คลังเก็บหมวดหมู่: อาชญากรรม

ตร.พัทยา จับหนุ่มโคราชพกปืนจิ๋ว-ยาไอซ์ คาด่าน

พัทยา-(18 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.ท.ไชยณรงค์ ไชยอินทร์ รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจ ได้ร่วมกันจับกุมนายชัยชนะ เฉลิมพงษ์ อายุ 38 ปี ชาวนครราชสีมา พร้อมของกลางอาวุธปืน บราวนิ่ง ขนาด 6.35 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนจำนวน 4 นัด และยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) สามารถจับกุมได้ที่ซอยกรมที่ดิน ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ร.ต.ท.ไชยณรงค์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนำกำลังตั้งด่านป้องกันเหตุอาชญากรรม ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา จากนั้นพบผู้ต้องหาขับขี่รถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ ท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกขอทำการตรวจค้น พบอาวุธปืนขนาดเล็กจิ๋วดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋ากางเกงด้านหลังและยังพบยาไอซ์บรรจุอยู่ภายในซองซิบ 1 ซอง จึงควบคุมตัวมายังสภ.เมืองพัทยา

สอบถาม นายชัยชนะ ให้การอ้างว่า อาวุธปืนและยาไอซ์เป็นของตนเองจริง โดยไม่คิดว่าทางเจ้าหน้าที่จะค้นเจอเพราะปืนนั้นเป็นปืนขนาดเล็กจิ๋วมาก แต่ตนเองก็พกไว้เพียงแค่ป้องกันตัวเท่านั้น ส่วนยาไอซ์ก็ซื้อมาเสพเอง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ตร.พัทยา ตามรวบอดีตคนขับรถโรงแรม ออกตระเวนเช่ารถตามเต็นท์แล้วเชิดเผ่นหนี

พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 18.30 น.พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แถลงข่าวจับกุม นายกานต์ ปั้นบุญชู อายุ 41 ปี ชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาในคดีเช่ารถยนต์แล้วเชิดหลบหนี พร้อมของกลางรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กล 2334 ขอนแก่น และรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฮน-6807 กรุงเทพฯ โดยมี น.ส.วราภรณ์ สิงห์ค้อ อายุ 38 ปี ผู้เสียหายชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น และน้องชาย ชี้ให้จับกุม

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.วราภรณ์ อาชีพรับราชการในตำแหน่งธุรการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ จ.ขอนแก่น ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุขทัศน์ เพื่อขอให้ช่วยตามรถยนต์ของกลางทั้ง 2 คัน ที่นายกานต์ ผู้ต้องหารายนี้เช่ามาจากเต๊นท์รถที่ น.ส.วราภรณ์ กับเพื่อนร่วมหุ้นกันทำในเมืองขอนแก่น และสามารถจับสัญญาณ จีพีเอส.ของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ได้ว่าอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา ภายหลังจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา พร้อมกับผู้เสียหาย เดินทางไปตามสัญญาณจีพีเอส จนพบรถจอดอยู่บริเวณโกดังตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพัทยาใต้ และสามารถจับกุมนายกานต์ ได้ในเวลาต่อมา ก่อนสอบขยายผลตามไปยึดรถตู้อีก 1 คัน ที่ ห้างสรรพสินค้าโลตัส ใน อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

โดย น.ส.วราภรณ์ เล่าว่า เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว นายกานต์ ได้นำเอกสารสัญญาการขอเช่ารถยนต์ของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา มาทำการแสดงและอ้างว่าต้องการเช่ารถไปรับส่งลูกค้าชาวต่างชาติในพัทยา และขอเช่ารถตู้ในราคาเดือนละ 17,000 บาท ก่อนที่จะจ่ายเงินบางส่วนให้ กระทั่งเดือน ม.ค.ปีนี้ นายกานต์ นำเอกสารมาขอเช่ารถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ อีก 1 คัน ในราคา 23,000 บาทต่อเดือน พร้อมกับนัดหมายจ่ายเงินประกันจำนวน 20,000 บาทในวันที่ 5 ก.พ. ด้วยความเชื่อใจ และดูเป็นคนภูมิฐาน จึงยอมปล่อยรถไป แต่ภายหลังเจ้าตัวกลับติดต่อไม่ได้และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ไว้เป็นหลักฐาน และสามารถจับสัญญาณ จีพีเอส.ของรถว่ายังอยู่ในเมืองพัทยา จึงเข้าพบตำรวจและขอให้ช่วยไปจับกุมดังกล่าว
จากการสอบปากคำนายกานต์ ผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพว่า ในอดีตเคยเป็นพนักงานขับรถรับ-ส่งนักท่องเที่ยวของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา แต่ภายหลังเพราะพิษเศรษฐกิจจึงทำให้โดนปลดออกจากงานทำให้ไม่มีเงินใช้ จึงตัดสินใจไปเช่ารถยนต์แล้วเชิดหนี แล้วนำไปส่งต่อให้กับนายเศรษฐวุฒิ ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง เพื่อนร่วมแก๊ง เพื่อเอาไปขายต่อตามเต๊นท์รถย่านลาดกระบัง และ อ.สามโคก จต.ปทุมธานี ในราคาตกคันละประมาณ 70,000 – 100,000 บาท

ด้าน พ.ต.อ.สุขทัศน์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายกานต์ มีหมายจับในพื้นที่เมืองพัทยาจำนวน 2 หมาย และพื้นที่ธัญญะบุรีอีก 1 หมาย เบื้องต้นทำการควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง-ทหาร ลุยโค่นต้นกระท่อมบ้านกรรมการมัสยิ


พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 18.00 น. นายประพันธ์ ประทุมชุมภู หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิมรามวงศ์ ปลัดฝ่ายป้องกันปราบปราม สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.14 กว่า 20 นาย ได้เข้าตรวจสอบ้านเลขที่ 165/2 ภายในซอย 11 พรประภานิมิต ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังมีการร้องเรียนเข้ามาว่ามีการลักลอบปลูกต้นกระท่อม

IMG_8715

จากการตรวจสอบนายนนท์ธวัช บุญจั่น อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน มีตำแหน่งเป็นกรรมการมัสยิดยามีอุ้ลอิสลาม กำลังกวาดลานบ้านอยู่ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเอาไว้ก่อน โดยพบว่าต้นกระท่อมสูงประมาณ 6-7 เมตร สภาพนั้นเหลือเพียงแต่กิ่ง ส่วนใบนั้นถูกตัดไปจนเกลี้ยง ซึ่งปลูกไว้อยู่บริเวณประตูหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงนำอุปกรณ์ช่วยกันตัดทำร้ายทิ้ง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที สามารถโค่นต้นกระท่อมได้สำเร็จในที่สุด

IMG_8679

จากการสอบสวน นายนนท์ธวัช เจ้าของบ้าน ให้การว่า ต้นกระท่อมดังกล่าวได้ขึ้นมาเองตั้งแต่เมื่อ 25-30 ปี ก่อนที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ เมื่อใบกระท่อมขึ้นตามต้นก็จะรีบตัดทิ้งทันที ซึ่งบางครั้งก็มักจะมีคนมาขอตัดใบกระท่อมเอากินทำยาแก้โรคเบาหวานและความดัน ทั้งนี้ ก็เคยนำใบกระท่อมกินรักษาความดันเหมือนกัน โดยไม่มีเจตนาปลูกเพื่อขายและไปกระทำการผิดอื่นๆ

เบื้องต้นเปิดเผยว่า สำหรับ นายนนท์ธวัช ไม่มีเจตนานำไปกระทำความผิดจริง เนื่องจากต้นกระท่อมได้ขึ้นมาตั้งแต่ นายนนท์ธวัช ก่อนจะเข้ามาอาศัยในบ้านหลังนี้ โดยมีชาวบ้านพื้นที่ดังกล่าวเป็นพยานยืนยัน ว่าเจ้าตัวจะตัดทิ้งอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายนนท์ธวัช ไปลงบันทึกยังที่ว่าการอำเภอบางละมุง ก่อนจะปล่อยตัวกลับบ้านไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ปกครองบางละมุงร่วมทหาร-ตร. ลุยร้านรับซ่อมมอเตอร์ไซค์ย่านตำบลหนองปรือ

ปกครองบางละมุงร่วมทหาร-ตร. ลุยร้านรับซ่อมมอเตอร์ไซค์ย่านตำบลหนองปรือ หวั่นเป็นสถานที่เพาะเชื้อแก๊งโจรกรรมรถ จยย. สุดท้ายไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

IMG_8615

พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 17.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้สั่งการให้นายประพันธ์ ประทุมชุมภู หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยเรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดป้องกันปราบปราม ประสานเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.14 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ นำกำลังเข้าตรวจสอบร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ไม่มีชื่อแห่งหนึ่งภายในซอยวัดบุญสัมพันธ์ 7-9 หลังมีข่าวว่าอาจเป็นแหล่งซ่องสุมเครือข่ายโจรกรรมรถจักรยานยนต์

IMG_8633

จากการตรวจสอบพบร้านดังกล่าวเป็นร้านรับซ่อมรถจักรยานยนต์ทั่วไปขนาด 1 คูหา โดยมีนายสืบสกุล จันทวดี อายุ 24 ปี รับเป็นเจ้าของ ทั้งนี้ภายในพบชิ้นส่วนและอุปกรณ์รถจักรยานยนต์จำนวนมาก ซึ่งจากข้อมูลการแจ้งความรถหายนั้น เจ้าหน้าที่ไม่ตรวจพบของกลางที่มีการแจ้งหายไว้แต่อย่างใด จะมีเพียงรถของลูกค้าที่จอดรอซ่อมอยู่เท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงเดินทางกลับ

IMG_8638 (1)

นายสืบสกุล เจ้าของร้านให้การว่า อุปกรณ์และชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ที่พบวนร้านนั้นเป็นเพียงอะไหล่ที่รับซื้อต่อมาเพื่อนำมาเป็นอะไหล่เปลี่ยนให้ลูกค้า และรถของลูกค้าที่จอดรอซ่อมนั้นก็มีหลักฐานทุกคัน ไม่มีรถที่ถูกโจรกรรมเข้ามาใช้บริการอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้จะแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยให้เจ้าของรถที่รอซ่อมกับทางร้านนำหลักฐานรถมายืนยันความถูกต้องกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไปด้วย

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

เจ้าหน้าที่บุกเข้าล็อคตัวสาวอุดรคลุ้มคลั่งหลังแฟนต่างชาติบอกเลิก

พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 02.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุหญิงสาวคลุ้มคลั่งขว้างปาสิ่งของและเอะอะโวยวาย เหตุเกิดที่บริเวณร้านเสริมสวย ภายในซอยบัวขาว ม.9 พัทยากลาง ต.หนองปรือ องบางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านและนักท่องเที่ยวแตกตื่นยืนดูเหตุการณ์ โดยพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวยืนส่งเสียงเอะอะโวยวายที่หน้าระเบียงชั้นของชั้นที่ 3 ของร้านเสริมสวยและยังขว้างปาสิ่งของลงมาที่ด้านล่างจนชาวบ้านและนักท่องเที่ยวรวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของบริเวณดังกล่าวต่างพากันแตกตื่นวิ่งหลบกันจ้าละหวั่น แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้พยายามพูดเกลี้ยกล่อมที่ด้านล่าง และให้เจ้าหน้าที่อีกชุดขึ้นไปที่ห้องพักเพื่อควบคุมตัว แต่เนื่องจากหญิงดังกล่าวได้ล็อคประตูห้องไม่ให้ใครเข้าไปเจ้าหน้าที่จึงได้พังประตูแต่หลังจากที่กำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปเพื่อทำการคุมตัว กลับต้องวิ่งหลบหนีเนื่องจากหญิงดังกล่าวได้คว้ามีดปลายแหลมไล่ทำร้าย จึงต้องออกมาตั้งหลักอีกครั้ง และ สามารถบุกเข้าไปควบคุมตัวหญิงดังกล่าวได้อย่างปลอดภัยทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นิภัทตรา กุลชะโร อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี

สอบถามทางด้าน เจ้น้อย เจ้าของร้านเสริมสวย เล่าว่า รู้จักกับ น.ส.นิภัทตรา มานานและพักอาศัยอยู่ที่ร้านบนชั้นที่ 3 โดย น.ส.นิภัทตรา เคยมีแฟนเป็นชาวต่างชาติและเคยพูดว่าแฟนจะลงทุนเปิดบาร์เบียร์และร้านฟิตเน็ตให้ จนระยะหลังได้เกิดทะเลาะกับแฟนต่างชาติและเลิกกันจึงอาจทำให้ น.ส.นิภัทตรา เกิดอาการเครียด และประสบปัญหาเรื่องการเงินที่จะต้องส่งเสียทางบ้านเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่ง รพ.เพื่อให้แพทย์รักษาอาการต่อไป

รวบ 2 รปภ.กระชากกระเป๋าสาวอะโกโก้ ได้พร้อมของกลาง

พัทยา-(7 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. ร.ต.อ.พันลภ หริ่งรอด รองสวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อาสาและพลเมืองดี ร่วมกันจับกุม ผู้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ไว้ได้ 2 ราย พร้อมของกลางเป็นกระเป๋าเงินและโทรศัพท์มือถือ ที่ บริเวณซอย 16 เมืองพัทยา ม.10ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสา และพลเมืองดี ควบคุมตัว นายนิด (นามสมมุติ) อายุ 18 ปีอาชีพ ร.ป.ภ. และนายแอ๊ด(นามสมมุติ) อายุ 18 ปี อาชีพ ร.ป.ภ. ได้พร้อมของกลาง และยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุภายในกระเป๋าเงินสีดำ มีเงินสด 1,000 บาทและโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงราคาประมาณ 6,000 บาท จำนวน 1 เครื่อง

น.ส.วิชญาดา วงษ์แหวน อายุ 26 ปี อาชีพ พนักงานอะโกโก้ ได้เล่าว่า ในขณะที่กำลังเดินอยู่ริมถนนบริเวณกลุ่มบาร์ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากและเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราอยู่ไม่ขาดสาย ได้มีชายวัยรุ่น 2 คน ขับขี่จยย. เข้ามาประกบแล้วกระชากกระเป๋าแล้วหลบหนีไป จึงร้องตะโกนให้เจ้าหน้าที่ และ วินจยย.รับจ้างไล่สกัดจับ จนสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้พร้อมของกลาง ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 500 เมตรเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนยัง สภ.เมืองพัทยา

เบื้องต้นเยาวชนทั้งสองรายให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้นเพราะไม่มีเงินกินข้าว และค่าห้องเช่า จึงได้ก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินดีตามกฎหมายต่อไป

พ่อเครียดตามหาลูกไม่พบซดเหล้าย้อมใจก่อนปีนปั้นจั่นจะกระโดดหวังฆ่าตัวตาย

พ่อวัย 60 ออกตามหาลูกที่พัทยาแต่ไม่พบเกิดเครียดดื่มสุราแล้วปีนปั้นจั่นหวังกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย สุดท้ายตำรวจกล่อมจนยอมลงมาอย่างปลอดภัย

พัทยา-(16 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 14.30 น.ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีชายไทยปีนขึ้นไปบนปั้นจั่นตอกเสาเข็มและจะกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย เหตุเกิดบริเวณสถานที่ก่อสร้างอพาร์ทเม้นท์ยังไม่มีชื่อ ในซอย 5 ถนนเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา นำรถกระเช้าและรถพยาบาลเดินทางไปตรวจสอบ

IMG_2602

ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ที่กำลังก่อสร้างอพาร์ทเม้นท์มีรั้วรอบขอบชิด แต่ในวันนี้ไม่มีคนงานมาทำงาน บริเวณปั้นจั่นตอกเสาเข็มความสูงกว่า 25 เมตร พบชายไทยสูงอายุซึ่งอยู่ในสภาพมึนเมา กำลังปีนขึ้นไปด้านบนพร้อมกับตะโกนลงมาว่าอยากตายและอยากเสพยาบ้า ก่อนทำท่าจะกระโดดลงมาหลายครั้ง ท่ามกลางความหวาดเสียวของชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมอยู่นานนับชั่วโมง จนสุดท้ายชายคนดังกล่าวจึงยอมปีนลงมาเอง

จากการสอบสวนทราบชื่อต่อมาคือ นายธรรมนูญ รื่นเริง อายุ 60 ปี ชาว จ.ปราจีนบุรี โดยภายหลังตั้งสติได้จึงให้การว่า ตนเองเดินทางจาก จ.ปราจีนบุรี เพื่อมาตามหาลูกชายและลูกสาวที่มาทำงานอยู่ในเมืองพัทยานานหลายวันแล้วแต่ไม่พบจึงเกิดความเครียดเลยไปซื้อสุรามาดื่มแล้วแอบลอดรั้วสังกะสีเข้าไปยังสถานที่ก่อสร้างอพาร์ทเม้นท์ ก่อนปีนขึ้นไปบนปั้นจั่นเพื่อหวังกระโดดลงมาฆ่าตัวตายดังกล่าว

IMG_2634

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายธรรมนูญ ไปที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดแต่ไม่พบ ซึ่งภายหลังลุงวัยเกษียณรายนี้สร่างเมาและสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้จึงปล่อยตัวไป

ชายอ้างเป็นตำรวจ เชิดลอตเตอรี่แม่ค้าชาวจังหวัดเลย

พัทยา-(16 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 02.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เพ็ญนภา นนศรีภักดี อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดเลย อาชีพแม่ค้าเร่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.สิระภูเดชน์ ชำนาญกิจ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าเมื่อช่วง 5 ทุ่ม คืนที่ผ่านมา มีชายอ้างตัวเป็นตำรวจเชิดลอตเตอรี่ ภายในซอย 7 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา

น.ส.เพ็ญนภา แม่ค้าเร่ขายฉลากกินแบ่งรัฐบาล เล่าว่า ได้มีลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติ นั่งดื่มสุราอยู่ในบาร์เบียร์ เรียกเธอเข้าไปขอเลือกซื้อลอตเตอรี่ แต่ปรากฏว่าต่างชาติคนดังกล่าวได้ดึงลอตเตอรี่หลุดออกมาทั้งหมด 8 ใบ แต่ได้เลือกซื้อเพียง 1 ใบเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 7 ใบ ซึ่งถืออยู่ในมือข้างขวาและที่กำลังจะเย็บเข้าแผง และได้มีชายไทย อายุประมาณ 30 ปี สีผิวดำ-แดง รูปร่างผอม ตัดผมรองทรง สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมชุดกีฬา โดยอยู่ในอาการเมาสุรา

จากนั้นชายคนดังกล่าวได้นั่งเก้าอี้อยู่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างกลางซอยที่เกิดเหตุ ได้เข้ามาคว้ามือและดึงลอตเตอรี่จากมือที่ถืออยู่ไป ก่อนจะหลอกถามว่าหวยทั้งหมด 7 ใบ ราคาเท่าไหร่ จึงได้ตอบไปว่าทั้งหมดราคา 630 บาท ซึ่งขายตกใบละ 90 บาท จากนั้นชายดังกล่าวได้อ้างตัวเป็นตำรวจพร้อมกับข่มขู่ว่าถูกจับแล้ว โดยจะสั่งเจ้าหน้าที่สายตรวจมารับตัวไปดำเนินคดี ทำให้เริ่มรู้สึกไม่ดี

ต่อมาได้มีหัวหน้าวินจุดเกิดเหตุ เข้ามาเจรจาพูดคุยให้ปล่อยตัวไป จนกระทั่งชายดังกล่าวจะได้ปล่อยตัวและเดินหนีหายไปพร้อมกับลอตเตอรี่ ทั้งนี้ วินจักรยานยนต์รับจ้างต่างพากันพูดว่าชายดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศจ่า แต่ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ทำให้วันนั้นต้องเลิกขายทันที ก่อนจะนำเรื่องเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่หน้าอัลคาซ่าร์ คาบาเร่ต์ พัทยา ฟังถึงเหตุการณ์ ก่อนจะได้คำแนะนำให้แจ้งความเอาผิดและอายัดลอตเตอรี่ไว้ก่อน

ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะลงพื้นที่จุดเกิดเหตุหาข้อมูล เกี่ยวกับผู้ก่อเหตุอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นข้าราชการตำรวจจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้อายัดลอตเตอรี่ ประจำงวดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ถูกก่อเหตุไว้แล้ว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

วงจรปิดจับภาพกะเทยแสบงัดลิ้นชักบาร์เบียร์ฉกเงินกว่า 1 หมื่นบาท

พัทยา-(13 ก.พ. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Thailand Angel มีการโพสต์คลิปวีดีโอยาวประมาณ 2 นาที โดยสามารถจับภาพสาวประเภทสองก่อเหตุลักทรัพย์ไว้ได้อย่างชัดเจน พร้อมระบุข้อความ พัทยา กะเทยแสบฉวยจังหวะไม่มีใครอยู่ในร้าน ย่องเข้าไปขโมย รื้อ ค้นทรัพย์สินภายในร้าน เหตุเกิดที่ พัทยากลางซอย 6 แจ้งความตามจับเรียบร้อย ใครพบเห็นแจ้งเจ้าหน้าที่จับกุมได้เลย อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ลงเพจ “เรารักพัทยา” ซึ่งทำให้ลูกเพจที่ติดตามข่าวต่างพากันคอมเม้นวิพากษ์วิจารณ์ และแชร์กันอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ ร้านวันไดเรกชั่น บาร์เบียร์ แอนด์ เกสเฮ้าส์ ตั้งอยู่ภายในซอย 6 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ซึ่งเป็นร้านเกิดเหตุ โดยชั้นล่างได้เปิดเป็นบาร์เบียร์ ชั้น 3 ด้านบนเปิดเป็นห้องพัก โดยมี นายละมุล บุตรวิชา อายุ 39 ปี หรือคุณน้อย สาวประเภทสอง ซึ่งเป็นผู้เสียหายและเจ้าของกิจการดังกล่าว จากการสอบถามได้ความเบื้องต้นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 03.45 น. ลูกค้านักท่องเที่ยวชายต่างชาติซึ่งพักอยู่เกสเฮ้าส์เกิดเหตุ ได้พาสาวประเภทสอง อายุประมาณ 25 ปี ลักษณะรูปร่างผอมสูงประมาณ 175 เซนติเมตร ผมยาวซึ่งคาดว่าน่าจะใส่วิก ขึ้นไปร่วมหลับนอนกับลูกค้าต่างชาติ
โดยที่บาร์เบียร์ชั้นล่างปิดให้บริการแล้ว จนกระทั่งเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง สาวประเภทสองคนดังกล่าว ได้เดินลงมาล้วงเงินในกระป๋องเงินทิปแม่บ้าน ภายในมีเงินสดประมาณ 100 บาท จากนั้นได้เดินปรี่ไปบริเวณเคาน์เตอร์ร้าน ก่อนจะลงมือก่อเหตุโดยใช้เครื่องมือในการก่อเหตุคือมีดและเหล็กที่เปิดฝาขวดงัดลิ้นชักเก็บเงินจนสำเร็จ แล้วลักขโมยเงินสดกว่า 10,000 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งใช้เวลาในการก่อเหตุประมาณ 2 นาที
ต่อมาช่วงเช้าในวันเดียวกัน แม่บ้าน โทรศัพท์มาบอกว่าลิ้นชักเก็บเงินสดถูกงัดขโมยเงินไป จึงรีบเดินทางมายังร้าน ก่อนจะเช็คภาพวงจรปิดของร้าน จนมาพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นสาวประเภทสอง จึงนำคลิปวีดีโอดังกล่าว โพสต์ลงเพจพัทยาเพื่อเตือนภัยสังคมดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

สุดสลด! พ่อ-แม่ใจมาร ฆ่าเด็กทารกยัดศพทิ้งถังขยะกลางเมืองพัทยา

สุดสลด! พ่อ-แม่ใจมาร ฆ่าเด็กทารกยัดศพทิ้งถังขยะกลางเมืองพัทยา ชาวบ้านทราบข่าวพากันสาปแช่งและวิงวอนตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้ในเร็ววัน
พัทยา-(13 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 02.30 น. พ.ต.ท.สมคิด สิทธิศาสตร์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุพนักงานเก็บขยะพบศพเด็กทารกแรกเกิดถูกฆ่านำมาทิ้งถังขยะ บริเวณหน้าโรงแรมเคิร์ฟ บูทิค พัทยากลาง ตั้งอยู่กลางซอย 36/1 ถนนสุขุมวิทพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบถังขยะพลาสติกสีน้ำเงินตั้งวางอยู่หลังรถเก็บขยะเมืองพัทยา ตรวจสอบภายในถังขยะใบดังกล่าว พบศพเด็กทารกแรกเกิด เพศชาย สภาพขึ้นอืดเนื้อตัวเขียวช้ำ โดยที่สายรกยังติดอยู่กับสะดือ เป็นภาพที่สุดสลดหดหู่กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าว นอกจากนี้บรรดาชาวบ้านที่ทราบข่าวสุดสลดนี้ ต่างพากันยืนจับกลุ่มสาปแช่งพ่อแม่ใจมารรายนี้ และวิงวอนให้ตำรวจตามจับกุมคนร้ายให้ได้ในเร็ววัน
จากการสอบสวน น.ส.ดาว อายุ 28 ปี สัญชาติกัมพูชา พนักงานเก็บขยะเมืองพัทยา ให้การด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกว่า ขณะที่กำลังลากถังขยะใบที่เจอศพเด็กเทใส่รถ ได้กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายศพสุนัข จึงเอามือแหวกค้นดูปรากฏว่าเป็นศพเด็กทารกสภาพขึ้นอืด ทำเอาหวิดเกือบเป็นลมล้มพับ เมื่อเจอเหตุการณ์สลดแบบนี้ โดยทำงานเก็บขยะมานานกว่า 8 ปี เพิ่งเคยเจอแบบนี้เป็นแรกรู้สึกตกใจและสลดอย่างมาก
ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดของโรงแรมบริเวณเกิดเหตุ ไม่สามารถใช้งานได้ เบื้องต้นจึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งทีมสืบสวนออกหาข่าวติดตามจับกุมพ่อแม่ใจมารรายนี้มาดำเนินคดี เนื่องจากเป็นคดีที่สังคมยอมรับไม่ได้

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย