หมูป่า เข้าที่ 1 สาย D หลังโหดไล่ฟัด สจ.การันตี 5-2

พัทยา-(24 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. ที่ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม สตาร์ซ็อกเกอร์ พัทยาใต้ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีการแข่งขันฟุตบอล 7 คน รายการ อารีน่า ซ็อกเกอร์ เซเว่น คัพ 2016 สาย D แมตช์ที่ 3 ระหว่าง ทีมหมูป่า(ชุดเขียว-ดำ) พบกับ ทีมสจ.การันตี(ชุดชมพู-น้ำเงิน)

ซึ่งก่อนลงสนามทั้ง 2 ทีม แข่ง 2 แมตช์ มี 6 คะแนนเท่ากัน โดยแมตช์นี้เป็นการหาผู้ชนะเป็นที่ 1 และที่ 2 ในสาย ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมต่อไป

เริ่มเกมได้เพียง 8 นาที หมูป่า มาได้ถึง 2 ประตู จากการยิงของ เดชณรงค์ น.3,และ น.8 หมูป่า ขึ้นนำไปก่อน 2-0 จากนั้น สจ.การันตี เริ่มตั้งเกมได้และหาจังหวะจบสกอร์แต่ก็ยังเป็นทางนายทวาร หมูป่า ที่ต้องออกแรงเซฟ จนมาช่วงท้ายเกม หมูป่า รักษาสกอร์ไว้ไม่อยู่มาเสียประตูให้กับทาง สจ.การันตี และเป็นทาง มนตรี ที่มาซัดประตูตีไข่แตก จบครึ่งแรก หมูป่า นำ สจ.การันตี 2-1

S__19652649

มาต่อกันในครึ่งเวลาหลัง หมูป่า ยังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง และมาได้ 2 ประตูรวด จากการยิงของ ไสว น.26 และ สิปปวิทย์ น.29 ทำให้ หมูป่า ขยับขึ้นมานำ สจ.การันตี เป็น 4-1

หลังจากที่ สจ.การันตี เสียประตูก็ได้เปิดเกมบุกใส่ จนมาได้ประตูจากการยิงของ อนุพงษ์ น.35 สจ.การันตี ไล่ตามมาเป็น 2-4 และช่วงท้ายเกม (น.39) หมูป่า มาได้ประตูจากการยิงของ โอม ซึ่งเป็นประตูส่งท้าย ทำให้จบเกม หมูป่า เอาชนะ สจ.การันตี ไปด้วยสกอร์ 5-2 เก็บ 3 แต้ม แข่ง 3 แมตช์ มี 9 แต้ม เป็นที่ 1 ในสาย D จะเข้าไปพบกับ หมูอ่ะป่าว ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เวลา 22.00 น. ส่วน สจ.การันตี เข้าเป็นที่ 2 ในสาย จะพบกับ ก.ดัสกร เวลา 21.00 น.

ซึ่งการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย จะมีขึ้นใน วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน 2559 คู่แรกจะเริ่มเวลา 20.00 น. ที่ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม สตาร์ซ็อกเกอร์ พัทยาใต้

ช้างชน ไล่บด พีเอสทูแฮนด์ 3-1 คว้า 3 แต้ม ศึก ไอทีแมน ลีก 2016

พัทยา-(24 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 00.00 น. ที่ สนามพัทยาช็อกเกอร์ ซ.เขาน้อย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีการแข่งขันฟุตบอล 7 คน รายการ ไอทีแมน ลีก ครั้งที่ 6 แมตช์ที่ 3 ระหว่าง ทีมช้างชน(ชุดขาว-ดำ) ทีมอันดับ 3 ของตาราง พบกับ ทีมพีเอสทูแฮนด์(ชุดเขียว) ทีมอันดับ 9 ของตาราง

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก ช้างชน เป็นฝ่ายเริ่มเล่นบอลก่อนและเปิดเกมบุกใส่อย่างต่อเนื่อง ด้วยรูปเกมที่เหนือกว่าทำให้ ช้างชน ออกนำไปก่อน 1-0 จากการยิงของ พานุวัฒน์

พีเอสทูแฮนด์ เริ่มตั้งเกมได้และมีโอกาสเปิดเกมรุกใส่ทาง ช้างชน แต่ในจังหวะจบสกอร์ยังคมไม่พอ บอลไม่สามารถผ่านมือนายทวารของ ช้างชน ทำให้จบครึ่งเวลาแรก ช้างชน ออกนำ พีเอสทูแฮนด์ ไปก่อน 1-0

มาต่อกันในครึ่งเวลาหลังยังคงเป็นทาง ช้างชน ที่สามารถต่อบอลกันได้ดีกว่าและมาได้เพิ่ม 2 ประตูรวด จากการยิงของ พานุวัฒน์ น.24, และธนา น.30 ช้างชน ขยับนำทิ้งห่างออกไปเป็น 3-0

แต่ทาง พีเอสทูแฮนด์ ยังไม่ละความพยายามเดินหน้าเปิดเกมรุกสู้จนมาได้ประตูตีไข่แตก จากการยิงของ อ้น แต่เวลามีไม่เพียงพอ ทำให้จบเกม ช้างชน สามารถเอาชนะ พีเอสทูแฮนด์ ไปด้วยสกอร์ 3-1 เก็บ 3 แต้ม

หลังจบเกม ช้างชน ขยับขึ้นไปอยู่ อันดับ 2 ของตาราง โดยแข่ง 3 แมตช์ มี 7 แต้ม ส่วนทางด้าน พีเอสทูแฮนด์ แข่ง 3 แมตช์ มี 1 แต้ม ยังคงอยู่ อันดับ 9 ของตาราง

แสบโมบาย พลิกชนะ ยักษ์เขียว เฉียดฉิว 4-3 ศึก ไอทีแมน ลีก 2016

พัทยา-(23 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. ที่ สนามพัทยาช็อกเกอร์ ซ.เขาน้อย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีการแข่งขันฟุตบอล 7 คน รายการ ไอทีแมน ลีก ครั้งที่ 6 แมตช์ที่ 3 ระหว่าง ทีมแสบโมบาย (ชุดน้ำเงิน-ดำ) ทีมอันดับ 1 ของตาราง พบกับ ทีมยักษ์เขียว(ชุดเขียว-ดำ) ทีมอันดับ 5 ของตาราง

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกได้เพียง 1 นาที ยักษ์เขียว ก็มาได้ประตูขึ้นนำจากการหลุดเข้ามาทางด้านกาบขวา เป็นทาง ดนัย ที่ยัดบอลไปทางเสาแรกเบียดตัวผู้รักษาประตูเข้าไป ยักษ์เขียว ออกนำไปก่อน 1-0

แต่ยังไม่ทันไร ยักษ์เขียว มาได้เฮอีกครั้งในจังหวะที่ บัญชา หลุดเข้าไปก่อนจะใช้ปลายเท้าจิ่มบอลผ่านตัวผู้รักษาประตูเข้าไป ยักษ์เขียว ออกนำห่างเป็น 2-0

แสบโมบาย เริ่มมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นหวังทวงประตูตีไข่แตกและก็เป็นผลสำเร็จเมื่อ นิวัฒน์ เปิดบอลจากทางด้านกาบซ้ายผ่านมาหน้าประตู เป็นทาง วินัย ที่วิ่งเข้ามาแปด้วยเท้าขวา เข้าไป แสบโมบาย ขยับไล่ตามเป็น 1-2 ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบครึ่งเวลาแรก

มาต่อกันในครึ่งเวลาหลัง แสบโมบาย ยังคงเดินหน้าบุกอยางต่อเนื่องจนมาได้เพิ่มอีก 2 ประตูรวด จากการยิงของ โชคชัย น.25, และนิวัฒน์ น.28 ส่งผลทำให้ แสบโมบาย พลิกขึ้นนำ ยักษ์เขียว 3-2

น.34 เจริญทอง ผู้เล่นยักษ์เขียว ได้มีโอกาสหลุดเข้าไปซัดเต็มข้อบอลพุ่งแรงผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไป ยักษ์เขียว ไล่กลับมาตีเสมอเป็น 3-3 และก่อนหมดเวลาเพียง 3 นาที แสบโมบาย มาได้ประตูปิดท้าย จากการยิงของ วินัย ซึ่งเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้ ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน แสบโมบาย พลิกกลับมาชนะ ยักษ์เขียว สุดมันส์ 4-3

แสบโมบาย หลังเก็บ 3 แต้ม ยังคงรั้งอันดับ 1 ต่อไป แข่ง 3 แมตช์ มี 9 แต้ม ส่วนทางด้าน ยักษ์เขียว ตกลงมาอยู่ อันดับ 5 ของตาราง โดยแข่ง 3 แมตช์ มีอยู่ 3 แต้ม

ซุ้มยุงชุม พลิกเฉือน ดราก้อน คาสเทล เอฟซี 3-2 ศึก ไอทีแมน ลีก 2016

พัทยา-(23 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 22.00 น. ที่ สนามพัทยาช็อกเกอร์ ซ.เขาน้อย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีการแข่งขันฟุตบอล 7 คน รายการ ไอทีแมน ลีก ครั้งที่ 6 แมตช์ที่ 3 ระหว่าง ทีมดราก้อน คาสซิล เอฟซี(ชุดขาว) ทีมอันดับ 7 ของตาราง พบกับ ทีมซุ้มยุงชุม(ชุดดำ) ทีมอันดับ 8 ของตาราง

เริ่มเกมได้เพียง 3 นาที ดราก้อน คาลซิล เอฟซี มาได้ประตูขึ้นนำ ซุ้มยุงชุม อย่างรวดเร็ว 1-0 จากการยิงของ ชิติพัทธ์ จากนั้นเวลาผ่านไปจนครึ่งทางของครึ่งเวลาแรก(น.10) ซุ้มยุงชุม เริ่มตั้งเกมได้เปิดเกมรุกใส่อย่างต่อเนื่อง และเป็นทาง อนันต์ ได้จังหวะหยุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนซัดประตูให้ ซุ้มยุงชุม ไล่ตามตีเสมอ ดราก้อน คาสเทล เอฟซี มาเป็น 1-1

น.13 ซุ้มยุงชุม เริ่มได้ใจ เปิดเกมบุกหนักจนมาได้ประตูเพิ่ม จากการยิงนอกกรอบเขตโทษของ จิรพงษ์ บอลพุ่งเสียบโคนเสาเข้าไป ซุ้มยุงชุม พลิกขี้นนำ 2-1 จนมาช่วงท้ายเกมครึ่งเวลาแรก น.19 ดราก้อน คาลซิล เอฟซี ก็มาได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 จากการยิงของ สุทธิพงษ์ จบครึ่งแรกเสมอกัน 2-2

มาต่อกันในครึ่งเวลาหลัง ซุ้มยุงชุม ยังคงเดินหน้าบด ดราก้อน คลาสเทล เอฟซี แบบไม่ให้ตั้งตัว ก่อนจะมาได้ประตูที่ 3 จากการยิงของอนันต์ ซึ่งเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ หลังจากขึ้นนำ ซุ้มยุงชุม เริ่มคลายความกดดัน และสร้างจังหวะเข้าทำได้หลายต่อหลายครั้งแต่ยังไม่ผ่านมือผู้รักษาประตู ทำให้จบเกม ซุ้มยุงชุม พลิกกลับมาชนะ ดราก้อน คอสเทล เอฟซี 3-2 เก็บ 3 แต้ม

ส่งผลให้ ซุ้มยุงชุม ขยับขึ้นไปอยู่ อันดับ 4 ของตาราง แข่ง 3 แมตช์ มี 4 แต้ม ส่วนทางด้าน ดราก้อน คาสเทล เอฟซี ตกลงมาอยู่อันดับ 8 ของตาราง แข่ง 3 แมตช์ มี 1 แต้ม

สาวอุบลโร่แจ้งความ หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็น ตร.บุกจับแล้วรีดทรัพย์ ทั้งพาไปขืนใจ

พัทยา-(22 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีหญิงสาวชาวไทยคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าตัวเองถูกกลุ่มตำรวจนอกรีตโรงพักแห่งหนึ่งทำการจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติด แล้วทำการลักทรัพย์ , ข่มขู่รีดไถเงินเพื่อแลกอิสรภาพ และพาไปข่มขืนกระทำชำเรา กำลังจะเดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

ภายในห้องสอบสวนบนชั้น 2 พบ พ.ต.ท.ออมสิน สุขการค้า หัวหน้างานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา กับ ร.ต.อ.สิระภูเดชน์ ชำนาญกิจ รองสารวัตร (สอบสวน) เจ้าของคดี กำลังสอบปากคำ น.ส.อ้อ (นามสมมุติ) (น.ส.เพชรมณี ดวงแสง หรือแอน) อายุ 33 ปี ชาว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.อุบลราชธานี ก่อนที่ผู้เสียหายจะออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพเป็นหมอนวดแผนไทยอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่ภายหลังถูกทางการเกาหลีใต้จับกุมในข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก่อนถูกเนรเทศกลับประเทศไทย และเพิ่งมาขอพักอาศัยอยู่กับเพื่อนชื่อ น.ส.วรรณนิภา หรือบิว เข้มแข็ง ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งในซอยเฉลิมพระเกียรติ 9 ย่านพัทยาเหนือ และเพื่อรอเวลาหางานใหม่

กระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนนั่งกินข้าวอยู่กับ น.ส.วรรณนิภา หรือบิว และ น.ส.ฟาง (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) เพื่อนของ น.ส.วรรณนิภา ซึ่งรู้จักกันแค่เพียงผิวเผิน จู่ๆ มีชายฉกรรจ์จำนวน 4 คน และเด็กชายอายุประมาณ 5 ขวบ 1 คน ใช้กุญแจไขประตูเปิดเข้ามาในห้อง พร้อมกับอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาจอมเทียน ทราบชื่อภายหลังคือ นายอึ่ง ซึ่งอ้างตัวเป็นหัวหน้าชุด , นายเอ , นายโรจน์ และหนึ่งในนั้นมีตำรวจยศ “ด.ต.” รวมอยู่ด้วย จากนั้นทั้งหมดได้ทำการค้นห้องพัก ก่อนฉวยเอาพระเครื่องของตนรวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ ไปเป็นของตัวเองโดยอ้างว่าจะเก็บไว้ให้ ซึ่งจากการตรวจค้นพบยาไอซ์จำนวน 40 กรัม อยู่ในตัว น.ส.วรรณนิภา หรือบิว ส่วนตนเองก็ยอมรับว่าเสพยาจริง ทางตำรวจจึงนำตัวไปที่ สภ.นาจอมเทียน ก่อนพาไปกักตัวที่ห้องทำงาน และยังไม่ถูกนำตัวเข้าห้องควบคุม

ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย. น.ส.วรรณนิภา หรือบิว มาบอกว่า ตำรวจให้หาเงินมาจำนวน 5,000 บาท เพื่อจะใช้ล่อซื้อยาเสพติด ถ้าหามาไม่ได้ตำรวจก็จะไม่ปล่อยตัว ตนจึงโทรศัพท์ไปยืมพี่ชายซึ่งเป็นตำรวจที่กรุงเทพฯ และได้เงินมาจำนวน 2,000 บาท รวมกับเงินสดในบัญชีธนาคารของตนอีก 1,500 บาท เป็นเงินทั้งหมด 3,500 บาท เลยต่อรองว่ามีเงินเพียงเท่านี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงให้ตนโอนเข้าบัญชีของ น.ส.วรรณนิภา และไม่ทราบว่าเพื่อนสาวเอาเงินไปล่อซื้อยาเสพติดตามที่บอกหรือไม่ กระทั่งกลางดึกวันที่ 10 มิ.ย. ชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจชื่อต้น (ไม่ทราบยศ) และเข้าเวรห้องควบคุมอยู่ในขณะนั้น ได้เรียกตนออกมาจากห้องขัง ซึ่งในขณะนั้นมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันถูกคุมขังอยู่รวม 7 คน ก่อนพาไปนอนยังห้องๆ หนึ่งบนสถานีตำรวจ พร้อมกับบอกว่าจะทำเครื่องหมายฝากไว้เพื่อไม่ให้ใครมายุ่ง จากนั้นจึงใช้ปากดูดลำคอของตนจนเป็นรอยจ้ำ และพยายามจะปลุกปล้ำขืนใจ แต่ตนอ้างว่ามีประจำเดือน นายต้น จึงผละออกไปและนำตนกลับไปยังห้องควบคุมเหมือนเดิม

ถัดไปเพียงวันเดียว น.ส.วรรณนิภา หรือบิว มาบอกให้ตนหาเงินมาอีก 15,000 บาท เพื่อใช้ล่อซื้อยาอีกครั้ง และครั้งนี้หากหาเงินมาได้ตำรวจก็จะปล่อยตัว ตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงโทรศัพท์ไปหาพี่สาวที่ต่างจังหวัดเพื่อขอความช่วยเหลือ พี่สาวจึงเอาสร้อยคอทองคำไปจำนำแล้วส่งเงินมาให้ ก่อนที่ตนโอนเข้าบัญชี น.ส.วรรณนิภา หรือบิว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับการปล่อยตัว และในคืนวันเดียวกันนั้นนายต้น ที่เข้าเวรหน้าห้องควบคุม ได้เรียกตนออกมาจากห้องขังอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่าจะพาไปขับรถเที่ยวเพื่อให้หายเครียด แต่ภายหลังกลับพาตนขับรถเข้าไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งที่กำลังก่อสร้าง ตั้งอยู่หลังลุมพินีคอนโดมิเนียม ถนนจอมเทียนสาย 2 ย่านชายหาดจอมเทียน ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว ก่อนพยายามปลุกปล้ำขืนใจ แต่ตนมีประจำเดือนประกอบกับอวัยวะเพศของนายต้น ไม่แข็งตัว ทำให้ไม่สำเร็จความใคร่ ก่อนที่จะพาตนกลับไปคุมขังตามเดิม

จนเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. พี่ชายซึ่งเป็นตำรวจอยู่โรงพักแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้เดินทางมาเยี่ยมตนพร้อมกับสอบข้อเท็จจริง ก่อนที่จะไปเจรจากับนายอึ่ง ที่อ้างตัวเป็นหัวหน้าชุดจับกุม นายอึ่ง จึงยื่นข้อเสนอให้หาเงินมาจำนวน 100,000 บาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ แต่พี่ชายหาเงินมาได้เพียง 60,000 บาท เลยทำการต่อรองจนนายอึ่ง ยินยอม จากนั้นมีชายไทยชื่อ นายหวัง มารับเงินจำนวนดังกล่าว แต่ภายหลังนายอึ่ง กลับบอกว่าตนเองจะต้องถูกดำเนินคดีพนันฟุตบอล หากไม่อยากถูกดำเนินคดีก็ต้องจ่ายเงินอีก ตนเลยบอกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวเหลืออยู่แค่ 3,000 บาท ทางนายอึ่ง ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนยึดเงินจำนวนดังกล่าวของตนไป แล้วปล่อยตัวออกมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน

ภายหลังตนได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาญาติๆ และคิดว่าการกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้อง จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับไปตรวจร่างกายที่ รพ.บางละมุง และ รพ.เมืองพัทยา ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าถูกข่มขืนกระทำชำเรา (ตรวจร่องรอยการมีเพศสัมพันธ์) จากนั้นจึงเดินทางเข้าร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี , กระทรวงยุติธรรม และจเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความช่วยเหลือและนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย

ด้าน ร.ต.อ.สิระภูเดชน์ ชำนาญกิจ รองสารวัตร (สอบสวน) เจ้าของคดี เผยว่า เบื้องต้นได้ประสานไปยังตำรวจชุดสืบสวนเพื่อให้ตรวจสอบกล้องจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พร้อมกับรวบรวมพยาน-หลักฐานส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยืนยันว่าจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่าผิดจริงก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจราชการ ที่ สนามบินอู่ตะเภา

สนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินหลักของกำลังอากาศนาวี ก่อสร้างเสร็จและเปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 นับจนถึงปัจจุบันสนามบินอู่ตะเภาได้เปิดใช้งานมาถึง 50 ปีแล้ว ด้วยตำบลที่ และขนาดของสนามบิน โดยเฉพาะความยาว และความแข็งแรงของทางวิ่ง( Runway) ทางขับ(Taxiway) และลานจอดรถ(Apron) ทำให้สนามบินอู่ตะเภาสามารถรองรับอากาศยานได้ทุกประเภทแม้กระทั่งเครื่อง Airbus 380 ที่เป็นเครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน หรือเครื่องบิน Antronov 225 ซึ่งเป็นเครื่องบินขนส่งที่ใหญ่ที่สุด สามารถขึ้น-ลง สนามบินอู่ตะเภาได้อย่างปลอดภัย

S__1327141

จากศักยภาพของสนามบินทำให้รัฐบาลได้เพิ่มวัตถุประสงค์การใช้งานสนามบินอู่ตะเภาจากการใช้งานทางทหารเพียงอย่างเดียว เป็นให้สามารถรองรับการใช้งานทางพลเรือนได้ด้วย เริ่มจากการประกาศให้เป็นสนามบินสำรองของท่าอากาศยานดอนเมืองเมื่อ พ.ศ. 2517 ต่อมาประกาศให้เป็นสนามบินศุลกากร (ใช้ขนส่งสินค้าได้) เมื่อ พ.ศ. 2519 จนกระทั่งเมื่อปี 2532 กระทรวงคมนาคมได้ประกาศให้สนามบินอู่ตะเภาเป็นท่าอากาศยานนานาชาติโดยมีกองทัพเรือเป็นผู้บริหารงาน จะเห็นได้ว่าสนามบินอู่ตะเภามีฐานะเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่กองทัพเรือบริหารงานมาเกือบ 30 ปีแล้ว

ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาได้ให้ปริการกับเที่ยวบินในลักษณะต่างๆ ตามความต้องการของธุรกิจในแต่ละห้วงเวลา ทั้งการขนส่งสินค้า การขนส่งผู้โดยสารทั้งที่เป็นเที่ยวบินประจำ และเที่ยวบินเช่าเหมาลำในห้วงฤดูกาลท่องเที่ยว มีเส้นทางการบินทั้งในประเทศ และเส้นทางระหว่างประเทศไปยังทั้งยุโรปและเอเชีย มีสายการบินของทั้งไทย และต่างประเทศมาใช้บริการเสมอมา อย่างไรก็ดี จากการขยายตัวของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ทำให้ผู้มาใช้บริการที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นผู้โดยสารที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการท่องเที่ยวที่เมืองพัทยาเป็นหลัก

S__1327145

จากการที่สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยได้รับการนิยมอย่างแพร่หลาย ธุรกิจท่องเที่ยวมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วประกอบการเดินทางโดยเครื่องบินที่นิยมมากขึ้นทำให้จำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมืองมีความคับคั่งมากขึ้น รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาให้สามารถรองรับผู้โดยสารให้มากขึ้น โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม และร่วมกับกองทัพเรือพัฒนาอาคารสถานที่ของท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา นอกจากนี้การขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินทำให้ความต้องการด้านการซ่อมบำรุงสนามบินเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลจึงมีนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศ ทั้งเรื่องการตั้งนิคมซ่อมบำรุงอากาศยาน การพัฒนาอุตสาหกรรมอากาศยานด้านต่างๆ ตามแผน New S – curve ซึ่งท่าอากาศยานอู่ตะเภาจะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาดังกล่าว ด้วยตำบลที่มีรายล้อมด้วยนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และขนาดของสนามบินดังที่กล่าวแล้วข้างต้น

กองทัพเรือตระหนักดีถึงหน้าที่ในการส่งเสริมความเจริญของประเทศ เนื่องด้วยความมั่นคงและมั่งคั่ง จะต้องได้รับการพัฒนาควบคู่กันไปอย่างสมดุลเพื่อให้มีส่วนส่งเสริมซึ่งกันและกัน ความแข็งแกร่ง ด้านความมั่นคงจะทำให้ธำรงรักษาทรัพยากรไว้ได้ และสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน ในขณะที่ความมั่งคั่งจะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี รัฐบาลมีรายได้เพียงพอสำหรับการส่งเสริมความสามารถของกองทัพในการรักษาความมั่นคงของประเทศ กองทัพเรือจึงมุ่งมั่นที่จะใช้ศักยภาพที่มีอยู่ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติอย่างเต็มความสามารถ จากตำบลที่ของสนามบินอู่ตะเภาที่อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม ใกล้พื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศ แหล่งพลอยที่รู้จักกันทั่วโลก และใกล้ท่าเรือขนาดใหญ่หลายแห่ง ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ทำให้การพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาจะมีส่วนสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน

S__1343490

นอกจากการวางแผนเพื่อรองรับนโยบายรัฐบาลในการเพิ่มความสามารถในการรับผู้โดยสาร และการเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานแล้ว กองทัพเรือได้มีแนวคิดในการเสริมความแข็งแกร่งในเรื่องดังกล่าว และใช้ศักยภาพที่มีอยู่เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินอย่างครบวงจร โดยจัดเตรียมแผนงานสำหรับการส่งเสริมให้ท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นศูนย์การขนส่งสินค้าทางอากาศ และเป็นศูนย์ฝึกบุคลากรด้านธุรกิจการบิน ทั้งการฝึกนักบิน ช่าง และบุคลากรสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากดำเนินการได้ครบถ้วนจะทำให้ท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการด้านอุตสาหกรรมการบินอย่างครบวงจร ทั้งนี้การวางแผนในเรื่องดังกล่าวได้คำนึงความรวดเร็วในการเริ่มดำเนินการ และการลงทุนเฉพาะในเรื่องที่จำเป็น โดยพิจารณาใช้โครงสร้างสนามบินที่มีอยู่แล้ว อาทิการจัดวางผังพื้นที่คลังสินค้าให้สามรถใช้ลานจอดเครื่องบินขนาดใหญ่ที่มีอยู่แล้วได้ทันที และอยู่ในพื้นที่ต่อเนื่องกับศูนย์อุตสาหกรรมซ่อมอากาศยาน รวมทั้งสามารถต่อเชื่อมกับโครงข่ายการคมนาคมภายนอกได้สะดวก การจัดวางพื้นที่ศูนย์อบรมให้ต่อเชื่อมกับโรงซ่อมอากาศยาน และคลังขนส่งสินค้า เพื่อให้ง่ายต่อการฝึกงานของผู้เข้ารับการศึกษา รวมทั้งการจัดพื้นที่ต่างๆ ให้สามารถต่อเชื่อมกับทางวิ่ง ทางขับ และลานจอดรถ ที่มีอยู่แล้วได้ และหากมีการก่อสร้างเพื่อขยายขีดความสามารถเพิ่มเติมก็ไม่จำเป็นต้องหยุดการดำเนินงานที่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังได้วางแผนธุรกิจร่วมกับท่าเรือพาณิชย์สัตหีบเพื่อเชื่อมโยงการขนส่งทั้งสินค้า และนักท่องเที่ยวไปยังแหล่งต่างๆได้ จะเห็นได้ว่ากองทัพเรือ ได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อใช้ศักยภาพที่มีอยู่สนับสนุนแผนพัฒนาประเทศของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการบิน การเชื่อมโยงการขนส่งทางถนน ทางราง ทางอากาศ และทางน้ำเข้าด้วยกัน ตลอดจนการพัฒนาทุนมนุษย์ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจพัฒนาไปอย่างมั่นคง ยั่งยืน

กองทัพเรือเชื่อมั่นว่าหากการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกโดยมีท่าอากาศยานอู่ตะเภา และท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่มีการเดินหน้าอย่างสอดคล้องประสานกันจะช่วยกระตุ้นให้ประเทศไทยเป็นศูนย์การขนส่งของอาเซียนในอนาคตอันใกล้

อาชีวะพระมหาไถ่พัทยา ซิวรางวัลชนะเลิศ ตอบปัญหาและบรรยายธรรมะ 

โรงเรียนอาชีวะพระมหาไถ่พัทยาซิวรางวัลชนะเลิศ ตอบปัญหาและบรรยายธรรมะ ตามโครงการธรรมะออนไทม์ ปีที่ 7 ครั้งที่ 19 ประจำปี 59
ตามที่ไดอาน่ากรุ๊ปพัทยา โดย นางโสภิญ เทพจักร กรรมการผู้จัดการในเครือไดอาน่ากรุ๊ปพัทยา ได้กำหนดจัดแข่งขันตอบปัญหาและบรรยายธรรมะ ตามโครงการธรรมะออนไทม์ ปีที่ 7 ครั้งที่ 19 ตอน ธรรมะกับเยาวชน ที่กำหนดัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 มิถุนายน 2559 โดยมีตัวแทนจากโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่เข้าร่วมนั้น

S__1409039

พัทยา-(22 มิ.ย. 59) ที่ ห้องประชุมจักรเทพพิมาน โรงแรมไดอาน่าการ์เด้นรีสอร์ท พัทยาเหนือ จ.ชลบุรี กิจกรรมโครงการธรรมะออนไทม์ ปีที่ 7 ครั้งที่ 19 ตอน ธรรมะกับเยาวชน เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เป็นการแข่งขันตอบปัญหาธรรมะรากแก้ว โดยใช้หลักสูตรธรรมศึกษาชั้นตรีรวม 20 ข้อ และแข่งขันบรรยายธรรมะไมค์ทอง เพื่อเก็บคะแนนในรอบสุดท้าย

ปรากฏว่าทีมที่ชนะเลิศประจำปีนี้ได้แก่ ทีมจากโรงเรียนอาชีวะพระมหาไถ่พัทยา ได้คะแนนเฉลี่ย 80.60% ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ตกเป็นของทีมจากโรงเรียนศรีสุวิช ได้คะแนนเฉลี่ย 78.60% และทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ทีมจากเมืองพัทยา 11 ได้คะแนนเฉลี่ย 77.00% ตามลำดับ พร้อมรับรางวัลเกียรติบัตรและทุนการศึกษาไปครอง

S__1409042

สำหรับโครงการธรรมะออนไทม์ ถือเป็นกิจกรรมส่งเสริมการสืบทอดพระพุทธศาสนาที่ทางไดอาน่ากรุ๊ปพัทยา ดำเนินการจัดขึ้นมาอย่างยาวนาน และต่อเนื่อง โดยนิมนต์พระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่มาแสดงธรรมให้เด็กนักเรียน และเยาวชนเพื่อปูพื้นฐานทางจิตใจด้วยหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และยังได้จัดให้เยาวชนผู้ร่วมกิจกรรมส่งเรียงความสรุปสาระการฟังธรรมเพื่อให้เกิดศีล สมาธิ และปัญญาในการดำรงชีวิตต่อไป

ภาพ/ข่าว เก่งลิง

ตร.บางละมุง จับ 4 หนุ่ม-สาว เอเย่นต์ค้านรกรายใหญ่เมืองชลบุรี ยึดทรัพย์-ของกลาง เพียบ

พัทยา-(22 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องสืบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พ.ต.อ.จักรทิพย์ พาราพันธกุล ผกก. พ.ต.ท.ดรัณภพ สระทองอยู่ รอง ผกก.ปป. พ.ต.ท.อภิชนัน วัฒนวรางกูล รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ปริญญาวุฒิ คุรุการโกศล สว.สส. พร้อมกำลังชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว 4 ผู้ต้องหาเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี

ประกอบด้วย นายนัธพร สมบูรณ์สิทธิ์ อายุ 31 ปี นายกฤติธฤต แก้วศรีสกุล อายุ 28 ปี นายชูชีพ ชัยศิริ อายุ 31 ปี และน.ส.ยุวะดี อินอุดม อายุ 31 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า 6,071 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนักรวม 188 กรัม ยาอี 134 เม็ด ยาเค 29 ขวด อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 ยี่ห้อ โคลท์ 1 กระบอก อาวุธปืนยาวลูกกรด ขนาด .22 พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และอายัดทรัพย์เป็นรถยนต์เก๋งจำนวน 2 คัน มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านบาท

พ.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า ตำรวจได้สืบทราบว่านายนัธพร มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ต่อมาตำรวจสืบสวนหาข่าวจนแน่ใจว่านายนัธพร ขับรถเก๋งกำลังจะนำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ชุมชนบ้านโรงโป๊ะ ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจค้น ปรากฏว่าพบยาบ้าจำนวน 5,000 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 136 กรัม ยาเค 11 ขวด และอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก

จากการสอบสวน นายนัธพร รับสารภาพว่าซื้อยาเสพติดดังกล่าวมาจากกฤติธฤต ตำรวจจึงขยายผลไปจับกุมตัวนายกฤติธฤต พร้อมพวกที่เหลือไว้ได้ภายในห้องพักรีสอร์ทหรูแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.หนองปลาไหล ขณะกำลังมั่วสุมยาเสพติดกันอย่างสนุกสนาน พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 1,071 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนักรวม 52กรัม ยาเค 18 ขวด ยาอี 134 เม็ด และอาวุธปืนยาว 1 กระบอก นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์สินตาม พรบ.ยาเสพติด เป็นรถยนต์เก๋งจำนวน 2 คัน

สำหรับตัวนายนัธพร และนายกฤติธฤต เป็นเอเย่นต์ยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเครือข่ายส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นสายบันเทิงที่ชอบใช้ยาเสพติดไปปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติดตามรีสอร์ทและสถานบันเทิงในพื้นที่เมืองพัทยา โดยตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เคยต้องโทษคดียาเสพติดมาแล้วหลายครั้งและเพิ่งจะพ้นโทษออกมาไม่นาน โดยไม่รู้สึกเข็ดหลาบหันเหกลับมาค้ายาเสพติดอีกครั้ง แต่ไม่รอดถูกตำรวจจับได้ในที่สุด

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พีพีพี เอฟซี บี เฉือนชนะ 12 ราศี 1-0 กอดคอตกรอบแรก สาย B

พัทยา-(22 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. ที่ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม สตาร์ซ็อกเกอร์ พัทยาใต้ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีการแข่งขันฟุตบอล 7 คน รายการ อารีน่า ซ็อกเกอร์ เซเว่น คัพ 2016 สาย B แมตช์ที่ 3 ระหว่าง ทีมพีพีพี เอฟซี บี(ชุดทอง-ดำ) พบกับ ทีม12 ราศี(ชุดส้ม-ดำ)

โดยก่อนเริ่มเกมการขัน พีพีพี เอฟซี ลงสนาม 2 แมตช์ ไม่มีแต้ม ส่วนทางด้าน ทีม12 ราศี ลงสนาม 2 แมตช์ มี 3 แต้ม และต้องเอาชนะ พีพีพี เอฟซี บี ในเกมนี้ หวังเก็บ 3 แต้ม เพื่อลุ้นเข้าไปสู้รอบต่อไป

เริ่มเกมครึ่งเวลาแรกเป็นทาง 12 ราศี เดินหน้าบุกใส่ พีพีพี เอฟซี บี อย่างหนักหวังทำสกอร์ขึ้นนำแต่ก็ยังไร้ผล และได้มาถูกเกมโต้กลับไวของ พีพีพี เอฟซี บี เกือบเสียประตู แต่ยังคงเป็นทางผู้รักษาประตู 12 ราศี ที่สามารถเซฟเอาไว้ได้ ทั้ง 2 ทีมยังคงมีโอกาสเข้าทำสกอร์แต่ก็ยังจบกันไม่ลง ทำให้จบครึ่งเวลาแรก เสมอกันไป 0-0

มาต่อกันในครึ่งเวลาหลังทั้ง 2 ทีมยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมลงสู่สนาม และยังคงเป็นทาง 12 ราศี ที่เร่งเกมขึ้นไปแต่ก็ยังไม่สามารถเจาะผ่านแนวรับของ พีพีพี เอฟซี บี เข้าไปจบสกอร์ได้ เกมเข้าสู่ช่วงครึ่งทางของครึ่งเวลาหลัง พีพีพี เอฟซี บี ได้มีการขยับตัวผู้เล่นบ้าง ส่ง อนุชา ลงมาแทน ณรงค์ศักดิ์ หวังเปิดเกมรุกแลกใส่

จนเข้าเวลาเข้าสู่ในช่วงท้ายเกม น.38 อนุชา ผู้เล่น พีพีพี เอฟซี บี ได้มีโอกาสส่องไกลจากนอกกรอบบอลพุ่งแรงไปโดนมือของผู้เล่น 12 ราศี ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่านกหวีดชี้ไปที่จุดโทษ พิทักษ์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ พีพีพี เอฟซี บี ขึ้นไปช่วงท้ายเกม 1-0 และผู้ตัดสินชู้นิ้วทดเวลา 3 นาที แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ จบเกม พีพีพี เอฟซี บี เอาชนะ 12 ราศี ด้วยสกอร์ 1-0 กอดคอกันตกรอบ

YWCA กรุงเทพฯ-ศูนย์พัทยา มอบฟุตบอลให้เด็กและเยาวชน สนามรังแตน สเตเดี้ยม ซ.เขาตาโล

สมาคม YWCA กรุงเทพฯ-ศูนย์พัทยา มอบฟุตบอลให้กับเด็กๆ และเยาวชน ที่ สนามฟุตบอลรังแตน สเตเดี้ยม ซ.เขาตาโล เพื่อให้หวังเด็กๆ และเยาวชน ได้มีการพัฒนาทักษะทางด้านฟุตบอล และห่างไกลจากยาเสพติด

IMG_3698

พัทยา-(22 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ สนามฟุตบอลรังแตน สเตเดี้ยม ซ.เขาตาโล ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง สมาคม YWCA กรุงเทพฯ-ศูนย์พัทยา นำโดย น.ส.ไพรชิตร เจตะภัย ประธานสมาคมฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการได้นำฟุตบอลจำนวน 10 ลูก มอบให้กับเด็กๆ เยาวชน โดยมี ด.ต.พงศ์พัน อุทราพงษ์ ผ.บ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองพัทยา นายดิเรก เปี่ยมเบี้ย ผู้บริหารร้านยาสกุลเปี่ยม ฟาร์มาซี และนายฉัตรชัย เพ็ชระ ผู้บริหารร้านขาหมูต้นซอยเขาตาโล ซ.8 เป็นผู้รับมอบในครั้งนี้

IMG_3713

น.ส.ไพรชิตร ประธานสมาคม YWCA กรุงเทพฯ-ศูนย์พัทยา กล่าวว่า หลังจากที่ทาง สมาคมฯ ได้จัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง การกุศล บนชายหาดพัทยา เพื่อเด็กและสตรี ที่ผ่านมานั้น จึงได้ปั่นรายได้บางส่วนมาจัดสรรซื้อลูกฟุตบอลจำนวน 10 ลูก เพื่อให้เด็กๆ และเยาวชน ได้มีลูกฟุตบอลที่มีคุณภาพมาฝึกซ้อม และหวังให้มีการพัฒนาทักษะในด้านการเล่นฟุตบอลเพื่ออนาคตต่อไป และที่สำคัญได้เป็นส่วนรวมให้เด็กๆ และเยาวชน ใช้เวลาว่าให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลจากยาเสพติด

IMG_3675

ซึ่งบรรยากาศในวันนี้ทาง เด็กๆ และเยาวชน ได้มีการฝึกซ้อมอย่างขะมักเขม้น และโชว์ทักษะการเดาะบอลให้ทาง ประธาน และคณะกรรม สมาคม YWCA กรุงเทพฯ-ศูนย์พัทยา ได้รับชม