คลังเก็บป้ายกำกับ: สภ.เมืองพัทยา

สภ.เมืองพัทยา จัดเลี้ยงขอบคุณ จนท.อาสาสมัคร

สภ.เมืองพัทยา จัดเลี้ยงแทนคำขอบคุณเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่ช่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ด้วยดีตลอดมา ในงานยังได้มีการมอบรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่อาสา อีกด้วย

พัทยา-(25 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ โรงเรียนโพธิสัมพันธ์พิทยาคาร ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ,ชลบุรี พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ให้กับตำรวจอาสาสมัคร สภ.เมืองพัทยา และตำรวจอาสาสมัครท่องเที่ยวเมืองพัทยา ซึ่งภายในงานได้มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานคับคั่ง

โดยบรรยากาศในวันนี้อย่างเป็นไปอย่างคึกคักมีทั้งนายตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสาร่วมรับประทานอาหารที่ทางงานได้จัดเตรียมไว้ให้ พร้อมกับดนตรีขับกล่อม สร้างความสนุกสนานเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังได้มีการมอบรางวัลเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่อาสาที่ช่วยเหลืองานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นอย่างดี

พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่อาสาทุกนายที่ได้ช่วยเหลืองานราชการ โดยไม่คำนึงถึงความเหน็ดเหนื่อยและอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตนเองในขณะป้องกันเหตุหรือไล่ล่าจับผู้ก่อเหตุ จนบางครั้งเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ้างแต่ไม่เคยท้อถอยในการทำงาน และขอให้คงคุณงามความดีครั้งนี้ต่อไป

ตร.พัทยา ตั้งด่านตรวจเจอหนุ่มวัย 19 ปี กร่างอ้างเป็นนักข่าวแถมโวยวาย

ตำรวจพัทยาตั้งด่านตรวจเจอหนุ่มวัย 19 ปี กร่างอ้างเป็นนักข่าวโวยวายตำรวจจราจรที่เรียกตรวจสอบเอกสารรถ ยังโทรไปเรียกลูกพี่ที่ว่าเป็น บก.มาเคลียแต่ ตร.ไม่สนจับข้อหาติดไฟไซเรนตำรวจโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 25 ก.พ. 59 ผู้สื่อข่าวประจำเมืองพัทยารายงานว่า ขณะที่ ด.ต สรรเสริญ เซื้อสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ ผบ.หมู่ งานจราจร ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ทำการตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณป้อมทางเข้าพัทยาปาร์ค ถนนจอมเทียนสายสอง ได้เรียกตรวจรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่มี นายชัยฤทธิ์ คุณเพียร อายุ 19 ปี เป็นคนขับพร้อมเพื่อน อีก 2 คน จากนั้นทาง นายชัยฤทธิ์ คุณเพียร ได้เอาบัตรสื่อมวลชนมาอ้างตัวเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพ โดยอ้างกับทางตำรวจว่าตนเป็นนักข่าวอยู่ประจำเขตอำเภอบางละมุง หลังจากที่นายชัยฤทธิ์ คุณเพียร พร้อมกับพวก ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีบีอาร์ 150 และไม่สามารถนำเอกสารรถมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ พร้อมยังพูดจ่าข่มขู่เจ้าหน้าที่และตำรวจอาสาที่ร่วมทำการตรวจสอบ

_MG_0036

ภายหลังได้รับรายงานจึงเดินทางไปร่วมทำการตรวจสอบ ไปถึงพบชายไทย 3 คน โดย นาย ชัยฤทธิ์ แสดงท่าทีพูดจาใหญ่โต และโทรหาลูกพี่อย่างเดียวทางตำรวจจึงให้โทรติดต่อมาคุย หลังจากลูกพี่มาถึงก็เอามาบัตรผู้สื่อข่าวออกมาโชว์ต่อหน้าตำรวจและกลุ่มตำรวจอาสาและสื่อมวลชนช่องต่างๆ

จากการสอบถามทราบชื่อคือ นายประยวน เสพสุข อายุ 59 ปี โดยอ้างตัวว่าตนเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพไทย ตำแหน่ง หน.ศปก.ฉก.ลทท.ภ.2 เดินทางมาพร้อมลูกน้อง 7 คน ทุกคนมีบัตรผู้สื่อข่าวเก้าเหล่าทัพ พร้อมรถกระบะสีดำติดไฟไซเรนสีแดงบนหลังคารถและที่หน้ากระจกรถติดโลโก้หนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพและประตูรถทั้ง 2 ข้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบใบรับอนุญาตติดไฟไซเรน แต่นายประยวน ไม่มีมาแสดงให้ดู ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวทั้งหมดมาทำการสอบประวัติที่ สภ.เมืองพัทยา พร้อมแจ้งข้อหาติดไฟไซเรนโดยไม่ได้รับอนุญาต

_MG_0044

จากการสอบถาม นายประยวน ที่อ้างตัวเป็น หัวหน้า ให้การว่าบัตรสื่อมวลชนที่ได้มา ต้องไปประชุมที่ทางหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพจัดขึ้นมาแล้วต้องเสียค่าทำบัตรและสมาชิก คนละ 300-500 บาท จึงจะได้บัตร มี พันโท ขจรศักดิ์ ขจรศิลป์ บรรณาธิการบริหาร กอ.9 ลทท.เป็นคนออกบัตรให้ สอบถามว่าเคยเห็นหน้านายทหารที่อ้างว่าเป็นคนออกบัตรให้เคยเห็นหน้าหรือไม่ ทางนายประยวนบอกไม่เคยเห็นหน้า รู้แต่เป็นนายทหารแต่ไม่รู้อยู่ประจำที่ไหน ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามว่าแต่ละคนมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง โดยทั้งหมดอ้างว่ามีหน้าที่แจ้งเบาะแสเหตุต่างๆ รวมถึงเบาะแสผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งในคำกล่าวอ้างนั้นไม่เกี่ยวกับงานด้านผู้สื่อข่าวและบัตรที่ติดตัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานของผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

ล้วงคองูเห่า กะเทยซุกยาไอซ์ในแบงค์ 500 ให้ผู้ต้องหา โดนรวบคาโรงพักพัทยา

พัทยา-(18 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 00.30 น. ร.ต.ท.ไชยณรงค์ ไชยอินทร์ รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ร่วมกันจับกุมตัวนายภุชงค์ ลอยมั่ง อายุ 21 ปี สาวประเภทสอง (กะเทย) และน.ส.วรรณวิภา ฉวีทอง อายุ 34 ปี พร้อมของกลางเป็นเงิน 500 บาท และยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) น้ำหนัก 0.45 กรัม สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้องขัง สภ.เมืองพัทยา

สืบเนื่องจาก ช่วงบ่ายของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้ทำการจับกุม น.ส.วรรณวิภา ในข้อหามีสารเสพติดในร่างกาย โดยควบคุมตัวไว้ยังห้องคุมขัง สภ.เมืองพัทยา เพื่อรอส่งฟ้องศาล กระทั่งเวลาเกิดเหตุนายภุชงค์ เข้ามาติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณหน้าห้องคุมขังนักโทษ ขอเข้าเยี่ยมน.ส.วรรณวิภา

เมื่อเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้นายภุชงค์ทำทีคุยถามสารทุกข์สุขดิบ จากนั้นก็ได้หยิบธนบัตรใบละ 500 บาทพับครึ่ง โดยมียาไอซ์บรรจุซองพลาสติกแบบซิบยัดอยู่ในธนบัตรใบดังกล่าว หวังตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ก็ไม่พ้นสายตาของ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นจับกุมไว้ได้ในที่สุด

สอบสวน นายภุชงค์ ให้การว่า สาเหตุที่นำยามาให้กับ น.ส.วรรณวิภา เพราะเห็นว่า น.ส.วรรณวิภา ถูกจับมากลัวจะไม่มียาเสพ จึงได้ลักลอบนำเข้ามาให้และโดนจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ตร.พัทยา จับหนุ่มโคราชพกปืนจิ๋ว-ยาไอซ์ คาด่าน

พัทยา-(18 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.ท.ไชยณรงค์ ไชยอินทร์ รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจ ได้ร่วมกันจับกุมนายชัยชนะ เฉลิมพงษ์ อายุ 38 ปี ชาวนครราชสีมา พร้อมของกลางอาวุธปืน บราวนิ่ง ขนาด 6.35 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนจำนวน 4 นัด และยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) สามารถจับกุมได้ที่ซอยกรมที่ดิน ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ร.ต.ท.ไชยณรงค์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนำกำลังตั้งด่านป้องกันเหตุอาชญากรรม ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา จากนั้นพบผู้ต้องหาขับขี่รถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ ท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกขอทำการตรวจค้น พบอาวุธปืนขนาดเล็กจิ๋วดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋ากางเกงด้านหลังและยังพบยาไอซ์บรรจุอยู่ภายในซองซิบ 1 ซอง จึงควบคุมตัวมายังสภ.เมืองพัทยา

สอบถาม นายชัยชนะ ให้การอ้างว่า อาวุธปืนและยาไอซ์เป็นของตนเองจริง โดยไม่คิดว่าทางเจ้าหน้าที่จะค้นเจอเพราะปืนนั้นเป็นปืนขนาดเล็กจิ๋วมาก แต่ตนเองก็พกไว้เพียงแค่ป้องกันตัวเท่านั้น ส่วนยาไอซ์ก็ซื้อมาเสพเอง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ตร.พัทยา ตามรวบอดีตคนขับรถโรงแรม ออกตระเวนเช่ารถตามเต็นท์แล้วเชิดเผ่นหนี

พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 18.30 น.พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แถลงข่าวจับกุม นายกานต์ ปั้นบุญชู อายุ 41 ปี ชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาในคดีเช่ารถยนต์แล้วเชิดหลบหนี พร้อมของกลางรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กล 2334 ขอนแก่น และรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฮน-6807 กรุงเทพฯ โดยมี น.ส.วราภรณ์ สิงห์ค้อ อายุ 38 ปี ผู้เสียหายชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น และน้องชาย ชี้ให้จับกุม

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.วราภรณ์ อาชีพรับราชการในตำแหน่งธุรการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ จ.ขอนแก่น ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุขทัศน์ เพื่อขอให้ช่วยตามรถยนต์ของกลางทั้ง 2 คัน ที่นายกานต์ ผู้ต้องหารายนี้เช่ามาจากเต๊นท์รถที่ น.ส.วราภรณ์ กับเพื่อนร่วมหุ้นกันทำในเมืองขอนแก่น และสามารถจับสัญญาณ จีพีเอส.ของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ได้ว่าอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา ภายหลังจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา พร้อมกับผู้เสียหาย เดินทางไปตามสัญญาณจีพีเอส จนพบรถจอดอยู่บริเวณโกดังตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพัทยาใต้ และสามารถจับกุมนายกานต์ ได้ในเวลาต่อมา ก่อนสอบขยายผลตามไปยึดรถตู้อีก 1 คัน ที่ ห้างสรรพสินค้าโลตัส ใน อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

โดย น.ส.วราภรณ์ เล่าว่า เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว นายกานต์ ได้นำเอกสารสัญญาการขอเช่ารถยนต์ของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา มาทำการแสดงและอ้างว่าต้องการเช่ารถไปรับส่งลูกค้าชาวต่างชาติในพัทยา และขอเช่ารถตู้ในราคาเดือนละ 17,000 บาท ก่อนที่จะจ่ายเงินบางส่วนให้ กระทั่งเดือน ม.ค.ปีนี้ นายกานต์ นำเอกสารมาขอเช่ารถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ อีก 1 คัน ในราคา 23,000 บาทต่อเดือน พร้อมกับนัดหมายจ่ายเงินประกันจำนวน 20,000 บาทในวันที่ 5 ก.พ. ด้วยความเชื่อใจ และดูเป็นคนภูมิฐาน จึงยอมปล่อยรถไป แต่ภายหลังเจ้าตัวกลับติดต่อไม่ได้และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ไว้เป็นหลักฐาน และสามารถจับสัญญาณ จีพีเอส.ของรถว่ายังอยู่ในเมืองพัทยา จึงเข้าพบตำรวจและขอให้ช่วยไปจับกุมดังกล่าว
จากการสอบปากคำนายกานต์ ผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพว่า ในอดีตเคยเป็นพนักงานขับรถรับ-ส่งนักท่องเที่ยวของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา แต่ภายหลังเพราะพิษเศรษฐกิจจึงทำให้โดนปลดออกจากงานทำให้ไม่มีเงินใช้ จึงตัดสินใจไปเช่ารถยนต์แล้วเชิดหนี แล้วนำไปส่งต่อให้กับนายเศรษฐวุฒิ ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง เพื่อนร่วมแก๊ง เพื่อเอาไปขายต่อตามเต๊นท์รถย่านลาดกระบัง และ อ.สามโคก จต.ปทุมธานี ในราคาตกคันละประมาณ 70,000 – 100,000 บาท

ด้าน พ.ต.อ.สุขทัศน์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายกานต์ มีหมายจับในพื้นที่เมืองพัทยาจำนวน 2 หมาย และพื้นที่ธัญญะบุรีอีก 1 หมาย เบื้องต้นทำการควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

รวบ 2 รปภ.กระชากกระเป๋าสาวอะโกโก้ ได้พร้อมของกลาง

พัทยา-(7 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. ร.ต.อ.พันลภ หริ่งรอด รองสวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อาสาและพลเมืองดี ร่วมกันจับกุม ผู้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ไว้ได้ 2 ราย พร้อมของกลางเป็นกระเป๋าเงินและโทรศัพท์มือถือ ที่ บริเวณซอย 16 เมืองพัทยา ม.10ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสา และพลเมืองดี ควบคุมตัว นายนิด (นามสมมุติ) อายุ 18 ปีอาชีพ ร.ป.ภ. และนายแอ๊ด(นามสมมุติ) อายุ 18 ปี อาชีพ ร.ป.ภ. ได้พร้อมของกลาง และยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุภายในกระเป๋าเงินสีดำ มีเงินสด 1,000 บาทและโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงราคาประมาณ 6,000 บาท จำนวน 1 เครื่อง

น.ส.วิชญาดา วงษ์แหวน อายุ 26 ปี อาชีพ พนักงานอะโกโก้ ได้เล่าว่า ในขณะที่กำลังเดินอยู่ริมถนนบริเวณกลุ่มบาร์ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากและเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราอยู่ไม่ขาดสาย ได้มีชายวัยรุ่น 2 คน ขับขี่จยย. เข้ามาประกบแล้วกระชากกระเป๋าแล้วหลบหนีไป จึงร้องตะโกนให้เจ้าหน้าที่ และ วินจยย.รับจ้างไล่สกัดจับ จนสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้พร้อมของกลาง ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 500 เมตรเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนยัง สภ.เมืองพัทยา

เบื้องต้นเยาวชนทั้งสองรายให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้นเพราะไม่มีเงินกินข้าว และค่าห้องเช่า จึงได้ก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้การฯ ชลบุรี ปล่อยแถว จัดระเบียบการจราจรคืนผิวถนนให้แก่ประชาชน เน้นนโยบาย 5 จริง 5 จอม

พัทยา-(15 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ บริเวณหน้า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวจัดระเบียบการจราจร โดยมีข้าราชตำรวจทุกหน่วยงาน ตัวแทนอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.14 รวมถึงอาสาสมัครทุกหน่วยงานเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

_MG_0206
พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า จังหวัดชลบุรีโดยเฉพาะเมืองพัทยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ จึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างคาดหวังในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และได้รับความสะดวกทุกๆ ด้าน รวมทั้งด้านการจราจร ไม่ว่าจะเป็นการสัญจรไปมา หรือที่จอดรถ

_MG_0195
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องระดมกำลังช่วยเหลือ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อคืนผิวถนนให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยนำเอานโยบาย 5 จริง 5 จอม มาใช้ในการปฏิบัติ ได้แก่ จอมปาด(ขับปาดแซงเส้นทึบ), จอมล้ำ(หยุดรถล้ำเส้นหยุด),จอมขวาง(หยุดรถขวางแยก), จอมย้อน(ขับย้อนศร) และจอมปลอม(ปลอมป้ายทะเบียน) เพื่อให้การดำเนินการสำเร็จเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

ตร.พัทยา รวบกะเทยแสบมอบยาลักทรัพย์หนุ่มเมืองเบียร์ ของกลางมูลค่ากว่า 2 แสนบาท

พัทยา-(10 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 18.30 น. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายคมกริช หรือท้อป ดวงจันทร์ อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ผู้ต้องคดีมอบยาลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน พร้อมของกลาง นาฬิกา ยี่ห้อ ANNEX มูลค่าประมาณ 200,000 บาท จำนวน 1 เรือน โทรศัพท์มือถือซัมซุงโน้ต2 มูลค่า 17,000 บาท จำนวน 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือซัมซุง SG8 มูลค่า 10,000 บาท จำนวน 1 เครื่อง

สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกของวันที่ 7 ก.พ.59 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก นายเกอร์ฮาร์ด ฟรานส์ ไวเดล (Mr.Gerhard Frans Seidel) นักท่องเที่ยงชาวเยอรมัน ได้ถูกกระเทยจำนวน 1 คน มอมยาแล้วลักทรัพย์สินของกลางไป เหตุเกิดภายในห้องพักของผู้เสียหาย ย่านชายหาดจอมเทียน
เจ้าหน้าที่จึงทำการรวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนจนทราบว่า คนร้ายผู้ก่อเหตุคือ นายคมกริช หรือท้อป ดวงจันทร์ จึงติดตามไปจับกุมตัวได้พร้อมของกลางทั้งหมด ที่ห้องพักภายในหมู่บ้านเอื้ออาทร นาเจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

สวนสอบ นายคมกริช หรือท้อป ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนเพิ่งเคยก่อเหตุเป็นครั้งแรก ซึ่งจำวิธีการมาจากเพื่อนกะเทยด้วยกัน โดยวิธีการก่อเหตุตนเองได้นำนอนหลับยี่ห้อ ไซแนค จำนวน 1 เม็ด ใส่ลงไปในน้ำโค้กแล้วนำไปให้ผู้เสียหายดื่ม เมื่อผู้เสียหายหลับสนิทจึงทำการก่อเหตุลักทรัพย์สินทั้งหมด ก่อนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบผู้ต้องหาพบว่า มีปัสสาวะสีม่วง และมีประวัติเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขึ้นตอนของกฎหมายต่อไป

รัฐบาลเอาจริงสางปัญหาแท็กซี่ที่ทำร้ายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว

รัฐบาลเอาจริงสางปัญหาแท็กซี่ที่ทำร้ายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว

พัทยา-(9 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 10.00 น.  ที่ โรงละครอัลคาซาร์พัทยา เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พ.อ.ประเสริฐ ใจกล้า รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 14 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรัตม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จ.ชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สภ.เมืองพัทยา ขนส่งจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง สมาคมนักธุรกิจ และการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เรียกกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่ในเมืองพัทยาหารือแนวทางการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหารถโดยสารสาธารณะที่ประกอบการส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา โดยมีตัว แทนบริษัทสหกรณ์แท็กซี่พื้นที่อำเภอบางละมุงทั้ง 6 บริษัทเข้าร่วมหารือ

IMG_0088

พันเอกประเสริฐ กล่าวว่าปัจจุบันนายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายและมีการสั่งการมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนบูรณาการแก้ไขปัญหารถยนต์รับจ้าง รถโดยสารสาธารณะที่บรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 7 คนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกลุ่มที่ขาดความเป็นระเบียบ ประกอบการอย่างไม่ถูกต้อง หรือมีการกระทำที่ส่อต่อความผิดทางกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา

ทั้งนี้จากการสำรวจและตรวจสอบสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นพบว่าเกิดจากหลายกรณีที่พบว่ามีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง อาทิ ปัญหาของการไม่กดมิเตอร์ขณะให้บริการลูกค้าโดยจะประกอบการในลักษณะเหมาเป็นหลัก ระเบียบการแต่งกายของพนักงานขับขี่ที่ไม่มีความสุภาพเรียบร้อย ความปลอดภัยขณะการให้ บริการ รวมทั้งปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำที่ตั้งโต๊ะเปิดบริการนักท่องเที่ยวริมถนนสาธารณะ และสถานประกอบ การโรงแรม และปัญหารถแท็กซี่จากนอกพื้นที่ซึ่งมารอรับการให้บริการทับสัมปทานของผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยไม่มีจุดพักหรือจุดจอดที่เป็นรูปธรรม

IMG_0099

โดยปัญหาที่เกิดขึ้นจากนี้จะมีการบูรณาการร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งในช่วงแรกจะมีการออกมาตรการรวมทั้งเรียกผู้ประกอบการรถแท็กซี่ทั้ง 6 บริษัทที่ให้บริการในพื้นที่อำเภอบางละมุงและเมืองพัทยามารับทราบเกี่ยวกับข้อกำหนดของกฎหมาย รวมถึงจะมีการขอความร่วมมือผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่ให้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด