คลังเก็บหมวดหมู่: อาชญากรรม

สาวโรคจิตชำแหละเนื้อสุนัขในป่าริมถนนจอมเทียนสาย 2 

IMG_8395

               สาวโรคจิตชำแหละเนื้อสุนัขในป่าริมถนนจอมเทียนสาย 2 เมืองพัทยาลงพื้นที่ตรวจสอบตะลึงพบโครงกระดูกนับสิบถูกถลกหนังตายเกลื่อนก่อนนำตัวสาวรายนี้ส่งสถานบำบัดทางจิต ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยพบพิรุธรถพ่วงขายสินค้าแวะเวียนอยู่เป็นประจำจึงเข้าตรวจสอบ

IMG_8379

                พัทยา-(23 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 13.00 น. นายอำนวยธนวิทย์ สมพงษ์ธรรม สมาชิกสภาเมืองพัทยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่รกร้าง บริเวณริมถนนจอมเทียนสาย 2 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีบุคคลเร่ร่อนเข้ามาปลูกเพิงพักอาศัยและมีพฤติกรรมเข้าข่ายทางจิตประสาท โดยเลี้ยงสุนัขเร่ร่อนไว้เป็นจำนวนมาก แต่หลังคุมตัวเพื่อนำส่งไปบำบัด และเข้าตรวจสอบพื้นที่กลับพบโครงเนื้อสุนัขซึ่งคาดว่าน่าจะถูกฆ่าทิ้งไว้จนเหลือแต่โครงกระดูกหลายสิบตัว

IMG_8381

               ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นที่ว่างเปล่าส่วนบุคคล มีต้นไม้ปกคุลมไปทั่วบริเวณและร่องรอยของเพิงพักอาศัยที่ถูกรื้อถอนไปก่อนหน้านี้ ขณะที่บริเวณด้านหลังเจ้าหน้าที่ต้องตกตะลึงกับภาพของหัวสุนัขที่ถูกผูกเชือกแขวนไว้กับต้นไม้ ส่วนบริเวณพื้นดินโดยรอบกินพื้นที่กว่า 1 ไร่พบเศษซากโครงกระดูกศีรษะและลำตัวสุนัขซึ่งคาดว่าถูกฆ่าและชำแหละวางทิ้งเกลื่อนไปทั่ว มีกลิ่นสาบเหม็นคลุ้ง เบื้องต้นคาดว่าประมาณ 50-60 ตัว

IMG_8383

              นายสมชาย อินเรือง หัวหน้าเทศกิจจอมเทียน ระบุว่าหญิงคนดังกล่าวคือ นางพร นามสมมุติ (สมจิตร มีลาด) อายุ 42 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มาปลูกเพิงพักอยู่ในที่รกร้างอยู่เพียงลำพังนานแล้ว โดยจะนำสุนัขจรจัดมาเลี้ยงไว้นับ 10 ตัว แต่หญิงคนดังกล่าวมีพฤติกรรมทางจิต โดยมักส่งเสียงเอะอะโวยวายและเคยทำร้ายชาว บ้านที่เดินผ่านมาจนได้รับบาดเจ็บจึงได้ร่วมกับกรมพัฒนาสังคมฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาคุมตัวนำส่ง รพ.สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อบำบัด จากนั้นจึงเข้ามาทำการตรวจสอบที่พักเพื่อรื้อถอนกระทั่งมาพบซากและโครงการกระดูกสุนัขเป็นจำนวนมาก

IMG_8385

               นายสมชาย กล่าวต่อไปว่าที่ผ่านมานางสมจิตร มักมีพฤติกรรมแปลกๆ มักชอบตวาดและไล่คนที่เข้ามาใกล้ที่พักตัวเอง มีอารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรงและมักนำซากปูเน่ามาวางไว้หน้าที่พักเพื่ออำพรางกลิ่นเหม็นเน่าขณะ ที่ทุกวันในช่วงหัวค่ำมีจะมีพวกพ่อค้าเร่ขี่ จยย.มาจอดริมถนนและหายเข้าไปบ่อยครั้ง อีกทั้งมักชอบบอกชาว บ้านว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้มักหายไป จึงเป็นที่มาของการเข้าตรวจสอบกระทั่งพบกรณีดังกล่าว

IMG_8389

จิ๊กโก๋วอล์กกิ้งพัทยา รุมยำหนุ่มรัสเซียเจ็บ ฉุนไม่ยอมซื้อยาเซ็กส์และดูโชว์ลามก

พัทยา-(23 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ขณะที่ พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา จ.ชลบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และอาสาสมัครออกเดินเท้าตรวจตราป้องกันเหตุภายในถนนวอล์กกิ้ง สตรีท พัทยาใต้ ได้รับแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวโดนทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบนายเอลกอร์ กอร์โรคอฟ อายุ 45 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย อยู่ในอาการตกใจและกลัวไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพเพราะกลัวผู้ก่อเหตุจะจดจำหน้าได้และตามมาล้างแค้นอีกในภายหลัง ตรวจตามร่างกายพบบาดแผลที่ตาขวามีร่องรอยการถูกของแข็งตี จนฉีกและปูดบวมเป็นแผลฉกรรจ์เลือดไหลอาบ เบื้องต้นจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา เข้ามาช่วยเหลือปฐมพยาบาล โดยทางต่างชาติไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล โดยระบุว่าทนเจ็บได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปยัง สภ.เมืองพัทยา

จากการสอบสวนผ่านล่ามแปลภาษาทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหาย ได้มาเดินเล่นกลับเพื่อน 3 คน ภายในวอล์คกิ้งสตรีท จากนั้นได้มีชายไทยเข้ามาพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษ โดยยื่นเสนอขายยาปลุกเซ็กส์และถือเบอร์ชัวร์ดูโชว์ลามกอนาจาร แต่เนื่องจากผู้เสียหาย ฟังภาษาไม่ค่อยรู้เรื่องมากนัก พร้อมกับกลัวถูกหลอกจึงเดินหนีแล้วพูดปฏิเสธเป็นภาษารัสเซียไป จึงอาจจะทำให้ผู้ก่อเหตุเข้าใจผิดเพราะสื่อสารไม่รู้เรื่องคิดว่าถูกด่า ผู้เสียหายเลยถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุเจ้าถิ่นรุมทำร้ายบาดเจ็บดังกล่าว

ภายหลังสอบสวนเบื้องต้นทาง ผู้เสียหาย ต้องการแค่ใบบันทึกประจำวันและจะกลับที่พัก โดยกลัวกลุ่มบุคคลเหล่านี้ตามมาทำร้ายอีก

ภาพ/ข่าว Ku Slick

นักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์พาครอบครัวเดินเที่ยวเมืองพัทยา ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋า หลบหนีลอยนวล

               พัทยา-(23 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 00.30 น ร.ต.ท.สิระภูเดชน์  ชำนาญกิจ สว.สส.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ได้ทรัพย์สินไปประมาณ 50,000 บาท เหตุเกิดภายในซอย 2 เฉลิมพระเกียรติ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรุดตรวจสอบ

             ที่เกิดเหตุบริในซอย 2 เฉลิมพระเกียรติ พบ MR.Prggy  Sjnoerbry อายุ 59 ปี  สัญชาติ นอร์เวย์ อยู่ในอาการตกใจ รอให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่าถูกคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มากระชากกระเป๋าได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดกว่า 20,000 บาท โทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 20,000 บาท และโทรศัพท์ยี่ห้อหัวเหว่ยจำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 10,000 บาท และได้ขับ รถ จยย.หลบหนีเข้าไปภายในซอย

              ก่อนเกิดเหตุ MR.Prggy  Sjnoerbry  ได้กดเงินมาจากตู้ ATM จำนวน 20,000 บาท จะพาครอบครัวไปเทียวจนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มากระชากกระเป๋าไป หลังเกิดเหตุตนจึงไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อาสาบริเวณใกล้เคียงดังกล่าว

             เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เพื่อออกติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Slick

คนงานก่อสร้างขนหัวลุก! พบศพหนุ่มผูกคอตายใต้ต้นไม้กลางป่า

พัทยา-(22 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 21.30 น. ร.ต.ท.มะโนต ทิพย์เวช รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพชายผูกคอตาย อยู่ในป่าหลังปราสาทสัจธรรม ภายในซอยนาเกลือ 12 ม.5 นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพ้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบประชาชนจำนวนมากมุ่งดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่จึงได้กันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบริเวณเกิดเหตุ ตรวจสอบใต้ต้นไม้ใหญ่พบร่างชายสูงประมาณ 160-165 ซม. อายุประมาณ 25-30 ปีสวมเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงยีนขายาวสีดำ ตามร่างกายมีรอยสัก ใช้สายไฟสีขาวผูกคอเสยชีวิตคากิ่งไม้ อยู่ในสภาพขึ้นอืดมีหนอนและแมลงวันเต็มตัว ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ตรวจสอบภายในร่างกายพบเพียงโทรศัพท์ที่ไร้แบตเตอรี่ 1 เครื่องแต่ไม่พบเอกสารแสดงตัวบุคคล

สอบสวนนายสากล ปัจฉิมมา อายุ 54 ปี อาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง ทราบว่าเมื่อเวลาประมาณ08.00 น.ที่ผ่านมา ตนเองและกลุ่มเพื่อนเดินผ่านบริเวณป่าดังกล่าว ตนเองเกิดปวดปัสสาวะจึงเดินเข้าไปในป่าก็เหลือบไปพบว่ามีศพผู้คอตายอยู่กับต้นไม้ใหญ่ก็รีบวิ่งมาบอกเพื่อนๆ แต่ไม่มีใครเชื่อคิดว่าผีหลอก จึงแยกย้ายกันไปทำงานต่อ

จนกระทั่งเลิกงานเวลาเกิดเหตุ จึงตัดสินใจชักชวนกันเข้าไปดูอีกครั้งว่าเป็นเรื่องจริงหรือผีหลอก เมื่อเข้าไปสำรวจก็พบว่าเป็นศพจริง ต่างคนก็ตกใจพากันวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยดังกล่าว

เบื้องต้น รองสารวัตรสอบสวนเจ้าของคดีได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวว่าผู้ตายเป็นใคร ส่วนศพได้มอบให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯส่งตรวจชันสูตรยังโรงพยาบาลตำรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

โจ๋พัทยาแชทเฟสบุ๊คลวงสาว 17 ปี ไปสักลาย พาเข้าบ้านข่มขืน

พัทยา-(22 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 03.30 น. ร.ต.อ.หญิง เต็มตรอง รอดศิริ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาย่อยโค้งดงตาล จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุกลุ่มวัยรุ่นพยายามบุกเข้าไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายคู่อริ ภายในบ้านพักเลขที่ 29/20 กลางซอย 13 จอมเทียน ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าระงับเหตุ

ที่เกิดเหตุ พบวัยรุ่นกำลังเกาะกลุ่มกันอยู่หน้าบ้านพักหลังดังกล่าว จึงเข้าทำการจับกุมได้ตัวเยาวชนจำนวน 11 คน จึงทำการไปทำประวัติ โดยมีชายวัยกลางคนกำลังโมโหฉุนเฉียว และกำลังปลอบใจ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นหลานสาว โดยระบุกับตำรวจว่าถูกชายวัยรุ่นรู้จักผ่านทางเฟสบุ๊ค ลวงมาข่มขืนในบ้านพักหลังดังกล่าว

สอบสวน น.ส.เอ ผู้เสียหาย ให้การว่า ผู้ก่อเหตุชื่อนายเซฟ รู้จักกันผ่านทางเฟสบุ๊ค โดยก่อนเกิดเหตุ นายเซฟ ได้ออกอุบายมีเพื่อนเปิดร้านสักลายอยู่ ด้วยความที่อยากสักลายอยู่แล้ว จึงหลงเชื่อให้นายเซฟ มารับที่บ้านพักเพื่อพาไปสักลาย แต่นายเซฟ กลับลวงพาเข้าบ้านพัก ก่อนจะลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่

ทั้งนี้ ระหว่างทำมิดีมิร้ายก็ได้พยายามขัดขืนและส่งเสียงร้องให้คนช่วย แต่นายเซฟ ก็ได้ใช้กำลังทำร้ายข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ หลังจากนั้น พ่อแม่ของนายเซฟ ขึ้นมาดูพอดี จึงเข้าไปขอความช่วยเหลือแล้วเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ทำให้พ่อทนไม่ไหวคว้าไม้กวาดกระหน่ำตีนายเซฟ ก่อนพ่อจะพาตัวเธอไปส่งบ้านพัก

หลังจากเกิดเหตุ เธอได้ปรึกษาผู้ใหญ่และทำให้บรรดาเพื่อนๆ รู้สึกโกรธแค้นกับเหตุการณ์เป็นอย่างมาก จึงรวมตัวกันเดินทางมายังบ้านพักนายเซฟ เพื่อมาแก้แค้นที่ทำกับตัวเธอและพยายามให้ตัวนายเซฟ ออกมารับผิดตามกฎหมาย แต่ก็ปิดบ้านเงียบและไม่มีการออกมาเจรจาใดๆ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ส่งตัว น.ส.เอ ผู้เสียหาย ไปตรวจร่างกายยัง รพ.บางละมุง เพื่อหาร่องการทำร้ายและบาดแผลถูกจากการข่มขืน ก่อนจะรวบรวมข้อมูลออกหมายจับนายเซฟ ผู้ก่อเหตุ ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง บุกจับคาราโอเกะพัทยาเปิดฝืนคำสั่ง คสช.

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 22 มีนาคม 2559 นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้นำกำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา บุกเข้าตรวจสอบร้านไฮคลาส คาราโอเกะ ตั้งอยู่ริมถนนพัทยาสายสาม ถนนพัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

หลังจาก นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง ได้รับการร้องเรียนร้านแห่งนี้ยังเปิดให้บริการตามปกติ โดยก่อนหน้านี้เคยถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอบางละมุง เข้าจับกุมเมื่อเดือนที่ผ่านมา หลังจากกระทำความผิดเรื่องจำหน่ายสุราเกินเวลา และเปิดสถานบริการเกินเวลา ก่อนจะถูกสั่งปิดเป็นเวลานาน 5 ปี ตามคำสั่งคสช.

จากการเข้าตรวจสอบร้านแห่งนี้ ปรากฏว่ายังเปิดให้บริการลูกค้าอยู่จริงตามที่ได้รับการร้องเรียน พบนักเที่ยววัยรุ่นเกือบเต็มร้านกำลังนั่งดื่มสุรา ฟังเพลงตามจังหวะเสียงเพลงดีเจ ตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนลูกค้าทั้งหมด ไม่มีเด็กอายุต่ำเข้าใช้บริการ พบเพียงนักเที่ยวไม่พกบัตรประชาชนจำนวน 4 คน จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับ

โดยมี นายพรนัชชา มหาวงษ์ อายุ 30 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน โดยให้ความร่วมมือในการตรวจสอบครั้งกับเจ้าหน้าที่เป้นอย่างดี พร้อมกับระบุว่า ไม่รู้ว่าร้านดังกล่าวถูกสั่งปิด 5 ปีตามคำสั่งคสช. เนื่องจากได้เซ้งกิจการต่อเจ้าของคนเก่า โดยลงทุนไปเกือบ 1 ล้านบาท ก่อนจะเปิดให้บริการนานเกือบ 2 เดือน แล้วมีเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมดังกล่าว

นายประพันธ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า สำหรับคำสั่งปิด 5 ปี ตามคำสั่งคสช. เป็นการห้ามใช้สถานที่ดังกล่าวเปิดเป็นสถานบันเทิงหรือบริการ ถึงแม้จะเปลี่ยนชื่อร้านแล้วก็ตาม จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการสถานบริการให้รับทราบโดยทั่วกัน หากตรวจสอบร้านใดที่ถูกสั่งปิดแล้วยังฝ่าฝืนก็จะความผิดตามกฎหมาย

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ตร.ท่องเที่ยวจับสาวอุดรฯ หลอกแฟนชาวอังกฤษลงทุนเปิดบาร์เบียร์สูญเงิน 1.5 ล้านบาท

พัทยา-(21 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 21.30 น. พ.ต.อ.วิฑูร เหลืองอมรศักดิ์ ผกก.2 บก.ทท. พ.ต.ท.สถาพร สงวนสุข สว.งานสืบสวน กก.2 บก.ทท. พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. พร้อมกำลังตำรวจสืบสวนท่องเที่ยวเมืองพัทยา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนางประไพ คงสุวรรณ อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี ผู้ต้องหา คดีฉ้อโกงทรัพย์ ตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย ที่ จ.122/2555 ลงวันที่ 16สิงหาคม 2555

สืบเนื่องจาก วันที่ 18 พ.ค. 2554 ผู้ต้องหาได้ชักชวนนายคริสโตเฟอร์ จอนห์เบริด สัญชาติอังกฤษ ผู้เสียหาย ร่วมลงทุนเปิดบาร์เบียร์ ชื่อร้านเดอะเลิฟเวอร์บาร์เบียร์ ริมหาดละไม ต.มะเล็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยผู้เสียหาย จึงลงเชื่อตัดสินใจโอนเงินให้ผู้ต้องหา ผ่านธนาคารกสิกรไทย สาขาพัทยา จำนวนหลายครั้งรวมเป็นเงิน 1,500,000 บาท แต่เมื่อผู้ต้องหารับเงินทั้งหมดแล้ว กลับไม่ยอมเปิดบาร์ตามที่ตกลงไว้

ทั้งนี้ ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ และผู้ต้องหาถูกออกหมายจับในเวลาถัดมา จนกระทั่งวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย คดีฉ้อโกงทรัพย์ หลบหนีมากบดานและพักอาศัยอยู่หอพักแห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำหมายจับเดินทางไปจับกุมได้ในที่สุด

เบื้องต้น นางประไพ ผู้ต้องหา ให้อ้างว่า ก่อนหน้านี้ เธอกับผู้เสียหายได้คบหากันมานานกว่า 10 ปี จึงได้จับมือร่วมกันลงทุนเปิดบาร์เบียร์ริมหาดละไมจริง โดยไม่ได้หลอกเอาเงินผู้เสียหายเลย แต่ธุรกิจเกิดไปไม่รอดทำให้บาร์เบียร์ดังกล่าวล้มเลิกกิจการเพราะหมดทุน หลังจากนั้นก็เกิดแยกทางกันอยู่ จนกระทั่งผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความจับ จึงหลบหนีมาทำงานเป็นแม่บ้านยังเมืองพัทยา แต่ก็ไม่รอดถูกจับกุมได้ดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

นทท.ชาวอิหร่านมาพัทยาไม่ถึงชั่วโมงถูกจี้ชิงทรัพย์เหยียบแสนบาท

พัทยา-(21 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 03.30น. ในขณะที่ ร.ต.ท.ธานินทร์ กันภัย รองสว.สส.(สอบสวน) ได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครพานักท่องเที่ยวคือ MR.AHMAD RASOULI อายุ 29 ปี สัญชาติอิหร่าน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ว่าถูกชาย 2 คนใช้มีดจี้ชิงทรัพย์สินเป็นเงิน2,500 ดอลล่า เป็นเงินไทยประมาณ 90,000 เหตุเกิดบริเวณริมถนนเส้นพัทยาเหนือ ตรงข้ามธนาคารธนชาติ ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดย MR.AHMAD RASOULI ให้การผ่านลามแปลภาษาว่า ตนเองได้เดินทางมาเที่ยวพัทยาโดยลงที่บริษัทรถรุ่งเรือง จำกัด(บขส)พัทยา-กรุงเทพ หลังจากนั้นได้เดินข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามเพื่อเดินหาที่พัก แต่จู่ๆได้มีชาย 2 คนขับขี่จยย.มาจอดเรียกให้ขึ้นรถ ตนเองจึงตอบปฏิเสธไป แต่ชายคนซ้อนท้ายได้ลงจากรถจยย.เดินเข้ามาบีบคอและใช้อาวุธมีดจี้ที่ลำคอ แล้วบังคับให้ส่งทรัพย์สินให้ ด้วยความกลัวจึงรีบส่งให้คนร้าย จากนั้นคนร้ายก็กระโดดขึ้นจยย.ขับขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ MR.AHMAD เนื่องจากทรัพย์สินอย่างอื่นเช่นโทรศัพท์มือถือ นาฬิกา ยังอยู่ครบ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบถามผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุแต่ไม่พบว่ามีผู้ใดเห็นเหตุการณ์ อย่างไรก็ตามจะประสานทางเมืองพัทยาเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุพร้อมทั้งจะรายงานความคืบหน้าต่อไป

ภาพ/ข่าว KU Salick

รถทัวร์ไฟไหม้กลางเมืองพัทยา นักท่องเที่ยวแตกตื่น

พัทยา-(21 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 00.10 น. เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณะภัยเมืองพัทยา รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้รถทัวร์นักท่องเที่ยวชาวจีน เหตุเกิดภายในซอยนาเกลือ 29/1 ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดตรวจสอบ

DSC00277

ที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถทัวร์ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก พบนักท่องเที่ยวพากันแตกตื่นเดินออกห่างจากบริเวณลานจอดรถ ตรวจสอบพบรถทัวร์สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 32- 4552 กทม. ของบริษัท ธนวรรณ แอร์ เอ็กซ์เพรส เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในตัวรถด้านท้ายฝั่งซ้าย เจ้าหน้าที่ได้ทุบกระจกและใช้ถังดับเพลิงฉีดสารเคมีเพื่อระงับไฟที่เริ่มจะลุกลามไปทั่ว จนกระทั่งรถดับเพลิงเดินทางมาถึงจำนวน 4 คัน ระดมฉีดนำระงับเปลวไฟภายในตัวรถจนกระทั้งสงบลง ก่อนจะเข้าไปตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟดับสนิทและไม่สามารถปะทุขึ้นมาได้อีก

DSC00305

สอบถาม นายณรงค์ศักดิ์ ล้ำวารี อายุ 52 ปี โชเฟอร์รถทัวร์ เล่าว่าในขณะที่กำลังจะขับรถออกจากลานจอดรถ ได้กลิ่นเหม็นไหม้เมื่อเดินสำรวจก็พบว่ามีเพลิงลุกไหม้จากช่องแอร์ จึงรีบใช้ถังดับเพลิงฉีดเพื่อระงับแต่ไฟกลับลุกไหม้แรงจนไม่สามารถระงับได้จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าช่วยเหลือ ส่วนสาเหตุนั้นณรงค์ศักดิ์ คาดว่าน่าจะเกิดจากระบบแอร์เกิดการลัดวงจรและเกิดไฟไหม้ดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ประธานหมู่บ้านเอื้ออาทรเครียดถูกโกงเงินนับล้าน ตัดสินใจผูกคอตายคาบ้านหรู

ประธานหมู่บ้านเอื้ออาทรเครียดถูกโกงเงินนับล้าน ส่งข้อความทางไลน์ถึงมารดาขออโหสิกรรมก่อนตัดสินใจผูกคอตายคาบ้านหรู

พัทยา-(20 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.ต.จีระศักดิ์ แอบแฝง สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอตายภายในบ้าน เลขที่129/128 หมู่บ้านเซ็นทรัลปาร์ 6ม.8 ต.หนองปรือ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาและพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นหมู่บ้านหรูสองชั้นปลูกบนเนื้อทีกว่า 100 ตรว. ซึงมีทั้งนักธุรกิจทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ภายในห้องน้ำของห้องนอนบนชั้นสองพบศพ นายรณชัย นัทธีเจริญ หรือ เลิฟ อายุ 37 ปี เจ้าของบ้านและเป็นประธานหมู่บ้านเอื้ออาทรหนองไม้แก่น ต.หนองปรือ อ.บางละมุง สภาพศพลิ้นจุกปาก นั่งอยู่ที่พื้นมีสายชาร์ทโทรศัพท์ผูกคอติดอยู่กับราวตากผ้า คาดว่าน่าจะเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 5-6 ชั่วโมง

จากการสอบปากคำน้องชายผู้เสียชีวิต ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปเคาะประตูเรียกที่ห้องผู้ตาย เนื่องจากเห็นว่าพี่ชายของตนเองเก็บตัวเงียบอยู่ภายในห้องนานผิดสังเกต จึงได้ขึ้นไปเคาะประตูเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ จึงได้พังประตูเข้าไป ก็ต้องถึงกับตกตะลึงเมื่อพบว่าพี่ชายตนเองผูกคอตาย จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะเกิดความเครียดเรื่องธุรกิจ เนื่องจากพยานให้การว่าผู้ตายเคยบ่นว่ามีชายไทย ชื่อเล่นว่าหนึ่ง (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) มาเสนอโปรเจ็คและชักชวนให้ร่วมลงทุนทำตลาดนัดภายในหมูบ้านเอื้ออาทรนาจอมเทียน ซึ่งมีมูลค่านับล้านบาท ภายหลังนายรณชัย(ผู้ตาย) หลงเชื่อจึงนำเงินมาร่วมลงทุน แต่ต่อมากลับถูกนายหนึ่งโกงแล้วหอบเงินเผ่นหนี เจ้าตัวจึงเกิดอาการเครียด และซื้อสุรามาดื่มย้อมใจ ก่อนคิดสั่นตัดสินใจผูกคอตาย ส่วนศพผู้เสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่ได้สางศพไปตรวจยังสถานนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมทั้งสั่งการให้ชุดสืบสวนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปสำนวนคดีต่อไป

มีรายงานจากแหล่งข่าวว่า เมื่อเวลา 02.12 น.วันเดียวกัน ผู้ตายได้ส่งข้อความผ่านแอฟปิเคชั่นไลน์ถึงมารดา ข้อความระบุว่า”ลาก่อนแม่ ลูกขออโหสิกรรมให้ด้วย ฝากบอกพ่อด้วยนะแม่ ลูกรักทุกคนครับ”

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย