พัทยา-(31 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.จักร์ทิพย์ พารากุล ผกก.สภ.บางละมุง พ.ต.ท.อภิชนัน วัฒนวรางกูร รอง.ผกก.สืบสวน ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายณราย หรืออ๊อด สำเนียงเพราะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/1 ม.1 ต.หนองขาม อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลาง รถจยย.ซุซุกิ อาร์ซี สีเขียว ทะเบียน ขธท-23 ชลบุรี โดยมี นายบุญเสริม ตินตระบุระ อายุ 53 ปี เป็นผู้เสียหายยืนยันชี้ตัว

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 8 ส.ค.59 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง รับแจ้งเหตุ คนร้ายลักรถจยย. ที่จอดอยู่ภายในบ้านเลขที่ 58/1 ม.1 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งบ้านหลังเกิดเหตุได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ทำให้บันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุไว้ได้ ลักษณะเป็น ชายไทย รูปร่างท้วม ผมเกรียน อายุประมาณ 30 ปี เดินเปิดรั้วบ้านเข้ามาลักรถจยย.ของกลางเวลาประมาณ 01.30 น. เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสืบสวนขยายผลทำให้ทราบว่า ผู้ต้องสงสัยคือ นายณราย หรืออ๊อด พักอยู่ในพื้นที่ ต.หนองขาม จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้โดยละม่อม จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่า บุคคลตามภาพวงจรปิดคือตนเอง และได้ก่อเหตุลักรถจยย.คันดังกล่าวจริง พร้อมกับนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับของกลางที่จอดทิ้งไว้บริเวณใต้สะพานลอยวัดบางละมุง จากนี้ ยังพบว่า นายณราย หรืออ๊อด เคยต้องโทษในคดีลักษณะเดียวกันและเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 59 ที่ผ่านมา

เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานเวลากลางคืน หรือรับของโจร พร้อมส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ อยากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนชาวบ้าน ให้เก็บกุญแจรถ และล็อครถจยย.ให้เรียบร้อย รวมถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดในที่พักอาศัย เพื่อเป็นการป้องกันภัยจากโจรขโมยและมิจฉาชีพต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

พัทยา-(29 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักพลิกคว่ำตกข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถ เหตุเกิดบริเวณซอย5ธันวา หน้าโรงเรียนบ้านรถไฟ หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนต่างระดับคู่ขนานกับถนนเลียบทางรถไฟ ฝั่งมุ่งหน้าชลบุรี โดยอยู่ต่ำกว่าประมาณ 10 เมตร พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน ญฬ-7362 กทม. สภาพพลิกตะแคงล้อชี้ฟ้า เสียหายยับเยิน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนขับรถ ซึ่งชาวบ้านได้ให้การช่วยเหลือออกมาก่อนเจ้าหน้าที่จะไปถึง ทราบชื่อต่อมา นายสุรศักดิ์ ตฤณขจี อายุ 32 ปี สภาพได้รับบาดเจ็บฟกช้ำที่ใบ้หน้าเพียงเล็กน้อย

สอบถาม นายสุรศักดิ์ ตฤณขจี คนขับ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถคันดังกล่าวมาตามถนนเลียบทางรถไฟ เพื่อมุ่งหน้ากลับกรุงเทพ กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุรถเกิดเสียหลักตกร่องข้างทาง ด้วยความตกใจตนจึงหักพวงมาลัยกลับอย่างรวดเร็ว ทำให้รถสไลด์ชนอัดเหล็กกั้นขอบทางจนรถหมุน และล่วงลงมากระแทกบริเวณถนนคู่ขนาน ก่อนมีชาวบ้านมาช่วยเหลือนำออกจากรถได้ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นความโชคดีที่ตนขับรถไม่เร็ว ประกอบกับริมข้างทางมีต้นไม้คอยรับแรงกระแทก ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

พัทยา-(24 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.อ.อนุพงษ์ พวงพี่ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งว่ามีชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ เหตุเกิดขึ้นที่ บริเวณหน้าอู่กระทิงลายทัฟโคท พ่นกันสนิม ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าชลบุรี ม.1 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังชุดสืบสวน รุดตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบ น.ส.สุรีย์ พวงสมบัติ อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในอาการตกใจ พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองทำงานอยู่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา หลังจากเลิกงานได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ขับกลับบ้านตามปกติ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ครีม โฉมใหม่ สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาประกบข้างแล้วมองหน้า

จึงแสดงความเป็นมิตรด้วยการยิ้มตอบ คนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย อาศัยจังหวะเผลอ คว้ากระเป๋าสะพาย สีดำ ภายในมีทรัพย์สินประกอบด้วย โทรศัพท์ มือถือ ซัมซุง A7 เงินสด 2,300 บาท และเอกสารสำคัญต่างๆ ซึ่งวางไว้อยู่ตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์ ก่อนคนร้ายจะเร่งเครื่องพากันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ได้พยายามขับรถติดตามไปแต่ไม่ทัน จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือชาวบ้านแล้วแจ้งตำรวจทราบดังกล่าว

ภายหลังจากการสอบสวนและตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว ตำรวจจึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะได้ลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายจากกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(3 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. ร.ต.อ.อัศวิน จันโท รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิต 1 ราย บริเวณหน้าห้องพัก เลขที่ 44/1 ซอยบุญนาค ม.11ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรทิพย์ พาราพันธกุล ผกก. พ.ต.ท.ดรัณภพ สระทองอยู่ รอง ผกก.ปป. พ.ต.ต.ปริญญาวุฒิ คุรุการโกศล สว.สส. นำกำลังชุดสืบสวน แพทย์โรงพยาบาลบางละมุง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าห้องพัก พบศพชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) อายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อคอกลม สีดำ นุ่งกางเกงขาสั้น สีดำ นอนจมกองเลือด สภาพรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 สีแดง-ดำ ทะเบียน จทจ 20 ชลบุรี ล้มทับร่างผู้เสียชีวิต ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างหนัก ตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตมีร่องรอยการถูกอาวุธปืน ไม่ทราบขนาด จำนวน 1 นัด ยิงเข้าที่บริเวณกลางหน้าผาก หัวกระสุนฝังใน

สอบถาม พยานแวดล้อม ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังนอนอยู่ในบ้านพัก จากนั้นได้ยินเสียงคนพูดจาเอะอะโวยวายเสียงดัง ต่อมาไม่นานได้ยินเสียงดังคล้ายประทัด ดังขึ้น 1 นัด เมื่อวิ่งออกมาดูปรากฏว่า พบว่าผู้ตายนอนจมกองเลือด ในสภาพรถจักรยานยนต์ล้มทับร่างผู้ตายอยู่ จึงเข้าไปยกรถขึ้นเพื่อพยายามช่วยเหลือ แต่ตรวจสอบแล้วผู้ตายไม่มีชีพจร จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ผกก. สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายกับเพื่อนชายอีก 2 คน พักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าดังกล่าว ภายหลังเกิดเหตุ ปรากฏว่าไร้ร่องรอยของเพื่อนผู้ตาย พบเพียงประตูห้องพักถูกเปิดทิ้งไว้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างติดตามตัวมาสอบสวน ส่วนประเด็นการสังหารในครั้งนี้ เบื้องต้นยังมืดแปดด้านไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร คงต้องขอเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานสักนิด อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการชุดสืบสวนลงพื้นที่คลี่คลายคดีนี้แล้ว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(22 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องสืบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พ.ต.อ.จักรทิพย์ พาราพันธกุล ผกก. พ.ต.ท.ดรัณภพ สระทองอยู่ รอง ผกก.ปป. พ.ต.ท.อภิชนัน วัฒนวรางกูล รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ปริญญาวุฒิ คุรุการโกศล สว.สส. พร้อมกำลังชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว 4 ผู้ต้องหาเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี

ประกอบด้วย นายนัธพร สมบูรณ์สิทธิ์ อายุ 31 ปี นายกฤติธฤต แก้วศรีสกุล อายุ 28 ปี นายชูชีพ ชัยศิริ อายุ 31 ปี และน.ส.ยุวะดี อินอุดม อายุ 31 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า 6,071 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนักรวม 188 กรัม ยาอี 134 เม็ด ยาเค 29 ขวด อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 ยี่ห้อ โคลท์ 1 กระบอก อาวุธปืนยาวลูกกรด ขนาด .22 พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และอายัดทรัพย์เป็นรถยนต์เก๋งจำนวน 2 คัน มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านบาท

พ.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า ตำรวจได้สืบทราบว่านายนัธพร มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ต่อมาตำรวจสืบสวนหาข่าวจนแน่ใจว่านายนัธพร ขับรถเก๋งกำลังจะนำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ชุมชนบ้านโรงโป๊ะ ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจค้น ปรากฏว่าพบยาบ้าจำนวน 5,000 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 136 กรัม ยาเค 11 ขวด และอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก

จากการสอบสวน นายนัธพร รับสารภาพว่าซื้อยาเสพติดดังกล่าวมาจากกฤติธฤต ตำรวจจึงขยายผลไปจับกุมตัวนายกฤติธฤต พร้อมพวกที่เหลือไว้ได้ภายในห้องพักรีสอร์ทหรูแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.หนองปลาไหล ขณะกำลังมั่วสุมยาเสพติดกันอย่างสนุกสนาน พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 1,071 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนักรวม 52กรัม ยาเค 18 ขวด ยาอี 134 เม็ด และอาวุธปืนยาว 1 กระบอก นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์สินตาม พรบ.ยาเสพติด เป็นรถยนต์เก๋งจำนวน 2 คัน

สำหรับตัวนายนัธพร และนายกฤติธฤต เป็นเอเย่นต์ยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเครือข่ายส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นสายบันเทิงที่ชอบใช้ยาเสพติดไปปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติดตามรีสอร์ทและสถานบันเทิงในพื้นที่เมืองพัทยา โดยตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เคยต้องโทษคดียาเสพติดมาแล้วหลายครั้งและเพิ่งจะพ้นโทษออกมาไม่นาน โดยไม่รู้สึกเข็ดหลาบหันเหกลับมาค้ายาเสพติดอีกครั้ง แต่ไม่รอดถูกตำรวจจับได้ในที่สุด

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

กรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊คเผยแพร่คลิปวีดีโอในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์กลุ่มเด็กวัยรุ่นกำลังรุมทำร้ายนักศึกษา ปวช.ปี 1 ที่หน้าโรงเรียนโพธิสัมพันธ์พิทยาคาร ปากซอย 16 ถ.พัทยา-นาเกลือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนมีคนไปแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บางคนที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงส่วนใหญ่จะพากันประณามกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่แสดงความคิดเห็นไปในทางตรงกันข้าม และบอกเล่าถึงเหตุการณ์และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

โดยภายหลังคลิปดังกล่าวแพร่ออกไป ทาง พ.ต.ท.ดรัณภพ สระทองอยู่ รอง ผกก.ป.สภ.บางละมุง ในฐานะที่ดูแลงานด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมกับรายงานเรื่องนี้ให้ พ.ต.อ.จักร์ทิพย์ พาราพันธกุล ผกก.หัวหน้าสถานี และ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ให้รับทราบข้อมูล ก่อนสั่งการให้ออกติดตามตัวผู้เสียหายและกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายมาสอบปากคำ ซึ่งเบื้องต้นทางมารดาของเยาวชนที่ถูกทำร้ายได้พาลูกชายเดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และทางตำรวจได้ติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมาได้แล้วทั้งหมดรวม 4 คน ตามที่รายงานไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 22.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.จักร์ทิพย์ พาราพันธกุล ผกก.สภ.บางละมุง ได้นำตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ และเด็กปวช.ที่ถูกรุมทำร้ายในคลิปพร้อมผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยหนึ่งในผู้ก่อเหตุเล่าว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) นายเจษฎาพร้อมกับพวกขับรถ จยย. ไปรับเพื่อนสาวที่โรงเรียนเมืองพัทยา 9 ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียนโพธิสัมพันธ์พิทยาคาร แล้วเกิดไปเขม่นกับนายยุทธ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) เด็กนักเรียนชั้นมัธยมของโรงเรียนเมืองพัทยา 9 ก่อนที่นายเจษฎา จะให้ของลับแล้วขับรถ จยย. ออกจากโรงเรียนไป

จนกระทั่งวันที่ 20 มิ.ย. เวลาประมาณ 16.00 น.นายเจษ ได้พาพวกไปดักรุมทำร้ายนายยุทธที่บริเวณโรงเรียนเมืองพัทยา 9 และเกิดการทะเลาะวิวาทชกต่อยกันชุลมุน ภายหลังแฟนสาวของนายยุทธ จึงได้โทรศัพท์ไปหานายธงชัย ศิริธรรม หรือบอยคลองพลับ อายุ 28 ปี เพื่อให้ตามพรรคพวกมาช่วยแฟนหนุ่มของตนเอง ต่อมานายบอยกับพวกรวม 6 คน มาถึง จึงได้เปิดฉากไล่ต่อยกลุ่มของนายเจษจนพากันแตกหนีกระเจิงไปคนละทิศละทาง แต่นายเจษขับรถจยย.หนีไม่ทันและเสียหลักล้มคว่ำ จึงถูกล้อมกรอบรุมสกรัมจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.จักร์ทิพย์ พาราพันธกุล ผกก.สภ.บางละมุง เปิดเผยว่ายังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากต้องรอผลตรวจบาดแผลจากทางแพทย์ของโรงพยาบาลบางละมุง พร้อมทั้งสอบปากคำพยานแวดล้อมเพื่อหาข้อสรุปของคดี

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

หนุ่มเมืองชลบุรีช่างก่อสร้าง จุดธูปขอขมาพระก่อนตัดสินใจผูกคอตายลาโลกใต้ต้นมะม่วง ด้านตร.ไม่ปักใจเชื่อหลังญาติอ้างพระมรดกเก่าแก่ราคาหลักหมื่นบาทที่ผู้ตายรักและหวงแหนได้สูญหายไป อย่างไรก็ตามจะต้องรอผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจว่าเป็นการฆ่าตัวตัวเองหรือถูกฆาตกรรม

พัทยา-(30 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 10.30 น. ร.ต.อ.อัศวิน จันโท รองสว.สอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนผูกคอฆ่าตัวตาย เหตุเกิดที่บ้านพักเลขที่ 27/5 ม.6 ซอยหนองใหญ่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยังหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบประชาชนในละแวกใกล้เคียงมุงดูภาพอันน่าเวทนา ของชายหนุ่มทราบชื่อคือ นายเอนก หุ่นประดิษฐ์ อายุ 36 ปี อาชีพช่างก่อสร้างในสภาพไม่สวมเสื้อ นุงกางเกงขาสั้นสีดำ ใช้เชือกไนลอนผูกกับกิ่งต้นมะม่วงปลายเชือกมัดเป็นบ่วงคล้องติดกับคอ ร่างห้อยต่องแต่งลิ้นจุกปากเป็นที่น่าสยดสยองเป็นอย่างมาก ตรวจสอบใกล้กันยังพบพระพุทธรูปพร้อมธูป 3 ดอกถูกจุดบูชาคล้ายกับขอขมา เจ้าหน้าที่จึงต้องกั้นผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งนำร่างผู้เสียชีวิตลงมายังด้านล่าง

สอบถาม น.ส.นุช เปา อายุ 35 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าในขณะที่ตนเองเดินออกมาปิดน้ำ ได้สังเกตเห็น นายเอนก(ผู้ตาย) คล้ายกับปีนอยู่บนต้นไม้ แต่เห็นว่าขาลอยจากพื้น ด้วยความสงสัยจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า นายเอนก(ผู้ตาย)ผูกคอตายห้อยแกว่งไปมาอยู่กับกิ่งมะม่วงหน้าบ้าน จึงรีบตะโกนให้คนมาช่วยและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากทางญาติว่า นายเอนก(ผู้ตาย) นั้นจะแขวนบูชาพระห้อยคอติดตัวไว้ตลอดเวลา และพระเครื่ององค์ดังกล่าวนั้นเป็นมรดกตกทอด ซึ่ง นายเอนกรักและหวงแหนเป็นอย่างมาก ถึงขนาดมีเซียนพระมาขอเช่าบูชาหลักหมื่นบาทก็ยังไม่ยอมขาย แต่ปรากฏว่าพระเครื่องที่ห้อยคอของนายเอนกได้หายไป และบริเวณที่เกิดเหตุก็ไม่มีผู้ใดพบเห็น จึงทำให้เป็นที่งุนงงของญาติๆ

อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.อัศวิน จันโท รองสว.สอบสวน เจ้าของคดี ได้ถ่ายภายไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุการตายนั้นยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย จึงจะต้องรอผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อยืนยันสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

พัทยา-(28 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 21.30 น. ร.ต.อ.สิทธาวัชร์ ชวกรเธียรรัตน์ รองสว.สอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุจักรยายนต์เสียหลักล้มคว่ำแล้วถูกรถที่ตามมาเหยียบซ้ำ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิด หน้าสถานีเชื้อเพลิงพีเอพีแก๊ส บนถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าพัทยา ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายไทยอายุประมาณ 20-25 ปี ตรวจสอบภายในร่างกายไม่พบเอกสารระบุตัวบุคคล ถูกเหยียบที่ลำตัวและศีรษะนอนเสียชีวิตจมกองเลือด เป็นที่น่าสยดสยอง เจ้าหน้าที่นำผ้าปิดไว้กันเป็นที่อุจาดตา ข้างกันพบรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ยี่ห้อยามาฮ่า สีฟ้า-ขาว หมายเลขทะเบียน1 กล 7240 ชลบุรี ด้านหน้ารถได้รับความเสียหายยับเยิน

ถัดไปประมาณ 20 เมตรพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ชฎ 1634กรุงเทพมหานคร ไดรับความเสียหายช่วงกันชนหน้าเล็กน้อย โดยมี น.ส.ณัฐกานต์ เนียรศิริ อายุ 27 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับ นายณัฐพงษ์ อัมพรัตน์ อายุ 28 ปี พยานผู้เห็นเหตุการณ์

สอบถาม นายณัฐพงษ์ (พยานผู้เห็นเหตุการณ์) เล่าว่าตนเองนั้นได้ขับมุ่งหน้าสัตหีบ เห็นว่ารถที่ขับอยู่ด้านหน้าได้หักหลบอุบัติเหตุอย่างฉุกเฉิน ตนเองจึงรีบเหยียบเบรกแล้วเปิดไฟผ่าหมาก จากนั้นก็มีพลเมืองดีมาช่วยกันโบกรถ แต่จังหวะเดียวกันได้มีรถเก่งอีกคันขับมาด้วยความเร็วได้หักหลบอุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้รถที่ตามมาด้านหลังซึ่งเป็นรถของ น.ส.ณัฐกานต์ เบรกไม่ทันจึงหักหลบโดยไม่ทราบว่าข้างหน้ามีอุบัติเหตุจึงเหยียบเข้ากับร่างผู้บาดเจ็บ เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้น ร.ต.อ.สิทธาวัชร์ ชวกรเธียรรัตน์ รองสว.สอบสวน เจ้าของคดี ได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมจะประสานตรวจสอบกล้องบริเวณจุดเกิดเหตุว่ารถจักรยานยนต์ประสพอุบัติเหตุกับรถอะไร เนื่องจากด้านหน้ารถมีร่อยรอยการชนอย่างหนัก ส่วนศพผู้เสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จะเก็บรักษายังโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อรอญาติติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พัทยา-(20 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 13.00 น.ร.ต.อ.สิทธาวัชร์ ชวกรเธียรรัตน์ รองสว.สอบสวน สภ.บางละมุง พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบที่เพลิงพัก ไม่มีเลขที่ บ้านหัวทราย หมู่ 2 ตำบลหนองปลาไหล เขตอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต

ในที่เกิดเหตุพบ นางอังอร จั่นจร อายุ 45 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเปลหน้าเพลิงพัก ในสภาพศพนอนตะแคลงข้าง สวมผ้าถุงลายสก็อตสีแดง ตรวจสอบไม่มีร่องราย ของการถูกทำร้าย ที่ตามร่างกายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7-8 ชั่งโมง

นายสุเมธ หงส์เจริญศรี 43 ปี เพื่อนของผู้ตาย บอกว่า นางอังอร ผู้ตาย เป็นภรรยาของผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นนายจ้างของตน และเมื่อหลายวันก่อน ได้ออกไปทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัด โดยก่อนหน้านี้ทราบมาว่า นางอังอร ผู้ตาย ป่วยเป็นโรคลิ้นหัวไจรั่ว ทางหมอได้สั่งห้ามไม่ให้ นางอังอร ผู้ตาย ดื่มสุราอย่างเด็ดขาด แต่นางอังอร กลับไม่ยอมเชื่อฟัง ยังคงดื่มสุราจนเมามายอยู่ทุกวัน

ทั้งนี้ในวันนี้ จึงได้เข้ามาเยี่ยม นางอังอร ผู้ตาย ที่เพลิงพัก แต่กลับพบว่านางอังอร ได้เสียชีวิตแล้ว จึงได้รีบแจ้งให้ทางญาติของนางอังอร ทราบ ก่อนที่จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาทำการตรวจสอบดังกล่าว

ภาพ/ข่าว เฮียก๊วย