คลังเก็บหมวดหมู่: อาชญากรรม

โจรพัทยาอาละวาดหนักก่อเหตุกระชากสร้อย นทท.แบบรายวัน

โจรพัทยาก่อเหตุกระชากสร้อยนักท่องเที่ยวรายวันแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตำรวจเตือนผู้ใส่เครื่องประดับระวังมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

พัทยา-(28 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 00.10 น. นายวิลเลียม แมคครูรอซ อายุ 56 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สนั่น โคตะนนท์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่า ขณะที่กำลังเดินกำลังดินเข้าที่พัก โรงแรมทวิล ปาร์ม ถนนพัทยาสายสอง กับภรรยาชาติเดียวกัน เมื่อมาถึงบริเวณ 4 แยกสัญญาณไฟแดง-เขียว ห้างท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาประกบตัวแล้วใช้มือเอื้อมเข้ามากระสร้อยคอทองที่สวมใส่อยู่ มูลค่ากว่า 50,000 บาท หลุดติดมือคนร้ายไป ก่อนจะเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างลอยนวล

ลำหรับรูปพรรณสัณฐานคนร้ายและรถจักรยานยนต์ ไม่สามารถจดจำได้ เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นไวมาก ทั้งนี้ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์เป็นอย่างมาก โดยไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเอง ในส่วนตัวเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นมืออาชีพ และเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง จึงอยากวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายดำเนินคดีให้ได้ หากยังปล่อยลอยนวลคนร้ายอาจจะไปก่อเหตุกับคนอื่นซ้ำอีก

ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งลงพื้นที่ไปตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามตัวคนร้ายดำเนินคดี อีกทั้ง ประชาสัมพันธ์ ให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่ใส่ทรัพย์สินมีค่า เช่น แก้ว แหวน เงินทอง ซึ่งเป็นเครื่องประดับ โปรดระมัดระวังให้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เนื่องจากกลุ่มคนร้ายออกก่อเหตุกันแบบรายวัน

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

หนุ่มบุรีรัมย์ซิ่งกระบะเสยรถพ่วง 18 ล้อ เจ็บ 1 ดับคาซาก 1

พัทยา-(28 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 00.30 น. ร.ต.ท.บุญหลาย อินเอี่ยม รองสว.สอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักชนกับรถพ่วง 18 ล้อ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสาย 36 ฝั่งขาเข้าพัทยา ม.10 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ สี่ประตู หมายเลขทะเบียน กล 7466นครราชสีมา เสียหลักชนเข้าช่วงข้างของรถพ่วง หมายเลขทะเบียนส่วนหัว 81-1951ระยอง ส่วนหาง 82-8010 ระยอง แล้วลากมาไกลกว่า100 เมตร ทำให้ตัวรถกระบะอยู่ในสภาพหลังคาเปิดออกตัวรถมุดเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถพ่วงพังยับเยิน

ตรวจสอบภายในรถพบ นายพรศักดิ์ จีนไธสง อายุ 32 ปีชาวจังหวัดบุรีรัมย์ คนขับได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ อยู่ในอาการมึนงง ที่เบาะนั่งข้างคนขับพบร่างผู้เสียชีวิตนอนแน่นิ่งจมกองเลือด สภาพใบหน้าเละสยดสยอง ทราบชื่อต่อมาคือ นายสันทัชน์ บัวพรม อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัย ทำการปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากตัวรถอย่างยากลำบาก

สอบสวน นายคำฉัน ศิริเรือง อายุ 33 ปี โชเฟอร์รถพ่วง 18 ล้อ เล่าว่าตนเองได้บรรทุกเหล็กจากมาบตาพุด มุ่งหน้าแหลมฉบัง โดยขับชิดเลนซ้ายเนื่องจากรถบรรทุกหนักประมาณ 30 ตัน จึงไม่สามารถใช้ความเร็วได้ เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุก็ได้ยินเสียงดังและรู้สึกคล้ายมีแรงกระแทกจากด้านข้างของตัวพ่วง จึงชะลอความเร็ว เมื่อลงมาตรวจสอบก็พบว่ามีรถกระบะชนเข้ากับข้างพ่วงจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้น ร.ต.ท.บุญหลาย อินเอี่ยม รองสว.สอบสวน เจ้าของคดีได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งควบคุมตัว นายพรศักดิ์ (คนขับรถกระบะ) ไปสอบปากคำพร้อมทั้งตรวจวัดระดับปริมาณแอลกอฮอ ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯเก็บรักษายังโรงพยาบาลบางละมุงเพื่อรอญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ตร.รวบ นทท.ไต้หวันใช้แบงค์พันปลอมซื้อไอศกรีม สอบสวนไม่มีเจตนาปล่อยตัวกลับ

พัทยา-(26 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 14.30 น.พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุ ชาวต่างชาติใช้แบงค์ปลอมซื้อของ เหตุเกิดที่ ศูนย์การแสดงสัตว์น้ำ อันเตอร์วอเตอร์เวิล พัทยา เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ของอันเตอร์วอเตอร์เวิล ได้ควบคุมตัว นายเว่ยชิน เพิง (Wei-Shin Peng) อายุ 50 ปี นักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน พร้อมธนบัตรไทยใบละ 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ จากการตรวจสอบพบว่ามีลักษณะเหมือนกับธนบัตรจริงมาก แต่ต่างกันที่เนื้อกระดาษ และรายละเอียดเพียงเล็กน้อย ซึ่งหากไม่สังเกตจะไม่รู้ว่าเป็นธนบัตรปลอม และเมื่อเปรียบเทียบกับธนบัตรจริงจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ธนบัตรปลอมจะไม่มีแถบเงิน เบื้องต้น จึงควบคุมตัว นายเว่ยชิน เพิง ไปสอบสวนต่อที่ สภ.ย่อยโค้งดงดาล

96685

สอบถามพนักงานสาวขายเครื่องดื่มประจำศูนย์การแสดงสัตว์น้ำ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเว่ยชิน เพิง นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันรายนี้ได้มาซื้อไอศกรีม 4 ชิ้น พร้อมกับยื่นแบงค์ธนบัตร 1 พันบาท เพื่อชำระเงิน แต่เมื่อตนได้สัมผัสธนบัตรใบดังกล่าว จึงรู้สึกว่าเนื้อกระดาษไม่คุ้นเคยเหมือนปกติ ทำให้ทราบว่าเป็นธนบัตรจึงเรียกเจ้าหน้าที่ควบคุมนักท่องเที่ยวรายนี้ไว้ พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

จากการสอบสวน นายเว่ยชิน เพิง ให้การว่า ธนบัตรใบดังกล่าวได้มาตั้งแต่มาท่องเที่ยวเมืองไทยครั้งก่อนหน้านี้ และในครั้งนี้หลังจากลงเครื่องยังไม่ได้แลกเงินที่ไหน จึงนำเงินเก่าที่แลกไว้มาใช้จ่ายก่อน ซึ่งทางไกด์หัวหน้าทัวร์ได้ยืนยันว่ายังไม่ได้แวะให้ลูกทัวร์ได้แลกเงินเช่นกัน

S__21536790

นอกจากนี้ จากการตรวจค้นธนบัตรในตัวของ นายเว่ยชิน พบว่าธนบัตรใบอื่นๆ เป็นธนบัตรจริงถูกต้องตามกฎหมาย เชื่อว่าธนบัตรปลอมใบดังกล่าวอาจจะปะปนมากับธนบัตรจริง ตั้งแต่มาเที่ยวเมืองไทยครั้งก่อนตามที่คำให้การ นายเว่ยชิน ทั้งนี้ จึงลงบันทึกประจำวันไว้ว่า การกระทำของ นายเว่ยชิน ไม่ส่อเจตนาในการใช้ธนบัตรปลอม และอีกทั้งยังตกเป็นผู้เสียหาย ก่อนปล่อยตัวกลับไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

สุดซวย ! ไฟไหม้ร้านสะดวกซื้อรอบ 2 เสียหายกว่า 5 แสนบาท

ร้านสะดวกซื้อสุดซวย ปิดปรับปรุงเพราะถูกเพลิงไหม้ไป 1 เดือน พอเปิดทำการได้เพียง 2 วัน ไฟไหม้ซ้ำ เสียหายมากกว่า 5 แสนบาท

พัทยา-(26 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 08.30 น. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท สาขาถนนเพ็ชรตระกูล เลขที่ 78/124 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบเปลวเพลิง และกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งจากบริเวณด้านหลังตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ใช้รถดับเพลิงจำนวน 5 คัน ระดมฉีดน้ำ ใช้เวลากว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบ หลังเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าตรวจสอบพบว่าต้นเพลิงเกิดจากห้องเก็บของ ซึ่งภายในมีแผงควบคุมระบบไฟฟ้าอยู่ด้วย

S__30056493

สอบถาม น.ส.ชื่นนภา เพ็งสกุล อายุ 18 ปี พนักงานของร้าน กล่าวว่า ในขณะที่กำลังทำงานอยู่ในร้าน พร้อมกับกับกลุ่มเพื่อนพนักงานอีก 2 คน ได้สังเกตเห็นเปลวไฟและกลุ่มควันพวยพุ่งออกจากห้องเก็บของด้านหลัง จึงรีบพากันวิ่งออกจากตัวร้าน ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าระงับเหตุ นอกจากนี้ที่ร้านแฟมิลี่มาร์ทแห่งนี้เพิ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ไปเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 59 ที่ผ่านมา โดยเพลิงไหม้ครั้งนั้นสาเหตุเกิดจากตู้แช่สินค้า และหลังจากปิดปรับปรุงไปกว่า 1 เดือน ซึ่งเปิดทำการได้เพียง 2 วัน ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ซ้ำอีก

S__30056490

เบื้องต้น ทางตำรวจได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้คาดว่าเกิดจากระบบไฟฟ้าลัดวงจร คาดว่ามูลค่าความเสียหายมากกว่า 5 แสนบาท อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

สาวเวียดนามเดินเล่นถูกโจรกระชากกระเป๋า สูญเงินกว่า 70,000 บาท

พัทยา-(27 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 00.10 น. MRS. NGUYEN THI HANG อายุ 35 ปี สัญชาติเวียดนาม พร้อมไกค์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.กฤชฐา ประทุมแก้ว รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าได้ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าสะพาย ขณะที่กำลังเดินเที่ยวอยู่แถวย่านพัทยากลาง บริเวณสถานที่ก่อสร้างห้าง ฮาเบอร์ ซึ่งภายในกระเป๋ามีทรัพย์สินและเอกสารจำนวนมาก

จากการสอบถาม MRS. NGUYEN THI HANG เล่าว่า ตนได้เดินทางมาเที่ยวที่เมืองพัทยา และในขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่นั้นได้สะพายกระเป๋าไว้ โดยไม่คิดว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับตน ซึ่งขณะนั้นได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนขับขี่ จยย. เข้ามาประกบแล้วคนนั่งซ้อนท้ายได้กระชากกระเป๋าที่ตนสะพายอยู่ไป ก่อนจะหลบหนีมุ่งหน้าออกไปทางถนนพัทยากลางสุขุมวิท โดยทรัพย์สินภายในกระเป๋ามีเงินไทย 15,000บาท เงินสกุลเวียดนาม 1 ล้านดอง เป็นเงินไทย 15,700 บาท สกุลดอลล่า 300 ดอลล่า มือถือไอโพน 6 พลัส 1 เครื่องราคา 36,000 บาท พร้อมเอกสารสำคัญต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 7 หมื่นบาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานและได้ประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลคนร้ายบริเวณที่เกิดเหตุและตรวจสอบหาภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

วัยรุ่นถูกยิงเจ็บหน้าผับดังเมืองพัทยา

พัทยา-(26 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 05.30น. ร.ต.อ.วีรยุทธ กางกะละ รองสว.สอบสวนสภ.เมืองพัทยารับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายและยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ร้านฟินน์ ย่านพัทยาเหนือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถ พบกลุ่มวัยรุ่นกำลังแยกย้ายกันกับบ้าน พบเพียงกองเลือดส่วนผู้บาดเจ็บเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบางละมุงก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ นายศุภศิต มาละออ อายุ 27 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าที่ขาซ้าย 1 นัด หัวกระสุนฝังใน ต้องทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน

สอบสวน นายศุภศิต (คนเจ็บ) เล่าว่าตนเองและกลุ่มเพื่อนได้เดินทางมาเที่ยวร้านฟินน์ กระทั้งเวลาประมาณ 05.20 น.กำลังจะกลับบ้าน จึงเดินออกมาที่ลานจอดรถพบว่าเพื่อนที่มาด้วยมีปัญหากับวัยรุ่นกลุ่มอื่นจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย ปรากฏว่าหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นได้ชักปืนยิงใส่จำนวน 3 นัด ถูกเข้าที่ขา 1 นัด ส่วนเพื่อนถูกชกต่อยได้รับบาดเจ็บ

เบื้องต้น ร.ต.อ.วีรยุทธ กางกะละ รองสว.สอบสวนสภ.เมืองพัทยาเจ้าของคดีได้ทำการสอบสวนกลุ่มคนเจ็บอย่างละเอียด พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Slick

ปลัดป้องกันฯ นำกำลังบุกทลายซุ้มวัยรุ่นมั่วสุม

ชาวบ้านร้องนายอำเภอบางละมุง วัยรุ่นมั่วสุ่มตั้งก๊วนบ้านร้างในชุมชนจนชาวบ้านหวาดกลัว ปลัดป้องกันฯ นำกำลังบุกทลายซุ้ม เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน

IMG_0608

พัทยา-(24 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 18.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากเข้าไปมั่วสุ่ม ภายในบ้านร้าง ชุมชนโพธิ์สาร ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงสั่งการให้ เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำโดย ร.ต.อ.วุฒิกรณ์ ปลอดโปร่ง รองสวป. สภ.เมืองพัทยา เดินทางไปตรวจสอบ

IMG_0600

จากการไปตรวจสอบ ภายในบ้านร้างชุมชนดังกล่าว มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 20 คน กำลังมั่วสุ่มนั่งสูบบารากู่กันอย่างเมามันส์ แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุมต่างพากันแตกฮือ วิ่งหลบหนีไปคนละทิศทาง โดยเส้นทางชุมชนดังกล่าวเป็นพื้นที่กว้าง สามารถออกได้หลายเส้นทาง จึงเป็นการจับกุมที่ค่อนข้างจะยากลำบาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ชำนาญเส้นทางเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ติดตามวิ่งไล่ล่าจับกุมชายวัยรุ่นไว้ได้ ทั้งหมดรวม 7 คน นอกจากนี้ ยังตรวจค้นบริเวณบ้านร้าง เจอทั้ง อาวุธมีดพกสั้น มีดดาบยาว ท่อนเหล็ก เตาบารากู่ และอายัดรถจักรยานยนต์ 6 คันไว้ตรวจสอบอีกด้วย

IMG_0592

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาตรวจหาสารเสพติดในร่าง พบว่าเยาวชนใช้ยาเสพติดประเภทกัญชา1 ราย จึงส่งตัวไปบำบัดตามขั้นตอนกระขบวนการแพทย์ ส่วนเยาวชนที่เหลือได้เรียกผู้ปกครองมาว่ากล่าวตักเตือนและทำประวัติ ก่อนปล่อยตัวกลับบ้านไป ในส่วนของบ้านร้างเป็นเพิงไม้มุงหลังคาสังกะสี ซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุ่มของเยาวชน สอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ทราบว่าไม่มีผู้พักอาศัยแล้วโดยปล่อยร้างมานานแล้ว จึงทำการรื้อถอน เพื่อไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นกลับมามั่วสุ่มได้อีก

IMG_0588

นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า การจับกุมกลุ่มเยาวชนมั่วสุ่มในชุมชนกลางเมืองพัทยาแห่งนี้ สืบเนื่องจากได้มีชาวบ้านละแวกดังกล่าวได้เข้าร้องเรียนว่ามีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามั่วสุ่มจำนวนมาก สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านและเด็กนักเรียนอาศัยในชุมชน เพราะกลัวว่าอาจจะถูกวัยรุ่นชักชวนไปกระทำในทางที่ผิด จึงสั่งการให้ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันฯ นำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมดังกล่าว

ข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ ได้ร่วมกันทำการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวและรื้อถอนบ้านร้างซึ่งทำเป็นแหล่งมั่วสุ่ม ทำเอาชาวบ้านในละแวกดังกล่าวรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยมากขึ้น

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ไฟไหม้รถทัวร์วอดทั้งคัน โชเฟอร์นอนหลังรถหนีทันรอดตายหวุดหวิด

พัทยา-(24 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 03.30 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถทัวร์ เหตุเกิดภายในปั้มก๊าซเอ็นจีวี บริษัทสยามเบสท์ เอ็นจีวี จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 88/8 ริมถนนสาย 36 ฝั่งขาเข้าพัทยา ม.3 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้หน่วยกู้ชีพฯ และรถดับเพลิงเทศบาลหนองปลาไหล 1 คัน รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถด้านหลังปั้มก๊าซดังกล่าว พบรถทัวร์ ทะเบียน 32-8597กรุงเทพมหานคร ของบริษัท โกลเด้นไทยแทรเวล จำกัด ซึ่งติดตั้งระบบแก๊สเอ็นจีวี ทั้งหมดรวม 8 ถัง โดยเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงพร้อมเสียงระเบิดดังขึ้นมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงกั้นผู้ไม่เกี่ยวออกห่างจากพื้นที่ อีกทั้งสั่งปิดบริการปั้มก๊าซดังกล่าวชั่วคราว เพราะเกรงว่าไฟลุกลามแล้วอาจจะได้รับอันตราย

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ชีพฯ จึงช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดแสงเพลิงที่กำลังไหม้และลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาฉีดน้ำกว่า 30 นาที เปลวเพลิงลุกไหม้ก็ดับลง เหลือเพียงกลุ่มควันสีดำที่โพยพุ่งออกมาจำนวนมาก โดยพบว่ารถทัวร์ดังกล่าวถูกเพลิงไหม้วอดจนเป็นซากรถ

สอบถาม นายสาธิต กาชัย อายุ 27 ปี โชเฟอร์ เล่านาทีระทึกว่า ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาได้ขับรถทัวร์คันดังกล่าวมาเติมก๊าซเอ็นจีวี เต็มทั้งหมด 8 ถัง เพราะตอนเช้าจะต้องไปรับลูกทัวร์ชาวจีน ที่โรงแรมชลจันทร์ หลังจากนั้นได้นำรถมาจอดบริเวณลานจอดหลังปั้มแก๊ส แล้วนอนหลับอยู่หลังรถทัวร์ จนกระทั่งเวลาเกิดเหตุได้กลิ่นเหม็นไหม้ เมื่อตื่นขึ้นมาดูพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่หน้ารถ ด้วยความตกใจ จึงรีบกระโดดหนีลงมาจากรถหนีตาย ทั้งนี้ พยายามใช้ถังดับเพลิงฉีดสกัดแล้ว แต่เพลิงเกิดลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นได้ถ่ายรูปและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร อย่างไรก็ตามจะส่งตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบสาเหตุการไหม้ต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

เสี่ยจีนเจ้าของโรงงานเมืองเซี่ยงไฮ้ ถูกโจรซิ่งจยย.กระชากสร้อย เผ่นหนีลอยนวล

พัทยา-(24 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.ท.(หญิง)เกวลีศิริ ผาสุขธนไพศาล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยคอนักท่องเที่ยว เหตุเกิดบริเวณปากซอยนาเกลือ 29/1 ถนนพัทยา-นาเกลือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ภายหลังรับแจ้งจึงประสานชุดสืบสวน และตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบผู้เสียหายนักท่องเที่ยวชาวจีน ทราบชื่อคือนายฮ้อง ซาง อายุ 40 ปี เจ้าของโรงงานอิเลคทรอนิกส์ เมืองเซี่ยงไฮ้ ยืนรอตำรวจอยู่ในอาการตื่นตระหนกตกใจ และที่บริเวณลำคอมีรอยแดงช้ำ พร้อมกับให้การผ่านล่ามแปลภาษาจีนว่า ได้เดินทางจากประเทศบ้านเกิดรวมพวกประมาณ 20 คน ท่องเที่ยวยังเมืองพัทยา และมาถึงวันนี้เป็นวันแรก โดยช่วงเย็นที่ผ่านมาก็ได้พากันไปตีกอล์ฟคลายเครียด

ต่อมาได้ชักชวนเพื่อนทั้งหมดมาเลี้ยงฉลองวันเกิดครบ 40 ปีบริบูรณ์ ที่ร้านสตาร์ไดซ์ ผับพัทยา ซึ่งเป็นสถานบันเทิงขึ้นชื่อของเมืองพัทยา หลังจากดื่มกินกันเสร็จแล้วได้เดินเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อของใช้ ระหว่างที่กำลังเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อขึ้นรถแท็กซี่กลับที่พัก จากนั้นได้มีคนร้ายชายวัยรุ่น สวมหมวกกันน็อกอำพรางใบหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนการแต่งกายและรูปร่างไม่สามารถจดจำได้

โดยการก่อเหตุของคนร้ายทำทีชะลอรถ เพื่อให้ตนเองเดินข้ามถนน ซึ่งตอนแรกก็มองว่าคนไทยใจดี แต่เมื่อช่วงก้าวเท้าข้ามถนน คนร้ายได้วนรถกลับผ่านหน้าไปแล้วอาศัยจังหวะดังกล่าวเอื้อมมือกระชากสร้อยคอทอง ยี่ห้อ คาร์เทียร์ ราคาประมาณ 50,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยราว 250,000 บาท ที่สวมใส่อยู่แล้วติดมือคนร้ายไป ก่อนจะเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ภายหลังเกิดเหตุ เมื่อบรรดาเพื่อนเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ก็ต่างพากันถอดเครื่องประดับและทรัพย์สินมีค่าใส่กระเป๋าเก็บไว้อย่างมิดชิด และยืนยันว่าตลอดการท่องเที่ยวเมืองพัทยาจะไม่ใส่โชว์โดยเด็ดขาด อีกทั้งยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้อย่างมาก และอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีมาตรการดูแลต่างชาติให้ดีกว่านี้ พร้อมทั้งเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ในเร็ววัน เนื่องจากจะได้ไม่ต้องไปก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวรายอื่นได้อีก

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการชุดสืบสวนและตำรวจท่องเที่ยวแบ่งทีมกันทำงาน เพื่อไปหาเบาะแสคนร้ายจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อมเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมกับสั่งตำรวจสายตรวจและอาสาสมัครกระจายกำลังและออกตรวจตราตามจุดเสี่ยงดูแลนักท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

จิ๊กโก๋รุมยำหนุ่มรัสเซียเข้ามอมตัวตำรวจ อ้างโดนถ่มน้ำลายใส่ เลยปริ๊ดแตกชกเบ้าตาบวม

จากกรณี ชายไทยเข้ามาเสนอขายยาปลุกเซ็กซ์และชักชวนดูโชว์ลามก นายเอลกอร์ กอร์โรคอฟ อายุ 45 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย มีอาการเมาสุรา แต่เกิดสื่อสารกันไม่รู้เรื่องและเกิดมีปากเสียงกัน ก่อนชายไทยพร้อมพวกจะได้รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จนเบ้าตาขวาปูดบวมเขียวช้ำและเลือดไหลอาบได้รับบาดเจ็บ แล้วพากันหลบหนีไป เหตุขึ้นบริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ ถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ของกลางดึกคืนที่ผ่านมา

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับคดีนี้ นายวิลาศ หรือเอ ทองแช่ม อายุ 37 ปี และนายอัศวิน หรือบอล เรืองเดช อายุ 32 ปี สองผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมานยัง สภ.เมืองพัทยา แล้วเข้ามอมตัวกับ พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก. สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา โดยมี พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เดินทางมาสอบปากคำด้วยตัวเอง

นายวิลาศ หรือเอ ผู้ก่อเหตุ ให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุยอมรับว่าตนและพวกได้เข้าไปเสนอขายยาปลุกเซ็กซ์และชักชวนดูโชว์ลามกจริง แต่เนื่องจากเกิดเหตุสื่อสารไม่รู้เรื่อง จึงเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนผู้เสียหายจะถ่มน้ำลายใส่ตนเอง ด้วยความโมโหเลยชกเข้าไปที่เบ้าตาผู้เสียหาย 1 ครั้ง แล้วหลบหนีไป ส่วน นายอัศวิน หรือบอล เพื่อนตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด โดยที่พามาวันนี้เพื่อจะเอาเป็นพยาน

ทั้งนี้ จึงอยากฝากขอโทษชาวพัทยาและผู้ประกอบการสถานบริการ ที่ลงมือทำเพราะอารมณ์โมโหและบันดาลโทสะ ทำให้เมืองพัทยาเสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีงามของประเทศไทย หลังเกิดเหตุ คิดได้จึงเดินทางเข้ามอมตัวกับตำรวจยอมรับผิด และขอโทษสังคมผ่านสื่อมวลชนดังกล่าว

พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก. สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับตัวนักท่องเที่ยวขณะนี้หลังเกิดเหตุได้ไปเที่ยวยังเกาะสีชัง โดยยืนยันว่าไม่ได้เกรงกลัวจะตามถูกทำร้าย ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายวิลาศ หรือเอ ผู้ก่อเหตุ ในความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย