คลังเก็บป้ายกำกับ: สภ.เมืองพัทยา

ตร.พัทยา แถลงข่าวรวบ 3 สาวเวียดนาม แก๊งล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว

พัทยา-(26 ส.ค. 59) พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ร่วมแถลงข่าวจับกุมแก๊งหญิงเวียดนามล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวจีน ประกอบด้วย MS.NGUYEN THI DUYEN สัญชาติเวียดนาม อายุ 40 ปี , MS.NGUYEN THI THUAN สัญชาติเวียดนาม อายุ 56 ปี และ MS.CHU THI CHIEN สัญชาติเวียดนาม อายุ 59 ปี
พร้อมของกลาง ธนบัตรสกุลเงินไทย รวม 30,730 บาท ธนบัตรสกุลเงินยูเอสดอลล่า รวม 220 ดอลล่า ธนบัตรสกุลเงินเวียตนาม รวม 2,682,000 ดอง ธนบัตรสกุลเงินจีน รวม 145 หยวน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง และกระเป๋าสตางค์และเอกสารสำคัญอีกหลายรายการ

image

พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 19:10 น. ของวันที่ 25 ส.ค. 59 ได้รับแจ้งจาก MS.ZHENG JIANPING อายุ 56 ปี สัญชาติจีน ผู้เสียหายว่า ขณะที่กำลังท่องเที่ยวอยู่บริเวณลานน้ำพุ โคลอสเซี่ยมโชว์พัทยา ถ.เทพประสิทธิ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ถูกหญิงต่างชาติ 3 คน ที่ทำทีเป็นนักท่องเที่ยว มายืนถ่ายรูปอยู่ติดกับตน และได้ร่วมกันลักเอากระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายของตนไปหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด จึงพบภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะที่ผู้ต้องหากำลังก่อเหตุไว้ได้โดยมีการแบ่งหน้าที่กันขณะที่ก่อเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันออกตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้ง 3 ราย และนำตัวไปตรวจค้นห้องพักที่โรงแรมทาวร์อินทาวร์ พัทยากลางฯ ห้อง 321 เพื่อติดตามทรัพย์สินของกลางที่ได้จากการกระทำผิด โดยมีผู้เสียหายชี้ยืนยันให้ทำการจับกุมตัว

image

สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวจริง ซึ่งเพิ่งจะก่อเหตุเป็นครั้งแรก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือ รับของโจร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

รวบพ่อค้าชาชักค้ายาบ้าหาเงินดาวน์บ้านให้พ่อแม่

พัทยา-(22 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 18.00 น. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย ร.ต.อ.อาคม วงสามารถ รอง สวป. และกำลังตำรวจชุดปราบปรามพิเศษ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายวิทยา พงษ์เขียว หรือกอล์ฟ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 6 ต.บางพูด อ.เมือง จ.ปทุมธานี อาชีพขายน้ำชาชักในตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา พร้อมของกลางเป็นยาไอซ์ 6.41.กรัม และยาบ้า 423 เม็ด ซึ่งจับกุมได้ที่บริเวณหน้าตลาดน้ำ 4 ภาคเมืองพัทยา

พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหาว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจได้จับนักเสพชายวัยรุ่นคนหนึ่งซึ่งตรวจฉี่เป็นสีม่วง ให้การว่าได้ซื้อยาบ้ามาจากนายวิทยา ซึ่งยึดอาชีพเป็นพ่อค้าชายชาชักในตลาดน้ำ 4 ภาคมาเสพอยู่เป็นประจำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้สายลับติดต่อขอซื้อยาบ้าจำนวน 5 เม็ด เมื่อถึงเวลานัดหมายนายวิทยา เดินออกมาที่บริเวณหน้าตลาดพร้อมกับยื่นยาบ้าให้กับสายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักซุ่มอยู่ใกล้เคียงจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนที่จะพาไปค้นบ้านพักพบยาบ้าและยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง

นายวิทยา พงษ์เขียว ให้การรับสารภาพว่า ปกติตนมีอาชีพขายชาชักในตลาดน้ำ 4 ภาค แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองพัทยา แต่มาระยะหลังเศรษฐกิจไม่ดีนัก จึงหันมาค้ายาเสพติด โดยไปรับยาบ้ามาจากนายต่อ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง มาจำหน่ายในราคาเม็ดละ150 บาทส่วนยาไอซ์กรัมละ 1,400 บาท ซึ่งกำไรจากขายยาเสพติดนำไปเลี้ยงดูบิดาซึ่งพิการทางตาและกำลังรวบรวมเป็นเงินดาวน์บ้านหลังใหม่ให้กับบิดามารดา เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณ แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

โหด! สาวอะโกโก้หน้าใหม่คว้าขวดปากฉลาม-แทงเพื่อนร่วมงานยับ

พัทยา-(23 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 03.00 น. ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย จันลา รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทและมีการใช้อาวุธทำร้ายกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณปากซอย 6 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบสาววัยรุ่นเกือบ 20 คน แบ่งข้างเป็นสองฝั่ง กำลังยืนส่งเสียงเอะอะโวยวายกันอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ตรวจสอบพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.จันทนิภา กู้เขียว อายุ 22 ปี พนักงานสาวอะโกโก้แห่งหนึ่งของเมืองพัทยา เลือดท่วมตัว สภาพใบหน้าปูดบวม มีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่คิ้ว หน้าผากและแขนทั้งสองข้าง ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่ง รพ.บางละมุง ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ น.ส.กรรณิการ์ มิ่งขวัญ อายุ 20 ปี พนักงานสาวอะโกโก้ร้านเดียวกัน ไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยในมือข้างขวาถือขวดเบียร์ที่แตกเป็นปากฉลาม ตำรวจจึงควบคุมตัว พร้อมยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม ผู้บาดเจ็บ ให้การว่า ระหว่างทำงานเต้นโคโยตี้ อยู่ที่ร้านอะโกโก้ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งมาทำงานเป็นวันแรกเมาสุรา เต้นระบำตามจังหวะเสียงเพลงอย่างสนุกสนาน ก่อนที่เท้าของผู้ก่อเหตุจะยกเท้าใส่ลักษณะเยาะเย้ย ไม่ทราบสาเหตุอะไร เธอจึงเดินเข้าไปถามว่า “มีปัญหาอะไรไหม” จากนั้นก็เริ่มมีปากเสียงอย่างรุนแรง ต่อมาก็ได้นัดมาเคลียร์ปัญหากันนอกร้านบริเวณจุดเกิดเหตุ เมื่อถึงเวลา ผู้ก่อเหตุ ก็ไม่ได้พูดจาอะไรคว้าขวดเบียร์ที่พกติดตัวมาด้วย ฟาดเข้าที่ศีรษะ 1 ครั้ง จนขวดเบียร์แตกแล้วใช้ปากฉลามแทงเข้าที่ใบหน้าและแขนจำนวนหลาย 10 แผล ก่อนจะมีพลเมืองดีช่วยกันห้ามปรามและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุ

ภายหลังสอบสวนเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุ ปฏิเสธว่า เธอไม่มีเจตนาเต้นยกเท้าใส่ ผู้บาดเจ็บ โดยยืนยันว่า ผู้บาดเจ็บ เป็นคนเข้ามาหาเรื่องแล้วคิดไปเอง ก่อนที่ตัวเธอจะถูกกระชากออกมาจากนอกร้านแล้วโดนทำร้าย จึงใช้ขวดเบียร์ที่กินอยู่ถือติดออกมาด้วยทำร้ายคืนเพื่อเป็นการป้องกันตัว เพราะว่าระหว่างเกิดเหตุได้มีบรรดาเพื่อนๆ ผู้บาดเจ็บ พยายามเข้ามาทำร้ายอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว ผู้ก่อเหตุ ไปสอบสวนดำเนินคดีของกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ฆ่าโหดกะเทยพัทยายัดศพหมกใต้เตียงห้องเช่ากลางเมือง

พัทยา-(20 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยาร่วมตรวจสอบผู้เสียชีวิต ภายในห้องพัก ลิทเทิ้นคอร์ท เลขที่ 285/18 ม.9 ซ.บัวขาว ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าสูง 5 ชั้น ภายในห้องเลขที่ 666 ชั้นดาดฟ้าที่ดัดแปลงทำห้องเช่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบศพสาวประเภทสอง ไม่ทราบชื่อสกุล อยู่บริเวณใต้เตียงนอน ลักษณะขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารถระบุได้ว่าถูกฆ่ารัดคอ หรือถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณศีรษะ เนื่องจากสภาพศพเสียชีวิตมามากกว่า 3 วัน ต้องส่งสถาบันนิติเวชชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง

จากการสอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่า ห้องที่เกิดเหตุมีชาย 2 คน มาเช็คอินเข้าพักตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนชื่อที่ใช้ในการเข้าพัก เจ้าหน้าที่ขอไม่เปิดเผยเพราะเกรงจะเสียรูปคดี จากนั้นในวันที่ 18 เวลาประมาณ 01.35 น.ชายทั้ง 2 ได้พาสาวประเภทสองมาพักที่ห้อง และชายทั้ง 2 คน ได้ออกเช็คเอาท์จากห้องพักไปวันที่ 18 ส.ค. เวลาประมาณ 9.00 น.

ต่อมาในวันที่ 19 ส.ค.59 เวลาประมาณ 17.30 น. ได้มีชายหญิงมาใช้บริการห้องพักห้องพักดังกล่าว และขอให้พนักงานเอาสเปร์ยน้ำหอมไปฉีด เนื่องจากในห้องมีกลิ่นเหม็นเล็กน้อยแต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 20 ส.ค. แม่บ้านได้มาทำความสะอาดห้อง และพบว่าห้องมีกลิ่นเหม็นมากและมีเลือดไหลออกมาจากใต้เตียง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบจนพบศพผู้เสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เผยว่า ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อและรูปพรรณผู้ต้องสงสัยที่มาเช่าห้องแล้ว พร้อมกับกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพชายทั้ง 2 ได้ แต่ขอไม่เปิดรายละเอียดมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวอยู่ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานสักระยะ คาดว่าคงได้ตัวมาในเร็วๆนี้ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด คาดว่าอาจเกิดมาจากปัญหาส่วนตัว หรือปัญหาของชายทั้ง2คน ที่พาสาวประเภทสองมาร่วมหลับนอนหรือไม่ ซึ่งจะต้องตรวจสอบโดยอย่างละเอียดอีกครั้ง

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

ชาวไทย-ต่างชาติ ตระเวนขับจยย.-จ้างรถสองแถว ไล่จับโปเกมอนทั่วเมืองพัทยา

image

ค่ำคืนวันที่ 8 สิงหาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีชและสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา พบว่ามีแฟนพันธุ์แท้เกมโปเกมอนทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาเล่นเกมกันอย่างหนาตาทำให้ดูคึกคักขึ้นมาถนัดตา ทั้งยังสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบกิจการร้านค้าในละแวกใกล้เคียงอีกด้วย

image

ทั้งนี้ ยังมีบางรายที่ใช้วิธีการขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไปตามท้องถนนเพื่อไล่จับโปเกมอนหายาก บางรายถึงกับว่าจ้างรถจักรยานยนต์รับจ้างและรถสหกรณ์แท็กซี่ เพื่อตระเวนเล่นเกมกันเลยทีเดียว แต่บางรายก็เลือกที่จะใช้บริการสหกรณ์สองแถวเนื่องจากราคาย่อมเยากว่า สร้างความแปลกตาให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเด็กนักเรียนจับกลุ่มเล่นกันจนดึกดื่น โดยที่ไม่มีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด สร้างความเป็นห่วงให้กับผู้พบเห็นด้วยเช่นกัน

image

ผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานอีกว่ามีผู้ปกครองที่พบเห็นกลุ่มเด็กนักเรียนอายุประมาณ 12-15 ปีที่รวมตัวกันเล่นเกมกันจนมืดค่ำ ว่าเป็นการติดเกมมากจนเกินไปจนไม่กลับบ้านหรือไม่ จึงอยากวอนให้ผู้ปกครองทุกท่านดูแลให้บุตรหลานอย่างใกล้ชิดหากหนีออกมาเล่นเกมเกรงว่าจะเกิดอันตราย นอกจากนี้ยังอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านให้ช่วยตรวจตราในจุดที่เปลี่ยวและมีความเสี่ยงต่อการอาจเกิดอันตรายกับผู้ที่เล่นเกมจนไม่คำนึงถึงภัยที่อาจแฝงเข้ามาในรูปแบบต่างๆด้วย

image

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ตำรวจพัทยาแถลงข่าวกวาดล้างอาชญากรรม 4 คดีในช่วงก่อนวันลงประชามติ

พัทยา-(5 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 17.00 น. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสคร รอง ผกก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งร่วมแถลงข่าวกวาดล้างอาชญากรรมช่วงก่อนวันลงประชามติ ประกอบด้วย

คดีล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบนรถสองแถว มี น.ส.วันเพ็ญ ต้นจันทร์ อายุ 39 ปี เป็นผู้ต้องหาก่อเหตุบนรถสองแถว

คดีวัยรุ่นวิ่งราวทรัพย์ มีนายเจตวัชร์ ประจวบสุข อายุ 24 ปี เป็นผู้ต้องหาหลังก่อเหตุวิ่งราวโทรศัพท์มือถือของพนักงานร้านสะดวกซื้อย่านพัทยากลาง

คดีอาวุธปืน มีนายจิรายุ จงจอหอ อายุ 22 ปี ชาวนครราชสีมา เป็นต้องหา สามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. ทะเบียน กท 54226670 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนในกระเป๋าสะพาน จากการตั้งด่านตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

และคดีค้ามนุษย์ มี น.ส.บัวแก้ว บุญ อายุ 33 ปี เป็นผู้ต้องหาหลังพาเด็กวัย 4-5 ขวบ มาเร่ขายสินตามสถานบันเทิงในเมืองพัทยา

ภาพ/ข่าว ศูนย์ข่าวลับโคมันยอง

ตร.พัทยาสนธิกำลัง ตร.ท่องเที่ยว ปราบคูเวตแว๊นป่วนเมือง พบรถท่อดังและไม่มีหลักฐานเพียบ

พัทยา-(29 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 05.00 น. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ กนกวิลาศ สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ปิ่นรัตน์ สว.สส.พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. ร.ต.อ.วิษณุ ไชยสุวรรณ รองสวป.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสากว่า 50 นายร่วมกันจับกุมกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวคูเวตกว่า 40 คน พร้อมรถจักรยานยนต์จำนวน 26 คัน ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดมายังสถานีตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา
ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีประชาชนในเขตพื้นที่เมืองพัทยาร้องเรียนมายัง พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นชาวต่างชาติจับกลุ่มขับขี่จักรยานยนต์ท่อดังวิ่งไปมาตลอดทั้งคืนยันเช้า ทำให้ได้รับความเดือดร้อน จึงได้สั่งการให้สนธิกำลังเพื่อตรวจสอบ หากพบให้ทำการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งตัวผู้ขับขี่และเจ้าของรถเช่า

ทั้งนี้ผลการจับกุมได้ควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติคูเวตทั้งหมดอายุประมาณ 18-25 ปีรวมกว่า 40 ราย พร้อมรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ จากการตรวจสอบพบว่าหลายคันมีการตกแต่งใส่ท่อไอเสียที่มีเสียงดัง บางคันยังพบว่าไม่มีเอกสารคู่มือแสดงและใส่ทะเบียนป้ายแดง จากการตรวจสอบหลักฐานผ่านระบบคอมพิวเตอร์ก็ยังพบว่าบางคันทะเบียนไม่ตรงกับตัวรถอีกด้วย

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกตรวจยึดรถจักรยานยนต์ทั้งหมด ก่อนให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบเอกสารประจำตัวและดำเนินคดีในข้อข้อขับขี่โดยประมาทหวาดเสียว ส่วนรถจักรยานยนต์เป็นรถเช่าทั้งหมดจะให้เจ้าของมาติดต่อเพื่อรับรถคืน โดยจะต้องนำหลักฐานมายืนยันอย่างละเอียด ส่วนท่อไอเสียที่มีเสียงดังจะยึดไปทำลายทั้งหมด หากผู้ใดไม่สามารถนำหลักฐานมาแสดงได้หรือเอกสารไม่ตรงก็จะทำการตรวจสอบที่มาของรถหากนำเข้ามาโดยไม่ถูกต้องจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

กะเทยพัทยาระบาด ออกปลดสร้อยคอนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ก่อนเผ่นหนีลอยนวล

พัทยา-(17 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.อ.ธานินทร์ กันภัย รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกคนร้ายก่อเหตุปลดสร้อย เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงแรมโมนาเพลส ภายในซอย 14 พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้สายตรวจเขตรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวทราบชื่อ MR.SHAILESH KUMAR อายุ 34 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอินเดีย เจ้าของร้านโทรศัพท์ มือถือที่ต่างประเทศ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมให้การผ่านล่ามแปลภาษาว่า ถูกสาวประเภทสองเข้ามาทำทีกอดจูบ ลูบไล้ แล้วอาศัยจังหวะเผลอปลดสร้อยคอทองคำราคา 12,000 บาท แล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่มีเพื่อนร่วมทีมจอดรออยู่ ก่อนพากันหลับหนีไปตามถนนเส้นพัทยาสายสาม ตนเองจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับคนร้ายตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีแต่ก็ไร้วี่แวว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ดูรูปพรรณสัณฐานเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พลเมืองดี เก็บกระเป๋าเงินคืนเจ้าของ ทำความดีถวายแม่หลวงไทย

พัทยา-(16 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 23.30 น. ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พันจ่าโท อนิวัฒน์ พรมรังสี สังกัดหน่วยการแพทย์ทหารเรือสัตหีบ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.กฤษฐา ประทุมแก้ว รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อนำกระสตางค์ของผู้อื่น มามอบให้ช่วยติดตามเจ้าของกระเป๋ามารับคืน ภายหลังจากเก็บได้บริเวณหน้าศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล บีท พัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

image

พันจ่าโท อนิวัฒน์ เล่าว่า ขณะที่ตนได้เดินทางมาเข้าร่วมแข่งขัน “ พัทยามาราธอน 2016 ” ที่จะเริ่มในช่วงตี 3 ที่จะถึง ตนจึงเดินมาเพื่อเล่นเพื่อวอร์มร่างกายก่อนการแข่งขันจริง ได้สังเกตเห็นกระเป๋าเงินสีดำตกอยู่ ตรวจสอบพบมีเงินสดจำนวนหนึ่งและเอกสารสำคัญ เกรงว่าเจ้าของกระเป๋าอาจได้รับความเดือดร้อนหากสิ่งของในกระเป๋าสูญหายไป จึงได้นำมาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามหาเจ้าของ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนแต่อย่างใด เพื่อเป็นการทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันแม่ที่จะถึงนี้

ร.ต.อ.กฤษฐา กล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการตรวจสอบ ภายในกระเป๋าดังกล่าวพบเงินสดจำนวน 2,100 บาทและเอกสารระบุตัวเจ้าของคือนายฐาปนา อักษรนันท์ จึงได้ทำการประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย กระทั่งต่อมานายฐาปนา ได้เดินทางมาติดต่อพร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าของกระเป๋าดังกล่าว เมื่อตรวจสอบแน่ชัดว่าเป็นเจ้าของตัวจริง จึงได้มอบส่งมอบกระเป๋าดังกล่าวคืนให้

image

ทั้งนี้นายฐาปนา ภายหลังจากได้รับกระเป๋าสตางค์กลับคืนแล้ว ได้ตรวจสอบทรัพย์สินภายใน ซึ่งไม่มีสิ่งใดสูญหาย จึงได้กล่าวขอบคุณพันจ่าโท อนิวัฒน์ พร้อมมอบสินน้ำใจเล็กน้อยเป็นรางวัล

ภาพ/ข่าว Ku salick

นักธุรกิจชาวจีนถูกกะเทยชายหาดพัทยาปลดสร้อยคอหลักแสนบาทหลบหนีลอยนวล

พัทยา-(13 ก.ค. 59) เวลา 03.30 น. ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกสาวประเภทสองปลดสร้อย ราคา150,000 บาทไป เหตุเกิดบริเวณตรงข้าม ห้างรอยัล การ์เด้น พลาซ่า พัทยาใต้ ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังชุดสืบสวนไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณชายหาด ผู้เสียหายทราบชื่อคือนาย LYU MIAG อายุ 38 ปี สัญชาติจีน เล่าว่าตนเป็นนักธุรกิจอยู่ที่ประเทศจีน ได้เดินทางมาเที่ยวพัทยากับกลุ่มเพื่อน จากนั้นได้ชวนเพื่อนออกมาเดินชมวิวที่ของชายหาดพัทยา จนมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีสาวประเภทสองจำนวน 2-3 คน ออกมาเสนอขายบริการ สาวประเภทสองก็ทำทีเข้ามาลูบไล้เพื่อให้เกิดอารมณ์ ตนพยายามจะผลักออกและเดินหนี จากนั้นทางเพื่อนได้สังเกตเห็นว่าสร้อยคอหายไป ตนตกใจมากและคิดว่ากลุ่มสาวประเภทสองเอาไปแน่ จึงเดินตามหาแต่ก็ไม่พบ จึงรีบเดินทางเข้าแจ้งความให้ตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้นร.ต.อ.สุพรรณ โสภี รองสว.สอบสวนเจ้าของคดี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่สอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick