ปลัดป้องกันฯ นำกำลังบุกทลายซุ้มวัยรุ่นมั่วสุม

ชาวบ้านร้องนายอำเภอบางละมุง วัยรุ่นมั่วสุ่มตั้งก๊วนบ้านร้างในชุมชนจนชาวบ้านหวาดกลัว ปลัดป้องกันฯ นำกำลังบุกทลายซุ้ม เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน

IMG_0608

พัทยา-(24 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 18.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากเข้าไปมั่วสุ่ม ภายในบ้านร้าง ชุมชนโพธิ์สาร ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงสั่งการให้ เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำโดย ร.ต.อ.วุฒิกรณ์ ปลอดโปร่ง รองสวป. สภ.เมืองพัทยา เดินทางไปตรวจสอบ

IMG_0600

จากการไปตรวจสอบ ภายในบ้านร้างชุมชนดังกล่าว มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 20 คน กำลังมั่วสุ่มนั่งสูบบารากู่กันอย่างเมามันส์ แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุมต่างพากันแตกฮือ วิ่งหลบหนีไปคนละทิศทาง โดยเส้นทางชุมชนดังกล่าวเป็นพื้นที่กว้าง สามารถออกได้หลายเส้นทาง จึงเป็นการจับกุมที่ค่อนข้างจะยากลำบาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ชำนาญเส้นทางเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ติดตามวิ่งไล่ล่าจับกุมชายวัยรุ่นไว้ได้ ทั้งหมดรวม 7 คน นอกจากนี้ ยังตรวจค้นบริเวณบ้านร้าง เจอทั้ง อาวุธมีดพกสั้น มีดดาบยาว ท่อนเหล็ก เตาบารากู่ และอายัดรถจักรยานยนต์ 6 คันไว้ตรวจสอบอีกด้วย

IMG_0592

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาตรวจหาสารเสพติดในร่าง พบว่าเยาวชนใช้ยาเสพติดประเภทกัญชา1 ราย จึงส่งตัวไปบำบัดตามขั้นตอนกระขบวนการแพทย์ ส่วนเยาวชนที่เหลือได้เรียกผู้ปกครองมาว่ากล่าวตักเตือนและทำประวัติ ก่อนปล่อยตัวกลับบ้านไป ในส่วนของบ้านร้างเป็นเพิงไม้มุงหลังคาสังกะสี ซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุ่มของเยาวชน สอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ทราบว่าไม่มีผู้พักอาศัยแล้วโดยปล่อยร้างมานานแล้ว จึงทำการรื้อถอน เพื่อไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นกลับมามั่วสุ่มได้อีก

IMG_0588

นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า การจับกุมกลุ่มเยาวชนมั่วสุ่มในชุมชนกลางเมืองพัทยาแห่งนี้ สืบเนื่องจากได้มีชาวบ้านละแวกดังกล่าวได้เข้าร้องเรียนว่ามีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามั่วสุ่มจำนวนมาก สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านและเด็กนักเรียนอาศัยในชุมชน เพราะกลัวว่าอาจจะถูกวัยรุ่นชักชวนไปกระทำในทางที่ผิด จึงสั่งการให้ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันฯ นำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมดังกล่าว

ข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ ได้ร่วมกันทำการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวและรื้อถอนบ้านร้างซึ่งทำเป็นแหล่งมั่วสุ่ม ทำเอาชาวบ้านในละแวกดังกล่าวรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยมากขึ้น

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

แฮปปี้ทัวริสต์ซิม ร่วมกับ TakeMeTour มอบส่วนลดค่าทัวร์มูลค่า 300 บา


ผู้สื่อข่วารายงาน ด้าน นายสุภวัส พรหมวิทักษ์ (ซ้าย) ผู้อำนวยการสายงานการตลาดธุรกิจพรีเพด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ร่วมกับ นายอมรเชษฐ์ จินดาอภิรักษ์ (กลาง) และนายนพพล อนุกูลวิทยา (ขวา) ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้บริหาร บริษัท ทีเอ็มที มาร์เก็ตเพลส จำกัด ร่วมกัน มอบสิทธิพิเศษเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เปิดใช้ซิม “แฮปปี้ทัวริสต์ซิม” (Happy Tourist SIM) ราคา 49 บาท หรือ 199 บาท หรือ 299 บาท หรือ 599 บาท เมื่อซื้อทัวร์จาก “TakeMeTour” มูลค่า 1,500 บาทขึ้นไป จะได้รับส่วนลดค่าทัวร์ทันทีมูลค่า 300 บาท ผ่านการกดรับสิทธิ์ที่โทร *399*456*9# แล้วโทรออก (จำกัดสิทธิ์ 1 หมายเลข ต่อ 1 สิทธิ์) ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าสิทธิ์จะหมด

“TakeMeTour” เป็นสตาร์ทอัพดาวรุ่งในโครงการ dtac accelerate batch 3 ที่ดีแทคช่วยสนับสนุนในการทำตลาดร่วมกับ แฮปปี้ทัวริสต์ซิม เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวเมืองไทยโดยไกด์ท้องถิ่นได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าวTakeMeTour เป็นตลาดกลางออนไลน์(Marketplace) สำหรับทัวร์หนึ่งวันที่สร้างและพาเที่ยวโดยคนในท้องถิ่น ซึ่งนำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ปัจจุบันมีทริปกว่า 400 ทริป ครอบคลุมกว่า 37 เมืองทั่วประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวสามารถค้นหาทริปและจองผ่านเว็บไซต์ www.takemetour.com ติดตามรายละเอียดสิทธิ์พิเศษสำหรับซิมซิม “แฮปปี้ทัวริสต์ซิม” อื่นเพิ่มเติมได้ทาง www.dtac.co.th

ไฟไหม้รถทัวร์วอดทั้งคัน โชเฟอร์นอนหลังรถหนีทันรอดตายหวุดหวิด

พัทยา-(24 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 03.30 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถทัวร์ เหตุเกิดภายในปั้มก๊าซเอ็นจีวี บริษัทสยามเบสท์ เอ็นจีวี จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 88/8 ริมถนนสาย 36 ฝั่งขาเข้าพัทยา ม.3 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้หน่วยกู้ชีพฯ และรถดับเพลิงเทศบาลหนองปลาไหล 1 คัน รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถด้านหลังปั้มก๊าซดังกล่าว พบรถทัวร์ ทะเบียน 32-8597กรุงเทพมหานคร ของบริษัท โกลเด้นไทยแทรเวล จำกัด ซึ่งติดตั้งระบบแก๊สเอ็นจีวี ทั้งหมดรวม 8 ถัง โดยเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงพร้อมเสียงระเบิดดังขึ้นมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงกั้นผู้ไม่เกี่ยวออกห่างจากพื้นที่ อีกทั้งสั่งปิดบริการปั้มก๊าซดังกล่าวชั่วคราว เพราะเกรงว่าไฟลุกลามแล้วอาจจะได้รับอันตราย

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ชีพฯ จึงช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดแสงเพลิงที่กำลังไหม้และลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาฉีดน้ำกว่า 30 นาที เปลวเพลิงลุกไหม้ก็ดับลง เหลือเพียงกลุ่มควันสีดำที่โพยพุ่งออกมาจำนวนมาก โดยพบว่ารถทัวร์ดังกล่าวถูกเพลิงไหม้วอดจนเป็นซากรถ

สอบถาม นายสาธิต กาชัย อายุ 27 ปี โชเฟอร์ เล่านาทีระทึกว่า ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาได้ขับรถทัวร์คันดังกล่าวมาเติมก๊าซเอ็นจีวี เต็มทั้งหมด 8 ถัง เพราะตอนเช้าจะต้องไปรับลูกทัวร์ชาวจีน ที่โรงแรมชลจันทร์ หลังจากนั้นได้นำรถมาจอดบริเวณลานจอดหลังปั้มแก๊ส แล้วนอนหลับอยู่หลังรถทัวร์ จนกระทั่งเวลาเกิดเหตุได้กลิ่นเหม็นไหม้ เมื่อตื่นขึ้นมาดูพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่หน้ารถ ด้วยความตกใจ จึงรีบกระโดดหนีลงมาจากรถหนีตาย ทั้งนี้ พยายามใช้ถังดับเพลิงฉีดสกัดแล้ว แต่เพลิงเกิดลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นได้ถ่ายรูปและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร อย่างไรก็ตามจะส่งตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบสาเหตุการไหม้ต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

เสี่ยจีนเจ้าของโรงงานเมืองเซี่ยงไฮ้ ถูกโจรซิ่งจยย.กระชากสร้อย เผ่นหนีลอยนวล

พัทยา-(24 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.ท.(หญิง)เกวลีศิริ ผาสุขธนไพศาล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยคอนักท่องเที่ยว เหตุเกิดบริเวณปากซอยนาเกลือ 29/1 ถนนพัทยา-นาเกลือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ภายหลังรับแจ้งจึงประสานชุดสืบสวน และตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบผู้เสียหายนักท่องเที่ยวชาวจีน ทราบชื่อคือนายฮ้อง ซาง อายุ 40 ปี เจ้าของโรงงานอิเลคทรอนิกส์ เมืองเซี่ยงไฮ้ ยืนรอตำรวจอยู่ในอาการตื่นตระหนกตกใจ และที่บริเวณลำคอมีรอยแดงช้ำ พร้อมกับให้การผ่านล่ามแปลภาษาจีนว่า ได้เดินทางจากประเทศบ้านเกิดรวมพวกประมาณ 20 คน ท่องเที่ยวยังเมืองพัทยา และมาถึงวันนี้เป็นวันแรก โดยช่วงเย็นที่ผ่านมาก็ได้พากันไปตีกอล์ฟคลายเครียด

ต่อมาได้ชักชวนเพื่อนทั้งหมดมาเลี้ยงฉลองวันเกิดครบ 40 ปีบริบูรณ์ ที่ร้านสตาร์ไดซ์ ผับพัทยา ซึ่งเป็นสถานบันเทิงขึ้นชื่อของเมืองพัทยา หลังจากดื่มกินกันเสร็จแล้วได้เดินเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อของใช้ ระหว่างที่กำลังเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อขึ้นรถแท็กซี่กลับที่พัก จากนั้นได้มีคนร้ายชายวัยรุ่น สวมหมวกกันน็อกอำพรางใบหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนการแต่งกายและรูปร่างไม่สามารถจดจำได้

โดยการก่อเหตุของคนร้ายทำทีชะลอรถ เพื่อให้ตนเองเดินข้ามถนน ซึ่งตอนแรกก็มองว่าคนไทยใจดี แต่เมื่อช่วงก้าวเท้าข้ามถนน คนร้ายได้วนรถกลับผ่านหน้าไปแล้วอาศัยจังหวะดังกล่าวเอื้อมมือกระชากสร้อยคอทอง ยี่ห้อ คาร์เทียร์ ราคาประมาณ 50,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยราว 250,000 บาท ที่สวมใส่อยู่แล้วติดมือคนร้ายไป ก่อนจะเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ภายหลังเกิดเหตุ เมื่อบรรดาเพื่อนเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ก็ต่างพากันถอดเครื่องประดับและทรัพย์สินมีค่าใส่กระเป๋าเก็บไว้อย่างมิดชิด และยืนยันว่าตลอดการท่องเที่ยวเมืองพัทยาจะไม่ใส่โชว์โดยเด็ดขาด อีกทั้งยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้อย่างมาก และอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีมาตรการดูแลต่างชาติให้ดีกว่านี้ พร้อมทั้งเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ในเร็ววัน เนื่องจากจะได้ไม่ต้องไปก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวรายอื่นได้อีก

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการชุดสืบสวนและตำรวจท่องเที่ยวแบ่งทีมกันทำงาน เพื่อไปหาเบาะแสคนร้ายจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อมเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมกับสั่งตำรวจสายตรวจและอาสาสมัครกระจายกำลังและออกตรวจตราตามจุดเสี่ยงดูแลนักท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

จิ๊กโก๋รุมยำหนุ่มรัสเซียเข้ามอมตัวตำรวจ อ้างโดนถ่มน้ำลายใส่ เลยปริ๊ดแตกชกเบ้าตาบวม

จากกรณี ชายไทยเข้ามาเสนอขายยาปลุกเซ็กซ์และชักชวนดูโชว์ลามก นายเอลกอร์ กอร์โรคอฟ อายุ 45 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย มีอาการเมาสุรา แต่เกิดสื่อสารกันไม่รู้เรื่องและเกิดมีปากเสียงกัน ก่อนชายไทยพร้อมพวกจะได้รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จนเบ้าตาขวาปูดบวมเขียวช้ำและเลือดไหลอาบได้รับบาดเจ็บ แล้วพากันหลบหนีไป เหตุขึ้นบริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ ถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ของกลางดึกคืนที่ผ่านมา

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับคดีนี้ นายวิลาศ หรือเอ ทองแช่ม อายุ 37 ปี และนายอัศวิน หรือบอล เรืองเดช อายุ 32 ปี สองผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมานยัง สภ.เมืองพัทยา แล้วเข้ามอมตัวกับ พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก. สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา โดยมี พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เดินทางมาสอบปากคำด้วยตัวเอง

นายวิลาศ หรือเอ ผู้ก่อเหตุ ให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุยอมรับว่าตนและพวกได้เข้าไปเสนอขายยาปลุกเซ็กซ์และชักชวนดูโชว์ลามกจริง แต่เนื่องจากเกิดเหตุสื่อสารไม่รู้เรื่อง จึงเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนผู้เสียหายจะถ่มน้ำลายใส่ตนเอง ด้วยความโมโหเลยชกเข้าไปที่เบ้าตาผู้เสียหาย 1 ครั้ง แล้วหลบหนีไป ส่วน นายอัศวิน หรือบอล เพื่อนตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด โดยที่พามาวันนี้เพื่อจะเอาเป็นพยาน

ทั้งนี้ จึงอยากฝากขอโทษชาวพัทยาและผู้ประกอบการสถานบริการ ที่ลงมือทำเพราะอารมณ์โมโหและบันดาลโทสะ ทำให้เมืองพัทยาเสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีงามของประเทศไทย หลังเกิดเหตุ คิดได้จึงเดินทางเข้ามอมตัวกับตำรวจยอมรับผิด และขอโทษสังคมผ่านสื่อมวลชนดังกล่าว

พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก. สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับตัวนักท่องเที่ยวขณะนี้หลังเกิดเหตุได้ไปเที่ยวยังเกาะสีชัง โดยยืนยันว่าไม่ได้เกรงกลัวจะตามถูกทำร้าย ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายวิลาศ หรือเอ ผู้ก่อเหตุ ในความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

สาวโรคจิตชำแหละเนื้อสุนัขในป่าริมถนนจอมเทียนสาย 2 

IMG_8395

               สาวโรคจิตชำแหละเนื้อสุนัขในป่าริมถนนจอมเทียนสาย 2 เมืองพัทยาลงพื้นที่ตรวจสอบตะลึงพบโครงกระดูกนับสิบถูกถลกหนังตายเกลื่อนก่อนนำตัวสาวรายนี้ส่งสถานบำบัดทางจิต ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยพบพิรุธรถพ่วงขายสินค้าแวะเวียนอยู่เป็นประจำจึงเข้าตรวจสอบ

IMG_8379

                พัทยา-(23 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 13.00 น. นายอำนวยธนวิทย์ สมพงษ์ธรรม สมาชิกสภาเมืองพัทยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่รกร้าง บริเวณริมถนนจอมเทียนสาย 2 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีบุคคลเร่ร่อนเข้ามาปลูกเพิงพักอาศัยและมีพฤติกรรมเข้าข่ายทางจิตประสาท โดยเลี้ยงสุนัขเร่ร่อนไว้เป็นจำนวนมาก แต่หลังคุมตัวเพื่อนำส่งไปบำบัด และเข้าตรวจสอบพื้นที่กลับพบโครงเนื้อสุนัขซึ่งคาดว่าน่าจะถูกฆ่าทิ้งไว้จนเหลือแต่โครงกระดูกหลายสิบตัว

IMG_8381

               ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นที่ว่างเปล่าส่วนบุคคล มีต้นไม้ปกคุลมไปทั่วบริเวณและร่องรอยของเพิงพักอาศัยที่ถูกรื้อถอนไปก่อนหน้านี้ ขณะที่บริเวณด้านหลังเจ้าหน้าที่ต้องตกตะลึงกับภาพของหัวสุนัขที่ถูกผูกเชือกแขวนไว้กับต้นไม้ ส่วนบริเวณพื้นดินโดยรอบกินพื้นที่กว่า 1 ไร่พบเศษซากโครงกระดูกศีรษะและลำตัวสุนัขซึ่งคาดว่าถูกฆ่าและชำแหละวางทิ้งเกลื่อนไปทั่ว มีกลิ่นสาบเหม็นคลุ้ง เบื้องต้นคาดว่าประมาณ 50-60 ตัว

IMG_8383

              นายสมชาย อินเรือง หัวหน้าเทศกิจจอมเทียน ระบุว่าหญิงคนดังกล่าวคือ นางพร นามสมมุติ (สมจิตร มีลาด) อายุ 42 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มาปลูกเพิงพักอยู่ในที่รกร้างอยู่เพียงลำพังนานแล้ว โดยจะนำสุนัขจรจัดมาเลี้ยงไว้นับ 10 ตัว แต่หญิงคนดังกล่าวมีพฤติกรรมทางจิต โดยมักส่งเสียงเอะอะโวยวายและเคยทำร้ายชาว บ้านที่เดินผ่านมาจนได้รับบาดเจ็บจึงได้ร่วมกับกรมพัฒนาสังคมฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาคุมตัวนำส่ง รพ.สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อบำบัด จากนั้นจึงเข้ามาทำการตรวจสอบที่พักเพื่อรื้อถอนกระทั่งมาพบซากและโครงการกระดูกสุนัขเป็นจำนวนมาก

IMG_8385

               นายสมชาย กล่าวต่อไปว่าที่ผ่านมานางสมจิตร มักมีพฤติกรรมแปลกๆ มักชอบตวาดและไล่คนที่เข้ามาใกล้ที่พักตัวเอง มีอารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรงและมักนำซากปูเน่ามาวางไว้หน้าที่พักเพื่ออำพรางกลิ่นเหม็นเน่าขณะ ที่ทุกวันในช่วงหัวค่ำมีจะมีพวกพ่อค้าเร่ขี่ จยย.มาจอดริมถนนและหายเข้าไปบ่อยครั้ง อีกทั้งมักชอบบอกชาว บ้านว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้มักหายไป จึงเป็นที่มาของการเข้าตรวจสอบกระทั่งพบกรณีดังกล่าว

IMG_8389

จิ๊กโก๋วอล์กกิ้งพัทยา รุมยำหนุ่มรัสเซียเจ็บ ฉุนไม่ยอมซื้อยาเซ็กส์และดูโชว์ลามก

พัทยา-(23 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ขณะที่ พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา จ.ชลบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และอาสาสมัครออกเดินเท้าตรวจตราป้องกันเหตุภายในถนนวอล์กกิ้ง สตรีท พัทยาใต้ ได้รับแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวโดนทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบนายเอลกอร์ กอร์โรคอฟ อายุ 45 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย อยู่ในอาการตกใจและกลัวไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพเพราะกลัวผู้ก่อเหตุจะจดจำหน้าได้และตามมาล้างแค้นอีกในภายหลัง ตรวจตามร่างกายพบบาดแผลที่ตาขวามีร่องรอยการถูกของแข็งตี จนฉีกและปูดบวมเป็นแผลฉกรรจ์เลือดไหลอาบ เบื้องต้นจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา เข้ามาช่วยเหลือปฐมพยาบาล โดยทางต่างชาติไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล โดยระบุว่าทนเจ็บได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปยัง สภ.เมืองพัทยา

จากการสอบสวนผ่านล่ามแปลภาษาทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหาย ได้มาเดินเล่นกลับเพื่อน 3 คน ภายในวอล์คกิ้งสตรีท จากนั้นได้มีชายไทยเข้ามาพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษ โดยยื่นเสนอขายยาปลุกเซ็กส์และถือเบอร์ชัวร์ดูโชว์ลามกอนาจาร แต่เนื่องจากผู้เสียหาย ฟังภาษาไม่ค่อยรู้เรื่องมากนัก พร้อมกับกลัวถูกหลอกจึงเดินหนีแล้วพูดปฏิเสธเป็นภาษารัสเซียไป จึงอาจจะทำให้ผู้ก่อเหตุเข้าใจผิดเพราะสื่อสารไม่รู้เรื่องคิดว่าถูกด่า ผู้เสียหายเลยถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุเจ้าถิ่นรุมทำร้ายบาดเจ็บดังกล่าว

ภายหลังสอบสวนเบื้องต้นทาง ผู้เสียหาย ต้องการแค่ใบบันทึกประจำวันและจะกลับที่พัก โดยกลัวกลุ่มบุคคลเหล่านี้ตามมาทำร้ายอีก

ภาพ/ข่าว Ku Slick

รพ.กรุงเทพพัทยา จัดบรรยายพิเศษ “Strong Heart Strong Health สุขภาพสดใส หัวใจเข้มแข็ง”

                โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา รพ.กรุงเทพพัทยา จัดบรรยายพิเศษ “Strong Heart Strong Health สุขภาพสดใส หัวใจเข้มแข็ง” เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญในการตรวจการทำงานของหัวใจ

12899625_1198992000113612_113567573_o

                 พัทยา-(24 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ห้องประชุม ดี1 อาคาร ดี โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ได้มีจัดบรรยายพิเศษ “Strong Heart Strong Health สุขภาพสดใส หัวใจเข้มแข็ง” โดยมี นพ.สีหราช โลหชิตรานนท์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และคุณสุรีย์ภรณ์ วีรบวรกุล ผู้อำนวยการ คปภ.ภาค 9 (ชลบุรี) เป็นประธานกล่าวต้อนรับผู้ร่วมฟังบรรยายพิเศษ

12899419_1198992013446944_1318995482_o

                 ต่อจากนั้นเป็นการบรรยายพิเศษในเรื่อง Strong Heart Strong Health สุขภาพสดใส หัวใจเข้มแข็ง โดย นพ.สุเทพ กีรติเจริญวงศ์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ ประจำศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้ร่วมฟังบรรยาย การบรรยายในครั้งนี้ต้องการให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลหัวใจ เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลรักษาตัวเองและคนที่คุณรักได้อย่างถูกวิธี รวมถึงการให้บริการตรวจประเมินความผิดปกติการทำงานของหัวใจด้วย EKG และ Echo ด้วยทีมพยาบาลผู้เชียวชาญของศูนย์หัวใจ ที่พร้อมให้บริการแก่ท่านในซึ่งสามารถทำการตรวจหัวใจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และหากพบความผิดปกติควรรีบพบแพทย์ ซึ่งการเกิดโรคหัวใจพบได้มากขึ้นในปัจจุบัน การบรรยายในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมฟังบรรยายกว่า 100 ท่าน

12894590_1198992023446943_367339067_o

                  การจัดบรรยายพิเศษในครั้งนี้จัดขึ้นโดย ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลกรุงเทพัทยา โดยมีจุดประสงค์หลักคือต้องการให้ประชาชนทุกคนตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพของหัวใจอย่างต่อเนื่องและเป็นประจำ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์ข้อมูลสุขภาพ รพ.กรุงเทพพัทยา โทร.1719 หรือ www.nangkokpattayahospital.com

นักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์พาครอบครัวเดินเที่ยวเมืองพัทยา ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋า หลบหนีลอยนวล

               พัทยา-(23 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 00.30 น ร.ต.ท.สิระภูเดชน์  ชำนาญกิจ สว.สส.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ได้ทรัพย์สินไปประมาณ 50,000 บาท เหตุเกิดภายในซอย 2 เฉลิมพระเกียรติ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรุดตรวจสอบ

             ที่เกิดเหตุบริในซอย 2 เฉลิมพระเกียรติ พบ MR.Prggy  Sjnoerbry อายุ 59 ปี  สัญชาติ นอร์เวย์ อยู่ในอาการตกใจ รอให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่าถูกคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มากระชากกระเป๋าได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดกว่า 20,000 บาท โทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 20,000 บาท และโทรศัพท์ยี่ห้อหัวเหว่ยจำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 10,000 บาท และได้ขับ รถ จยย.หลบหนีเข้าไปภายในซอย

              ก่อนเกิดเหตุ MR.Prggy  Sjnoerbry  ได้กดเงินมาจากตู้ ATM จำนวน 20,000 บาท จะพาครอบครัวไปเทียวจนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มากระชากกระเป๋าไป หลังเกิดเหตุตนจึงไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อาสาบริเวณใกล้เคียงดังกล่าว

             เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เพื่อออกติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Slick

คนงานก่อสร้างขนหัวลุก! พบศพหนุ่มผูกคอตายใต้ต้นไม้กลางป่า

พัทยา-(22 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 21.30 น. ร.ต.ท.มะโนต ทิพย์เวช รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพชายผูกคอตาย อยู่ในป่าหลังปราสาทสัจธรรม ภายในซอยนาเกลือ 12 ม.5 นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพ้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบประชาชนจำนวนมากมุ่งดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่จึงได้กันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบริเวณเกิดเหตุ ตรวจสอบใต้ต้นไม้ใหญ่พบร่างชายสูงประมาณ 160-165 ซม. อายุประมาณ 25-30 ปีสวมเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงยีนขายาวสีดำ ตามร่างกายมีรอยสัก ใช้สายไฟสีขาวผูกคอเสยชีวิตคากิ่งไม้ อยู่ในสภาพขึ้นอืดมีหนอนและแมลงวันเต็มตัว ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ตรวจสอบภายในร่างกายพบเพียงโทรศัพท์ที่ไร้แบตเตอรี่ 1 เครื่องแต่ไม่พบเอกสารแสดงตัวบุคคล

สอบสวนนายสากล ปัจฉิมมา อายุ 54 ปี อาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง ทราบว่าเมื่อเวลาประมาณ08.00 น.ที่ผ่านมา ตนเองและกลุ่มเพื่อนเดินผ่านบริเวณป่าดังกล่าว ตนเองเกิดปวดปัสสาวะจึงเดินเข้าไปในป่าก็เหลือบไปพบว่ามีศพผู้คอตายอยู่กับต้นไม้ใหญ่ก็รีบวิ่งมาบอกเพื่อนๆ แต่ไม่มีใครเชื่อคิดว่าผีหลอก จึงแยกย้ายกันไปทำงานต่อ

จนกระทั่งเลิกงานเวลาเกิดเหตุ จึงตัดสินใจชักชวนกันเข้าไปดูอีกครั้งว่าเป็นเรื่องจริงหรือผีหลอก เมื่อเข้าไปสำรวจก็พบว่าเป็นศพจริง ต่างคนก็ตกใจพากันวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยดังกล่าว

เบื้องต้น รองสารวัตรสอบสวนเจ้าของคดีได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวว่าผู้ตายเป็นใคร ส่วนศพได้มอบให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯส่งตรวจชันสูตรยังโรงพยาบาลตำรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย