พัทยา-(30 ส.ค. 59) ที่ บริเวณชายหาดจอมเทียนเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายเศรษฐพล บุญสวัสดิ์ ประ ธานคณะทำงานด้านกฎหมายให้คำปรึกษาผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา นำคณะแพทย์ฉุกเฉินจากโรง พยาบาลเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทางทะเล เทศกิจ และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่เพื่อจัดโครงการประชาสัมพันธ์เชิงรุกในการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวเพื่อให้เพิ่มความระมัดระวังในการเล่นน้ำทะเลบริเวณหน้าอ่าวจอมเทียน หลังจากพบว่าปัจจุบันมีลมสรสุมพัดเข้าฝั่งซึ่งส่งผลให้มีแมงกะพรุนหลายชนิดถูกซัดมากับน้ำเข้าใกล้ฝั่งจนไปสร้างอันตรายแก่ผู้ที่สัมผัสมาแล้วต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้มีการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ในการเตือนภัย และวิธีการปฏิบัติหลังได้รับบาดเจ็บจากการสัมผัสแมงกะพรุนเหล่านี้ โดยระบุข้อความทั้ง ภาษาไทย อังกฤษ จีน และรัสเซีย เพื่อประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง

นายเศรษฐพล กล่าวว่าทุกปีในช่วงระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม จะเป็นช่วงลมมรสุมพัดเข้าหาฝั่งทำให้ทะเลมีคลื่นแรงและน้ำขุ่นมัว ซึ่งจากกรณีดังกล่าวทำให้แมงกะพรุนหลายชนิดที่พบบริเวณกลางอ่าว ทั้ง แมงกะพรุนหนัง แมงกะพรุนถ้วย หรือแมงกะพรุนไฟ ซึ่งมีพิษรุนแรงแตกต่างกัน ถูกคลื่นซัดเข้าหาฝั่งด้วย และเมื่อนักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำและสัมผัสก็จะถูกต่อยจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งบางรายที่มีอาการแพ้ก็อาจส่งผลรุนแรงได้ โดยตลอดเดือนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวที่บาดเจ็บจากการโดนแมงกะพรุนเหล่านี้มา แล้วถึง 7 ราย

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและเฝ้าระวังเหตุที่อาจเกิดขึ้นจึงมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดแนวชายหาดทั้งบนบกและในทะเล รวมทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น อาทิ น้ำยาล้างพิษ ซึ่งจะใช้น้ำส้มสายชูเป็นหลักเพื่อให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เชิงรุกทั้งการติดตั้งป้าย และการแนะนำข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวโดยทั่วไป ขณะที่ประชาชนที่ประสบปัญหาและต้องการความช่วยเหลือก็สามารถแจ้งได้ที่ Call Center 1337 ได้ตลอด 24 ชม.

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

พัทยา-(11 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษทางน้ำ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทะเลเมืองพัทยาได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเรือเร็วว่า พบลูกปลาโลมาหลงฝูงว่ายน้ำเข้ามาในอ่าวพัทยา ห่างจากฝั่งประมาณ 500 เมตร ไปทางเกาะจุ่น เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เบื้องต้นจึงแนะนำให้พลเมืองดีเอาผ้าชุบน้ำห่อตัวลูกปลาโลมาแล้วรีบน้ำไปปล่อยยังทะเลน้ำลึกและน้ำสะอาด ก่อนนำกำลังเร่งไปช่วยเหลือ

จากการตรวจสอบพบว่า เป็นลูกปลาโลมาปากขวด ยาวประมาณ 1 เมตร บริเวณลำตัวและคีบด้านขวามีร่องรอยบาดแผลเป็นขีดยาว และยังมีอาการน็อกน้ำอีกด้วย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือลูกปลาโลมาดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้สำเร็จ

ด้าน นายสุทธิพงษ์ บุญมาฉาย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษทางน้ำ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ทางเราได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเรือเร็วว่า พบลูกปลาโลมาว่ายน้ำหลงฝูงเข้ามายังหาดพัทยา จึงได้ประสานให้เรือเร็วลำดังกล่าวเอาผ้าชุบน้ำห่อตัวลูกปลาแล้วนำไปปล่อยบริเวณกลางร่องน้ำ ซึ่งเป็นทะเลน้ำลึกและใสสะอาด จากนั้นก็รีบเดินทางไปพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทะเล แต่พอพบลูกปลาโลมานั้นมีอาการน็อกน้ำ จึงได้พยายามช่วยเหลือโดยใช้เวลาเกือบ 1 ชม. แต่ลูกปลาโลมาก็อ่อนแรงลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ จึงนำซากลูกปลาโลมาขึ้นมาฝั่ง เพื่อให้รอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบเกี่ยวกับการเสียชีวิตของลูกปลาโลมาปากขวด และดำเนินการนำไปฝังต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

เมืองพัทยาเร่งเก็บเศษสิ่งปฏิกูลลอยเกยเกลื่อนหาดพัทยา เร่งกู้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยว รองนายกรุดตรวจสอบ พบขยะอุดตันอุโมงค์ระบายน้ำจนตะแกรงเหล็กพังไปทั้งแถบ

กรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า พบขยะและเศษสิ่งปฏิกูลจำนวนมาก ลอยมาเกยอยู่เต็มชายหาดพัทยา บริเวณท่าเทียบเรือเก่า ย่านพัทยาใต้ เป็นระยะทางยาวกว่า 300 เมตร อยู่นานนับเดือน ทำให้น้ำทะเลกลายเป็นสีดำ จนนักท่องเที่ยวไม่กล้าลงไปเล่นน้ำ และส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จึงเรียกร้องให้ผู้บริหารเมืองพัทยาเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วนตามที่รายงานไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าของเรื่องนี้เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 พ.ค.59 เจ้าหน้าที่และพนักงานของกองช่างสุขาภิบาล สำนักสิ่งแวดล้อม เมืองพัทยา นำกำลังกว่า 20 คน พร้อมอุปกรณ์ทำความสะอาด เดินทางลงพื้นที่บริเวณชายหาดพัทยาใต้ ติดกับโรงบำบัดน้ำเสีย เพื่อทำการเก็บกวาดเศษขยะและสิ่งปฏิกูลต่างๆ ที่ลอยมาเกยอยู่บริเวณแนวชายหาดก่อนนำขึ้นรถบรรทุกเพื่อนำไปกำจัดตามขั้นตอน โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ทำให้ชายหาดช่วงบริเวณดังกล่าวกลับมาสวยงามดังเดิม

ต่อมา ดร.วีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา เดินทางมาตรวจสอบต้นตอของปัญหา พบว่าบริเวณอุโมงค์ระบายน้ำลงสู่ทะเล ขนาด 2.4 เมตร จำนวน 2 อุโมงค์ ที่มีระบบไฮดรอลิกซ์ในการปิดเปิดประตู ปรากฏว่าตะแกรงเหล็กซึ่งใช้สำหรับดักขยะของหนึ่งในสองอุโมงค์ได้หลุดออกจากกรอบประตู และไปพบอยู่ที่ปลายอุโมงค์ซึ่งมีระยะทางประมาณ 15 เมตร

โดย ดร.วีรวัฒน์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ตะแกรงเหล็กหลุดออกจากกรอบเป็นเพราะเมื่อช่วงฝนตกหนักที่ผ่านมามีขยะมาอุดตันเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งเกิดแรงดันทำให้ตะแกรงพัง เบื้องต้นได้ให้นายช่างไปประสานบริษัทที่รับจ้างดูแลอุโมงค์ระบายน้ำมาทำการซ่อมแซมแก้ไขโดยด่วน อีกส่วนหนึ่งที่เป็นปัญหาคือบริเวณปลายอุโมงค์ซึ่งปกติจะมีไฟเบอร์ปิดปากอุโมงค์ เพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุนไม่ให้มาเข้าเครื่องบำบัดน้ำเสีย แต่ปัจจุบันปรากฏว่าไฟเบอร์ดังกล่าวได้หายไปเพราะถูกแรงดันของน้ำ ขณะที่แนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว นอกจากจะดำเนินการซ่อมแซมตะแกรงดักขยะแล้ว ต้องมาดูกันว่าจะสามารถเจาะฝาท่อระบายน้ำเพื่อทำเป็นแนวดักขยะก่อนที่จะไปถึงตะแกรงดักขยะปัจจุบันได้หรือไม่ เพื่อจะได้ทำการจัดเก็บขยะได้ง่ายขึ้น

ดร.วีรวัฒน์ ยังกล่าวทิ้งท้ายฝากไปถึงประชาชนอีกว่า ขอให้ช่วยกันรักษาความสะอาด ทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง เพราะหากทิ้งขยะเรี่ยราดเวลาฝนตกลงมาจะทำให้ขยะเหล่านั้นไปอุดตันท่อระบายน้ำ จนเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในเมืองพัทยาดังกล่าว

พัทยา-(7 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 03.00 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคู่รักชาวต่างชาติแสดงบทรักโจ่งครึ่มกลางทะเล บริเวณชายหาดเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบคู่รักชาย-หญิงชาวต่างชาติ ลักษณะคล้ายโซนเอเชีย แสดงบทรัก อยู่ภายในน้ำทะเลห่างจากชายฝั่งไม่ถึง 30 เมตร โดยฝ่ายหญิงนั้นนั่งคร่อมอยู่บนร่างของชายชาวต่างชาติโอบกอดแล้วขย่ม ลักษณะมีเพศสัมพันธ์กันใต้น้ำ ท่ามกลางแสงไฟที่สว่าง

จากนั้นได้มีประชาชนเห็นเหตุการณ์ก็เดินไปต่อว่าด้วยความโมโห เมื่อเวลาผ่านไป 2 นาที ทั้งคู่ก็ขึ้นจากน้ำทะเลแล้วพากันเดินกลับที่พักโดยไม่สนใจ ต่อสายตาของชาวบ้าน-นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาพบเห็น โดยชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของหญิงและชายชาวต่างชาติที่ไม่เหมาะสม และเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งหาทางแก้ปัญหาในลักษณะนี้ เพราะถือเป็นแบบอย่างไม่ดีต่อเยาวชนในสังคมไทย

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ศปมผ. ร่วม พม.บูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้องจัดฝึกภาคปฏิบัติในทะเลหลักสูตรป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับในทะเล ครั้งที่ 2/2559

สัตหีบ-(28 ก.พ. 59) ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี นาวาเอก ดรณ์ ทิพนันท์ เลขานุการคณะทำงานแก้ไขปัญหาการบังคับใช้แรงงานในเรือประมง เป็นผู้อำนวยฝึกภาคปฏิบัติในทะเลของหลักสูตรป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับในทะเล ครั้งที่ 2/2559 โดยกองทัพเรือได้สนับสนุนเรือฝึกจำนวน 2 ลำ คือ เรือหลวงท้ายเหมือง และเรือ ต.994

สำหรับการฝึกภาคปฏิบัติในทะเลครั้งนี้ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเจ้าภาพร่วมกันจัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้นำความรู้ในเรื่องหลักกฎหมายและเทคนิคการตรวจ การรวบรวมพยานหลักฐาน และการสัมภาษณ์มาประยุกต์ใช้ในสภาวะการทำงานที่จำลองเหตุการณ์จริง สำหรับตรวจและบังคับใช้กฎหมายในทะเล ทั้งสภาพการทำงานที่มีความยากลำบากจากสภาพคลื่นลม และความยากในการตรวจสอบและสืบหาข้อเท็จจริงจากตัวแรงงาน และผู้ควบคุมเรือ และเป็นไปตามนโยบายของศูนย์บัญชาการการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือในการแก้ปัญหาการคุ้มครองและแรงงานและการค้ามนุษย์ในภาคประมงให้หมดสิ้นและยั่งยืนต่อไป

ในการฝึกอบรมมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยที่ทำหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายในทะเล และหน่วยที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดี ประกอบด้วย กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมศุลกากร กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด รวมทั้งสิ้น 40 คน