เมืองพัทยาจัดประชุมหาความชัดเจนในการก่อสร้างสะพานลอยคนพิการ หลังผู้ประกอบการท้องถิ่นฟ้องเมืองพัทยา พร้อมเดินหน้าโครงการตามแผน รองนายกเมืองพัทยาเผยสร้างแน่เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

ตามที่กรมทางหลวงชนบทได้อนุมัติงบก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสำหรับคนพิการ บริเวณหน้าโรงเรียนพระมหาไถ่ พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อความสะดวกต่อการเดินทางของคนพิการและประชาชน โดยจะดำเนินการก่อสร้างเป็นโครงการนำร่องของประเทศและถือเป็นสะพานลอยข้ามถนนที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่มีผุ้ประกอบการท้องถิ่นได้ยื่นฟ้องต่อเมืองพัทยา เพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนจุดก่อสร้างเพื่อความปลอดภัยของการดำเนินธุรกิจไปยังศาลปกครอง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (2 มิ.ย.) ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นปรานประชุมหาความชัดเจนในการก่อสร้างสะพานลอยคนพิการ บริเวณหน้าศูนย์พระมหาไถ่ดังกล่าว โดยมีตัวแทนส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร มทบ.14 ตัวแทนสมาคมชุมชนเมืองพัทยา และที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิจารณาหารือเอหาความชัดเจนในการดำเนินการ

ทั้งนี้ ในที่ประชุมรายละเอียดการก่อสร้างสะพานลอยคนข้ามเพื่อความสะดวกและความปลอดภัย บริเวณหน้าศูนย์พระมหาไถ่พัทยา ซึ่งรายละเอียดของโครงการจะมีการสร้างบันใดสำหรับขึ้นลงที่ทอดยาวและมีลิฟต์ขึ้น-ลงสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ (ผนังลิฟต์คอนกรีตทึบ) ซึ่งบดบังหน้าร้านผู้ประกอบการบริเวณดังกล่าว ทางเมืองพัทยาจึงประสานแก้แบบให้เป็นกระจกใสเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้สะพานลอย แต่ทาง บริษัท พัทยามันนี่ เซอร์วิส จำกัด ไม่เห็นด้วย การก่อสร้างเลยล่าช้าตามที่เห็น

นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยาได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการก่อสร้างสะพานลอยดังกล่าว ทางกรมทางหลวงชนบทจึงได้อนุมัติงบประมาณให้ดำเนินการก่อสร้าง ที่ผ่านมาเราก็ได้ทำแบบสอบถามความคิดเห็นของชาวบ้านและชุมชนซึ่งก็เห็นด้วยให้มีการก่อสร้างสะพานลอยดังกล่าวขึ้น แต่ในส่วนของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบก็สามารถแสดงตัวรักษาสิทธิ์ของตนเองได้ ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามขึ้นตอนของกฎหมาย แต่อย่างไรก็แล้วแต่สะพานลอยแห่งนี้ต้องมีการก่อสร้างอย่างแน่นอนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ซึ่งจะเป็นไปตามแผนการดำเนินการของกรมทางหลวงชนบท ที่คาดว่าจะมีความเป็นรูปธรรมชัดเจนเร็ววันนี้

ภาพ/ข่าว เก่ง ลิง

ดูแผนที่ไปยัง 

พัทยา-(2 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มิพิธีเปิด โครงการโรงเรียนผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองหนองปรือ ประจำปี 2559 โดยมี นายมาย ไชยนิตย์ นายกเทศบาลเมืองหนองปรือ เป็นประธานเปิดโครงการในครั้งนี้ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร นักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุกว่า 50 คน เข้าร่วมโครงการ

นายมาย นายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ กล่าวว่า ผู้สูงอายุหรือผู้สูงวัย ถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคูณค่าต่อสังคม จึงได้มีการตระหนักถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ จึงได้จัดโครงการโรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลเมืองหนองปรือขึ้น เพื่อให้นักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุเป็นผู้สูงอายุที่มีศักยภาพสูงเป็นแกนนำสำคัญของผู้สูงอายุในชุมชน และเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ประชากรสูงอายุในพื้นที่เทศบาลเมืองหนองปรือ ที่มีจำรวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะเข้าสู่ระยะสังคมสูงอายุอย่างโดยสมบูรณ์ และจะเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด เมื่อประชากรสูงอายุเพิ่มสูงถึงร้อยละ 30 ของประชากรทั้งหมด ในปี 2578

สำหรับระบบการศึกษาจะแบ่งผู้สูงอายุออกเป็น 2 ชั้นปีการศึกษา โดยแต่ละชั้นปีกำหนดระยะเวลาการศึกษา สัปดาห์ละ 1 วัน ทุกวันพฤหัสบดี จำนวน 6 วิชา ประกอบด้วย วิชาการดูแลสุขภาพเบื้องต้น, วิชาศาสนาและวัฒนธรรมไทย, วิชาจิตอาสา, วิชาสุขภาพจิต, วิชาเศรษฐกิจพอเพียง, และวิชาเลือกเสรี

โดยเป้าหมายในปีที่ 1 จะเน้นในการเรียนการสอนในระดับพื้นฐานทั่วไป เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับความรู้ในด้านต่างๆ ประกอบการฝึกปฏิบัติ มุ่งสู่เป้าหมาย “รู้จริง ปฏิบัติได้” และเป้าหมายในปีที่ 2 จะเน้นการเรียนรู้เชิงวิเคราะห์ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รู้จักประมวลความรู้ และนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย “รู้จริง ปฏิบัติได้ ถ่ายทอดเป็น”

พัทยา-(11 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษทางน้ำ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทะเลเมืองพัทยาได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเรือเร็วว่า พบลูกปลาโลมาหลงฝูงว่ายน้ำเข้ามาในอ่าวพัทยา ห่างจากฝั่งประมาณ 500 เมตร ไปทางเกาะจุ่น เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เบื้องต้นจึงแนะนำให้พลเมืองดีเอาผ้าชุบน้ำห่อตัวลูกปลาโลมาแล้วรีบน้ำไปปล่อยยังทะเลน้ำลึกและน้ำสะอาด ก่อนนำกำลังเร่งไปช่วยเหลือ

จากการตรวจสอบพบว่า เป็นลูกปลาโลมาปากขวด ยาวประมาณ 1 เมตร บริเวณลำตัวและคีบด้านขวามีร่องรอยบาดแผลเป็นขีดยาว และยังมีอาการน็อกน้ำอีกด้วย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือลูกปลาโลมาดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้สำเร็จ

ด้าน นายสุทธิพงษ์ บุญมาฉาย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษทางน้ำ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ทางเราได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเรือเร็วว่า พบลูกปลาโลมาว่ายน้ำหลงฝูงเข้ามายังหาดพัทยา จึงได้ประสานให้เรือเร็วลำดังกล่าวเอาผ้าชุบน้ำห่อตัวลูกปลาแล้วนำไปปล่อยบริเวณกลางร่องน้ำ ซึ่งเป็นทะเลน้ำลึกและใสสะอาด จากนั้นก็รีบเดินทางไปพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทะเล แต่พอพบลูกปลาโลมานั้นมีอาการน็อกน้ำ จึงได้พยายามช่วยเหลือโดยใช้เวลาเกือบ 1 ชม. แต่ลูกปลาโลมาก็อ่อนแรงลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ จึงนำซากลูกปลาโลมาขึ้นมาฝั่ง เพื่อให้รอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบเกี่ยวกับการเสียชีวิตของลูกปลาโลมาปากขวด และดำเนินการนำไปฝังต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

ชมภาพทั้งหมดที่ลิ้งด้านล่าง

โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา จัดกิจกรรม CSR ปล่อยปูแสม และปลูกป่าชายเลน เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลน ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี

ชลบุรี-ผู้สื่อข่าวรายงาน ด้าน โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา นำโดย มร.อังเดร บรูลฮาร์ท ผู้จัดการทั่วไปภาคพื้นที่ น.ส.ดารานาถ หนูไชยแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล และนางสุณีย์ โรบินสัน ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วยพนักงาน เจ้าหน้าที่ กว่า 30 คน ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมปล่อยปูแสม 4 กิโลกรัม และปลูกป่าชายเลน จำนวน 60 ต้น ที่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลน ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยมี นายธนภัทร อินธนากรสกุล เจ้าหน้าที่พนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ทำหน้าที่ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์ศึกษาอนุรักษ์ป่าชายเลนเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับ

มร.อังเดร ผู้จัดการทั่วไปภาคพื้นที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา กล่าวว่า ทางโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา ได้ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเป็นสำคัญ จึงได้จัดกิจกรรม CSR ขึ้น เพื่อให้คณะผู้บริหาร พนักงาน ได้ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสังคมหวังเป็นการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และให้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีความสำคัญต่อ ระบบนิเวศ และเป็นกำแพงธรรมชาติป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง

นอกจากนี้ทางโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา จะยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรม CSR เพื่อเป็นการช่วยเหลือและตอบแทนสังคมต่อไป ซึ่งเป็นพันธกิจหลักของโรงแรมในการดูแลรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มร.อังเดร กล่าวทิ้งท้าย

ชมภาพได้ที่ลิ้ง

https://www.facebook.com/samartphotographer/photos/?tab=album&album_id=600950566742616

สาธารณสุขเมืองพัทยา ยังคงยืนยันว่าน้ำส้มคั่นที่จำหน่ายตามท้องตลาดในเมืองพัทยายังสามารถรับประทานได้ เนื่องจากตรวจไม่พบการปนเปื้อนของโคลิฟอร์มแบคทีเรีย และสารที่เป็นอันตราย แต่อยากเน้นให้ผู้บริโภคซื้อที่มี อย. วันผลิต และวันหมดอายุ ส่วนผู้ที่กระทำความผิดจะเร่งติดตามตัว และเข้าสู่ขบวนการกฎหมายต่อไป

พัทยา-(24 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ ห้องประชุม 241 ศาลาว่าการเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมสภาเมืองพัทยา พร้อมด้วย นางบุปผา ส่งสกุลชัย หัวหน้างานฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค สำนักการสาธารณสุขเมืองพัทยา ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับปัญหาที่พ่อค้าใช้น้ำประปาผสมหัวเชื้อส้ม แล้วนำมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว โดยมีสมาชิกสภาเมืองพัทยา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังในครั้งนี้

หลังมีกระแสข่าวเกี่ยวกับคลิปวีดีโอที่ทางพ่อค้าน้ำส้มคั้นหัวใสได้นำขวดกรอกน้ำประปาผสมหัวเชื้อน้ำส้มแล้วนำมาขายให้กับนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งเป็นการสร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์เมืองพัทยาเป็นอย่างมาก

นายรัตนชัย ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมสภาเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ทางเมืองพัทยาได้ให้ความในใจในเรื่องที่เกิดขึ้น และมีการดำเนินงานติดตามอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวได้มีผู้คนเข้ามาเป็นจำนวนมากต่างเข้ามาหารายได้เพื่อการดำรงชีวิต แต่ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค แต่ในภาพรวมในเรื่องของขบวนการดูแลควบคุมในเรื่องอาหารทางสาธารสุข เมืองพัทยาก็ได้ลงพื้นที่ และให้คำแนะนำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีผู้ประกอบการบางรายฝ่าฝืนจนทำให้เกิดผลเสีย และเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา

ด้าน นางบุปผา หัวหน้างานฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค สำนักการสาธารณสุขเมืองพัทยา กล่าวว่า หลังจากได้รับข่าวก็ได้ลงพื้นที่ไปตามหาบุคคลที่สร้างความเสื่อมเสียแต่ก็หาไม่พบ แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ได้เก็บตัวอย่างน้ำส้มคั่น มาทำการตรวจสอบว่าได้มีการปนเปื้อนของเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรียหรือไม่ แต่ในการตรวจทางเรายังไม่พบสิ่งที่เป็นอันตราย และในส่วนการตรวจว่าน้ำส้มที่จำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดนั้นเป็นน้ำส้มแท้ 100 เปอร์เซ็น หรือไม่ ต้องมีการนำตัวอย่างน้ำส้มส่งไปยังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ชัดอีกครั้ง

แต่อย่างไรก็ตามทาง เมืองพัทยา หรือสำนักการสาธารณสุขเมืองพัทยา ให้การยืนยันว่าน้ำส้มคั่น ที่มีจำหน่ายในเมืองพัทยา สามารถซื้อรับประทานได้อย่างปลอดภัย 100 เปอร์เซ็น เนื่องจากเมืองพัทยาได้มีการมาตรการในการตรวจสอบในทุกๆ ร้าน ทุกโรงงานผลิต ให้ดำเนินการขอ อย. เพื่อความเป็นมาตรฐานและปลอดภัยต่อผู้บริโภค และทางสำนักการสาธารณสุขเมืองพัทยา จะได้มีการกำหนดกฎหมายควบคุมในเรื่องของอาหารเฉพาะเมืองพัทยา เสนอผ่านสภาเมืองพัทยาให้เป็นกฎบัญญัติต่อไป

ชมวีดีโอแถลงการ

https://www.facebook.com/pattayaupdatenews/videos/506279409563399/?pnref=story

พัทยา-(23 พ.ค. 59) เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค สำนักการสาธารณสุขเมืองพัทยา นำโดย นางบุปผา ส่งสกุลชัย นักวิชาการสุขาภิบาลชำนาญการ ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านขายน้ำส้มคั้น บริเวณท่าเที่ยวเรือท่องเที่ยว (แหลมบาลีฮาย) พัทยาใต้ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังมีกระแสข่าวเกี่ยวกับ พ่อค้าน้ำส้มคั้นหัวใส นำขวดกรอกน้ำประปาผสมหัวเชื้อน้ำส้ม ขายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์เมืองพัทยาเป็นอย่างมาก

เนื่องจากยังไม่มีการร้องเรียนจากผู้บริโภค การลงพื้นที่ครั้งนี้จึงเป็นการเฝ้าระวัง เพื่อตรวจสอบความสะอาดสุขอนามัย เบื้องต้นพบว่า มีร้านขายน้ำส้มคั้นในบริเวณดังกล่าวอยู่ 2-3 ร้าน และจากการตรวจสอบยังไม่พบพ่อค้าต้องสงสัยคนในข่าวแต่อย่างใด

สอบถาม นางสุปราณี ปราณพยับ อายุ 54 ปี เล่าว่า ตนเองขายน้ำส้มบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายมามากกว่า 8 ปี วิธีการจะทำวันต่อวันโดยใช้น้ำส้มแท้คั้นสด ผสมกับน้ำส้มสังเคราะห์ที่ซื้อจากห้างสรรพสินค้า (ไม่ใสสารกันบูด) แล้วนำมาใสขวดพลาสติกมาจำหน่ายในราคา 20 บาทต่อขวด ซึ่งจัดเตรียมมา 200 ขวด ในวันปกติ และ 400 ขวดในวันหยุดเทศกาล ซึ่งจะขายหมดทุกครั้ง หากมีตกค้างบ้างจะไม่นำมาขายต่อ ส่วนกระแสข่าวเกี่ยวกับพ่อค้าน้ำส้ม ตนเองรู้สึกไม่ดีและเสียใจ เนื่องจากทำให้อาชีพของตนที่ทำมานานเสื่อมเสีย อีกทั้งหลังจากมีกระแสข่าวออกไป ส่งผลให้ยอดขายน้ำส้มของตนลดลง แต่ตนจะไม่ย่อท้อเพราะมั่นใจในรสชาติและความสะอาด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บตัวอย่างน้ำส้ม ขวดพลาสติกที่ใช้ และส่วนผสมต่างๆ เพื่อนำไปตรวจสอบความสะอาด และการเจือบนของแบคทีเรีย ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-7 วัน ก่อนประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เพื่อหามาตรการควบคุมดูแล และดำเนินการกับผู้กระทำความผิดต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

พัทยา-(20 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 19.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชาประจำปี 2559 โดยจากการลงพื้นที่สำรวจที่วัดชัยมงคลพระอารามหลวง พัทยาใต้ จ.ชลบุรี พบว่าบรรยากาศความคึกคักของวันสำคัญทางศาสนาของศาสนาสถานแห่งนี้ยังคงคลาคล่ำไปด้วยพุทธศาสนิกชนชาวไทยรวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเฉกเช่นที่ผ่านมา

ทั้งนี้ พบว่าตามวัดวาต่างๆ ในเขตเมืองพัทยาและใกล้เคียง ประชาชนต่างนำครอบครัวไปร่วมทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลกันตั้งแต่ช่วงเช้าของวัน โดยร่วมทำบุญตักบาตรเลี้ยงเพลพระ ก่อนช่วงค่ำจะได้ร่วมพิธีเวียนเทียนในคืนวันเพ็ญวิสาขบูชา ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ในแต่ละปีมีพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมาก

อนึ่ง วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลทางพระพุทธศาสนาสำหรับชาวพุทธทุกนิกายทั่วโลก ทั้งเป็นวันหยุดราชการในหลายประเทศ และวันสำคัญในระดับนานาชาติตามข้อมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพราะเป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา 3 เหตุการณ์ด้วยกัน คือ การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า โดยทั้งสามเหตุการณ์ได้เกิดในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารสาขาพัทยา (ศูนย์เอคโค) จัดงานวันวัคซีนเอชไอวีสากล(HIV Vaccine Awareness Day) พร้อมเปิดเวทีเสวนา “ทิศทางการพัฒนาวัคซีนเอชไอวี”

พัทยา-(18 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ ลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม สภาเมืองพัทยา พร้อมด้วย พลโทนายแพทย์สรชัย นิตยพันธ์ ผู้วิจัยหลักโครงการเอคโค(RV217) ร่วมเป็นประธานเปิดงานวันวัคซีนเอชไอวีสากล (HIV Vaccine Awareness Day) และร่วมเสวนาในเรื่องของ “ทิศทางการพัฒนาวัคซีนเอชไอวี” โดยมีนายบรรจง บัณฑูรประยุกต์ รองโฆษกเมืองพัทยา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานคับคั่ง

โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารสาขาพัทยา (ศูนย์เอคโค) มีความตั้งใจที่จะพัฒนาให้เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชนต่อการวิจัย และจัดให้มีกิจกรรมร่วมกับชุมชนในพื้นที่พัทยาอย่างต่อเนื่อง และในวันที่ 18 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันรณรงค์เกี่ยวกับวัคซีนเอชไอวีทั่วโลก เพื่อสร้างความตระหนัก เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันเชื้อเอชไอวี รวมทั้งเป็นการระลึกถึงและขอบคุณอาสาสมัครที่เข้าร่วมโครงการวิจัยวัคซีนเอชไอวีทั่วโลก ในการเสียสละและอุทิศตนต่อการศึกษาค้นคว้าหาวัคซีนเอชไอวี

นอกจากนี้ยังจัดให้มีพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณและของที่ระลึกให้แก่บุคคลและองค์กรต่างๆ ที่ให้การสนับสนุนในการดำเนินโครงการฯ ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงการขอบคุณ

ภาพ/ข่าว แบงค์ คนบ้า