คลังเก็บป้ายกำกับ: สภ.เมืองพัทยา

รอง ผบ.ตร.เปิดโครงการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

             รอง ผบ.ตร.เปิดโครงการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หวังลดอุบัติเหตุ ระบุเมืองพัทยาต้องบังคับใช้กฎหมายจริงจังเรื่องการสวมหมวกนิรภัย 100%

              วันนี้ (6 เม.ย.62) ที่โครงการ เดอะ ลิตเติ้ล วอล์ก พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ร่วมรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100 % ที่ได้รับการสนับสนุนจาก บ.วีเซล อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ และเมืองพัทยา ในการแจกหมวกนิรภัยพร้อมกล้องตรวจจับจำนวน 200 ใบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา สภ.บางละมุง สภ.นาจอมเทียน และหมวกนิรภัยทั่วไปอีกจำนวน 200 ใบเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน โดยมี มร.เดวิด คัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารวีเซล อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ ดร.สันตศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ อดีต รมช.ว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เข้าร่วมในพิธี


พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย เมืองพัทยา

             พล.ต.อ.ดร.วีระชัย กล่าวว่าเนื่องด้วยเข้าใกล้สู้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย 2562 แต่ละปีจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดปัญหาจราจรและอุบัติตามมาทำให้ในช่วงเทศ กาลดังกล่าวผู้ได้รับบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก โดยจากสถิติจากศูนย์อำนวยการลดอุบัติเหตุทางถนนในปี 2561 พบว่าเกิดอุบัติเหตุรวมในช่วงเทศกาลสงกรานต์กว่า 3,724 ครั้ง เสียชีวิตถึง 417 ราย ซึ่งสาเหตุส่วนมากมาจากการเมาแล้วขับรถจักรยานยนต์แล้วไม่สวมหมวกนิรภัย ด้วยเหตุนี้ทางรัฐบาลจึงมีนโยบายในการรณรงค์และเอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องนี้อย่างจริงจังในปี 2562 นี้ เพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้น โดย เฉพาะในเมืองท่องเที่ยวอย่างเมืองพัทยา

หมวกกันน็อคติดกล้อง

มร.เดวิด คัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารวีเซล อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ มอบหมวกกันน็อคให้ตำรวจพัทยา

              พล.ต.อ.ดร.วีระชัย กล่าวว่าวันนี้จะถือเป็นจุดเริ่มต้นของการรณรงค์และการบังคับใช้กฎหมาย โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างจริงจัง 100 % สำหรับผู้กระทำผิด ทั้งการดื่มแล้วขับ การไม่สวมหมวก ที่อาจสร้างอันตรายให้กับชีวิตและทรัพย์สิน โดยใช้นโยบายตำรวจยุค 4.0 ซึ่งจะนำเทคโนโลยีจากกล้องมาบันทึกเหตุการณ์เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ทั้งกรณีที่เกิดเหตุซึ่งหน้าและการออกหมายเรียกผู้ที่กริผดภายหลังเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีซึ่งจะทำให้ลดปัญหาอุบัติภัยบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี

พ.ต.ต.อรุษ สภานนท์ สว.จร.สภ.เมืองพัทยา นำ ตร.จร. เข้ารับมอบหมวกกันน็อคติดกล้อง

ตร.พัทยา แถลงการจับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่คาปั้มน้ำมัน พบของกลางเพียบ

พัทยา-(19 ก.ค. 60) เมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ สว.สส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ ได้ตัวผู้ต้องหาทราบชื่อ คือ นายก้องภพหรือกุ๊ก เรืองคำ อายุ 37 ปี พร้อมของกลางยาเสพติดประเภทที่ 1 เป็นยาบ้าจำนวน 9,800 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 137.23 กรัม ที่บริเวณในสถานีน้ำมัน ปตท.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ก่อนการจับกุมสืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้จับกุมตัวผู้เสพยาเสพติดและผู้ค้ารายย่อย จึงได้ทำการสืบสวนหาข่าวจนทราบว่ามีผู้ลักลอบค้ายาเสพติดรายใหญ่นำยาเสพติดเข้ามาส่งให้กับผู้ค้ารายย่อยเพื่อนำมาขายต่อให้กับเยาวชนและนักเที่ยวตามสถานบันเทิงในพื้นที่เมืองพัทยา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและร่วมกันวางแผนล่อซื้อ

โดยให้สายลับติดต่อซื้อยาเสพติดกับ นายกุ๊ก และมีการนัดส่งยาเสพติดกันภายในปั๊มปตท. เขาไม้แก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงนำกำลังไปซุ้มดู จนกระทั้งมีรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโลเลต สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ขอ 6115 ชลบุรี เข้ามาจอดภายในปั๊มและมีคนหิ้วถุงพลาสติกสีฟ้าลงจากรถอย่างน่าตาเฉยเหมือนหิ้วถุงกับข้าว เจ้าหน้าที่ตำรวจซุ้มดูจนมั่นใจว่าเป็นพ่อค้ายาติดซึ่งตรงตามรูปพรรณสัณฐานที่สายลับแจ้ง จึงแสดงตัวขอตรวจค้นชายคนดังกล่าวพยายามวิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าตำรวจได้วางแผนมาอย่างรัดกุมจึงสามารถควบคุมตัวนายกุ๊ก พร้อมของกลางซึ่งอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้า เป็นยาบ้าจำนวน 4 มัด มัดละ 10 ถุง มัดที่ 4 มีเพียง 9 ถุง ถุงละ 200 เม็ด รวม 9,800 เม็ด และยาไอซ์จำนวน 2 ถุง ถุงแรกน้ำหนัก 72.69 กรัม ถุงที่สองน้ำหนัก 64.54 กรัม รวม 137.23 กรัม จึงควบคุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.อภิชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา ยังกล่าวอีกว่าการจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ให้มีการกวาดล้างยาเสพติดไม่ให้แพร่ละบาดในหมู่นักเที่ยวและเยาวชน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด สภ.เมืองพัทยาหาข่าวและกวาดล้างจับกุมต่อเนื่อง ทั้งในสถานบันเทิง และปาร์ตี้ต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันและตัดวงจรยาเสพติดอีกด้วย

ภาพ/ข่าว Ku Salick

วินจยย. รับจ้างพัทยาสุดโหด หลังเมาเที่ยวสงกรานต์ควงปืนปลอมทุบหัวหนุ่มพนักงานโรงแรมเจ็บ

พัทยา-(19 เม.ย. 60) เมื่อเวลา 03.00 น. ร.ต.อ.เชาวลิต สวรรณมณี รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในอพาร์ทเม้นท์ไม่มีชื่อภายในซอย 9 พัทยาใต้ ม. 10 ตฬหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรีบไปตรวจสอบ

บริเวณปากซอยที่เกิดเหตุพบ นายโชติกา ประชุมเหล็ก อายุ 27 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งย่านพัทยา ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในอาการหวาดกลัว เนื้อตัวสั่นเทา ที่ศีรษะมีบาดแผลถูกของแข็งทุบจนแตกมีเลือดไหล ตามร่างกายยังพบรอยเขียวช้ำหลายจุด เมื่อรวบรวมสติเล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ฟัง ว่าวินจยย.รับจ้างที่พักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์เดียวกัน บุกเขาไปทำร้ายร่างกายถึงห้องพัก ด้วยความกลัวและได้รับบาดเจ็บตนเองพยายามยกมือไหว้ขอโทษขอโพย ทั้งที่ไม่ทราบว่าทำอะไรผิดก็ตาม แต่ผู้ก่อเหตุไม่สนใจคำอ้อนวอนชักอาวุธปืนทุบศีรษะจนแตก แล้วเดินกลับเข้าห้องไปอย่างน่าตาเฉย หลังเกิดเหตุตนเองรู้สึกกลัวมากจึงรีบแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อมาได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้คาห้องพักทราบชื่อคือ นายนันทวุฒิ ช่างไม้ อายุ 31 ปี อาชีพขับวินจยย. รับจ้างอยู่บริเวณปากซอยที่เกิดเหตุ พร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนปลอมที่ทำเลียนแบบของจริง โดย นายนันทวุฒิ ยอมรับว่าตนเองก่อเหตุจริง ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนเองนั้นได้ไปเที่ยวสงกรานต์และดื่มสุราจนเมา ประกอบกับตนเองเป็นคนที่นี่ตั้งแต่กำเนิดถือว่าเป็นเจ้าถิ่น เมื่อถูกผู้บาดเจ็บด่าทอเลยยอมไม่ได้จึงก่อบันดาลโทสะทำร้ายร่างกายเพื่อสั่งสอนดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายนันทวุฒิ พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

เฒ่าแดนกิมจิถูกโจรหนุ่มสาวกระชากกระเป๋าสูญทรัพย์กว่า 30,000 บาท

พัทยา-(17 เม.ย. 60) เมื่อเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ เหตุเกิดบริเวณใกล้เคียงโรงแรมไดยาน่า ริมถนนพัทยาสายสาม ม.9 ต.หนองปรือ อ.บาละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบ MR.YUN KWANG JIN อายุ 65 ปี สัญชาติเกาหลี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านล่ามแปลภาษาว่า ในขณะที่กำลังเดินเท้ากลับที่พักมีชายวัยรุ่นขับขี่จยย. โดยมีผู้หญิงผมยาวนั่งซ้อนท้ายเอื้อมมือมากระชากกระเป๋าสะพาย ซึ่งภายในกระเป๋ามีเงินสด 20,000 บาท โทรศัพท์ มือถือ 1 เครื่อง ราคาประมาณ 15,000 บาท และเอกสารสำคัญหลายรายการ ก่อนพากันเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

สอบถาม น.ส.อ้อมตะวัน เชลิอุส อายุ 36 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะนั้นเห็นชายวัยรุ่นขับขี่จยย. มากันสองคนกับผู้หญิง ก่อนจะได้ยินเสียงชาวต่างชาติตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ว่าถูกกระชากกระเป๋า จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

ภาพ/ข่าว Ku Salick

ตร.พัทยาซ้อนแผนจับหนุ่มบาร์เกย์ฉกแหวนทองเดินออกจากร้าน เผยประวัติโชกโชน

จากกรณีคนร้ายเป็นชายไทยจำนวน 1 คน ทำทีเป็นลูกค้าเข้าไปเลือกขอดูแหวนทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 2 สลึง ก่อนอาศัยช่วงจังหวะเจ้าของร้านเผลอหยิบแหวนวงดังกล่าวเดินออกจากร้านไปอย่างหน้าตาเฉย โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์และรูปร่างคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน เหตุเกิดขึ้นที่ ห้างทองบัวขาว พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 เมษายน 2560 พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงศ์สุรวัฒน์ วงษ์สารัมย์ สว.สส.ฯ ร.ต.อ.ณธกร จันทร์ลอด รอง สว.สส.ฯ และกำลังชุดสืบสวน สามารถจับกุมตัวคนร้ายแล้ว ทราบชื่อคือนายนายชัยชาญ หรือต้า ภู่ศิลป์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีวิ่งราวทรัพย์ของศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.144/2560 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2560

พ.ต.อ.อภิชัย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้สั่งการชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด ก่อนจะทราบว่านายชัยชาญ เป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ จึงรวบรวมพยานและหลักฐานอนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับ ก่อนได้สืบทราบว่านายชัยชาญ หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีกบดานไปยังบ้านเกิดที่จังหวัดนครสวรรค์ จึงนำกำลังไปจับกุมตัวแต่ปรากฏว่านายชัยชาญ ไหวตัวทันหลบหนีการจับกุมไปได้
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาพยายามติดตามตัวมาหลายวันแต่ก็ไม่สามารถจับกุมได้ จึงใช้วิธีส่งสายลับติดต่อกับนายชัยชาญ โดยออกอุบายให้นายชัยชาญมาชดใช้ค่าเสียหายและค่าปรับอีกจำนวนหนึ่ง โดยทางเจ้าของร้านทองจะยินยอมไม่ผิด ระหว่างนายชัยชาญกำลังยืนเงินชดใช้ค่าเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปลอมตัวเป็นพนักงานร้านทองจึงแสดงหมายจับเข้าทำการจับกุมตัวนายชัยชาญทันที ทำเอานายชัยชาญ คอตกหลังจากถูกตำรวจซ้อนแผนจับกุม

เบื้องต้น นายชัยชาญ ให้การรับสารภาพว่า ปกติได้ประกอบอาชีพเป็นพนักงานเต้นอยู่ที่บาร์เกย์แห่งหนึ่ง ย่านถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ซึ่งยอมรับว่าตนเองเป็นผู้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้จริง เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หนี้เอเย่นต์ยาเสพติดและเที่ยวเตร่ช่วงวันสงกรานต์

นอกจากนี้ยังพบว่า นายชัยชาญ เคยถูกจับกุมคดียาเสพติดมาแล้วถึง 2 ครั้ง อีกทั้งได้หลบหนีหมายจับคดีข่มขืนและอนาจาร ในพื้นที่ สภ.หนองปิง จ.นครสวรรค์ อีกด้วย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ตำรวจกำลังต้องการตัวอยู่พอดี อย่างไรก็ตามจึงควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ต่างด้าวยกพวกปิดซอยใช้มีดไลฟันคู่อริเจ็บ 1 อีกรายถูกอัมขึ้นรถยังไม่รู้ชะตากรรม

พัทยา-(2 ธ.ค. 59) เมื่อเวลา 04.00น. ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุแรงงานต่างด้าวทำร้ายร่างกายกันบาดเจ็บสาหัส อยู่บริเวณในแคมป์คนงานลากูนาบีช ภายในซอย 17 เทพประสิทธิ์ ม.10 ตงหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ทราบชื่อ นายสร อายุ 30 ปี อยู่ในสภาพมีบาดแผลถูกฟันที่แขนซ้าย จนเป็นแผลฉกรรจ์ โดยมีแฟนสาวและรปภ.ของแคมป์ ยืนให้ความช่วยเหลืออยู่ เจ้าหนาที่กู้ภัยจึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

จากการสอบถามผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้เล่าว่า ในขณะกำลังจะพาเพื่อนอีกคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสไปส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างที่ทางพบกลุ่มคนงานต่างด้าวชาวกัมพูชาประมาณ 20 คน ในมือถือมีดและไม้ วิ่งเข้ามาทำร้ายก่อนจะถูกมีดฟันที่แขนซ้าย

จากนั้นจึงรีบวิ่งขอความช่วยเหลือจาก รปภ. ของแคมป์ โดยที่ทิ้งเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บรอบนรถ กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงช่วยกันอุ้มเพื่อนของตนเองที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นรถซาเล้งแล้วรีบขับหลบหนีไป หลังเกิดเหตุจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวผู้บาดเจ็บไปรักษาตัวยังโรงพยาบาล และได้กระจายกำลังติดตามช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอีกรายแต่ก็ยังไร้วี่แวว อย่างไรก็ตามจะเร่งติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร็วที่สุด

ภาพ/ข่าว Ku Salick

หนุ่มกัมพูชา ถูกเจ้าหนี้โหดกระโดดกัดหูขาด หลังไม่มีเงินใช้หนี้

พัทยา-(22 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 21.30 น. นายแวนดี้ ชิม อายุ 26 ปี สัญชาติกัมพูชา ได้วิ่งหน้าตาตื่นมีเลือดอาบใบหน้า หูข้างขวาขาด ในมือกำชิ้นส่วนใบหู มาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจ ประจำจุดสกัดพัทยาปาร์ค ว่าตนเองถูกเพื่อนสัญชาติเดียวทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ให้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลและตามจับผู้ก่อเหตุให้ด้วย

โดย นายแวนดี้ เล่าว่าตนเองกำลังนั่งเล่นอยู่ในห้องพัก ได้มีเพื่อนข้างห้องพร้อมแฟนสาวสัญชาติเดียวกัน เดินมาหาที่ห้องเพื่อขอทวงเงินที่ติดค้างไว้ แต่ตนเองไม่มีจึงขอผัดผ่อนไปก่อน ทำให้ทั้งสองไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงปรี่เข้ามารุมทำร้ายร่างกาย ในจังหวะที่ชุลมุนกันอยู่นั้น หนึ่งในสองคนได้กัดที่ใบหูของตนจนขาดเลือดพุ่ง ตนเองเจ็บจนทนไม่ไหว จึงพยายามดิ้นจนหลุด แล้วเก็บใบหูที่ขาดวิ่งหนีมาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กูภัยฯได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

ตร.พัทยา ล่อซื้อหนุ่มไฮโซขับจากัวร์ส่งยาไอซ์ ค้นบ้านพบของกลางยาเสพติด-อาวุธปืน เพียบ

จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ก.ย.59 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองพัทยา ได้ล่อซื้อยาไอซ์น้ำหนัก 3 กรัม จากนายโก๊ส และนายยอร์ค 2 เอเย่นต์ แต่ผลไม่กลับเป็นตามคาด 2 เอเย่นต์เกิดไหวตัวทัน ก่อนขึ้นรถกระบะ ยี่ห้อ อิซูซุ สมาร์ทแค็ป สีบรอนส์เงิน ทะเบียน ฒท 3779 กทม. ขับหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงยางรถของคนร้าย เพื่อสกัดการหลบหนี จนทำให้ยางล้อหน้า ด้านซ้าย – ขวา แตกทั้ง 2 ล้อ และล้อหลังด้านขวาแตกอีก 1 ล้อ ส่งผลให้คนร้ายจนมุมและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ ที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว

s__102662153

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 กันยายน 2559 พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ทำการขยายผลล่อซื้อยาเสพติดซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกับนายโก๊ส และนายยอร์ค 2 เอเย่นต์ที่ถูกจับก่อนหน้า จึงได้ติดต่อล่อซื้อยาไอซ์ จากนายเติ้ล เมื่อไปถึงจุดนัดรับส่งของกันที่ภายในหมู่บ้านเกศินีวิวล์ ซอยประชาอุทิศ 21 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร นายเติ้ลได้ขับรถหรู ยี่ห้อจากัวร์ ทะเบียนป้ายแดง ล7777 กทม. มายังจุดนัดพบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบยาไอซ์ หนัก 99.82กรัม

จากนั้นได้ทำการขยายผลเข้าตรวจค้นที่พักซึ่งเป็นบ้านหรูภายในหมู่บ้านดังกล่าว พบยาเสพติดจำนวนมาก 1 ยาไอซ์ หนัก 72.05 กรัม ยาอีชนิดเม็ดสีเขียว 3 ถุง จำนวน 90 เม็ด ยาอีชนิดเม็ดสีฟ้า สัญลักษณ์ภาษาอังกฤษ VL จำนวน 60 เม็ด ยาอีชนิดเม็ดสีชมพูรูปหัวใจ จำนวน 80 เม็ด ยาอีชนิดเม็ดสีชมพู สัญญาลักษณ์ภาษาอังกฤษ W จำนวน 60 เม็ด ยาอีชนิดเม็ดรูปผีเสื้อ กัญชาแบบแห้ง 2 ถุง หนัก 18.28 กรัม และ15.92 กรัม

img_5887

นอกจากนี้ยังพบปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก ปืนอูซี่ จำนวน 1 กระบอก ปืนพกสั้นขนาดจุด 45 ม.ม.จำนวน 6 กระบอก อาวุธปืนสั้นขนาดจุด 380 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก และปืนพบสั้นขนาด 9 ม.ม.จำนวน 1 กระบอก รวมทั้งสิ้น 10 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนกว่า 700นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและควบคุมตัวมายัง สภ.เมืองพัทยา ทำการสอบสวนขยายผลจับกุมเอเย่นต์รายใหญ่ผู้ร่วมขบวนการเครือข่ายยานรกเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ตร.พัทยารวบ 2 เยาวชนลอบต้ม 4 คูณ 100 พร้อมของกลางใบกระท่อมกว่า 80 ใบ

พัทยา-(21 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 22.00 น. ร.ต.ท.เชาวลิต สุวรรณมณี รองสวป. สภ. เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเขตรวมกันจับกุม นายสุเนตร มุ่งผันกลาง อายุ 20 ปี นายขัน อายุ 18 ปี พร้อมของกลาง ใบกระท่อม จำนวน 88 ใบ น้ากระท่อมแบบต้ม 1 ขวด ยาแก้ไอ 1 ขวด และกัญชา 1 ห่อ ที่อพาร์ทเมนท์ไม่มีชื่อย่านพัทยาเหนือ

img_5796

ซึ่งก่อนการจับกุมสืบเนื่องมาจาก นายสุเนตร และนายขัน ได้ขับขี่จยย.มาตามถนนสุขุมวิท ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเขตซึ่งกำลังขับตรวจตราผ่านมา สังเกตเห็นทั้งสองแสดงท่าทีมีพิรุธจึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบใบกระท่อมจำนวน 3 ใบซุกซ้อยอยู่ภายในกระเป๋าคาดเอวของ นายสุเนตร จึงยึดไว้เป็นขอกลางพ้อมทั้งรายงานผู้บังคับบัญชาขอกำลังเสริมไปตรวจค้นที่พัก

img_5786

เมื่อไปถึงที่ห้องพักซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์ไม่มีชื่อย่านพัทยาเหนือ ชั้น 3 ห้อง 319 จากการตรวจค้นอย่างละเอียดพบว่ามีใบกระท่อมจำนวนมากบรรจุอยู่ภายในถุง 2 ชั้นซุกซ้อนอยู่บริเวณใต้เขียงกัญชา 1 ห่อ ยาแก้ไอแบบน้ำ 1 ขวด และน้ำกระท่อมแบบต้ม 1 ขวด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวเยาวชนทั้งสองคน พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน แจ้งขอกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

หนุ่มเบญจเพสขี่ จยย.ฝ่าสายฝน เจอกระบะเลี้ยวตัดหน้าเบรกไม่ทันพุ่งชนกลางคันดับอนาถ

พัทยา-(20 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 21.00 น. พ.ต.ต.เอกชัย มูลลี สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนรถยนต์กระบะมีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าตลาดรัตนากร ถนนเทพประสิทธิ์ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังมุงดูสภาพศพ นายศิริชัย แซ่ตั้ง อายุ 25 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ของผู้ตาย ยี่ห้อ ยามาฮ่า มีโอ สีดำ ทะเบียน คขว 887 ระยอง เฉี่ยวกับกับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อิซูซุ ดีแม็กซ์ สีดำ ทะเบียน1 ฒฉ 863 กรุงเทพมหานคร จอดขว้างถนนลักษณะเลี้ยวตัดหน้า โดยมีนายปราชญา ตันไชยยา อายุ 30 ปี เป็นคนขับกระบะคันดังกล่าว

จากการสอบถาม น.ส.สมปอง เพชรดี อายุ 44 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ขณะเกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ขับขี่ฝ่าสายฝน มุ่งหน้าสี่แยกแกรนด์ คอนโดมิเนียม เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะคู่กรณี เลี้ยวตัดหน้าออกจากซอยตลาดรัตนากร ในระยะกระชั้นชิด จึงทำให้ฝ่ายรถจักรยานยนต์ไม่สามารถเบรกได้ทันพุ่งชนรถยนต์กระบะกลางลำอย่างจัง จึงเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย