โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาร่วมกับทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติ (ทางน้ำ) โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ จัดอบรม iRESCUE “การช่วยชีวิตทางน้ำ” ให้กับสถาน ประกอบการโรงแรม โรงเรียนในเมืองพัทยา เพื่อให้ความรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว นักเรียนที่ประสบเหตุทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็นทะเล แม่น้ำ หรือสระว่ายน้ำในโรงเรียน โรงแรม เป็นต้น
พัทยา-ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ ห้องประชุมใหญ่มูลนิธิพระมหาไถ่ พัทยา ได้มีการจัดการอบรม iRESCUE “การช่วยชีวิตทางน้ำ” ให้กับสถานประกอบการโรงแรม โรงเรียนในเมืองพัทยา โดยทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติ (ทางน้ำ) โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบเป็นทีมวิทยากรในการอบรม โอกาสนี้ นพ.สีหราช โลหชิตรานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวต้อนรับผู้ร่วมอบรมและกว่างเปิดการอบรม
ด้าน นพ.สีหราช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยา นับเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ ในแต่ละปีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวและเข้าพักในโรงแรมหรือรีสอร์ท ซึ่งส่วนใหญ่เปิดให้บริการสระว่ายน้ำ อันเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุทางน้ำอยู่บ่อยครั้ง พนักงานโรงแรม หรือรีสอร์ทจะเป็นผู้ใกล้ชิดและเข้าถึงผู้ประสบภัยได้เร็วที่สุด เช่นเดียวกับอุบัติเหตุทางน้ำในสระว่ายน้ำตามโรงเรียน ครูพละก็เป็นผู้ที่ช่วยเหลือนักเรียนผู้ประสบเหตุก่อนใครเหมือนกัน เราจึงเห็นความสำคัญในความปลอดภัยตรงจุดนี้จึงได้จัดการฝึกอบรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยในรูปแบบต่างๆ ให้กับผู้ทำงานใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยว ทั้งหน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชน และชุมชนต่างๆ เพื่อช่วยลดความสูญเสียต่อชีวิต เป็นส่วนช่วยเติมเต็มความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน ช่วยสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยว และเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ชุมชนเมืองพัทยา
หลังจากนั้นได้มีการอบรมภาคปฏิบัติโดยทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติ (ทางน้ำ) โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ฝึกปฏิบัติการทำ CPR คนจมน้ำ ฝึกปฏิบัติการลอยตัว โดยใช้อุปกรณ์ และไม่ใช้อุปกรณ์ ฝึกปฏิบัติตะโกน โยน ยื่น ฝึกปฏิบัติการเข้าช่วยเหลือคนจมน้ำอย่างปลอดภัย เป็นต้น ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมการอบรมกว่า 70 ท่าน โครงการ iRESCUE เป็นโครงการที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จัดขึ้นเพื่อให้ผู้อบรมมีความสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างถูกวิธี ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียต่อชีวิต เป็นส่วนช่วยเติมเต็มความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน ช่วยสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยว และเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ชุมชนเมืองพัทยา
พัทยา-(8 ต.ค. 59) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ โรงแรมจอมเทียนปาล์มบีชพัทยา นายสันศักดิ์ จรูญ งามพิเชษฐ์ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย(สปท.) ได้เกียรติเป็นประธาน มอบประกาศนียบัตรให้กับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษา ของโรงเรียนแดนซ์สตูดิโอ ประจำปีการศึกษา2559 ในหลักสูตรการเต้นรำของโรงเรียนฯ และสถาบัน Royal Academy of Dance (RAD) และสถาบัน Australian Teachers of Dancig (ATOD) โดยมี น.ส.ดุจเดือน เรืองเวชติวงษ์ ผู้บริหารโรงเรียน แดนซ์ สตูดิโอ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ และมีแขกผู้มีเกียรติร่วมงานคับคั่ง อาทิ ดร .จักรพงศ์ สุวรรณรัศมี รอง ผอ.สพป.ชลบุรี เขต 3, ว่าที่ ร.ต.ชาญยุทธ ยังปรีดา ที่ปรึกษา ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ปกครอง และนักเรียน
สำหรับโรงเรียนแดนซ์สตูดิโอ เป็นสถานศึกษาเอกชนนอกระบบ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เยาวชน ได้รู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านร่างกาย และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม โรงเรียนแดนซ์สตูดิโอ จัดการเรียนการสอนด้านการเต้นรำ อาทิเช่น บัลเล่ต์และแจ๊ส ด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เฉพาะด้านดำเนินงาน ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า รู้จริง บุคลิกภาพดี กิจกรรมเด่น ก้าวสู่สากล
ด้าน น.ส.ดุจเดือน เรืองเวชติวงษ์ ผู้บริหารโรงเรียน แดนซ์ สตูดิโอ กล่าวว่า สำหรับการจัดพิธีมอบใบประกาศนียบัตรในวันนี้ก็เพื่อให้นักเรียนที่สำเร็จการศึกษา ในแต่ละระดับ จำนวนทั้งสิ้น 209 คน ได้มีขวัญและกำลังใจในการเรียนและการฝึกซ้อม และเพื่อให้นักเรียนได้นำความรู้ความสามารถทางด้านการเต้นรำไปพัฒนาและปรับใช้ กับการดำเนินชีวิตประจำวัน ให้มีความเจริญก้าวหน้าในโอกาสต่อไป
สัตหีบ-(28 ก.ย.59) ที่โรงเรียนบ้านหินวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พลเรือโท พิเชฐ ตานะเศรษฐ เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ นายวิชัย พวงภาคีศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 3 นายแพทย์ศิริชัย ลิ้มสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ว่าที่พันตรีชาติชาย ศรีโพธิ์อ่อน ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง และนายเกษม ปิ่นมณเฑียรทอง ผู้อำนวยการกลุ่มปฏิบัติการสาขา และผู้บริหารบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ร่วมส่งมอบ “โครงการห้องน้ำของหนู” จำนวน 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านหินวง และโรงเรียนวัดหนองจับเต่า รวมทั้งสิ้น 37 ห้อง ใช้งบประมาณในการดำเนินกว่า 2.3 ล้านบาท
นายเกษม ปิ่นมณเฑียรทอง ผู้อำนวยการกลุ่มปฏิบัติการสาขา และผู้บริหารบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างสรรค์สิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคมอย่างต่อเนื่องสำหรับ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร ได้ขยายสาขาให้บริการทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านสินค้า และบริการครบวงจร ด้วยปณิธานที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิต และส่งเสริมเรื่องสุขอนามัยในการใช้ห้องน้ำให้กับเด็กนักเรียน และชุมชน จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมภายใต้ชื่อ “โครงการห้องน้ำของหนู” โดยในครั้งนี้ สำหรับอำเภอสัตหีบ เราได้เข้าไปขยายการดำเนินการให้อีก 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านหินวง และโรงเรียนวัดหนองจับเต่า รวมทั้งสิ้น 37 ห้อง ใช้งบประมาณในการดำเนินกว่า 2.3 ล้านบาท โดยร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมกรศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และพันธมิตรทางธุรกิจ โดยได้ทำการเข้าตรวจสอบและปรับปรุง เพื่อยกระดับมาตรฐานห้องน้ำให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานส้วมสาธารณะระดับประเทศ หรือ HAS (Healthy, Accessibility and Safety) คือ สะอาด พอเพียง และปลอดภัย
นางสาวิรพิน ศิริจิตเกษม ผู้จัดการทั่วไป สายสื่อสารองค์กร บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทยังคงให้ความสำคัญ และตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมมาโดยตลอด นอกจากการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว เรายังเล็งเห็นถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน และชุมชนในแต่ละจังหวัดที่โฮมโปรมีสาขาอยู่ โดยได้เข้าไปปรับปรุงห้องน้ำ ก่อนการปรับปรุงเป็นส้วมนั่งยองๆ ที่ยังไม่ถูกสุขลักษณะ และสุขภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานนาน ทำให้สภาพทรุดโทรม ไม่ปลอดภัยในการใช้งาน เมื่อเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ โฮมโปร จึงเข้าไปดำเนินการปรับปรุงจากส้วมนั่งยองๆ เป็นนั่งราบ พร้อมติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานให้กับทั้ง 2 โรงเรียน อีกทั้งยังมีกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ และสาธิตการใช้ห้องน้ำอย่างถูกวิธี หรือทำการประชาสัมพันธ์ข้อความผ่านสื่อในชุมชนนั้นๆ เพื่อส่งผลดีไม่ใช่เพียงแค่เด็กในโรงเรียน แต่หากยังทำให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ในการดูแลรักษาห้องน้ำที่เกิดมาจากโครงการห้องน้ำของหนูด้วย”นอกจากการปรับปรุงห้องน้ำให้สะอาด สวยงาม ได้มาตรฐานแล้ว ยังมีการทำกิจกรรมร่วมกับเด็กๆ ในการสอนการใช้ห้องน้ำอย่างปลอดภัย การดูแลสุขอนามัยของตนเอง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมร่วมกับชุมชน เพื่อรณรงค์การรักษาห้องน้ำให้ถูกสุขลักษณะอีกด้วย
พัทยา-(28 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 00.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศทั่วพื้นที่อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ฟ้าคะนองอย่างต่อเนื่องนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้ถนนหลายจุดมีน้ำท่วมขัง และมีกระแสลมแรงทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มขวางถนน ทำให้การสัญจรไปมาเป็นไปอย่างยากลำบาก
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในเขตพื้นที่อำเภอบางละมุง พบว่าบริเวณถนนเลียบชายหาดพัทยา ถนน ภายในซอยบัวขาว ถนนสายสามแยกมุมอร่อย และถนนภายในซอยวัดหนองใหญ่ ถนนเลียบทางรถไฟเขาน้อยมุ่งหน้าเขาตาโล มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงประมาณ 50-80 เซนติเมตร ทำให้บางจุดรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ และมีรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากการลุยน้ำจอดพังอยู่จำนวนหลายคัน
ต่อมาได้รับรายงานว่าตลอดระยะเวลาที่ฝนกระตกลงมามีกระแสลมแรงมาก ทำให้ต้นก้ามปูซึ่งมีขนาดใหญ่อายุมากกว่า 30 ปี โค่นล้มขวางถนนเส้นพัทยากลาง ทำให้มีรถจำนวนมากจอดติดยาวไม่สามารถผ่านไปได้ เนื่องจากถนน เส้นพัทยากลางเป็นถนนเส้นหลักที่รถสามารถสัญจรเลี่ยงจุดที่มีน้ำท่วมขังได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งเข้าทำการเก็บกู้ซากต้นไม้ที่หักล้มท่ามกลางสายฝน เพื่อให้จราจรสามารถเคลื่อนตัวได้ตามปกติ
ภาพ/ข่าว Ku Salick
เมืองพัทยาลงพื้นที่ชายหาดพัทยาร่วมด้วยช่วยกันในการป้องกันและกำจัดต้นเหตุของการเกิดหนูให้หมดสิ้นไปภายใต้โครงการ รณรงค์กำจัดหนูบริเวณชายหาดพัทยา-นาจอมเทียน
พัทยา-(22 ก.ย. 59) ที่ บริเวณถนนเลียบสายชายหาด หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ เฟสติวัล พัทยาบีช ฝ่ายป้องกันและควบคุมโรค ส่วนควบคุมโรค สำนักการสาธารณสุขเมืองพัทยา ร่วมกับ SRRT เมืองพัทยา ร่วมด้วยช่วยกัน ในการป้องกันและกำจัดต้นเหตุของการเกิดหนูให้หมดสิ้นไป โดยมี นายเศรษฐพล บุญสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลชายหาด เป็นประธานในพิธีเปิด
โดยในวันนี้ทางฝ่ายป้องกันและควบคุมโรค ได้นำสารเคมีกำจัดหนูและที่ดักหนูไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประกอบการร่มเตียง ซึ่งเป็นวิธีการลดปริมาณหนูอย่างมีประสิทธิภาพ สามารลดได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ประหยัดเวลา สำหรับการณรงค์กำจัดหนูบริเวณชายหาดพัทยา-นาจอมเทียน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 เป็นไตรมาสสุดท้ายประจำปี 2559
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีในการท่องเที่ยว ลดปริมาณหนู ป้องกันโรค อันนำโดยหนู เช่น โรคเลปโตสไปโรซีส โรคพิษสุนัขบ้า รวมทั้ง แนะนำปรับปรุงสภาพแวดล้อมเพื่อลดปริมาณหนูจากพ่อค้า-แม่ค้า เจ้าของร่มเตียงบริเวณชายหาดให้ดูแลความสะอาด และทิ้งขยะให้เป็นที่ทุกวัน ไม่ปล่อยให้มีขยะตกค้าง
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีลูกแมวติดอยู่ในห้องเครื่องรถยนต์เก๋ง เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าศูนย์ยาฟาสซิโน ถนนพัทยาเหนือ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้อาสาสมัครกู้ภัยฯมีความเชี่ยวชาญกับการช่วยเหลือสัตว์ เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบลูกแมว สีขาว-เทา เพศผู้ อายุประมาณ 1 เดือน ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากติดอยู่บริเวณในห้องเครื่องรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ทะเบียน กอ 5074 ชลบุรี โดยมี น.ส.ปุณฉัตร ดีพร้อม อายุ 33 ปี เป็นเจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงลงมือช่วยเหลือโดยใช้แม่แรงยกตัวรถขึ้น แล้วเอามือล้วงเข้าไปบริเวณใต้เครื่องยนต์ ก่อนสามารถนำลูกแมวออกมาได้สำเร็จ
จากการสอบถาม น.ส.ปุณฉัตร เจ้าของรถยนต์เก๋ง เล่าให้ฟังว่า ไม่ทราบว่าลูกแมวตัวดังกล่าวเป็นของใครแล้วติดอยู่ในเครื่องยนต์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ขับรถยนต์ออกมาจากบ้านพักมาซื้อยา ระหว่างกำลังเดินเข้าศูนย์ยาฟาสซิโน ได้ยินเสียงแมวร้องขอความช่วยเหลือ ตรวจสอบปรากฏว่าลูกแมวตัวดังกล่าวติดอยู่ในห้องเครื่องยนต์ ทั้งนี้ พยายามจะช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จ จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ภายหลัง นายบุญชิน อ่อนถาวร เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ที่เดินทางมาช่วยเหลือเจ้าแมวตัวดังกล่าว ได้ประชาสัมพันธ์แล้วไม่มีผู้ใดแสดงเป็นเจ้าของ โดยถ้าหากปล่อยไว้เกรงว่าจะถูกสุนัขทำร้าย จึงอาสานำกลับไปชุบเลี้ยงที่บ้านเอาบุญต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-ผู้สื่อข่าวได้รับภาพคลิปวีดีโอวินาทีจับงูเหลือมยักษ์ จาก ส.ต.ท.ปวเรศ บรรจง ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกับเล่านาทีระทึกด้วยว่า ขณะที่กำลังตรวจตราป้องกันเหตุอยู่ในพื้นที่รับชอบ ระหว่างนั้นได้รับแจ้งว่ามีงูเหลือมขนาดซ่อนอยู่ในพื้นที่ปรับสภาพ บริเวณป้อมยาม เขาพระตำหนัก ม.11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ภายหลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบกลุ่มคนงานกำลังใช้อุปกรณ์ล้อมจับงูเหลือมขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 4.5 เมตร แต่ด้วยนิสัยเจ้างูเหลือมตัวดังกล่าวมีนิสัยดุร้าย พยายามเลื้อยกัดกลุ่มเข้ามาใกล้เพื่อจะหลบหนี สุดท้ายกลุ่มคนงานต้องใช้รถแบคโฮ โดยบังคับที่ตักกดทับเจ้างูเหลือมตัวเพื่อไม่ให้หลบหนี ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านจะช่วยกันจับเอาไว้ได้ในที่สุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำงูเหลือมตัวดังกล่าว ไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติยังสวนสัตว์เปิดเขาเขียวต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าพระภิกษุสงฆ์จากวัดสันติธาราวาส หรือวัดทุ่งละหาน เดินทางเยี่ยมและนำของใช้จำเป็นมอบให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาต ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
เมื่อเดินทางไปถึงพบนายบุญสืบ สุทธิเสน อายุ 53 ปี นางรุ่งนภา สุทธิเสน อายุ 54 ปี และหลานอีก 2 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเล็กๆ ที่ปลูกสร้างบนพื้นที่ของอาจารย์ท่านหนึ่งให้เป็นที่พักพิงโดยไม่คิดค่าเช่า นายบุญสืบ ซึ่งประสบ อุบัติเหตุทางถนนจนป่วยเป็นอัมพาต ขยับได้เพียงแขนเล็กน้อย นอนอยู่บริเวณโต๊ะหน้าบ้าน โดยมีภรรยาเฝ้าดูแลอย่าง ใกล้ชิด
นายบุญสืบเล่าว่า เมื่อก่อนผมเคยรับราชการทหาร จนกระทั่งปลดประจำการก็ได้มาทำงานเป็นคนจัดแต่งสวน วันหนึ่งผมประสบอุบัติเหตุถูกชนแล้วหนี ซึ่งผมจำอะไรไม่ได้ว่าเกิดเหตุอย่างไร ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่โรงพยาบาลไม่ สามารถขยับร่างกายได้ ตั้งแต่นั้นมาเป็นเวลา 20 ปีที่ผมไม่สามารถช่วยเหลือตนเองและหารายได้มาจุนเจือครอบครัวได้ ต้องนอนทุกข์ทรมานอยู่บนเตียงไม้ ต้องอาศัยภรรยาช่วยในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา ภรรยาจะออกไปทำงานหาเงินก็ต้องมาห่วงว่าจะไม่มีใครมาดูแลผมและหลานๆ
ทั้งนี้นายบุญสืบ ได้กล่าวว่ายังดีที่มีพระภิกษุสงฆ์ของวัดทุ่งละหาน ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้บ้านท่านมีเมตตาถึงคนพิการอย่างผม ท่านจะคอยนำข้าวปลาอาหาร และของใช้จำเป็นหลายอย่างมาให้เพื่อผมจะได้ไม่ต้องไปซื้อหา ส่วนบ้านพักนั้นก็อาศัยที่ดินของอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรบ้านอำเภอใจดีให้ตนอยู่แบบไม่คิดค่าเช่าแต่อย่างใด
ภาพ/ข่าว Ku Salick
พัทยา-(9 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 01.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขึ้นบริเวณกลุ่มบาร์เบียร์ ปากซอย 29/1 ถนนพัทยา-นาเกลือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ต้องถึงกับแปลกใจ เมื่อพบรถจักรยานคันจิ๋วติดสัญญาณไฟระยิบระยับและมีกล่องอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยมี นายอรรถพล จิตร์ทูล อายุ 21 ปี หนุ่มจิตอาสาเป็นเจ้าของ กำลังยืนโบกรถจัดการจราจร
จากการสอบถาม นายอรรถพล เล่าว่า ปกติมีอาชีพเป็นพนักงานเสิร์ฟ ร้านอาหาร อมร ซีฟู้ด ตั้งอยู่ถนนพัทยาสายสอง หลังจากเลิกก็จะมาประจำจุดอยู่ที่ร้านอาหาร เมื่อได้รับแจ้งเหตุอะไรก็แล้วแต่ที่จะพอไปช่วยเหลือได้บริเวณใกล้เคียงซึ่งไม่ห่างไกลมากนัก ก็จะปั่นรถจักรยานไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุและโบกรถจัดการจราจร หรือถ้าหากประสบเองกับตัวก็จะวิทยุสื่อสารแจ้งขอกำลังเสริมพร้อมกับควบคุมสถานที่เกิดเหตุไว้
ทั้งนี้ ตนเองไม่ได้เป็นอาสาสมัครของหน่วยงานใด เนื่องจากเคยไปสมัครแล้วไม่มีหน่วยงานไหนรับเข้าไปช่วยเหลือสังคม จึงเป็นเพียงจิตอาสาเพียงคนหนึ่งที่อยากจะช่วยเหลือสังคม สำหรับจักรยานคันดังกล่าวได้ไปเจอมา บริเวณริมถนน โดยแจ้งประกาศตามหาเจ้าของแล้วแต่ไม่มีใครมาติดต่อขอรับคืน จึงเชื่อว่าน่าจะมีผู้ไม่ได้ใช้งานแล้วนำมาทิ้งไว้ จากนั้นได้ปิ๊งไอเดียเพราะกระแสจักรยานกำลังมาแรง จึงเอาจักรยานมาติดสัญญาณไฟแล้วซื้อกล่องปฐมพยาบาลด้วยเงินของตัวเองทั้งหมดออกปั่นจักรยานตระเวนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-(3 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 21.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือรับแจ้งเหตุเด็กติดอยู่ภายในรถ เหตุเกิดหน้าร้านขายของชำภายในซอยชัยพฤกษ์สอง ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบประชานชนจำนวนมากมุงดูเหตุการณ์ ตรวจสอบพบรถยนเก๋งหรูยี่ห้อ บีเอ็มดับเบิ้ลยู สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 4 กภ 6273 กรุงเทพมหานคร ภายในรถมีเด็กติดอยู่ไม่สามารถออกมาได้ทราบชื่อภายหลังคือ น้องเบนนี่ ลูกครึ่งไทย-โปแลนด์ อายุ 3 ขวบ อยู่ในอาการตกใจกลัวร้องไห้ โดยมีน.ส.ศิริพร สนทนาวงศ์ อายุ 25 ปี ยืนดูอย่างใกล้ชิดด้วยความวิตกกังวล เจ้าหน้าที่กูภัยฯจึงใช้อุปกรณ์เฉพาะงัดเพื่อจะเปิดประตูรถ แต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากรถเป็นระบบไฟฟ้า ใช้เวลากว่า 10 นาที จึงสามารถเปิดประตูออกได้โดยไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ทันทีที่ประตูรถเปิด น.ส.ศิริพร รีบเข้ากอดลูกรักด้วยความโล่งใจเช่นกัน
สอบถามน.ส.ศิริพร ทราบว่าก่อนเกิดเหตุตนเองนั้นได้ออกมาซื้อของยังร้านขายของชำดังกล่าว ได้ติดเครื่องรถทิ้งไว้และให้น้องเบนนี่ รออยู่ในรถเพียงลำพัง เมื่อตนเองซื้อของเสร็จเดินกลับมาขึ้นรถก็พบว่าประตูเกิดล็อคไม่สามารถเปิดได้เครื่องยนต์ก็ดับ พยายามบอกให้น้องเบนนี่กดเปิดแต่ก็ไม่สามารถเปิดได้ ซึ่งน้องเบนนี่ติดอยู่เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง ตนเองเป็นห่วงลูกมากจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือดังกล่าว
ภาพ/ข่าว Ku Salick
พัทยาอัพเดทนิวส์ นำเสนอ ฉับไว เพื่อสังคม