พัทยา-ผู้สื่อข่าวได้รับภาพคลิปวีดีโอวินาทีจับงูเหลือมยักษ์ จาก ส.ต.ท.ปวเรศ บรรจง ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกับเล่านาทีระทึกด้วยว่า ขณะที่กำลังตรวจตราป้องกันเหตุอยู่ในพื้นที่รับชอบ ระหว่างนั้นได้รับแจ้งว่ามีงูเหลือมขนาดซ่อนอยู่ในพื้นที่ปรับสภาพ บริเวณป้อมยาม เขาพระตำหนัก ม.11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ภายหลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบกลุ่มคนงานกำลังใช้อุปกรณ์ล้อมจับงูเหลือมขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 4.5 เมตร แต่ด้วยนิสัยเจ้างูเหลือมตัวดังกล่าวมีนิสัยดุร้าย พยายามเลื้อยกัดกลุ่มเข้ามาใกล้เพื่อจะหลบหนี สุดท้ายกลุ่มคนงานต้องใช้รถแบคโฮ โดยบังคับที่ตักกดทับเจ้างูเหลือมตัวเพื่อไม่ให้หลบหนี ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านจะช่วยกันจับเอาไว้ได้ในที่สุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำงูเหลือมตัวดังกล่าว ไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติยังสวนสัตว์เปิดเขาเขียวต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-(16 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 15.00 น. ร.ต.อ.ยงยุทธ หวานเหนือ รอง สวป.สภ.เมืองพทัยา นำกำลังเจ้าหน้าที่รุดตรวจสอบบริเวณถนนทางขึ้นเขาทัพพระยา ภายหลังจากได้รับการร้องเรียนว่าบริเวณดังกล่าวมีบุคคลเร่ร่อนเตร็ดเตร่อาศัยบริเวณดังกล่าวมั่วสุมยาเสพติด และลักลอบขายบริการทางเพศ
จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวอาศัยร่มไม้บนเขาทัพพระยาจัดตั้งเป็นเพิงพักอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบถึงกับผงะ เนื่องจากพบบางจุดจัดทำเป็นห้องให้บริการทางเพศและมีถุงยางอนามัยจำมากทั้งที่ใช่แล้วและยังไม่ได้ใช้ตกอยู่ทั่วบริเวณ จึงทำการควบคุมผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวไปสอบสวนต่อยังโรงพักพัทยา
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเมืองพัทยาอย่างรุนแรง จึงควบคุมตัวทั้งหมดทำประวัติไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีที่มีความผิดเกี่ยวกับการเป็นบุคคลเร่ร่อนเตร็ดเตร่เพื่อการค้าประเวณี ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมตามลำดับ
พัทยา-(17 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 02.00 น.พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งว่ามีคนร้ายก่อเหตุทำร้ายร่างกายชิงรถจักรยานยนต์แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดเมืองพัทยา ถนนทัพยา ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนรีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ นายธณัฐพล อภิเนตร อายุ 15 ปี นักเรียนโรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยา พร้อมผู้ปกครองคือ นายพิทักษ์ อภิเนตร อายุ 48 ปี พ่อค้าหมูย่าง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูก 2 คนร้าย ทำร้ายร่างกายแล้วชิงเอารถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง แต่งสวย ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม ซุปเปอร์คับ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 2กก 9487 ชลบุรี ไป พร้อมทั้งโชว์รูปถ่ายรถจักรยานยนต์คู่ใจ ที่พ่อได้เก็บหอมรอมริบซื้อให้ไว้ขับขี่ไปโรงเรียน ซึ่งรถคันนี้เพิ่งออกมาใช้งานได้ยังไม่ถึง 3 เดือน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู
สอบถาม นายธณัฐพล ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่จยย.ออมานั่งเล่นที่ชายหาดจอมเทียนกับกลุ่มเพื่อน แต่พอดีพ่อได้โทรตามกลับบ้าน จึงขอแยกกับเพื่อนแล้วขับขี่จยย.มาตามถนนทัพยา จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนอายุ ประมาณ 18-20 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์มาปาดหน้า จากนั้นคนซ้อนท้ายได้ลงมาชกต่อยจนล้มลงกับพื้น แล้วแย่งชิงเอารถจยย.รีบขับหลบหนีไป ด้วยความตกใจจึงทำได้ได้แค่ยืนมองคนร้ายขับรถจยย.หลบหนีไปตามถนนเส้นทัพยา เมื่อตั้งสติได้ผมจึงขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีที่ผ่านไปมาดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีไปแต่ก็ไร้วี่แวว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะประสานทางเมืองพัทยาตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-(9 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 06.00 น. ขณะที่ พ.ต.ท.กิตติพงษ์ ศรีชำนาญ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้มีนายดนุพล เชียงทอง อายุ 26 ปี พลเมืองดี พาตัวน.ส.ไลลา อิบาฮิมโมวา อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ถูกคนร้ายลวงเข้าที่เปลี่ยวแล้วชิงทรัพย์และทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเดินร้องไห้ขอความช่วยเหลืออยู่ริมถนนบริเวณซอยตลาดร่มโพธิ์ จอมเทียน
จากการสอบสวน น.ส.ไลลา ให้การว่า หลังจากดื่มเที่ยวจากวอล์กกิ้งสตรีท ได้เรียกชายไทย ขับวินจักรยานยนต์รับจ้าง อยู่ที่บริเวณโรงแรมสยามเบย์ชอร์ ไปส่งพักแถวโรงแรมพัทยาปาร์ค แต่ปรากฏว่าชายคนดังกล่าว ได้ขับขี่เลยที่พักเข้าไปในซอยเปลี่ยว ก่อนชายดังกล่าวจะจอดรถจักรยานยนต์แล้วกระชากกระเป๋าสะพาย ภายในทรัพย์สินประกอบด้วยเงินสกุลต่างประเทศจำนวน 100 ดอลลาร์ เงินสด 140 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเอกสารต่างๆ จากนั้นได้ผลักอกจนล้มลงกับพื้นถนนได้รับบาดเจ็บถลอกตามร่างกาย หลังจากก่อเหตุชายดังกล่าวก็ได้รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือและพาเข้าแจ้งความกับตำรวจดังกล่าว
ภายหลังสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนสั่งการชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบว่าคนร้ายเป็นวินจยย.รับจ้างจริงหรือไม่ หรือกลุ่มคนร้ายแอบแฝงเข้าก่อเหตุลักษณะนี้ อย่างไรก็ตามคงจะต้องเช็คภาพกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและเส้นทางที่ใช้สัญจรไปยังจุดก่อเหตุ เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-(6 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 00.10 น. นายอิชิคาว่า เทคามิ อายุ 45 ปี เจ้าของร้านอาหารชาวญี่ปุ่น เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.เฉลียว บุญคุ้ม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าถูกสาวประเภทสองก่อเหตุล้วงกระเป๋าสูญทรัพย์สินไป 28,000 บาท เหตุเกิดภายในซอย 1 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
โดยนายอิชิคาว่า เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินออกจากที่พักซึ่งอยู่ในซอยที่เกิดเหตุเพื่อออกไปรับประทานอาหาร จนกระทั่งถึงช่วงกลางซอยได้มีสาวประเภทสอง 2 คนขับขี่จักรยานยนต์มาจอดใกล้ๆ จากนั้นสาวประเภทสองที่ซ้อนท้ายได้ลงมาพูดคุยตีสนิทพร้อมโอบกอดลูบไล้ ด้วยความที่ไม่ชอบสาวประเภทสองจึงรีบผลักออก สาวประเภทสองก็เดินไปขึ้นจักรยานยนต์แล้วขับขี่ออกไป ตนเองรู้สึกงงๆแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งมาถึงหน้าร้านอาหารตนเองก็พบว่ากระเป๋าเงินได้สูญหายไป จึงรีบเดินทางเข้าแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
นอกจากนี้ น.ส.จีระพร ชูเนื่อง อายุ 47 ปี พร้อมสามีชาวฝรั่งเศส แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่าสามีถูกล้วงกระเป๋าบนรถสหกรณ์สองแถว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนและสามีได้โดยสารรถสหกรณ์สองแถวมาจากบริเวณแยกวัดชัยมงคลพัทยาใต้ ระหว่างทางได้มีผู้โดยสารเป็นกลุ่มคนไทย 3-4 คน ซึ่งมีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และสาวประเภทสอง ส่วนที่เหลือเป็นชาวต่างประเทศใช้บริการตามปกติ แต่กลุ่มคนไทยได้พยายามเข้ามานั่งเบียดก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งตนเองและสามีได้ลงที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล บีช พัทยา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ปรากฏว่ากระเป๋าภายในมีเงิน 8,000 บาท ของสามีได้สูญหายไป จึงรีบขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ตรวจสอบ
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-(4 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 21.00 น. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับการร้องเรียนว่าที่ตลาดนัดเปิดท้ายการเคหะเทพประสิทธิ์ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยากลิ่นผลไม้ ซึ่งเป็นสินค้าต้องห้าม ตามประกาศคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 ให้แก่วัยรุ่นในพื้นที่ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ปิ่นรัตน์ สว.สส. นำกำลังชุดสืบสวนไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบ นายอนุสรณ์ เทียมศรี อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี พ่อค้า ได้เปิดวางแผงให้เห็นเด่นชัดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายและมีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ที่ชื่นชอบจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมทั้งตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 6 ตัว ชุดแต่งบุหรี่ไฟฟ้า 1 กล่อง น้ำยาผลไม้ชนิดต่างๆ 80 ขวด รวมมูลค่า 30,000 บาท จากนั้นจึงควบคุมตัวสอบสวนยัง สภ.เมืองพัทยา
เบื้องต้น นายอนุสรณ์ ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า บุหรี่ไฟฟ้าจำหน่ายให้กับลูกค้าตัวละ 1,000 บาท สำหรับน้ำยากลิ่นผลไม้ชนิดต่างๆ ขวดละ 330 บาท พร้อมทั้งรับแต่งบุหรี่ไฟฟ้าอีกด้วย โดยเปิดขายมาได้เพียง 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหา ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหา “ขายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยา โดยผิดกฎหมาย” ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี
ภาพ/ข่าว Ku Salick
พัทยา-(1 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 22.30 น. ร.ต.อ.กฤชฐา ประทุมแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในบ้าน สูญทรัพย์สินหายหลายรายการ เหตุเกิดที่บ้านแตงโม เลขที่ 210/12 ม. 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรู 3 ชั้น พบผู้เสียหายทราบชื่อต่อมาคือ นายอุดม พิมมาส อายุ 46 ปีพร้อมภรรยาและลูกๆ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกคนร้ายเป็นชายไทยรูปร่างท่วม ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ เข้าไปก่อเหตุงัดตู้เซฟนิรภัยภายในบ้าน มีทรัพย์สินสูญหายให้รีบวิทยุสกัดจับ แต่ยังไม่สามารถติดตามคนร้ายได้ทัน
ซึ่ง นายอุดม เจ้าของบ้านเล่าว่าตนเองและครอบครัวประกอบธุรกิจรับซื้อขายฝากในเขตพื้นที่เมืองพัทยา หลังจากที่ตนเองและภรรยาเลิกงานได้เดินทางกลับบ้านตามปกติ ได้สังเกตเห็นว่ามีรถยนต์เก๋งจอดอยู่ในซอยมืดข้างบ้านแบบผิดปกติ จึงลงไปสอบถามพูดคุยคนร้ายก็มีท่าทีพูดจาดีจึงไม่เอะใจอะไร
จนกระทั่งตนเองขึ้นไปยังชั้นสองก็พบว่าข้าวของภายในห้องถูกรื้อค้น ตู้เซฟนิรภัยถูกงัดจนเปิดออกทรัพย์สินภายในเป็นแหวนทองและเศษทองอีกจำนวนหนึ่งสูญหายไป เมื่อตรวจสอบห้องที่สองก็พบว่าเงินที่เก็บไว้ในกล่องจำนวน 13,000 บาทก็สูญหายไปด้วย โดยคนร้ายงัดแงะเข้าทางหน้าต่างด้านหลัง ตนเองคิดว่าเป็นรถเก๋งคนดังกล่าวแน่จึงรีบวิ่งออกมาดู แต่คนร้ายก็รีบเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนร้ายคาดว่าจะมาไม่ต่ำกว่า 2 คน โดยคนที่อยู่ที่รถเป็นคนดูต้นทาง เมื่อเจ้าของบ้านมาจึงส่งสัญญาณให้ผู้ร่วมก่อเหตุรีบออกจากบ้านแล้วหลบหนีไป อย่างไรก็ตามได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีผ่านไป เพื่อติดตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว Ku Salick
พัทยา-(2 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. ขณะที่ ร.ต.ท.ไชยณรงค์ ไชยอินทร์ รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ และอาสาสมัครตำรวจบ้าน ตั้งด่านตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยหาสิ่งของผิดกฎหมายเพื่อเป็นการป้องกันเหตุอาชญากรรม บริเวณหน้าห้างแม็คโคร ตั้งอยู่ริมถนนพัทยาเหนือ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามนโยบาย พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา
จากนั้นพบนายเอกชัย สังข์ทอง อายุ 32 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีเพื่อนนั่งซ้อนท้ายมาด้วย พอเจอด่านตรวจแล้วมีอาการพิรุธ ก่อนจะเร่งเครื่องฝ่าด่านตรวจหลบหนีเข้าไปในซอยตัน เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไปจับกุมเอาไว้ได้ เมื่อนำตัวนายเอกชัย คนขับ มาเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกาย นายเอกชัย ได้ทำอาการบ่ายเบี่ยงอ้างว่าไม่มีแรงเป่า และคว้าขวดสุราอยู่หน้ารถจักรยานยนต์พยายามมาดื่มกินต่ออ้างเพื่อจะได้มีแรงเป่า
ทั้งนี้ จากการเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ นายเอกชัย ปรากฏว่ามีปริมาณสูงถึง 167 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดย นายเอกชัย ได้อ้างว่า สาเหตุที่เมาสุราอย่างหนัก เพราะว่าดื่มฉลองวันเกิดตัวเอง เพื่อขอคะแนนความสงสารหวังให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัว แต่ตรวจสอบแล้วพบว่า นายเอกชัย พูดโกหก โดยระหว่างถูกควบคุมตัวยังอ้อนวอนขอดื่มสุรา เนื่องจากสุรายี่ห้อดังกล่าวดื่มเข้าไปแล้วสามารถบินได้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงควบคุมตัว นายเอกชัย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “เมาแล้วขับ” ต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-(30 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 21.00 น. พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.ต.สมบูรณ์ เอื้อสมานไมตรี สวป.สภ.เมืองพัทยา ร.ต.อ.จักรกฤษ จันตาคำ รองสวป.สภ.เมืองพัทยา และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ร่วมปล่อยแถวดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ภายในถนน วอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สืบเนื่องมาจากพื้นที่ถนนวอกกิ้งสตรีทเป็นพื้นที่เสี่ยงที่สาวประเภทสองใช้ก่อเหตุลักทรัพย์ล้วงกระเป๋า ปลดสร้อย หรือทรัพย์สินมีค่า ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวในเมืองพัทยา จึงได้ระดมกำลังตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจภูธรเมืองพัทยาปล่อยแถวชี้แจงภารกิจ ออกเดินเท้าป้องกัน เหตุที่เกี่ยวกับทรัพย์และชีวิตร่างกาย รวมไปถึงการลักลอบค้าบริการ และการลักลอบค้ายาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-(28 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 01.30 น. ร.ต.อ.สมบัติ แก้วมูลมุข รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เหตุเกิดขึ้นที่ซอย 9 ถนนชายหาดเมืองพัทยา บริเวณหลัง สภ.เมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ธุรกิจเครื่องหนัง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หลังจากที่ตนเองและเพื่อนได้รับประทานอาหารจากร้านอาหารไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุได้เดินเข้าซอยดังกล่าว ถูกสองสาวขับขี่ จยย.ใช้อาวุธมีดจี้แล้วชิงทรัพย์สินเป็นเงินไทย 7,000 บาท เงินต่างประเทศ 2,000 รูปี เงินต่างประเทศ 200 ดอนล่าสหรัฐ และเอกสารสำคัญหลายรายการ แล้วขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับตามเส้นทางที่คนร้ายจะหลบหนีผ่านไป แต่ก็ไม่พบร่องรอย จึงได้ประสายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสคนร้ายแต่ก็ยังไร้วี่แวว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวคนร้านมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยาอัพเดทนิวส์ นำเสนอ ฉับไว เพื่อสังคม