางไกด์นำเที่ยวเหมือนจะเรียกเก็บเงินอะไรบางอย่างเพิ่ม จึงทำให้นักท่องเที่ยวไม่พอใจโวยวาย ก่อนที่ไกด์นำเที่ยวจะหนีไป โดยปล่อยนักท่องเที่ยวทั้งหมดลอยแพภายในโรงแรมดังกล่าว
พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะได้ติดต่อทางบริษัทนำเที่ยว เพื่

สอบถามว่านักท่องเที่ยวชาวจีนทำสัญญาซื้อแพ็คเกจทัวร์กันราคาเท่าไหร่ ส่วนประเด็นที่ไกด์เรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายเพิ่ม คงจะต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้เจรจาให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าห้องพักโรงแรม ซึ่งเป็นสัญญาที่บริษัทกรุ๊ปทัวร์จัดจองห้องพักไว้ให้ตามแพ็คเกจ อย่างไรก็ตามทางตำรวจท่องเที่ยว ได้แนะนำนักท่องเที่ยวชาวจีนแจ้งความเอาผิดกับไกด์นำเที่ยวเกี่ยวกับตาม พรบ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

นทท.ต่างชาติ เจ๋ง! คว้าถังดับเพลิงฉีดสกัด ไฟไหม้ร้านอาหารตามสั่ง

IMG_3502
พัทยา-(15 มิ.ย. 59 )เมื่อเวลา 19.30 น.พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านอาหารตามสั่ง เลขที่ 437/18 ซอย 6 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมประสานรถน้ำป้องกันและบรรเทาสาธารณเมืองพัทยาจำนวน 1 คัน รีบรุดไปตรวจสอบทันที เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นย่านแหล่งสถานบันเทิงบาร์เบียร์เศรษฐกิจใจกลางเมืองพัทยา

IMG_3488

ที่เกิดเหตุพบเป็นร้านอาหารตามสั่งทางขึ้นหอพัก บริเวณห้องครัวพบว่ามีแสงเพลิงกำลังลุกไหม้กระทะและเครื่องครัวอย่างรุนแรง โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติละแวกดังกล่าว ได้พากันนำถังดับเพลิงช่วยกันฉีดสกัดเพลิงไว้ได้ ก่อนเจ้าหน้าที่มาถึง สำหรับเหตุการณ์นี้ ทำเอานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่กำลังนั่งดื่มกินอยู่ตามบาร์เบียร์ย่านดังกล่าว ได้พากันแตกตื่นจำนวนมาก แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

IMG_3494

สอบถาม นางมยุรี ชุ่มผักแว่น อายุ 36 ปี เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีลูกค้าเข้ามาสั่งข้าวรับประทานกันจำนวนมาก จึงเป็นเหตุให้แม่ครัวทำอาหาร เกิดอาการเบลอและลืมปิดแก๊สหลังจากทอดไข่ดาว หลังจากนั้นไม่นานกระทะก็เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ด้วยความตกใจเลยร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนจะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นั่งดื่มกินอยู่บาร์เบียร์วิ่งคว้าถังดับเพลิงฉีดสกัดเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้จนดับไว้ได้ในที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นการร่วมแรงใจสละชีวิตเข้าช่วยเหลือโดยไม่คิดชีวิต เพื่อไม่ให้เหตุนั้นบานปลายไปมากกว่านั้น

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

รวบสาวล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 รายซ้อน อ้างหาเงินเลี้ยงลูก 5 คน

พัทยา-(15 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 17.30 น. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พ.ต.ท.สมพาน สุขสำราญ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พงศ์สุรวัตน์ วงษ์สารัมย์ สว.สส. พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.พัชรา หรือก้อย เอี่ยมสะอาด อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/15 หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมของกลางเงินสด 25,000 บาท กระเป๋าสตางค์ 1 ใบ และเอกสารบัตรประจำตัวของผู้เสียหาย โดยมีนายเอเดรียน มาวิน อายุ 79 ปี สัญชาติเนเธอแลนด์ กับนายอัฟบาส คูดาแดท โดสทีม อายุ 70 ปี ชาวโอมาน 2 ผู้เสียหาย ชี้ให้จับกุม

สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ นายเอเดรียน มาวิน กับภรรยาชาวไทย ขึ้นรถสองแถวประจำทางจากปากซอย 9 ถนนเลียบชายหาดจอมเทียน เพื่อเดินทางไปซื้อของที่ตลาดนัดเทพประสิทธิ์ จนเมื่อมาถึงปากซอย 7 มีหญิงไทย 1 คนโบกรถสองแถวแล้วขึ้นมานั่งข้างๆ นายเอเดรียน มาวิน กระทั่งผู้เสียหายลงรถที่หน้าตลาดนัดเทพประสิทธิ์จึงทำให้รู้ว่ากระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงและมีเงินสดอยู่ 25,000 บาท ได้หายไป และคาดว่าหญิงสาวชาวไทยที่นั่งอยู่ข้างๆ น่าจะเป็นคนเอาไป จึงเดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนออกหาข่าวจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ น.ส.พัชรา หรือก้อย เอี่ยมสะอาด จึงติดตามไปจับกุมได้ที่บ้านพักในซอย 7 ถนนเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ นำตัวมาสอบสวนให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุล้วงกระเป๋านายเอเดรียน มาวิน จริง นอกจากนี้ยังเคยก่อเหตุกับ นายอัฟบาส คูดาแดท โดสทีม อายุ70 ปี ชาวโอมาน เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในขณะนั่งรถสองแถวจากหน้าห้างฟู๊ดแลนด์มาลงที่โรงแรมซันบีช ชายหาดพัทยา ได้เงินสดสกุลโอมานจำนวน 1,200 โอมานริว และเงินไทย 20,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว

ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาอ้างว่าต้องการหาเงินไว้เลี้ยงลูก 5 คน จึงแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ผู้อื่น ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ตร.พัทยา แถลงข่าวจับผู้ต้องหา 2 คดีตามนโยบายผู้บังคับบัญชา

พัทยา-(14 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมกำลังตำรวจ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาในคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์และอาวุธปืนจำนวน 2 คดี ได้ตัวผู้ต้องหา 2 คน โดยคดีแรกจับกุม น.ส.ปริศนา ภูลายเหลือง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 7 ต.หนองแหน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางสร้อยคอทองเคจำนวน 1 เส้น

สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ นายลาฮาส ลาเจน อายุ 35 ปี ผู้เสียหายชาวอินเดีย กับเพื่อนชาติเดียวกันอีก 1 คน กำลังเดินเล่นอยู่ริมชายหาดพัทยา บริเวณตรงข้ามกลุ่มบาร์เบสเฟรนด์ น.ส.ปริศนา พร้อมกับพวกที่ยังหลบหนีอีก 2-3 คน ได้ทำทีเข้าไปโอบกอด นายลาฮาส ก่อนอาศัยจังหวะเผลอแอบปลดสร้อยคอทองเคไม่ทราบน้ำหนักแล้วหลบหนีไป ต่อมาตำรวจออกสืบสวนหาข่าวและพบ น.ส.ปริศนา กำลังยืนอยู่ที่ชายหาดพัทยาจึงทำการจับกุมตัวไว้ได้โดยละม่อม คุมตัวมาสอบสวนให้การรับสารภาพ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืน

รายที่ 2 จับกุม นายสราวุธ หรือเต๋า สี่สิงห์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด .45 มม. ยิงถล่มคู่อริแต่ไม่ถูกใคร มีเพียงรถยนต์ปิกอัพ 1 คนที่ถูกกระสุนปืนยิงใส่จนได้รับความเสียหาย เหตุเกิด ภายในซอยสุขุมวิทพัทยา 60 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ของวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมาโดยหลังเกิดเหตุตำรวจได้ขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับนายสราวุธ แต่ต่อมาเจ้าตัวได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมกับให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ภายหลังจึงส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า สำหรับคดี น.ส.ปริศนา ภูลายเหลือง ที่ก่อเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวอินเดียนั้น ที่ผ่านมาในพื้นที่เมืองพัทยาเคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาหลายครั้ง จึงอยากจะฝากเตือนบรรดาโจรทั้งหลายให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าวซะ หากถูกจับได้ทางตำรวจจะดำเนินคดีในข้อหาหนักและขึ้นบัญชีดำไว้ สุดท้ายก็อยากฝากไปถึงนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังทรัพย์สินของตัวเอง โดยเฉพาะการสวมใส่เครื่องประดับ ควรสวมใส่ให้มิดชิด จะได้ไม่เป็นที่ล่อตาล่อใจโจรผู้ร้าย

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

หนุ่มอิตาลีถูกเพื่อนมอมยาหอบเงิน 6 แสนหนี หวังวิ่งเต้น ตร.คดีถูกโกงเงิน 2 ล้านบาท

หนุ่มอิตาลีถูกเพื่อนลวงหอบเงิน 6 แสน วิ่งเต้นตำรวจคดีถูกโกงเงิน 2 ล้านบาท เพื่อตามตัวหุ้นส่วนจอมโกง สุดท้ายถูกมอมยารูดทรัพย์หมดตัว ปล่อยทิ้งชายหาดพัทยา

พัทยา-(8 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 00.30 น. พ.ต.ท.สมคิด สิทธิศาสตร์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นายรูค่า วิคเจนี อายุ 44 ปี ชาวอิตาลี ว่าได้ถูกชายชาวต่างชาติที่รู้จักกันมอมยารูดทรัพย์มูลค่ากว่า 7 แสนบาท ก่อนนำมาปล่อยทิ้งไว้บริเวณชายหาดเมืองพัทยา ใกล้เคียง สภ.เมืองพัทยา

โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงของ วันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุตัวเองยังมีอาการมึนงง พอได้สติก็ได้กลับไปโรงแรมที่พัก และพยายามติดต่อหาเพื่อนผู้ก่อเหตุอยู่หลายวัน แต่ก็ยังไร้วี่แวว ต่อมาจึงตัดสินใจเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว

IMG_4833

นายรูค่า ผู้เสียหาย ให้การว่า ตนเองได้มาร่วมลงทุนทำธุรกิจด้านสถานบันเทิงในเมืองพัทยากับกลุ่มหุ้นส่วน จากนั้นได้ถูกลวงเงินลงทุนไปกว่า 2 ล้านบาท ต่อมาก็ได้รู้จักกับผู้ก่อเหตุ โดยคบหากันเป็นเพื่อน ซึ่งอ้างว่าสามารถติดตามเงินของกลุ่มหุ้นส่วนได้ แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตาม เป็นเงินจำนวน 6 แสนบาท

จึงหลงเชื่อเพื่อนผู้ก่อเหตุ และได้นำเงินสดจำนวนดังกล่าว ขึ้นรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ไปกับเพื่อนผู้ก่อเหตุ เพื่อไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามของ สภ.เมืองพัทยา ระหว่างทางเพื่อนผู้ก่อเหตุ ได้หยิบขวดน้ำยื่นให้ดื่ม เมื่อกระดกน้ำขวดดังกล่าว ก็เริ่มรู้สึกมึนงง จนกระทั่งหลับไป

เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง ปรากฏว่าตัวเองนอนหมดสติอยู่บริเวณชายหาดหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช จากการตรวจสอบทรัพย์สินปรากฏว่าเงินสดที่เตรียมมาจำนวน 6 แสนบาท พร้อมด้วยนาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อแบนด์แนม ราคาเรือนละ 150,000 บาท สูญหายไป จึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากทางโรงแรม ก่อนจะเดินทางเข้าแจ้งกับตำรวจดังกล่าว

ภายหลังจากการสอบสวนในเบื้องต้นแล้วเจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานชุดสืบสวนเร่งสืบสวนหาเบาะแสติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

แผนที่ไปยัง “สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา”

นักท่องเที่ยวแตกตื่น เพลิงไหม้ไฟไหม้ร้านอาหารอินเดียกลางเมืองพัทยา โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ

พัทยา-(6 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไม้ร้านอาหารอินเดีย ชื่อ Lewinski’s Hotels Restaurants Golf Bar ตั้งอยู่เลขที่ 352/22-23 ชอย 13/3 ถนนเลียบชายหาดพัทยา เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ

S__3678341

ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 2 คูหา ชั้นล่างเปิดเป็นร้านอาหารอินเดีย ชั้นบนเปิดเป็นห้องพัก ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ในส่วนห้องพักชั้นที่ 4 มีกลุ่มควันไฟพวยพุ่งหนาแน่นมาก สร้างความแตกตื่นให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำสกัดต้นเพลิงใช้เวลาไม่นานก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้สำเร็จ ก่อนใช้เครื่องระบายกลุ่มควันออกจากห้อง ตรวจสอบไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

S__3678345

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า ห้องพักดังกล่าวเป็นห้องว่างไม่มีผู้พักอาศัย โดยจัดเตรียมเฟอร์นิเจอร์ไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

S__3678352

ผบก.ทท. เปิดประชุมหามาตรการป้องกันอุบัติเหตุระหว่าง นทท.เดินทางเล่นน้ำ

ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวลุยเมืองพัทยาเปิดประชุมการพิจารณาหาแนวทางและมาตรการในการป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระหว่างเดินทางหรือเล่นกิจกรรมทางน้ำ

IMG_3413

พัทยา-(6 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. เป็นประธานเปิดการประชุมการพิจารณาหาแนวทางและมาตรการในการป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระหว่างเดินทางหรือเล่นกิจกรรมทางน้ำ ที่ห้องประชุมทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยมี นายบุญชัย ทันสมัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา และ พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 บก.2 รวมถึงตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

IMG_3414

เนื่องด้วยเวลาประมาณ 13.30 น.ของวันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา Mr.Aloysius NIRMALARAJAN อายุ 37 ปี นักท่องเที่ยวศรีลังกา ได้ใช้บริการเรือลากร่มของ บ.สยามโลคอล จก. ชื่อเรือสถาพร เอสเค 7 ที่มีนายจำลอง อยู่สวัสดิ์ อายุ 48 ปี เป็นผู้ควบคุมเรือ หลังจากเล่นได้ 2 นาที ขณะกำลังลงสู่แพ เกิดกระแสลมอ่อนทำให้ร่มพาราเซลตกลงมากระแทกพื้นเรือโดยสารที่จอดลอยลำอยู่ใกล้กันจนหมดสติ ก่อนจะนำส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

IMG_3400

จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างรุนแรงด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวจึงได้เดินทางมายังเมืองพัทยาเพื่อประชุมหาแนวทางและมาตรการการป้องกันลดอุบัติ โดยในที่ประชุมได้มีการนำเสนอวิดีทัศน์เกี่ยวกับแนวทางและมาตรการในการป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระหว่างเดินทางหรือเล่นกิจกรรมทางน้ำ โดยรายงานสภาพปัญหาที่พบที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บทั้งเรื่องการว่ายน้ำและเกิดการจมน้ำ อุบัติเหตุจากการดำน้ำ อุบัติเหตุจากการเล่นเครื่องเล่นหรือกิจกรรมต่างๆ ทางน้ำ และอุบัติเหตุจากการโดยสารเรือและยานพาหนะทางน้ำ ที่มีองค์ประกอบจากเครื่องเล่น ที่ด้อยคุณภาพหรือขาดมาตรฐาน ผู้ควบคุม ขาดทักษะ ความชำนาญ หรือประสบการณ์น้อย รวมถึงสถานที่เล่นที่ไม่ชัดเจนหรือไม่มีกำหนด ไม่มีสัญลักษณ์แสดงให้เห็น หรือผู้ควบคุมไม่ทราบเหตุการณ์

IMG_3401

ทั้งนี้ แนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหานั้นต้องมีการบูรณาการหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งหน่วยงานหลัก คือ กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ และท้องถิ่น หน่วยงานรอง คือตำรวจพื้นที่ ตำรวจท่องเท่ียว ฝ่ายปกครองและฝ่ายทหาร รวมถึงหน่วยสนับสนุน คือ ภาคเอกชน ธุรกิจ สื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงหน่วยงานเสริมหน่วยงานในสังกัด บช.ก. โดยแบ่งการปฏิบัติในระยะเร่งด่วน เป็นด้านการป้องกันและป้องปรามนั้น จะมีการบูรณาการกำลัง ออกตรวจป้องกันและเฝ้าระวัง เครื่องเล่นต่างๆ ทางน้ำ ผู้ควบคุม อุปกรณ์ส่วนควบคุมต่างๆ ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวให้ได้คุณภาพมาตรฐาน ด้านปราบปราม จะได้บูรณาการกำลังตรวจจับผู้ประกอบการ ผู้ควบคุมเครื่องเล่นทางน้ำที่ยังไม่ได้คุณภาพมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด

IMG_3407

และในส่วนด้านการประชาสัมพันธ์ จะได้เชิญผู้ประกอบการมาทำความเข้าใจให้ช่วยกันทำตามกฎหมาย โดยชี้ให้เห็นถึงผลเสียจากการกระทำความผิดและขอทราบปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้องของผู้ประกอบการ และหากสามารถช่วยเหลือ แก้ไขให้กับผู้ประกอบการได้ หน่วยงานรัฐก็ควรช่วยเหลือ เช่น อาจมีการแก้ไขกฎหมายและระเบียบบางประการ รวมถึงโน้มน้าว ชักจูงให้ผู้ประกอบการมาเป็นแนวร่วมภาคประชาชนของหน่วยงานรัฐ เพื่อที่จะได้ช่วยเป็นผู้เฝ้าระวัง คอยแจ้งเหตุเมื่อพบการกระทำความคิด อีกทั้งยังช่วยโน้มน้าวเพื่อร่วมอาชีพให้มาปฏิบัติตามกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนเหตุต่อเจ้าหน้าที่ หากประสบเหตุต่อไปด้วย

ข่าว/เก่งลิง

ดูแผนที่ไปยัง “เมืองพัทยา”

อดีตแฟนสาวขอเงินเฒ่าเมืองนาฬิกา แต่ไม่ได้ พาทอมคู่ขาบุกทำร้าย ชิงจยย.หนี

พัทยา-(6 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 22.30 น.ร.ต.อ.สนั่น โคตะนนท์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกทำร้ายร่างกายแล้วชิงรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดขึ้นที่บ้านพัก ไม่มีเลขที่ ภายในซอยแบทแมน พัทยาใต้ ซอย 2 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรึ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังสายตรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบ Mr.walter bruderer อายุ 76 ปี สัญชาติสวิซเซอร์แลนด์ ถูกกระเบื้องตีเข้าที่บริเวณกลางศีรษะ เป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลท่วมตัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ผู้บาดเจ็บไม่ประสงค์ที่จะไปโรงพยาบาล เนื่องจากจะไปรักษาตัวในภายหลัง ตรวจสอบในบ้านพักผู้บาดเจ็บพบเลือดหยดเป็นทางยาวเต็มพื้นบ้าน

สอบถาม พยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีหญิงสาวที่ผู้บาดเจ็บเคยคบหากัน แต่ได้เลิกรากันไปแล้วเข้ามาหาผู้บาดเจ็บในบ้านพัก ซึ่งเชื่อว่าน่าเข้ามาขอเงินผู้บาดเจ็บตามปกติ แต่ผู้บาดเจ็บนั้นไม่ให้ ทำให้หญิงคนดังกล่าวไม่พอใจ โทรศัพท์เรียกสาวลักษณะทอมบอย ซึ่งเชื่อว่าเป็นแฟนใหม่ของหญิงคนดังกล่าว บุกเข้ามาใช้กระเบื้องทำร้ายผู้บาดเจ็บ ก่อนจะชิงรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บหลบหนีไปด้วย

ภายหลังสอบสวนตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่าไม่พบหญิงสาวดังกล่าวและสาวทอมบอยผู้ก่อเหตุ เชื่อว่าน่าจะหลบหนีไปด้วยกัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวหญิงสาวและสาวทอมบอยมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick