พัทยา-(24 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.อ.อนุพงษ์ พวงพี่ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งว่ามีชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ เหตุเกิดขึ้นที่ บริเวณหน้าอู่กระทิงลายทัฟโคท พ่นกันสนิม ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าชลบุรี ม.1 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังชุดสืบสวน รุดตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบ น.ส.สุรีย์ พวงสมบัติ อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในอาการตกใจ พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองทำงานอยู่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา หลังจากเลิกงานได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ขับกลับบ้านตามปกติ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ครีม โฉมใหม่ สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาประกบข้างแล้วมองหน้า

จึงแสดงความเป็นมิตรด้วยการยิ้มตอบ คนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย อาศัยจังหวะเผลอ คว้ากระเป๋าสะพาย สีดำ ภายในมีทรัพย์สินประกอบด้วย โทรศัพท์ มือถือ ซัมซุง A7 เงินสด 2,300 บาท และเอกสารสำคัญต่างๆ ซึ่งวางไว้อยู่ตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์ ก่อนคนร้ายจะเร่งเครื่องพากันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ได้พยายามขับรถติดตามไปแต่ไม่ทัน จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือชาวบ้านแล้วแจ้งตำรวจทราบดังกล่าว

ภายหลังจากการสอบสวนและตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว ตำรวจจึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะได้ลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายจากกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(11 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 22.00 น. พ.ต.ท.เฉลียว บุญคุ้ม สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยารับแจ้งความร้องทุกข์กับ MR.KWOK CHUN CHENG อายุ 25 ปี ผู้จัดการบัญชีสัญชาติจีนว่าได้ถูกลักทรัพย์ เหตุเกิดบริเวณชายหาดตรงข้ามซอย 10 พัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดยR.KWOK CHUN CHENG ให้การว่าเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาได้เดินท่องเที่ยวจนเหนื่อยล้า จึงได้แวะนอนพักใต้ร่มไม้ริมทะเลแล้วเผลอหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกครั้งฟ้าก็มืดแล้ว จึงสำรวจกระทรัพย์สินเพื่อจะเดินกลับที่พัก ปรากฏว่ากระเป๋าสะพายซึ่งภายในมีคอมพิวเตอร์แม็กบุ๊ค 1 เครื่อง ราคาประมาณ 27,000 บาท และเงินสกุลต่างประเทศ 5,000 ดอลล่าฮ่องกงเป็นเงินไทยประมาณ 22,000 บาท ได้สูญหายไป สอบถามใครก็ไม่มีใครรู้ใครเห็น ตนเองมั่นใจว่าถูกมือมืดแอบฉกไปตอนหลับแน่ จึงรีบเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

ในขณะเดียวกันได้มีนักท่องเที่ยว ทราบชื่อMR.ATIQ REHMAN BHATTI อายุ 39 ปี สัญชาติปากีสถาน เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าได้ถูกแก๊งสาวชายหาด ก่อเหตุล้วงกระเป๋า ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสกุลต่างประเทศ 1000 ดอลล่า 5000 รูปี และเงินไทยอีก 1,000 บาท รวมเป็นเงินไทยประมาณ 35,000 บาท เหตุเกิดบริเวณชายหาดตรงข้ามซอย 2 พัทยา

เบื้องต้นพ.ต.ท.เฉลียว บุญคุ้ม สว.สอบสวน ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากผู้ที่เห็นเหตุการณ์และกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พัทยา-(4 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 01.30 น. พ.ต.ท.สมคิด เฮียงเสถียร สว.สอบสวน สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกายแล้วชิงทรัพย์ เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าร้านขายของชำติดกับร้านขายวัสดุก่อสร้างร้อยล้าน สาขา 2 บนถนนเส้นพัฒนาการ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บสองราย รายแรกทราบชื่อคือนายนิรุจน์ ศรีหาราช อายุ 38 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธปืนตบเข้าที่ใบหน้าจนปูดบวม อีกรายทราบชื่อคือ น.ส.ธนาพร ทาทอง อายุ 33 ปี อาชีพ รปภ.หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถูกอาวุธปืนยิงเข้าไหปลาร้าด้านซ้าย 1นัด ลูกกระสุนฝังใน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าทีกู้ภัยฯได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้แล้ว ตรวจสอบยังพบ น.ส.แพรวพรรณ ระดารงค์ อายุ 25 ปี อยู่ในอาการตกใจยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

น.ส.แพรวพรรณ เล่าว่า ขณะที่ตนเองพี่ชายและพี่สาวรวม 3 คน ขับขี่จยย.จะไปเยี่ยมคนเจ็บจากอุบัติเหตุรถชน จนกระทั่งขับมาจนถึงบริเวณทางเปลี่ยวได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คนขับขี่จยย.มาประกบชักปืนขึ้นข่มขู่ให้จอดรถ พร้อมบังคับให้ส่งทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดให้ แต่นายนิรุจน์ (พี่ชาย) ฮึดสู้หวังปกป้องตนเองและพี่สาว แต่คนร้ายใช้อาวุธปืนตบเข้าที่ใบหน้าจนสลบ ก่อนหันมายิงใส่พี่สาวคือ น.ส.ธนาพร ได้รับบาดเจ็บ แล้วแย่งเอากระเป๋าสะพายภายในมีทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์ มือถือ 2 เครื่องและเงินสดจำนวนหนึ่งไป ก่อนขับขี่จยย.หลบหนีไปตามเส้นทางเส้นพัฒนาการ ตนเองจึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านขายของชำให้แจ้งตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ ได้วิทยุสกัดจับตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้านจะหลบหนีผ่านไปแต่ก็ไร้วี่แวว จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้เสียหายขับมา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าคนร้ายน่าจะเป็นร้ายเดิมที่เคยก่อเหตุต่อเนื่องมาแล้ว 3 ครั้ง ในพื้นที่เดียวกันและจะหลบหนีไปตามเส้นทางดังกล่าว อย่างไรก็ตามคาดวาน่าจะได้ตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

หนุ่มลูกเจ้าของบริษัทเคมีภัณฑ์ ดีกรีนักเรียนอเมริกาวัย 16 ปี พร้อมกลุ่มเพื่อน เดินทางเที่ยวพัทยาวันแรก ขับรถเล่นกินลม ถูกคนร้ายกระชากสร้อยคอหนัก 2 บาท ก่อนยกล้อเย้ยซิ่งหนีเข้าซอยเปลี่ยว

พัทยา-(19 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 20.00น. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ กนกวิลาศ สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ เหตุเกิดบนถนนเส้นเฉลิมพระเกียรติสายสาม ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบกลุ่มนักเรียน 5 คน โดย มีนายกฤติน ณ ระนองอายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ศึกษาอยู่โรงเรียนในประเทศอเมริกา ลูกชายเจ้าของบริษัทเคมีภัณฑ์เขตกทม.ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นขับขี่จักรยานยนต์ มาประกบข้างแล้วอาศัยจังหวะเผลอเอื้อมมือกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทหลบหนีเข้าไปภายในซอยมืด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้วิทยุสกัดจับแต่ก็ยังไร้ร่อยรอยคนร้าย

สอบถาม นายกฤติน (ผู้เสียหาย)พร้อมเพื่อน เล่าว่าผมพร้อมเพื่อนรวม 5 คนเดินทางมาเที่ยวพัทยาในช่วงวันหยุดปิดภาคเรียนตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (19 มิ.ย.59) ซึ่งเป็นวันแรก จึงได้ออกมาขับขี่จักรยานยนต์เที่ยวตามที่ต่างๆ จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่จักรยานยนต์ถึงบริเวณสี่แยกไฟแดงแยกมุมอร่อย สังเกตเห็นว่ามีวัยรุ่นขับขี่ตามมา จนกระทั่งจังหวะที่เผลอ ชายวัยรุ่นคนดังกล่าวได้เข้ามาประชิดข้างแล้วเอื้อมมือมากระชากสร้อยที่คอ ก่อนจะบิดยกล้อท้าทายให้ติดตาม ก่อนเลี้ยวเข้าซอยเปลี่ยว พวกผมไม่กล้าที่ติดตามจึงรีบแจ้งเจ้าตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้นพ.ต.ท.สุรศักดิ์ กนกวิลาศ สวป.สภ.เมืองพัทยา ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ให้ลงพื้นที่หาเบาะแสพร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อหารูปพรรณสัณฐานผู้ก่อเหตุ คาดว่าใช้เวลาไม่นานจะได้ตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ยังได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่อีกว่า กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้บางส่วน เนื่องจากกล้องวงจรปิดบางตัวเกิดการขัดข้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พัทยา-(18 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 05.00 น. ร.ต.ท.(หญิง) เกวลีศิริ ผาสุขธนไพศาล รองสารวัตร สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกคนร้ายพยายามจะข่มขืนและลักทรัพย์สินไป เหตุเกิดในห้องพักแพนเดีย เลขที่ 316/72 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุภายในห้องพักชั้นสองห้องที่ 206 พบน.ส.เมย์ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี อาชีพเลขาผู้บริหาร ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา อยู่ในอาการหวาดกลัวร้องไห้ฟูมฟาย ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หลังเลิกงานเธอได้กลับมานอนที่ห้องพักเพียงลำพัง จนกระทั่งเผลอหลับไป สักพักได้ยินเสียงแปลกๆ เธอก็ไม่ได้เอะใจคิดว่าเสียงลมพัดเพราะ ขณะนั้นมีฝนตกอย่างหนัก

จนกระทั่งสังเกตเห็นเงาตะคุ้มเข้ามาประชิดตัวพร้อมเอามือปิดปาก พร้อมกับข่มขู่ว่าถ้าไม่อยากเจ็บตัว และห้ามอย่าส่งเสียงแค่ต้องการจะมีอะไรด้วยเท่านั้น แต่เธอใช้อุบายโกหกว่าเป็นประจำเดือน จนคนร้ายหลงเชื่อจึงบังคับให้ใช้ปากอมอวัยวะเพศจนสำเร็จความใคร่ หลังจากนั้นคนร้ายก็ได้หยิบเงินประมาณ3,000 บาท ในกระเป๋าแล้วรีบหลบหนีไปอย่างรวดเร็วดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้เสียหายเนื่องจากยังให้การวกไปวนมา อย่างไรก็ตามได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุเพิ่มเติมเชื่อว่าคนร้ายน่าจะอาศัยอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุ เพื่อไล่ล่าโจรหื่นกามรายนี้มาดำเนินคดีอย่างเร็วที่สุด

รวบหนุ่มพะเยายอดแสบย่องเข้าไปลักปืนของกลาง ขณะสารวัติเวรสอบสวนออกไปทานมื้อเที่ยง ตรวจสอบประวัติพบสุดแสบ เคยถูกดำเนินคดีฐานกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ที่โรงพักแห่งนี้มาแล้ว เมื่อ 5 เดือนก่อน

พัทยา-(15 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 12.00 น.นายวิฑูรย์ มะลิกุล อายุ 22 ปี คนพื้นเพจังหวัดพะเยา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สถานีตำรวจภูธร เมืองหนองปรือ ควบคุมตัวได้ที่บริเวณสวนสาธารณะ ด้านหลังสถานีตำรวจภูธร เมืองหนองปรือ เขตเทศบาลเมืองหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยของกลางเป็นปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .357 แบบสแตนเลส ชนิดลูกโม่ ดัดแปลงใช้ลูกปืนขนาด .22 มม. 1 กระบอก และโทรศัพท์มือถือยี่ห่อซีเมนต์ อีก 1 เครื่อง หลังจากที่ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ ซึ่งเป็นของกลางจากโต๊ะของสารวัติสอบสอนแล้วพยายามหลบหนีไป

พ.ต.ท. วินัย โห้เหรียญ สารวัติเวรเจ้าของคดี และยังเป็นผู้เสียหาย เผยว่า เมื่อเวลา 11.30 น. โดยประมาณ ได้ออกจากห้องทำงานเพื่อไปทานมื้อเที่ยงอยู่ข้างโรงพัก พอกลับเข้ามาพบว่าที่ลิ้นชักโต๊ะทำงาน ได้ถูกลื้อค้นตรวจสอบพบอาวุธปืน และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นของกลางได้สูญหายไป จึงได้สอบถามเพื่อนข้าราชตำรวจด้วยกันว่าพบเห็นผู้ใดเข้ามาที่ภายในห้องตำงานขณะที่ตนไม่อยู่บ้าง จนกระทั่งทราบการแต่งกาย และรูปพรรณสัณฐานของร้าย ตำรวจสืบสวนจึงได้ติดตามเข้าไปควบคุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมกับของกลางดังกล่าว

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติ นายวิฑูรย์ มะลิกุล ยังพบว่ามีประวัติสุดแสบ เคยถูกดำเนินคดีฐานกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ที่โรงพักแห่งนี้มาแล้วเมื่อ 5 เดือนก่อน แต่ศาลแขวงได้สั่งปรับ คดีรอลงอาญา จึงหยามใจเข้ามาก่อเหตุอีก

ด้านนายวิฑูรย์ มะลิกุล หนุ่มพะเยายอดแสบ ให้การรับสารภาพว่า ได้ย่องเข้าไปลักทรัพย์ ซึ่งเป็นของกลางขณะที่สารวัติสอบสอนไม่อยู่ในห้องทำงานจริง และหากนำอาวุธปืนหลบหนีไปได้ ก็จะนำไปพกไว้ใช้ป้องกันตัว ส่วนโทรศัพท์มือถือก็จะนำไปขาย แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน

ภาพ/ข่าว อั๋น ดูลัน

จากกรณีเพจเฟสบุ๊ค “เรารักพัทยา” มีการแชร์โพสของคุณ ธนายุทธ เด็กบ้านนอก คลาสสิค โดยระบุข้อความว่า “พัทยาเตือนภัย โจรทอมแสบ ขโมยตุ๊กตาร้านสินค้าเบ็ดเตล็ดตลาดสำเพ็ง หลังบิ๊กซี พัทยาเหนือ เวลาประมาณ 14.00 น. ตอนนี้ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพัทยาแล้ว 27/5/59 ” พร้อมภาพวงจรปิดบันทึกพฤติกรรมของโจรทอมรายนี้ขณะก่อเหตุไว้ด้วย

ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 28 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ร้าน บี แอล พาณิชย์ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุลักษณะเป็นสโตร์ขายสินค้าเบ็ดเตล็ดขนาดใหญ่ มีพนักงานกว่า 40 คน กล้องวงจรปิดจำนวน 32 ตัว

จากการสอบถาม น.ส.จิรารัตน์ ปูทา อายุ 30 ปี พนักงานขายสินค้าประจำร้านดังกล่าว เล่าว่า เหตุเกิดประมาณ 14.00 น. ของเมื่อวานนี้(27 พ.ค.59) ในขณะที่ตนเองกำลังนั่งประจำเคาน์เตอร์คิดเงิน เพื่อขายสินค้าให้ลูกค้าอยู่นั้น ได้มีหญิงสาวผมสั้น ลักษณะคล้ายทอมบอย แต่งกายสวมเสื้อแขนสั้นลายสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ สวมผ้าปิดปาก เดินหิ้วถุงใส่สินค้าผ่านเคาน์เตอร์คิดเงินไป ซึ่งตนไม่ได้เอะใจแต่อย่างไร จากนั้นมีน้องพนักงานอีกคนได้เดินมาบอกว่า มีคนขโมยของในร้าน ตนจึงรีบวิ่งตามไปพร้อมกับน้องพนักงาน จึงพบสาวทอมคนดังกล่าวยืนอยู่บริเวณห้างที่กำลังก่อสร้างตรงข้ามร้าน และเมื่อสาวทอมรู้ตัวว่าถูกจับได้ จึงรีบวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งพวกตนได้วิ่งติดามไปแต่ไม่ทัน

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจึงพบว่า สามารถจับภาพรูปพรรณและพฤติกรรมของคนร้ายได้ไว้ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังพบว่า สาวทอมได้ลักขโมยสินค้าไปจำนวนหลายชิ้นด้วยกัน ได้แก่ ตุ๊กตาหมี (มูลค่า 299 บาท) เทียนหอม และลูกโป่งเป่าลม อีกจำนวนหนึ่ง เชื่อว่าอาจจะเอาไปให้คนรัก หรือเก็บไว้เองด้วยความชอบส่วนตัว ภายหลังจึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยาดังกล่าว

ทั้งนี้ จึงอยากประชาสัมพันธ์ถึงผู้ประกอบการร้านค้ารายอื่นๆ เพื่อเตือนภัยให้ระวังระมัดโจรลักเล็กขโมยน้อย ซึ่งอาจแฝงตัวมากับกลุ่มลูกค้าก็เป็นได้ และหากใครพบเห็นคนร้ายลักษณะดังภาพ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สภ.เมืองพัทยา หรือเจ้าหนาที่ตำรวจ ใกล้เคียง

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

พัทยา-(16 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุว่ามีพลเมืองดีสามารถควบคุมตัวแก๊งสาวประเภทสองก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวไว้ได้พร้อมของกลาง บริเวณหน้าโรงแรมทวินปาล์ม ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเขตรับผิดชอบรุดตรวจสอบทันที

ที่เกิดเหตุพบ 2 พลเมืองดีทราบชื่อคือ นายคมสันต์ โปร่งกมล และนายฉัตรเพชร อยู่พาสุข ทั้งคู่ประกอบอาชีพวินจักรยานยนต์รับจ้างในเมืองพัทยาและเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจบ้าน สภ.เมืองพัทยา กำลังช่วยกันควบคุมตัวผู้ก่อเหตุสาวประเภทสอง 2 คน ประกอบด้วย นายเจษฎา เมอแล อายุ 28 ปี และนายฤาณี เยฟ อายุ 30 ปี พร้อมเงินสดของกลางจำนวน 1,000 บาท ของผู้เสียหายคือ นายอาเหม็ด วาซารามนี อายุ 31 ปี นักท่องเที่ยวชาวอิหร่าน

สอบถาม 2 พลเมืองดี ทราบว่า ขณะที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งลูกค้าบริเวณปากทางเข้าถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ได้พบ 2 ผู้ก่อเหตุกำลังพูดคุยกับผู้เสียหายอยู่ จากนั้นทั้งคู่ได้พากันรีบขึ้นรถจักรยานยนต์ขับออกมาด้วยความเร็ว ด้วยความเอะใจเพราะพฤติกรรมเข้าค่ายกลุ่มแก๊งล้วงกระเป๋า จึงบอกและทำความเข้าใจกับลูกค้าที่โดยสารมาด้วย

ก่อนจะเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ ติดตามไปสกัดจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้ โดยจากการสอบถาม ผู้เสียหาย ได้รับการยืนยันว่าเงินจำนวน 1,000 บาท จึงทำการตรวจค้นผู้ก่อเหตุ ปรากฏว่าเงินจำนวนดังกล่าว หล่นอยู่กับพื้นระหว่างตัวผู้ก่อเหตุ จึงรีบแจ้งวิทยุสื่อสารตำรวจมาร่วมจับกุมดำเนินคดีในครั้งนี้

เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุทั้งสองคน รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยจะนำเงินศัลยกรรมเสริมความงามให้เหมือนผู้หญิง สำหรับ ผู้ก่อเหตุทั้งสองคน เคยถูกจับกุมคดีลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เข็ดหลาบ เมื่อพ้นโทษออกมาไม่ถึง 2 เดือน ก็ลงมือก่อเหตุชนิดไม่กลัวคุกไม่กลัวตาราง ภายหลังสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว ผู้ก่อเหตุพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก. สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า ในการทำงานของพลเมืองดีครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างชื่อเสียงของเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก จึงอยากขอชื่นชนและยกย่อง รวมถึงเป็นกำลังใจพลเมืองดีเหล่านี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่สอดส่องดูแลช่วยเหลือสังคมต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(16 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 01.20 น. พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผกก. สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ ภายในร้านวีไอพี คลินิกเสริมความงาม ถนนมาบยายเลีย หรือซอยเนินพลับหวาน ตั้งอยู่เลขที่ 40/59 ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น สร้างติดเรียงกัน 6 คูหา โดยตึกเกิดเหตุชั้นล่างเปิดเป็นคลินิกเสริมความงามสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งมีนายวิรัชศักดิ์ สุกฤตานนท์ อายุ 41 ปี ผู้เสียหายเป็นหมอประจำคลินิกและเจ้าของกิจการ ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ในการตื่นตระหนกตกใจ

จากนั้นได้พาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและชี้จุดฝ้าเพดาน ของห้องน้ำบนชั้น 4 ถูกเปิดออก ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายน่าจะโรยตัวเข้ามาทางนี้ ก่อนจะเข้ามาห้องเก็บของชั้นเดียวกัน ใช้ของแข็งงัดลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งลักขโมยเงินกว่า 10,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้ของคลินิก

นายวิรัชศักดิ์ ผู้เสียหาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ได้ยินเสียงคนเดินอยู่ชั้นบน แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เนื่องจากส่วนตัวได้บูชากุมารเงิน-กุมารทอง จำนวน 14 ตน วิ่งเล่นตามปกติ จนกระทั่งเกิดเหตุได้ขึ้นไปเข้าห้องน้ำบนชั้น 4 ปรากฏว่าฝ้าเพดานถูกเปิดออก

เมื่อไปตรวจสอบลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง พบว่าเงินจำนวน 50,000 บาท ซุกซ่อนไว้เอา สูญหายไปเพียงบางส่วนนับได้กว่า 10,000 บาท ที่หายไป จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที นอกจากนี้พบว่าตลอดระยะเวลาที่เปิดคลินิกกว่า 1 ปี เงินรายได้ที่ซุกซ่อนไว้หายบ่อยมาก โดยคนร้ายจะลักขโมยไปเพียงแต่บางส่วน

ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผกก. สภ.หนองปรือ ได้สั่งการชุดสืบสวนเร่งรัดตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาข้อมูลของคนร้าย พร้อมกับประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เก็บรายนิ้วมือแฝงคนร้ายเพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย