คลังเก็บหมวดหมู่: อาชญากรรม

หนุ่มหน้ามืดล่วงจากพื้นยกดับ หน้าฟาดพื้นถนนดับอนาถ

พัทยา-(3 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ สภ.บางละมุง รับแจ้งเหตุผู้ได้รับบาดเจ็บตกจากที่สูง เหตุเกิดบริเวณปากซอยธรรมสามัคคี 2 ม.13 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา และแพทย์ รพ.บางละมุง รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อนายยอด จางวางเหลือง อายุ 25 ปี ชาว อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว สภาพนอนหมดสติล้มคว่ำหน้า อยู่บนพื้นถนนใกล้เคียงปากซอย บริเวณหน้าผากพบรอยฟกช้ำและเป็นแผลถลอก เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมแพทย์จึงช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ผู้บาดเจ็บยังไม่ฟื้นคืนสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

สอบถาม น.ส.ยุพา แสงตะวัน อายุ 22 ปี พลเมือง เล่าว่า ตนและเพื่อนได้ผ่านมาบริเวณดังกล่าว แล้วเห็นผู้ตายนอนชักเกร็งอยู่บริเวณฟื้นถนน จึงรีบช่วยกันอุ้มตัวขึ้นไปนอนฟื้นอาคาร ก่อนปฐมพยาบาลและแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
จากการตรวจสอบ ทราบว่า ผู้ตายพักอยู่ โชคอำนวยอพาร์ทเม้น ชั้นที่4 ห้องหมายเลข 3 ติดกับที่เกิดเหตุ ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีพยานเห็นผู้ตายเดินอุ้มตะกร้าผ้าไปซักที่ตู้หยอดเหรียญหน้าตึก โดยเดินเลาะตามฟื้นอาคารยกระดับข้างตึก(สูงประมาณ 80 ซม) จนกระทั่งมีพลเมืองดีมาเห็นผู้ตายนอกชักเก็งอยู่บริเวณพื้นดังกล่าว

บื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ขณะเดินกลับห้องพักผู้ตายอาจจะหน้ามืดเป็นลม ทำให้ล่วงจากพื้นอาคารยกระดับ จนหน้าฟาดกับพื้นถนน เป็นเหตุให้ได้รับเจ็บและเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะส่งศพผู้ตายไปชันสูตรหาสาเหตุการชีวิตที่แท้จริงต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

หนุ่ม-สาวซิ่งจยย. เจอด่านตรวจขับย้อนศรพุ่งชนชาวบ้าน-ตำรวจเจ็บ

thumbnail_1462139624471
พัทยา-(2 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. ขณะที่ร.ต.อ.วิษณุ ไชยสุวรรณ รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและอาสาสมัครตำรวจบ้าน ตั้งด่านตรวจสิ่งของผิดกฎหมาย บริเวณหน้าปั้มน้ำมันเชลล์ ถนนพัทยาใต้ เพื่อเป็นการป้องกันอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ตามนโยบาย พ.ต.อ.สุทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.หัวหน้าสถานี

thumbnail_1462139628351

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบชายขับขี่จักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีหญิงสาวซ้อนท้ายมาด้วย เมื่อทั้งคู่เห็นด่านตรวจก็พากันขับย้อนศรแล้วเร่งเครื่องหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไป ระหว่างนั้นปรากฏว่าวัยรุ่นทั้งสองคน ขับไปเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ที่สวนทางมาอย่างจัง ก่อนที่ตัวรถจักรยานยนต์จะกระเด็นไปโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งไล่ติดตามจับกุมได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

thumbnail_1462139646844

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ประสานงานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ เมืองพัทยา มารับตัวคนเจ็บไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลบางละมุง พร้อมกับอายัดตัวดำเนินคดีในข้อกล่าวหาหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

สองสาวใหญ่ สาปแช่งโจรย่องเบาฉกเงินทำพิธีงานบวชกลางศาลาวัด

สองสาวใหญ่ สาปแช่งโจรย่องเบาฉกเงินทำพิธีงานบวชกลางศาลาวัด
พัทยา-(1 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 00.30 น. นางวิลัยวรรณ พลคง อายุ 61 ปี และนางบังอร บุญส่ง อายุ 55 ปี สองผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังจากถูกคนร้าย เข้ามาลักขโมยเงินประมาณ 70,000 บาท เหตุเกิดขึ้นที่ภายใน ศาลาวัดบุญกาญจนาราม แยกสัญญาณไฟบ้านหนองพังแค ถนนสุขุมวิท ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สอบถาม ผู้เสียหายทั้งสองคน ได้ความเบื้องต้นว่า เธอทั้งสองได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพงานบวชลูกชายของนางบังอร ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้ทำพิธีรับขวัญนาค พร้อมกับเลี้ยงโต๊ะจีนแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานบุญในครั้งนี้ หลังจากเลิกงานเลี้ยงทั้งสองก็ได้อาศัยศาลาวัดนอน เนื่องจากกลัวตื่นสายแล้วจะมารับแขกไม่ทัน ซึ่งตอนเช้าวันนี้จะมีพิธีอุปสมบทและจะได้เห็นลูกชายของนางบังอร ห่มผ้าเหลือง

ระหว่างที่กำลังหลับนอน ได้ยินเสียงคนสะดุดล้มบริเวณประตูศาลา เมื่อตื่นขึ้นมาดูในอาการสะลึมสะลือ เห็นคนร้ายเป็นชาย รูปร่างกาย แต่งกายชุดดำ ในมือถือกระเป๋าสะพายวิ่งหนีออกไปบริเวณวัด จึงเชื่อว่าเป็นหัวขโมยเลยพากันตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้ เพราะว่าคนที่มาอาศัยนอนก็มีแต่ผู้สูงอายุ เมื่อกลับมาที่นอนพบว่ากระเป๋าของเธอทั้งสองถูกคนร้ายขโมยไป

โดยภายในกระเป๋าทั้งสองใบมีเงินสดประมาณ 70,000 บาท สำหรับเงินจำนวนนี้จะต้องนำไปจ่ายค่าอาหารและอื่นภายในงานบวชครั้งนี้ ทั้งนี้ รู้สึกเศร้าและเสียใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างมาก พร้อมกับสาปแช่งคนร้ายที่ขโมยเงินไป แต่งานบวชครั้งนี้ก็ยังคงเดินหน้าต่อไป

ภายหลังสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย เพื่อเป็นแนวทางในการจับกุมตัวคนร้าย เบื้องต้นสันนิฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มแก๊งที่ค่อยตระเวนลักทรัพย์เจ้าภาพตามงานบุญ หรือไม่ก็อาจจะเป็นแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

เจ้าของโรงแรมเจอยาไอซ์ซุกในซองจดหมาย รีบแจ้งตำรวจตรวจสอบ

เจ้าของโรงแรมห้องเช่าพัทยาตกใจมือสั่น หลังเจอจดหมายปริศนามาหน้าตึก เปิดออกดูพบเป็นวัตถุคล้ายยาเสพติด รีบแจ้ง จนท.ตรวจสอบทันควัน

พัทยา-(29 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าของห้องเช่าไม่มีชื่อแห่งหนึ่งภายในซอยดงตาล ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่า มีพัสดุไปรษณีย์ปริศนาส่งมาโดยชื่อผู้รับหน้าซองจดหมายไม่ตรงกับผู้พักอาศัย เมื่อเปิดซองออกดูพบเป็นวัตถุชนิดเกล็ดสีขาวคล้ายยาเสพติดประเภทยาไอซ์ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

thumbnail_DSC00250

เมื่อไปถึงพบเป็นห้องแบ่งเช่ารายเดือนประมาณ 10 ห้อง ความสูง 6 ชั้น ตรวจสอบบริเวณตู้ไปรษณีย์หน้าอาคารพบซองจดหมายสีขาว ระบุชื่อผู้รับ ANNA SMIT แต่ไม่มีชื่อผู้ส่งและไม่พบหลักฐานแสตมป์ไปรษณียากร หรือหลักฐานผ่านขั้นตอนการตรวจสอบจากเจ้าหน้าไปรษณีย์แต่อย่างใด ภายในพบกระดาษ A4 พับคุมซองซิปพลาสติกสีน้ำตาลไว้อย่างดี ภายในซองซิปพลาสติกสีน้ำตาลมีวัตถุคล้ายยาไอซ์จำนวนหนึ่งอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อส่งตรวจว่าเป็นยาเสพติดจริงหรือไม่

สอบถามเจ้าของโรงแรม (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ทราบว่า ตนได้เซ้งกิจการจากเจ้าของคนเดิมได้ประมาณ 1-2 เดือน โดยปกติพ่อของตนจะเดินไปตรวจสอบที่ตู้รับจดหมายทุกวัน จนวันนี้ได้ไปตรวจสอบพบจดหมาย จึงเก็บไว้ที่โต๊ะทำงาน จนกระทั่งตนมาเห็นจึงตรวจสอบรายชื่อลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรมแต่ก็ไม่มีชื่อลูกค้าคนดังกล่าว เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นยาเสพติดจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

thumbnail_DSC00254

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าถ้าเป็นยาเสพติดจริงอาจเป็นขบวนการค้ายาเสพติดนัดหมายกันส่งยาบริเวณดังกล่าว แต่เจ้าของห้องเช่ามาเปิดตู้ไปรษณีย์เจอเสียก่อน แต่หากไม่ใช่ยาเสพติดอาจเป็นการกลั่นแกล้งหรือกระทำไปเพื่อความคึกคะนอง ซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตามแกะรอยติดตามคนร้ายมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

หนุ่มเกาหลี กระโดดตึกสูงชั้น 4 ฆ่าตัวตายไม่ทราบสาเหตุ แฟนสาวเผยปกติผู้ตายเป็นคนอารมณ์ดี

พัทยา-(29 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 06.30 น. พ.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศิริมาก สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุชาวต่างชาติกระโดดตึกเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ เหตุเกิด เคพี อพาร์ทเม้นท์ ตั้งอยู่เลขที่ 67/45 ม.10 ต.หนองปรือ อ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 4 ชั้น บริเวณซอกตึกพบร่างผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือ นายดาวิด ฮาน อายุ 24 ปี สัญชาติเกาหลี กระโดดจากชั้น 4 บริเวณระเบียบหลังห้องพัก 401 ตกลงมากระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ทำการปั้มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยมีเพื่อนชาติเดียวกันเข้ามาโอบกอดศพร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ก่อนเจ้าหน้าที่ได้กันไม่เกี่ยวข้องออกจากจุดเกิดเหตุพร้อมนำผ้าปิดศพเพื่อไม่ให้เป็นที่อุจาดตา

สอบถาม น.ส.แสงเดือน มัดทองหลาง แฟนสาวของเพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ช่วงดึกที่ผ่านมาได้ไปนั่งดื่มกินสุราด้วยกัน จากนั้นก็ได้ขอตัวแยกย้ายกลับที่พักก่อน โดยผู้ตายได้นั่งดื่มกินต่อกับสาวชาวไทย จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงโวยวายดังจากห้องผู้ตายจึงได้พากันมาเรียกที่หน้าห้อง แต่ผู้ตายไม่ยอมเปิดพวกตนคิดว่าคงไม่มีอะไร จึงเดินกลับห้อง จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงคล้ายวัตถุขนาดใหญ่ตกลงจากที่สูงสู่พื้นด้านล่าง จึงออกมาดูทางหน้าต่างพบว่าเพื่อนของตนได้กระโดดลงมาจากห้องพักจึงรีบลงมาดูและแจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนสาเหตุนั้นตนและแฟนหนุ่มก็ไม่ทราบว่าผู้ตายมีปัญหาอะไรเพราะปกติผู้ตายเป็นคนอารมณ์ดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่เคยเล่าความในใจให้ฟังอีกด้วย

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวพยานแวดล้อมทั้งหมดไปสอบสวนหาสาเหตุการฆ่าตัวตายของนักท่องเที่ยวรายนี้ต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

สองโจรควงมีด-ขวาน บุกปล้น พนง.โรงแรมม่านรูด ฮึดสู้ถูกฟันมือหวิดขาด

พัทยา-(29 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 04.30 น. พ.ต.ท.โกวิทย์ สวัสดิ์มงคล สวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายและปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย เหตุเกิดขึ้นที่โรงแรมสวิทเลิฟ อิน ภายในซอย 2 นาจอมเทียน ม.9 ต.นาจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลัง รีบรุดไปตรวจสอบ

thumbnail_1461888286652

ที่เกิดเหตุเป็นห้องพักม่านรูดแบบชั่วคราว-รายวัน พบบริเวณเค้าท์เตอร์แคชเชียร์ มีร่องรอยการต่อสู้และรื้นค้นทรัพย์สินกระจัดกระจายไปทั่ว ตรวจสอบยังพบรอยเลือดนองเต็มพื้น ส่วนผู้เสียหายทราบชื่อภายหลังคือ นายเจตริน ชายสีอ่อน อายุ 24 ปี ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ โดยหลังเกิดเหตุได้ขับรถยนต์ยังโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาบาดแผลจากการถูกทำร้าย

โดยผู้เสียหาย ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่มือข้างซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์จนเกือบขาด เย็บกว่า 20 เข็ม ด้านหลังยังถูกแทงด้วยของมีคมอีกด้วย ขณะแพทย์ให้การรักษาเบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว

สอบสวน ผู้เสียหาย ทราบว่า ขณะที่ตนและเพื่อนร่วมงานอีก 1 คนนั่งเฝ้าอยู่บริเวณหน้าเค้าท์เตอร์แคชเชียร์ จากนั้นได้มีคนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณโรงจอดรถ พร้อมทั้งใช้อาวุธมีดและขวานขึ้นมาข่มขู่ ให้ผมและเพื่อนหมอบลงกับพื้น ก่อนคนร้ายทั้งสองจึงช่วยกันกวาดทรัพย์สิน ภายในลิ้นชักเป็นเงินกว่า 20,000 บาท ก่อนจะมาดึงเอาสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองที่คอของผม แต่ตนฮึดสู้ขัดขวางคนร้ายจนกระทั่งหนึ่งในคนร้ายได้ใช้มีดฟันใส่จนคมมีดถูกเข้าที่มือด้านซ้ายเลือดสาดนองพื้น ก่อนจะแทงเข้าที่หลังอีกครั้ง

thumbnail_1461888262757

ซึ่งตอนนั้นตนและเพื่อนคิดว่าสู้ไม่ไหวแน่จึงรีบวิ่งหนี ส่วนคนร้ายก็รีบซ้อน จยย.หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและพาร่างอันโชกเลือดเดินทางไปรักษายังโรงพยาบาลเมืองพัทยา

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุและเก็บลายนิ้วมือแฝงของผู้ก่อเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง เพื่อเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร็วที่สุดต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

นทท.แตกตื่น หลังหนุ่มฟินแลนด์พลัดตกชั้น 3 เจ็บ

พัทยา-(29 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 03.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพลัดตกจากที่สูง เหตุเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยไดม่อน วอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ม. 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นกลุ่มบาร์ติดกับถนนวอล์กกิ้งสตรีท พบนักท่องเที่ยวจำนวนมากมุงดูด้วยความแตกตื่นตกใจกับเหตุการณ์ นักท่องเที่ยวทราบชื่อภายหลังคือ MR.JERRY SODERHOLM อายุ 30 ปี สัญชาติฟินแลนด์ พลัดตกจากหน้าต่างห้อง 103 ชั้น 3 ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก เลือดไหลออกจำนวนมาก และมีบาดแผลตามร่างกายอีกหลายแห่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล

สอบถามผู้ดูแลห้องพักทราบว่าผู้บาดเจ็บได้ออกมานั่งสูบบุหรี่ ที่ริมหน้าต่างที่ไม่มีระเบียงกัน แล้วเกิดเสียหลักลื่นล้มตกลงมาทะลุหลังคา ร่างกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บ ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่นั่งดื่มกันอยู่ภายในบาร์ด้านล่าง สร้างความตกใจให้กับผู้ที่เห็นเหตุการณ์เป็นอย่างมาก ดีที่ตนเองตั้งสติได้จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เข้าช่วยเหลือดังกล่าว

ภาพ/ข่าว Ku Salick

อาละวาดหนักแก๊งล้วงกระเป๋าบนรถสองแถว ล่าสุดหนุ่มจีนตกเป็นเหยื่อสูญเงินกว่า 20,000 บาท

พัทยา-(28 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 21.30 น. ในขณะที่ ร.ต.อ.นครราช นนสีลาด รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำสถานีได้มีไกด์พานักท่องเที่ยวชาวจีนคือ MR.LIU TONG อายุ 30 ปี สัญชาติจีนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกก่อเหตุล้วงกระเป๋าสูญทรัพย์สินไปมูลค่ากว่า 60,000 บาท เหตุเกิดบนรถสหกรณ์สองแถว

โดยก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายได้โดยสารสหกรณ์สองแถวจากบริเวณปากซอย 20 นาเกลือ มาลงที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช จนกระทั้งเข้าไปรับประทานอาหาร จากนั้นได้เรียกพนักงานเช็คบิลก็พบว่ากระเป๋าเป้ถูกแอบเปิดกระเป๋าเงินหนังจระเข้ราคาประมาณ 2,000 หยวน ภายในกระเป๋ามีเงินสด20,000 บาท และเอกสารสำคัญหลายรายการโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 พลัส ที่เก็บไว้ในกระเป๋าเป้ได้สูญหายไป จึงรีบเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ทนายชาวอินเดีย ตกใจถ่ายเซลฟี่ไม่มีสร้อยคอ เชื่อว่าถูกปลดไประหว่างสาวขายกามเข้ามาตีสนิท

พัทยา-(28 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 22.30 น. ขณะที่ ร.ต.อ.นครราช นนสีลาด รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กำลังปฏิบัติหน้าที่เวรสอบสวนประจำสถานี ได้มี MR.YOGENDRA YADAV อายุ 41 ปี นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกหญิงสาวขายบริการทางเพศชายหาดพัทยาปลดสร้อยคอทองคำแล้วหลบหนีไป เหตุเกิดขึ้นบริเวณปากซอย 6 ถนนเลียบชายหาด ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

thumbnail_Snapshot 1 (28-4-2559 23-45)

โดย ผู้เสียหาย เล่าว่า ได้มีอาชีพเป็นทนายความประเทศอินเดียบ้านเกิด ซึ่งได้เดินทางมาพักผ่อนที่เมืองพัทยา ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา โดยก่อนเกิดเหตุได้เดินออกไปเที่ยวราตรีของเมืองพัทยาตามปกติ ระหว่างที่เดินเล่นชมวิวชายหาดเมืองพัทยา ได้มีหญิงสาวจำนวน 2 คน ทำทีเข้ามาโอบกอดลูบไล้ พร้อมกับเสนอขายบริการทางเพศ จากนั้นไม่ได้สนใจอะไรก็ได้เดินหนีออกมาจากกลุ่ม

จนกระทั่งมาเจอวิวสวยบริเวณชายหาด จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเซลฟี่เก็บบรรยากาศ เมื่อเปิดดูภาพก็ต้องตกใจ เมื่อในภาพที่ถ่ายมาไม่ปรากฏสร้อยคอทองคำที่สวมใส่อยู่เป็นประจำ จึงคิดว่าน่าจะหลุดติดมือสองสาวที่เข้ามาทำที่โอบกอด จึงรีบเดินกลับไปตามหาแต่ก็ไม่พบจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

กรมเจ้าท่าพัทยา ร่วมเมืองพัทยา จัดประชุมผู้ประกอบการเรือเร็ว หลังเกิดอุบัติเรือชนกัน 2 วันซ้อน

พัทยา-(28 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ ห้องประชุมสำนักงานเมืองพัทยา สาขาเกาะล้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายเอกราช คันธโร ผอ.กรมเจ้าท่าสาขาพัทยา เป็นประธานในการประชุมผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวเพื่อวางมาตรการด้านความปลอดภัยทางทะเล หลังจากเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมามีอุบัติเหตุเจ็ทสกีกับเรือสปีดโบ๊ทชนกัน และในวันที่ 26 เม.ย.เกิดเรือสปีดโบ๊ท 2 ลำชนกันที่หาดตาแหวน แขวงเกาะล้าน เป็นเหตุให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทำให้เมืองพัทยาเสื่อมเสียด้านการท่องเที่ยว โดยมีนายสนิท บุญมาฉาย สมาชิกสภาเมืองพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า , ตำรวจน้ำ , ตำรวจท่องเที่ยว , เจ้าหน้าที่เมืองพัทยา , ทหาร มทบ.14 และตัวแทนผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวในเมืองพัทยาและเกาะล้าน เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

S__24158267

นายเอกราช คันธโร กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2557 ที่ผ่านมาได้มีการริเริ่มโครงการพัทยาโมเดล เพื่อเป็นต้นแบบนำร่องด้านความปลอดภัยทางทะเลให้กับสถานที่ท่องเที่ยวชายทะเลอื่นๆ ในประเทศ ซึ่งมีการกำหนดมาตรการไว้ 5 มาตรการ และได้ทำไปแล้ว 3 มาตรการเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ในส่วนของเหตุการณ์เจ็ทสกีชนกับเรือสปีดโบ๊ทเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นเพราะผู้ควบคุมเรือทั้ง 2 ลำไม่ปฏิบัติตามกติกาเกี่ยวกับเรื่องความเร็วในการเข้าออกหาดตาแหวน นอกจากนี้เรื่องพื้นที่เข้าออกเรือก็เป็นสิ่งสำคัญ ปัจจุบันมีทั้งเรือสปีดโบ๊ทและเรือโดยสารขนาดใหญ่เดินทางจากฝั่งพัทยามาเกาะล้านไม่ต่ำกว่า 600 ลำต่อวัน แต่เส้นทางเข้าออกมีความยาวเพียง 300 เมตร และแนวทุนเกิดชำรุดไม่มีความชัดเจน ทำให้ทุกวันนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุอยู่ แต่ในปีงบประมาณ 2560 ทางกรมเจ้าท่าได้เสนอของบประมาณเร่งด่วนผ่านทาง ผวจ.ชลบุรี ไปยัง รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว และยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา แต่ในช่วงนี้เราต้องช่วยตัวเองก่อน คงต้องเน้นย้ำและฝากไปถึงผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวในเรื่องของความเร็วจากจุดเริ่มต้นออกจากหาด จอให้ยึดมั่นคำสัญญาลูกผู้ชายที่เคยตกลงกันไว้ เพราะปัจจุบันยังไม่มีข้อกฎหมายใดๆ มากำหนด

S__24158253

ด้านนายสนิท บุญมาฉาย สมาชิกสภาเมืองพัทยา และประธานชมรมผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า จุดเกิดเหตุเรือชนทั้ง 2 วันติดกัน เป็นหน้าที่ของเมืองพัทยาที่ต้องรับผิดชอบดำเนินการ เพราะก่อนหน้านี้บริเวณหาดตาแหวนจะมีแนวทุ่นระบุตำแหน่งเส้นทางเข้าออกเรืออย่างชัดเจน แต่เนื่องจากที่ผ่านมามีคลื่นลมแรงทำให้ทุ่นเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ถือเป็นความบกพร่องของเมืองพัทยาเพราะทุ่นเสียหายมานานนับเดือนแล้วแต่ไม่ได้รับการแก้ไข หากยังมีทุ่นบอกตำแหน่งเหตุก็คงไม่เกิด และจะไปโทษผู้ประกอบการซะทีเดียวก็คงไม่ได้ เกี่ยวกับกรณีนี้จะได้นำเสนอไปยังนายกเมืองพัทยา เพื่อจัดหาทุ่นเก่ามาทำแนวเขตชั่วคราวจากฝั่งหาดตาแหวนยาวไปจนถึงหัวโขด หรือหาดตายาย ระยะทางประมาณ 700 เมตร โดยแบ่งช่องการจราจรอย่างชัดเจน เพื่อให้เรือที่เข้าออกหาด รวมถึงเรือที่มาส่งนักท่องเที่ยวดำน้ำ หรือซีลวอล์คเกอร์ ได้ทราบถึงเส้นทางการเดินเรือที่ถูกต้อง พร้อมกับของบเร่งด่วนในการจัดซื้อเชือกและสมอมาทำทุ่นเพื่อแก้ไขปัญหาชั่วคราว

S__24158251

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบทสรุปในที่ประชุมวันนี้มี 2 เรื่องใหญ่ๆ คือการทำทุ่นเพื่อแบ่งเขตการจราจรทางน้ำชั่วคราว และการขอความร่วมมือผู้ประกอบการและคนขับเรือในเรื่องการใช้ความเร็วขณะเข้าออกฝั่งต้องไม่เกิน 2,000-2,500 รอบ ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามก็จะมีโทษปรับเป็นเงินจำนวน 5,000 บาททันที

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้