คลังเก็บหมวดหมู่: อาชญากรรม

แหม่มรัสเซียถูก วินจยย.รับจ้างเข้าซอยเปลี่ยวแล้วชิงทรัพย์ทำร้ายบาดเจ็บ

พัทยา-(9 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 06.00 น. ขณะที่ พ.ต.ท.กิตติพงษ์ ศรีชำนาญ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้มีนายดนุพล เชียงทอง อายุ 26 ปี พลเมืองดี พาตัวน.ส.ไลลา อิบาฮิมโมวา อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ถูกคนร้ายลวงเข้าที่เปลี่ยวแล้วชิงทรัพย์และทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเดินร้องไห้ขอความช่วยเหลืออยู่ริมถนนบริเวณซอยตลาดร่มโพธิ์ จอมเทียน

จากการสอบสวน น.ส.ไลลา ให้การว่า หลังจากดื่มเที่ยวจากวอล์กกิ้งสตรีท ได้เรียกชายไทย ขับวินจักรยานยนต์รับจ้าง อยู่ที่บริเวณโรงแรมสยามเบย์ชอร์ ไปส่งพักแถวโรงแรมพัทยาปาร์ค แต่ปรากฏว่าชายคนดังกล่าว ได้ขับขี่เลยที่พักเข้าไปในซอยเปลี่ยว ก่อนชายดังกล่าวจะจอดรถจักรยานยนต์แล้วกระชากกระเป๋าสะพาย ภายในทรัพย์สินประกอบด้วยเงินสกุลต่างประเทศจำนวน 100 ดอลลาร์ เงินสด 140 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเอกสารต่างๆ จากนั้นได้ผลักอกจนล้มลงกับพื้นถนนได้รับบาดเจ็บถลอกตามร่างกาย หลังจากก่อเหตุชายดังกล่าวก็ได้รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือและพาเข้าแจ้งความกับตำรวจดังกล่าว

ภายหลังสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนสั่งการชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบว่าคนร้ายเป็นวินจยย.รับจ้างจริงหรือไม่ หรือกลุ่มคนร้ายแอบแฝงเข้าก่อเหตุลักษณะนี้ อย่างไรก็ตามคงจะต้องเช็คภาพกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและเส้นทางที่ใช้สัญจรไปยังจุดก่อเหตุ เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

สองโจ๋เมาต่อยหนุ่มญี่ปุ่นปากฉีก ฝรั่งเข้ามาช่วยโดนเตะเสยปลายคางสลบ

พัทยา-(9 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 02.30 น. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ กนกวิลาศ สวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดภายในซอยแอลเค เมโทร ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 2 ราย ทราบชื่อคือนายทาเรยูกิ คามิยามา อายุ 41ปี สัญชาติญี่ปุ่น ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ริมฝีปากบนเป็นแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ อยู่ในอาการมึนงง และนายสตีเว่น อายุ 44 ปี สัญชาติสวีเดน ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

image

สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า นายทาเรยูกิ ได้เดินทางมาเที่ยวพัทยาเป็นวันแรก เข้ามาใช้บริการกลุ่มบาร์ในละแวกดังกล่าวในขณะที่เดินอยู่ตามปกติ ผู้ก่อเหตุได้เดินเข้ามาทำร้ายร่างกายจนล้มนอแน่นิ่งอยู่กับพื้น นายสตีเว่น เห็นเข้าจึงรีบวิ่งเข้ามาช่วยผู้บาดเจ็บ แต่กลับถูกผู้ก่อเหตุเตะเสยปลายคางจนสลบเหมือดไม่หนำซ้ำกระเป๋าเงิน ภายในมีเงินสด 5,000บาท ได้สูญหายไปอีกด้วย หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้วิ่งถอดเสื้อหลบหนีไปกับหญิงสาวชาวไทย
ต่อมาไม่นานเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ได้ทราบชื่อต่อมาคือ นายพัฒนะ หรือแจ๊ค หมื่นแสง อายุ 24 ปี ชาว อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี นายปฏิภาณ หรือต้นกล้า ถือความซื่อ อายุ28 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ทั้งคู่อยู่ในอาการเมาสุรา จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนยัง สภ.เมืองพัทยา แต่ทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายนักท่องเที่ยว ตนเองต่างหากที่ถูกทำร้ายแต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจะต้องรอตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อมัดตัวผู้ก่อเหตุต่อไป

image

ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า นายพัฒนะ หรือแจ๊ค หมื่นแสง นายปฏิภาณ หรือต้นกล้า ถือความซื่อ เคยถูกจับกุมและแถลงข่าวในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2558 อีกด้วย

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ทหาร-ตำรวจ ลงตรวจสถานบันเทิงฝ่าฝืนคำสั่งคสช.

พัทยา-(8 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 01.00น.ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย จันลา รองสวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ร.ต.สุวิทย์ ลากลาง รองผบ.หัวหน้าชุด คสช.พื้นที่อำเภอบางละมุง พร้อมกำลัง ร่วมตรวจสอบสถานบันเทิงภายในซอยชัยพูล ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องมาจากได้รับการแจ้งว่าร้าน เดอะ เพล พัทยา ซึ่งเคยถูกสั่งปิด 5 ปี ตามคำสั่ง คสช. แต่ยังมีการลักลอบเปิดให้บริการ จึงนำกำลังบุกเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงร้านพบว่าหน้าร้านได้มีการตกแต่เตรียมจัดงานปาร์ตี้ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบใบอนุญาตและประวัติพนักงาน พบว่าไม่มีใบอนุญาตเปิดถานบริการ

ตรวจสอบพบว่ามีนายเจษฎา ศรีรอด อายุ 30 ปี รับเป็นเจ้าของร้านโดยให้การว่าตนเองได้เซ้งกิจการต่อมาจากเจ้าของเก่าในราคาถูก แต่เจ้าของเก่าไม่ได้บอกกล่าวว่าร้านถูกเจ้าหน้าที่สั่งปิด 5 ปี ซึ่งตนเองก็ไม่ได้คิดที่จะฝ่าฝืนคำสั่งแต่อย่างใด

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเปิดบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนเรื่องการเปิดฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่สั่งปิด 5 ปี จะต้องเชิญตัวเจ้าของเก่ามาสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

ชายนิรนามซิ่งจยย.เสยท้ายกระบะเฒ่าเมืองผู้ดีตายคาที่

พัทยา-(7 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 21.00 น. พ.ต.ท.วินัย โห้เหรียญ สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถกระบะมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดหน้าหมู่บ้านสยามเล็กวิว ม.4 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายไทยอายุประมาณ 20-25 ปี นอนจมกองเลือดอยู่บนถนน ตรวจสอบภายในร่างกายพบเงินสดจำนวนหนึ่งแต่ไม่พบเอกสารแสดงตัวบุคคล เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ข้างกันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นนูโว สีดำ หมายเลขทะเบียน จกบ 520 ชลบุรี ล้มคว่ำอยู่ในสภาพตัวรถหักพับเข้ามาจนถึงเบาะ ได้รับความเสียหายยับเยิน ถัดมาหน้าหมู่บ้านพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ ฟรอด เรนเจอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก 8504 ชลบุรี ถูกชนเข้าที่กระบะฝั่งซ้ายได้รับความเสียหายเล็กน้อย

สอบถาม MR.HENSHER GEORGE EDWARD อายุ 76 ปี สัญชาติ คนขับกระบะ ทราบว่า ได้ขับขี่มาตามถนนเส้นขอบอ่างเก็บน้ำมาบประชัน และได้เลี้ยวเข้าที่พักในหมู่บ้าน ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีแสงสว่างน้อยจึงไม่เห็นว่ามีจักรยานยนต์ของผู้ตายขับขี่มา จนกระทั่งตัวรถข้ามเข้ามาเกือบทั้งคันก็ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวที่ด้านท้ายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทันที

ทั้งนี้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวเล่าว่าบนถนนเส้นที่เกิดเหตุมักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะแสงไฟไม่เพียงพอทำให้ทัศนะการมองเห็นไม่ชัดเจน และด้วยความมืดทำให้ถนนเส้นนี้เป็นพื้นที่กลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดเหตุอาชญากรรม วิ่งราว จี้ชิงทรัพย์อีกด้วย จึงอยากวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและแก้ไขเพื่อความปลอดภัยของประชานชนต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

อันตราย! กะเทยพัทยาอาละวาดหนัก รูดทรัพย์นักท่องเที่ยว 2 รายซ้อน

พัทยา-(6 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 00.10 น. นายอิชิคาว่า เทคามิ อายุ 45 ปี เจ้าของร้านอาหารชาวญี่ปุ่น เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.เฉลียว บุญคุ้ม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าถูกสาวประเภทสองก่อเหตุล้วงกระเป๋าสูญทรัพย์สินไป 28,000 บาท เหตุเกิดภายในซอย 1 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดยนายอิชิคาว่า เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินออกจากที่พักซึ่งอยู่ในซอยที่เกิดเหตุเพื่อออกไปรับประทานอาหาร จนกระทั่งถึงช่วงกลางซอยได้มีสาวประเภทสอง 2 คนขับขี่จักรยานยนต์มาจอดใกล้ๆ จากนั้นสาวประเภทสองที่ซ้อนท้ายได้ลงมาพูดคุยตีสนิทพร้อมโอบกอดลูบไล้ ด้วยความที่ไม่ชอบสาวประเภทสองจึงรีบผลักออก สาวประเภทสองก็เดินไปขึ้นจักรยานยนต์แล้วขับขี่ออกไป ตนเองรู้สึกงงๆแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งมาถึงหน้าร้านอาหารตนเองก็พบว่ากระเป๋าเงินได้สูญหายไป จึงรีบเดินทางเข้าแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

นอกจากนี้ น.ส.จีระพร ชูเนื่อง อายุ 47 ปี พร้อมสามีชาวฝรั่งเศส แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่าสามีถูกล้วงกระเป๋าบนรถสหกรณ์สองแถว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนและสามีได้โดยสารรถสหกรณ์สองแถวมาจากบริเวณแยกวัดชัยมงคลพัทยาใต้ ระหว่างทางได้มีผู้โดยสารเป็นกลุ่มคนไทย 3-4 คน ซึ่งมีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และสาวประเภทสอง ส่วนที่เหลือเป็นชาวต่างประเทศใช้บริการตามปกติ แต่กลุ่มคนไทยได้พยายามเข้ามานั่งเบียดก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งตนเองและสามีได้ลงที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล บีช พัทยา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ปรากฏว่ากระเป๋าภายในมีเงิน 8,000 บาท ของสามีได้สูญหายไป จึงรีบขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ตรวจสอบ

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

หนุ่มพัทยานั่งกินเหล้าริมระเบียงพลาดหงายหลังตกชั้น 3 สาหัส

พัทยา-(4 ก.ย. 59)เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.อ.สนั่น โคตะนนท์ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้พลัดตกจากที่สูง ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในแดงอพาร์ทเม้นท์ ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือนายสรายุทธ เงาคำ อายุ 23 ปี นอนแน่นิ่งหายใจโรยริน มีเลือดไหลจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯได้ทำการปั้มหัวใจพร้อมทั้งรีบเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลเพื่อเร่งช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยมีกลุ่มเพื่อนและแฟนสาวยืนดูอยู่ไม่ห่าง

สอบถามน.ส.กาญจนา ธิวันนา อายุ 23 ปี แฟนสาวผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุพวกตนได้นั่งดื่มสุรากันอยู่ภายนั่งห้อง จนกระทั่งนายสรายุทธ (ผู้บาดเจ็บ) ได้เดินไปนั่งที่ริมระเบียงอยู่ดีดีก็เกิดหงายหลังตกลงไปด่านล่าง พวกตนจึงรีบวิ่งลงมาตรวจสอบพบว่านายสรายุทธ (ผู้ได้รับบาดเจ็บ) นอนแน่นิ่งและเสียเลือดมากจึงรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯดังกล่าว

เบื้องต้นนายสรายุทธ (ผู้บาดเจ็บ) ซึ่งได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน จึงจะต้องงอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดแล้วต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

ตร.พัทยา บุกจับพ่อค้าขายบุหรี่ฟ้าตลาดนัดกลางเมืองพัทยา

พัทยา-(4 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 21.00 น. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับการร้องเรียนว่าที่ตลาดนัดเปิดท้ายการเคหะเทพประสิทธิ์ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยากลิ่นผลไม้ ซึ่งเป็นสินค้าต้องห้าม ตามประกาศคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 ให้แก่วัยรุ่นในพื้นที่ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ปิ่นรัตน์ สว.สส. นำกำลังชุดสืบสวนไปตรวจสอบ

image

เมื่อไปถึงพบ นายอนุสรณ์ เทียมศรี อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี พ่อค้า ได้เปิดวางแผงให้เห็นเด่นชัดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายและมีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ที่ชื่นชอบจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมทั้งตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 6 ตัว ชุดแต่งบุหรี่ไฟฟ้า 1 กล่อง น้ำยาผลไม้ชนิดต่างๆ 80 ขวด รวมมูลค่า 30,000 บาท จากนั้นจึงควบคุมตัวสอบสวนยัง สภ.เมืองพัทยา

image

เบื้องต้น นายอนุสรณ์ ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า บุหรี่ไฟฟ้าจำหน่ายให้กับลูกค้าตัวละ 1,000 บาท สำหรับน้ำยากลิ่นผลไม้ชนิดต่างๆ ขวดละ 330 บาท พร้อมทั้งรับแต่งบุหรี่ไฟฟ้าอีกด้วย โดยเปิดขายมาได้เพียง 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหา ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหา “ขายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยา โดยผิดกฎหมาย” ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี

ภาพ/ข่าว Ku Salick

มือปืนขับเก๋งประกบยิง “กัน หนองเกตุ” ทีมอุ้มฆ่าหมกป่าแก๊งยานรก

พัทยา-(2 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. พ.ต.ต.ธีทัต ตลุณจันทร์ สารวัตรสอบสวน สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าร้านผ้าม่านสวย เลขที่ 222/70 ถนนหนองปรือ ม.7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังมุงดูร่าง นายวิทวัส เหลาเคน หรือ “กัน หนองเกตุ” อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี นอนจมกองเลือด สภาพถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่จุดสำคัญกว่า 3 แห่ง ประกอบด้วย บริเวณขมับขวา ใต้ราวนมขวา และขาข้างขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปฐมพยาบาลพร้อมกับปั้มหัวใจยื้อชีวิต แต่คนเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาล

ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ผู้เสียชีวิต ยี่ห้อ คาวาซากิ เอสเอสอาร์ สีเขียว ทะเบียน กกร 254 ชลบุรี สภาพพลิกคว่ำอยู่และบริเวณถังน้ำมันมีร่องรอยกระสุนจำนวน 1 นัด แต่ไม่พบปลอกกระสุนหรือหัวกระสุนตกอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากจุดเกิดเหตุ เพื่อสะดวกแก่การเก็บวัตถุพยานหลักฐาน

สอบถาม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุพบคนตาย ขับขี่รถจักรยานยนต์ มุ่งหน้าไปทางตลาดหนองปรือ โดยมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ตามหลังมาในระยะกระชั้นชิด ก่อนเร่งเครื่องแซงขึ้นมาประกบข้าง จากนั้นคนนั่งอยู่ประตูหลังฝั่งซ้าย ได้ลดกระจกมาครึ่งบาน แล้วชักอาวุธปืนใส่จำนวน 3 นัดซ้อน ก่อนพากันเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

จากการตรวจสอบประวัติ ผู้ตาย พบว่า เมื่อเดือนธันวาคม 2556 ผู้ตายกับพวกรวม 4 คน ได้เคยก่อคดีใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิง นายนัด สุวรรณขำ อายุ 29 ปี จำนวน 3 นัด เสียชีวิตบริเวณป่ายูคาลิปตัส ข้างสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำมาบประชัน หมู่ 3 ต.หนองปรือ สาเหตุมาจากแค้นเรื่องหักยาเสพติดจากนักโทษในเรือนจำกลาง จ.อยุธยา แต่ภายหลังไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตรวจติดตามจับกุมไว้ได้ยกแก๊ง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ พบรถเก๋งคนร้ายเข้ามาประกบแล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจริงตามที่พยานให้การ สำหรับสาเหตุการลงมือสังหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ แต่เบื้องต้นคาดว่าปมน่าจะมาจากปมหักธุรกิจมืด หรือการล้างแค้นส่วนตัว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมือปืนรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

คนร้ายย่องขึ้นบ้านเสี่ยธุรกิจรับซื้อขายฝากงัดตู้เซฟกวาดทรัพย์สินหลายรายการ

พัทยา-(1 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 22.30 น. ร.ต.อ.กฤชฐา ประทุมแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในบ้าน สูญทรัพย์สินหายหลายรายการ เหตุเกิดที่บ้านแตงโม เลขที่ 210/12 ม. 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรู 3 ชั้น พบผู้เสียหายทราบชื่อต่อมาคือ นายอุดม พิมมาส อายุ 46 ปีพร้อมภรรยาและลูกๆ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกคนร้ายเป็นชายไทยรูปร่างท่วม ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ เข้าไปก่อเหตุงัดตู้เซฟนิรภัยภายในบ้าน มีทรัพย์สินสูญหายให้รีบวิทยุสกัดจับ แต่ยังไม่สามารถติดตามคนร้ายได้ทัน

ซึ่ง นายอุดม เจ้าของบ้านเล่าว่าตนเองและครอบครัวประกอบธุรกิจรับซื้อขายฝากในเขตพื้นที่เมืองพัทยา หลังจากที่ตนเองและภรรยาเลิกงานได้เดินทางกลับบ้านตามปกติ ได้สังเกตเห็นว่ามีรถยนต์เก๋งจอดอยู่ในซอยมืดข้างบ้านแบบผิดปกติ จึงลงไปสอบถามพูดคุยคนร้ายก็มีท่าทีพูดจาดีจึงไม่เอะใจอะไร

จนกระทั่งตนเองขึ้นไปยังชั้นสองก็พบว่าข้าวของภายในห้องถูกรื้อค้น ตู้เซฟนิรภัยถูกงัดจนเปิดออกทรัพย์สินภายในเป็นแหวนทองและเศษทองอีกจำนวนหนึ่งสูญหายไป เมื่อตรวจสอบห้องที่สองก็พบว่าเงินที่เก็บไว้ในกล่องจำนวน 13,000 บาทก็สูญหายไปด้วย โดยคนร้ายงัดแงะเข้าทางหน้าต่างด้านหลัง ตนเองคิดว่าเป็นรถเก๋งคนดังกล่าวแน่จึงรีบวิ่งออกมาดู แต่คนร้ายก็รีบเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนร้ายคาดว่าจะมาไม่ต่ำกว่า 2 คน โดยคนที่อยู่ที่รถเป็นคนดูต้นทาง เมื่อเจ้าของบ้านมาจึงส่งสัญญาณให้ผู้ร่วมก่อเหตุรีบออกจากบ้านแล้วหลบหนีไป อย่างไรก็ตามได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีผ่านไป เพื่อติดตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

หนุ่มเมาซิ่งจยย. ฝ่าด่านหนีเข้าซอยตัน ถูกจับเป่าเมา ยังขอดื่มต่อเชื่อจะบินได้

พัทยา-(2 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. ขณะที่ ร.ต.ท.ไชยณรงค์ ไชยอินทร์ รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ และอาสาสมัครตำรวจบ้าน ตั้งด่านตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยหาสิ่งของผิดกฎหมายเพื่อเป็นการป้องกันเหตุอาชญากรรม บริเวณหน้าห้างแม็คโคร ตั้งอยู่ริมถนนพัทยาเหนือ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามนโยบาย พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา

จากนั้นพบนายเอกชัย สังข์ทอง อายุ 32 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีเพื่อนนั่งซ้อนท้ายมาด้วย พอเจอด่านตรวจแล้วมีอาการพิรุธ ก่อนจะเร่งเครื่องฝ่าด่านตรวจหลบหนีเข้าไปในซอยตัน เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไปจับกุมเอาไว้ได้ เมื่อนำตัวนายเอกชัย คนขับ มาเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกาย นายเอกชัย ได้ทำอาการบ่ายเบี่ยงอ้างว่าไม่มีแรงเป่า และคว้าขวดสุราอยู่หน้ารถจักรยานยนต์พยายามมาดื่มกินต่ออ้างเพื่อจะได้มีแรงเป่า

ทั้งนี้ จากการเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ นายเอกชัย ปรากฏว่ามีปริมาณสูงถึง 167 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดย นายเอกชัย ได้อ้างว่า สาเหตุที่เมาสุราอย่างหนัก เพราะว่าดื่มฉลองวันเกิดตัวเอง เพื่อขอคะแนนความสงสารหวังให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัว แต่ตรวจสอบแล้วพบว่า นายเอกชัย พูดโกหก โดยระหว่างถูกควบคุมตัวยังอ้อนวอนขอดื่มสุรา เนื่องจากสุรายี่ห้อดังกล่าวดื่มเข้าไปแล้วสามารถบินได้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงควบคุมตัว นายเอกชัย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “เมาแล้วขับ” ต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย