คลังเก็บหมวดหมู่: อาชญากรรม

กะเทยพัทยา ก่อเหตุล้วงกระเป๋า ปลดสร้อย 3 รายซ้อน ได้ทรัพย์สินกว่าแสนบาท

พัทยา-(13 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 04.30 น. ในขณะที่ ร.ต.อ.ณัฐวรรธน์ เพลินจิตร รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ,ชลบุรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำสถานี ได้มี นายปราคาซา รูดราแมนท์ อายุ 37 ปี และนายปะวาน คูมาร์ อายุ 33 ปี สัญชาติอินเดีย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ว่าถูกสาวประเภทสองก่อเหตุลักทรัพย์ไป เหตุเกิดที่หน้าโรงแรม ดิสคอฟเวอร์รี่ ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดยก่อนเกิดเหตุตนทั้งสองและเพื่อนอีก 1 คนได้ไปเที่ยวในว๊อกกิ้งสตรีท และได้เดินทวางกลับ โดยเลือกที่จะเดินเท้าเพื่อชมบรรยากาศใกล้ฟ้าสาง จนกระทั้งเดินมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีสาวประเภทสอง 2 คนเดินเข้ามาโอบกอดเสนอขายบริการ แต่พวกตนไม่ชอบจึงได้พยายามผลักออกและขับไล่ แต่สาวประเภทสองก็ไม่ยอมทำทีเข้ามาลูบไล้เพื่อให้เกิดอารมณ์ พวกตนจึงสลัดออกแล้วเดินหนี

thumbnail_DSC00144

ต่อมา นายปราคาซา รูดราแมนท์ ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของ นายปะวาน คูมาร์ ว่าสร้อยคอที่อยู่ในคอได้สูญหายไป เป็นสร้อยคอทองคำ มูลค่าประมาณ 20,000 บาท จึงสอบถามและสำรวจทรัพย์สินของตนเอง ก็พบว่ากระเป๋าเงินของตนเองก็หายไปเช่นกัน ซึ่งภายในมีเงินสด 6,500 บาท เงิน ต่างประเทศ 1,500เปรูและเอกสารสำคัญอีกหลายรายการ จึงมั่นใจว่าน่าจะเป็น 2 สาวประเภทสองแน่ จึงได้เดินกลับมาตามหาแต่ไม่พบ จึงรีบเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

ไม่นานนักก็ได้มี นายคาย มอร์เลสเซ่ อายุ 33 ปี พร้อมภรรยาสาวชาวไทยเดินทางเข้าแจ้งร้องทุกข์อีกว่าถูกสาวประเภทสองก่อเหตุล้องกระเป๋า เหตุเกิดไม่ไกลจากสองรายแรกมากนัก โดยผู้ก่อเหตุเข้ามาทำทีตีสนิทเพื่อขายบริการและใช้จังหวะเผลอล้วงเอาทรัพย์สินไปได้ เป็นโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่องมูลคาประมาณ 7,000 บาทก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

เบื้องต้น ร.ต.อ.ณัฐวรรธน์ เพลินจิตร รอง สว.สอบสวน เจ้าของคดี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบะแสนร้าย และตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุหวังว่าจะสามารถบันทึกภาพรูปพันธ์สัณฐานคนร้ายไว้ได้บ้าง เพื่อที่จะไล่ล่าจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

เครื่องบดอ้อยพิฆาต พ่อค้าขายน้ำอ้อยเลี้ยงชีพ พลาดถูกเครื่องบดอ้อยบดนิ้วมือขาดเจ็บสาหัส

พัทยา-(12 พ.ค. 58) เมื่อเวลา 12.30 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบรณ์เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกเครื่องบดอ้อยบดนิ้วมือ เหตุเกิดบริเวณริมถนนเทพประสิทธิ์ ใกล้เคียงปากซอยเทพประสิทธิ์ 10 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

image

ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นพ่อค้าขายน้ำอ้อย ทราบชื่อต่อมา นายเอกพล จิณานิกรณ์ อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกเครื่องบดอ้อยบดนิ้วมือข้างขวา จนนิ้วกลางขาด นิ้วโป้งกับนิ้วชี้แตกระเอียด และหลังมือเปิด นอกจากนี้ยังพบเศษเนื้อและเลือดกระจายปะปนอยู่กับซากอ้อยภายในเครื่องบดอ้อย เจ้าหน้าที่จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่ง รพ.บางละมุง เพื่อให้ทีมแพทย์เร่งทำการรักษาบาดแผล

image

สอบถาม นายเอกพล จิณานิกรณ์ เล่าว่า ขณะกำลังบดอ้อยเพื่อคั้นน้ำอ้อยให้ลูกค้า พบว่าชานอ้อยไปติดอยู่ในเครื่องบด ตนจึงล้วงมือเข้าไปเขี่ยออก แต่ปรากฏว่าเครื่องบดอ้อยได้ดึงนิ้วมือของตนเข้าไปจนติดคาเครื่องบดอ้อย ตนจึงปิดสวิทย์ ก่อนชาวบ้านจะเข้ามาช่วยเหลือและแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

ชาวบ้านผงะ! พบศพหนุ่มลอยกลางทะเลอ่าวนาเกลือ

พัทยา-(11 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศิริมาก สว.สอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา ร่วมตรวจสอบผู้เสียชีวิตลอยกลางทะเล ห่างจากฝั่งหลังวัดช่องลม ม.4 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ประมาณ 800 เมตร

ที่เกิดเหตุพบเป็นชายทะเลที่น้ำลงจนแห้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านมักจะมาหาหอยตะลับเป็นประจำ เจ้าหน้าที่จึงเดินเท้าออกจากฝั่งไปประมาณ 2 กม. จนพบศพทราบชื่อ นายพิศาล พุ่มน้อย อายุ 34 ปี สภาพศพสวมเพียงกางเกงชาวเลสีน้ำเงิน ไม่สวมเสื้อ ตรวจสอบร่างกายถูกของมีคมบาดคล้ายเพลียงบาดบริเวณลำคอ และใบหน้า เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันนำศพขึ้นมายังฝั่ง

ด้าน นายดาว แก้วลายคำ อายุ 47 ปี ผู้พบศพ เล่าว่า ในขณะตระเวนหาหอยตะลับบริเวณชายหาดดังกล่าว ได้สังเกตเห็นมีอะไรลอยอยู่ในทะเล จึงออกไปดูพบว่าเป็นคนเสียชีวิตจึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการตรวจสอบ

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายมักชอบดื่มเหล้าแล้วชอบออกทะเลไปหาปลากับชาวเขมรที่มีเรือหาปลาขนาดเล็ก และก่อนพบศพทราบว่า ประมาณ 01.00 น.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ออกไปกับชาวเขมรที่นำเรือออกไปหาปลาเหมือนเคยจนกระทั่งมาพบว่าเป็นศพลอยกลางทะเล

ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวภรรยาของผู้เสียชีวิตมาทำการสอบสวน เกี่ยวกับผู้เสียชีวิต และดำเนินการเร่งหาหลักฐานเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ จับร้านเหล้านั่งชิลล์กลางเมืองพัทยา เปิดเกินเวลา

thumbnail_IMG_2306
พัทยา-(11 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 04.30 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร มทบ.14 และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าตรวจสอบร้านบางใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนพัทยาสายสาม ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังพบว่าสถานบริการแห่งนี้เปิดเกินเวลา

thumbnail_IMG_2322

ตรวจสอบพบว่าทางร้านเหล้านั่งชิลล์แห่งนี้หัวใสได้ทำการปิดไฟร้านทั้งหมด คล้ายกับปิดให้บริการแล้ว เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่แต่ยังมีการเปิดเพลงเสียงดังและบริการจำหน่ายสุราให้กับลูกค้าอยู่เกือบเต็มร้าน โดยมีสาวนั่งดริ้งจำนวนหนึ่ง ค่อยนั่งพูดคุยคลายเหงาให้กับหนุ่มลูกค้าตามโต๊ะอีกด้วย โดยตรวจสอบอย่างละเอียดพบเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวน 2 ราย ไม่พกบัตรประชาชน 6 คน

เบื้องต้นจึงควบคุมตัว น.ส.ลดาวัลย์ จันทะรัตน์ อายุ 26 ปี เจ้าของร้าน พร้อมด้วย นายปิยะวัฒน์ กันเกิด อายุ 23 ปี ผู้จัดการร้าน ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา 1.เปิดสถานบริการไม่ได้รับอนุญาต 2.เปิดสถานบริการเกินเวลา 3.จำหน่ายสุราเกินเวลา 4.จำหน่ายสุราให้เด็กอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี พร้อมกับเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งปิด 5 ปี สถานบริการแห่งนี้อีกด้วย

thumbnail_IMG_2334

ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันฯ กล่าวว่า ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมทหาร มทบ.14 ออกตรวจสอบสถานบริการในพื้นที่เมืองพัทยา พร้อมกับประกาศห้ามสถานบริการแห่งใดลักลอบเปิดเกินเวลา จนกระทั่งช่วงเวลาเกิดเหตุ พบว่าร้านบางใหญ่ ยังคงเปิดให้บริการอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมทันที โดยไม่มีข้อยกเว้น

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ตร.พัทยา แถลงข่าวรวบโจรพัทยาวิ่งราวทรัพย์

พัทยา-(10 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ปวัชว์ชัย สุดสคร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พร้อมกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสุริยา คัดนาหงส์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.4 ต.ศรีสุข อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม คนร้ายวิ่งราวทรัพย์ขโมยกระเป๋าของ น.ส.ระวินวรกาญจน์ โลเกต อายุ 18 ปี
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 06.05 น. ของวันที่ 10 พ.ค.59 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารจาก นายคมสันต์ โปร่งกมล ตำรวจอาสา สภ.เมืองพัทยา ว่ามีเหตุวิ่งราวทรัพย์บริเวณหน้าร้านหมูกระทะนินจา ถนนพัทยาสายสาม ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยผู้ก่อเหตุคนเดียว ลักษณะรูปร่างผอมสวมเสื้อสีดำ ขับรถจักรยานยนต์สีน้ำเงินไม่ทราบทะเบียน หลังก่อเหตุได้ขับหลบหนีไปทางแยกสายสามพัทยาเหนือ มุ่งหน้าถนนสุขุมวิท

ซึ่ง นายคมสันต์ ตำรวจอาสาได้ติดตามและแจ้งทางวิทยุสื่อสารโดยตลอด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพร้อมด้วยตำรวจอาสาจึงช่วยกันติดตาม จนกระทั่งผู้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ไปถึงบริเวณแยกทางรถไฟหนองใหญ่ รถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุได้เสียหลังล้มลงและได้ทิ้งจักรยานยนต์หลบหนี ปีนกำแพงเข้าไปในบ้านเลขที่ 58/2 ม.8 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งไม่มีผู้อยู่อาศัย เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงได้ติดตามจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวไว้ได้

ด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยทรัพย์สินที่ทำการวิ่งราวทรัพย์มาเป็นกระเป๋าหนังสีดำ ภายในมีทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือสีดำ-เทา ของ AIS 1 เครื่อง และเอกสารการทำงานพร้อมบัตรประชาชน หลังจากกระชากทรัพย์มาแล้วได้ใส่ไว้ที่ตระแกรงหน้ารถ และหล่นหายขณะหลบหนีตำรวจโดยไม่ทราบว่าหล่นหายที่จุดใด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งขอกล่าวหา วิ่งราวทรัพย์ผู้อื่น โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม พร้อมส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตร.พัทยา แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยานรก รวบผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้ากว่าหมื่นเม็ด

พัทยา-(10 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.สมพาน สุขสำราญ รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท. ปวัชร์ชัย. สุดสคร. รอง ผกก.(ป.) ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ประกอบด้วย นายวรเพชร หรือกอล์ฟ วรรณศิริ อายุ 24 ปี (ส่งตัวแล้ว) พร้อมของกลางยาบ้า 4เม็ด, นายเอนก เนียมศรี อายุ 25 ปี และนายเอกลักษณ์ ละออเอี่ยม อายุ 24 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 200 เม็ด และตรวจยึดของกลางยาบ้า 10,000 เม็ด จากบริเวณเสาป้ายเครื่องหมายจราจร ข้างกำแพงหลังหมู่บ้านแกร์นด์โฮม ถ.บายพาสหนองมน ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี

ด้าน พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.59 เวลาประมาณ 02.00 น.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนำกำลัง ติดต่อล่อซื้อยาบ้าจาก นายวรเพชร หรือกอล์ฟ จำนวน 4 เม็ด จนสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง และนำตัวมาขยายผลติดต่อซื้อยาบ้าจำนวน 200 เม็ด จาก นายเอนก เนียมศรี และนายเอกลักษณ์ ละออเอี่ยม ซึ่งสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง จากนั้นได้ขยายผลติดต่อขอซื้อยาอีกจำนวน 10,000 เม็ด จากเอเย่นรายใหญ่รายหนึ่ง สามารถยึดของกลางไว้ได้เท่านั้น เนื่องจากไม่พบตัวผู้ต้องหา เพราะแก๊งยาเสพติดดังกล่าวนำยาบ้ามาวางไว้ ซึ่งยังไม่บอกสถานที่ พอวางเสร็จก็จะบอกสถานที่ให้มารับ จึงไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ จึงควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

สาวอ้างตัวเป็นครูหลอกเชิดเงิน 7 พัน ป้าเจ้าของร้านโชห่วย

พัทยา-(9 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 22.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.กฤษณา กมลรัตน์ อายุ 45 ปี ป้าเจ้าของร้านโชห่วย ตั้งอยู่เลขที่ 82/3 บริเวณกลางซอย 9 บุญสัมพันธ์ ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่าถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นครูเข้ามาตีสนิทหลอกหลวงแล้วเชิดเงินจำนวน 7,000 บาท แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า ของวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.หนองปรือ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า

thumbnail_S__2261145

โดย น.ส.กฤษณา เล่าให้ฟังว่า ช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ ได้มีผู้หญิง อายุประมาณ 40 ปี รูปร่างผอม สูงประมาณ 165 เซนติเมตร ทำทีเป็นลูกค้าเดินเข้ามาภายในร้านซื้อนมเปรี้ยว 1 กล่อง ก่อนจะตีเนียนหยิบเก้าอี้มานั่งบริเวณโต๊ะทำงานของเธอ จากนั้นหญิงดังกล่าวได้อ้างตัวเป็นครูสอนเด็กอนุบาลของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา พร้อมกับเข้ามาทำตีสนิทโดยอ้างเคยเช่าห้องพักหลังร้านและเป็นคนสนิทกับพี่สาวของเธออีกด้วย

จากนั้นหญิงดังกล่าวก็เริ่มชักชวนพูดคุยสารพัดเรื่องนานกว่า 20 นาที ก่อนจะออกอุบายด้วยการเสนอขายสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด อาทิเช่น สุรา ไข่ น้ำมัน และของใช้อื่นๆอีกมากมาย โดยอ้างว่าร้านค้าส่งในละแวกดังกล่าวยังต้องรับซื้อกับตน เนื่องจากได้รับโควตา จากสินค้าธงฟ้า เพราะว่าเป็นข้าราชการจะได้รับสิทธิ์พิเศษมากมาย ด้วยความที่หลงเชื่อจึงสั่งสินค้าหลายอย่าง ก่อนจะยื่นเงินจำนวน 7,000 บาท ค่าสั่งของให้กับหญิงดังกล่าวไป

thumbnail_S__2261141

ต่อมาหญิงดังกล่าว ก็ได้ชักชวนพูดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีลูกค้าเข้ามาซื้อบุหรี่ยาสูบ หญิงคนดังกล่าวได้อาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดบริเวณข้างร้านหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นจึงรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวงเอาเงินไปอย่างแน่นอน จึงขอกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านดูรูปพรรณสัณฐานของมิจฉาชีพ พบว่าหญิงคนดังกล่าวได้ขับรถมาดูลาดเลาจำนวน 2 รอบ ก่อนจะสบโอกาสเห็นเธอเฝ้าร้านอยู่เพียงลำพังจึงลงมือก่อเหตุ

ภายหลังเกิดเหตุจึงเดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.หนองปรือ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จึงร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าว พร้อมกับโพสต์เรื่องราว พร้อมภาพกล้องวงจรปิดกรณีดังกล่าวลงเพจ “เรารักพัทยา” ซึ่งมีคนติดตามข้อมูลข่าวสารจำนวนหลายหมื่นคน เพื่อเตือนภัยสังคม เพื่อไม่ให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อได้อีก

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

อดีตทหารเกณฑ์น้อยใจถูกพ่อด่า! แอบขโมยปืนเป่าขมับตัวเองอาการโคม่า

พัทยา-(8 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 00.10 น. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย เหตุเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านจอมเทียน การ์เด้นท์ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจและชุดสืบสวน ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสูง 2 ชั้น บริเวณบันไดประตูทางเข้า มีคราบเลือดเปรอะเปื้อนเต็มพื้นบ้าน โดยคนเจ็บทราบชื่อคือ นายจตุพร จอมสง่า อายุ 24 ปี อดีตทหารเกณฑ์ หลังจากใช้อาวุธปืนแบบแม๊กกาซีน ขนาด .32 ยิงตัวเองเข้าที่ขมับขวา หัวกระสุนทะลุออกหน้าผาก ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางบรรดากลุ่มเพื่อนสนิทได้พาร่างเข้าไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลเมืองพัทยา ก่อนหน้าเจ้าหน้าที่มาถึง

ส่วนอาวุธปืนที่คนเจ็บใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นไม่พบตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ ตำรวจจึงสอบสวนจนทราบว่าเพื่อนในกลุ่มได้เก็บรักษาเอาไว้ จากนั้นตำรวจนำตัวไปตรวจค้นรถยนต์ ปรากฏว่าพบอาวุธปืนแม๊กกาซีน ขนาด .32 บรรจุกระสุนเต็มแม๊กกาซีน ทางตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบ

สอบสวน นายเสกสรรค์ สูงศักดิ์ อายุ 40 ปี อาคนเจ็บ ให้การว่า คนเจ็บซึ่งเป็นหลานชายได้อาศัยช่วงวัดหยุดยาว นัดแนะกลุ่มเพื่อนสนิทชายหญิงรวมตัว 15 คน ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาเที่ยวยังเมืองพัทยาเพื่อพักผ่อนจำนวน 3 วัน สำหรับคืนเกิดเหตุซึ่งเป็นคืนสุดท้าย และช่วงเย็นก่อนเกิดเหตุคนเจ็บได้มีปัญหาทะเลาะกับทางครอบครัว จากนั้นคนเจ็บได้ขับรถยนต์กลับไปพระนครศรีอยุธยา เพื่อไปเคลียร์ปัญหา

โดยคนเจ็บถูกพ่อต่อว่าอย่างรุนแรง ก่อนคนเจ็บจะแอบขึ้นไปขโมยปืนที่บ้าน แล้วเดินทางกลับมาหาเพื่อนยังเมืองพัทยา ก่อนจะบอกรักเพื่อนทุกคน พร้อมกับยื่นเงินจำนวน 10,000 บาท ให้กับแฟนสาวของคนเจ็บ ก่อนจะแอบเพื่อนมานั่งบริเวณทางเข้าประตูหน้าบ้าน ใช้อาวุธปืนยิงขมับตัวเองเพื่อหนีปัญหา

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ช้างพังคลั่งกระทืบคราญดับต่อหน้านักท่องเที่ยว

พัทยา-(7 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 19.00 น. ร.ต.อ.อัศวิน จันโท รอง.สว.(สอบสวน) สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกช้างทำร้ายอาการสาหัส ภายในศูนย์การแสดงช้าง “สยามช้าง สาขา 2” ถนนสาย 36 (กระทิงลาย-ระยอง) ม.1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับจึงเดินทางตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง

ที่เกิดเหตุ เป็นสถานท่องเที่ยวของเอกชนเชิงอนุรักษ์ ในเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ภายในมีหมู่บ้านกระเหรี่ยงไทใหญ่จำลอง ขี่ช้างชมวิว และ รถม้า โดยมีช้างอยู่ในสังกัดกว่า 30 เชือก ตรวจสอบบริเวณหน้าบ้านชาวกระเหรี่ยงจำลอง พบเพียงกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.บางละมุง และ เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ คือ นายสายฝน ศาลางาม อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ อาชีพคราญช้าง โดยแพทย์เวรระบุ สาเหตุการตายเกิดจาก ร่างกายถูกกระแทกอย่างรุนแรง จนซีกโครงด้านขวาหักลงมากองอยู่ชายโครงด้านซ้ายทั้งแถบ ปอดฉีกทั้ง 2 ข้าง

S__24649796

จากการสอบสวน นายวินัย สร้อยแสง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเดิมเลขที่ 80 ม.10 ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ อาชีพคราญช้าง และ เป็นเจ้าของช้างที่ลงมือทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิต โดยให้การเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ช้างเพศเมีย ชื่อ พังหงษ์หยก อายุ 10 ปี กำลังพานักท่องเที่ยวชาวจีน 2 คนนั่งบนด้านหลังพาดูวิว บ้านหมู่บ้านกระเหรี่ยงจำลอง พามาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆ พังหงษ์หยก ก็เกิดอาการคุ้มคลั่ง วิ่งพุ่งชนผู้ตาย ที่กำลังยืนถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่ จนร่างกระเด็น ก่อนจะวิ่งไปกระทืบซ้ำ และใช้งากดกระแทกผู้ตายอย่างบ้าคลั่ง จนนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 คนที่นั่งอยู่บนหลังช้างล่วงตกลงมา ส่วนคราญช้างที่เห็นเหตุการณ์ต่างวิ่งเข้าไปช่วยห้าม ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยวชาวจีนกว่าครึ่งร้อย จากนั้นก็ช่วยกันนำร่างผู้ตายส่ง รพ.ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายวินัย สร้อยแสง เล่าต่ออีกว่า ปกติ พังหงษ์หยก เป็นช้างแสนรู้ ไม่ดื้อ และ ไม่ดุร้าย อีกทั้งยังเป็นช้างเด็ก จึงรู้สึกแปลกใจเพราะเหตุใด พังหงษ์หยก จึงมีอาการดังกล่าว ส่วนสาเหตุเบื้องต้น น่าเกิดจาก พังหงษ์หยก ไม่ชอบคราญช้างผู้ตาย หรือ อาจไม่ถูกกับช้างตัวใกล้ๆ จนเกิดอาการดุร้าย ทำร้ายผู้ตาย จนเสียชีวิต

S__24649788

พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง กล่าวว่า เบื้องต้น ได้ประสานให้เจ้าของสถานท่องเที่ยวดังกล่าว หยุดนำพังหงษ์หยก มาออกร่วมกิจกรรมต่างๆ โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งประสานสัตว์แพทย์ให้มาตรวจสอบอาการช้างอย่างใกล้ชิด ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ตกจากหลังช้างขณะเกิดเหตุโชคดีได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พร้อมทั้งยังสั่งการให้ตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียด เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

คนร้ายซิ่งจยย.กระชากสร้อยหนุ่มจีน ได้ครึ่งเพียง เส้นส่วนอีกครึ่งเส้นตกที่พื้น

พัทยา-(7 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้พาตัวผู้เสียหาย นายซอง ฮู อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.หญิง เต็มตรอง รอดศิริ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังถูกคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำได้ไปครึ่งเส้น เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านสบายรูม อาบอบนวด ถนนพัทยาสายสอง

image

โดย ผู้เสียหาย ให้การว่า ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่บริเวณถนนพัทยาสายสอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น สวมเสื้อสีดำ ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ ปิดบังใบหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาด้านหลังแล้วเอื้อมมือกระชากสร้อยคอทองคำ ที่สวมใส่อยู่ มูลค่า 50,000 บาท ขาดติดมือคนร้ายไปครึ่งเส้น ส่วนอีกครึ่งเส้นตกอยู่กับพื้นถนน จากนั้นคนร้ายจะเร่งเครื่องหลบหนีไป หลังเกิดเหตุได้มีอาสาสมัครอยู่บริเวณนั้นพอดี จึงพาตัวเข้าแจ้งความร้องทุกข์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหยื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถูกคนร้ายวิ่งราวทรัพย์และล้วงกระเป๋า พบว่าระยะช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในพื้นที่เมืองพัทยาและใกล้เคียง ถูกคนร้ายก่อเหตุรายวัน โดยบางวันมีนักท่องเที่ยวตกเป็นเหยื่อเกือบ 10 ราย ซึ่งถือว่าคนร้ายตระเวนก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ถึงแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีวางมาตรการป้องกันและกวนขันจับกุมแล้วก็ตาม

ภาพ/ข่าว Ku Salick