คลังเก็บป้ายกำกับ: ตำรวจ

สภ.เมืองพัทยา จัดเลี้ยงขอบคุณ จนท.อาสาสมัคร

สภ.เมืองพัทยา จัดเลี้ยงแทนคำขอบคุณเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่ช่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ด้วยดีตลอดมา ในงานยังได้มีการมอบรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่อาสา อีกด้วย

พัทยา-(25 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ โรงเรียนโพธิสัมพันธ์พิทยาคาร ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ,ชลบุรี พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ให้กับตำรวจอาสาสมัคร สภ.เมืองพัทยา และตำรวจอาสาสมัครท่องเที่ยวเมืองพัทยา ซึ่งภายในงานได้มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานคับคั่ง

โดยบรรยากาศในวันนี้อย่างเป็นไปอย่างคึกคักมีทั้งนายตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสาร่วมรับประทานอาหารที่ทางงานได้จัดเตรียมไว้ให้ พร้อมกับดนตรีขับกล่อม สร้างความสนุกสนานเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังได้มีการมอบรางวัลเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่อาสาที่ช่วยเหลืองานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นอย่างดี

พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่อาสาทุกนายที่ได้ช่วยเหลืองานราชการ โดยไม่คำนึงถึงความเหน็ดเหนื่อยและอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตนเองในขณะป้องกันเหตุหรือไล่ล่าจับผู้ก่อเหตุ จนบางครั้งเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ้างแต่ไม่เคยท้อถอยในการทำงาน และขอให้คงคุณงามความดีครั้งนี้ต่อไป

ตร.พัทยา ตั้งด่านตรวจเจอหนุ่มวัย 19 ปี กร่างอ้างเป็นนักข่าวแถมโวยวาย

ตำรวจพัทยาตั้งด่านตรวจเจอหนุ่มวัย 19 ปี กร่างอ้างเป็นนักข่าวโวยวายตำรวจจราจรที่เรียกตรวจสอบเอกสารรถ ยังโทรไปเรียกลูกพี่ที่ว่าเป็น บก.มาเคลียแต่ ตร.ไม่สนจับข้อหาติดไฟไซเรนตำรวจโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 25 ก.พ. 59 ผู้สื่อข่าวประจำเมืองพัทยารายงานว่า ขณะที่ ด.ต สรรเสริญ เซื้อสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ ผบ.หมู่ งานจราจร ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ทำการตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณป้อมทางเข้าพัทยาปาร์ค ถนนจอมเทียนสายสอง ได้เรียกตรวจรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่มี นายชัยฤทธิ์ คุณเพียร อายุ 19 ปี เป็นคนขับพร้อมเพื่อน อีก 2 คน จากนั้นทาง นายชัยฤทธิ์ คุณเพียร ได้เอาบัตรสื่อมวลชนมาอ้างตัวเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพ โดยอ้างกับทางตำรวจว่าตนเป็นนักข่าวอยู่ประจำเขตอำเภอบางละมุง หลังจากที่นายชัยฤทธิ์ คุณเพียร พร้อมกับพวก ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีบีอาร์ 150 และไม่สามารถนำเอกสารรถมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ พร้อมยังพูดจ่าข่มขู่เจ้าหน้าที่และตำรวจอาสาที่ร่วมทำการตรวจสอบ

_MG_0036

ภายหลังได้รับรายงานจึงเดินทางไปร่วมทำการตรวจสอบ ไปถึงพบชายไทย 3 คน โดย นาย ชัยฤทธิ์ แสดงท่าทีพูดจาใหญ่โต และโทรหาลูกพี่อย่างเดียวทางตำรวจจึงให้โทรติดต่อมาคุย หลังจากลูกพี่มาถึงก็เอามาบัตรผู้สื่อข่าวออกมาโชว์ต่อหน้าตำรวจและกลุ่มตำรวจอาสาและสื่อมวลชนช่องต่างๆ

จากการสอบถามทราบชื่อคือ นายประยวน เสพสุข อายุ 59 ปี โดยอ้างตัวว่าตนเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพไทย ตำแหน่ง หน.ศปก.ฉก.ลทท.ภ.2 เดินทางมาพร้อมลูกน้อง 7 คน ทุกคนมีบัตรผู้สื่อข่าวเก้าเหล่าทัพ พร้อมรถกระบะสีดำติดไฟไซเรนสีแดงบนหลังคารถและที่หน้ากระจกรถติดโลโก้หนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพและประตูรถทั้ง 2 ข้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบใบรับอนุญาตติดไฟไซเรน แต่นายประยวน ไม่มีมาแสดงให้ดู ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวทั้งหมดมาทำการสอบประวัติที่ สภ.เมืองพัทยา พร้อมแจ้งข้อหาติดไฟไซเรนโดยไม่ได้รับอนุญาต

_MG_0044

จากการสอบถาม นายประยวน ที่อ้างตัวเป็น หัวหน้า ให้การว่าบัตรสื่อมวลชนที่ได้มา ต้องไปประชุมที่ทางหนังสือพิมพ์เก้าเหล่าทัพจัดขึ้นมาแล้วต้องเสียค่าทำบัตรและสมาชิก คนละ 300-500 บาท จึงจะได้บัตร มี พันโท ขจรศักดิ์ ขจรศิลป์ บรรณาธิการบริหาร กอ.9 ลทท.เป็นคนออกบัตรให้ สอบถามว่าเคยเห็นหน้านายทหารที่อ้างว่าเป็นคนออกบัตรให้เคยเห็นหน้าหรือไม่ ทางนายประยวนบอกไม่เคยเห็นหน้า รู้แต่เป็นนายทหารแต่ไม่รู้อยู่ประจำที่ไหน ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามว่าแต่ละคนมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง โดยทั้งหมดอ้างว่ามีหน้าที่แจ้งเบาะแสเหตุต่างๆ รวมถึงเบาะแสผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งในคำกล่าวอ้างนั้นไม่เกี่ยวกับงานด้านผู้สื่อข่าวและบัตรที่ติดตัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานของผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

ตร.หนองปรือไล่ตะครุบหนุ่มค้ายานรกซิ่งจยย.แหกด่าน

พัทยา-(25 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 02.00 น. พ.ต.อ.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.นราวิชญ์ รอดกสิกรรม สวป. สภ.หนองปรือ พ.ต.ท.คมชนะ อนันตา สวป. สภ.บางละมุง ได้แถลงข่าวจับกุม 2 ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดในพื้นที่ ประกอบด้วยนายฤทธิ์เดช วงศ์ไว อายุ 40 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ 10 กรัม ยาบ้า 200 เม็ด และเงินสด 4,000 บาท และนายณัฐวุฒิ ศรีบุญเรือง อายุ 22 ปี ของกลางเป็นยาไอซ์ 0.5 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ

สืบเนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ ได้ตรวจด่านตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย บริเวณหน้าหมู่บ้านการเคหะเอื้ออาทร นาเกลือ ถนนชัยพรวิธี ตามแผนยุทธการปิดล้อมเมือง ซึ่งเป็นนโยบายของ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ระหว่างกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้พบนายฤทธิ์เดช ขับขี่รถจักรยานยนต์ แสดงท่าทางมีพิรุธจึงได้เรียกเพื่อตรวจสอบ แต่นายฤทธิ์เดช กลับเร่งเครื่องแหกด่านตรวจหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่จึงไล่ล่าติดตามไปอย่างกระชั้นชิดและสามารถจับกุมได้ในที่สุด ตรวจค้นกระเป๋าใส่เหรียญห้อยติดอยู่กับพวงกุญแจรถ พบยาไอซ์จำนวน 10 กรัม ยาบ้า 200 เม็ด และเงินสด จึงยึดไว้เป็นของกลาง สอบสวน นายฤทธิ์เดช ให้การอ้างว่า ยาเสพติดทั้งหมดเพิ่งไปรับซื้อมาจากเอเย่นต์รายใหญ่ในพื้นที่อำเภอบางละมุง เพื่อจะนำมาจำหน่ายต่ออีกทอดหนึ่ง ให้กับลูกค้าซึ่งเป็นวัยรุ่นติดยาเสพติดตามแหล่งชุมชน

ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือ นายณัฐวุฒิ สามารถจับกุมได้เพราะว่า ขณะที่ตัวนายณัฐวุฒิ ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากหมู่บ้านการเคหะเอื้ออาทร นาเกลือ เจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ กลับวนรถพร้อมกับแสดงท่าทางพกสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไปเพื่อตรวจค้น แต่ในระหว่างนั้น นายณัฐวุฒิ ได้โยนยาไอซ์ทิ้งไว้ใต้รถพ่วงซาเล้ง เพื่อหนีความผิด แต่เจ้าหน้าที่ตาไวเห็นสามารถจับกุมและยึดของกลางไว้

ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พร้อมกับให้ชุดสืบสวนทำการสอบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายเอเย่นต์ยาเสพติดผู้ต้องหาอีกด้วย

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

หลานโหด ! ฆ่าลุงฝังดินเจ้าของฟาร์มวัว แค้นชอบดุด่าและห้ามออกไปเที่ยว

พัทยา-(19 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.อนันต์ ภู่ระหงษ์ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา ร่วมตรวจสอบเหตุมีผู้เสียชีวิตถูกฆ่าฝังดิน เหตุเกิดในพื้นที่บ้านคอเขา ม.8 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ในที่เกิดเหตุเป็นส่วนที่เลี้ยงไก่ด้านหลังบ้านพบศพ นายมนตรี เสือเล็ก อายุ 45 ปี ถูกฆ่าฝั่งดิน เมื่อขุดนำศพขึ้นมาพบว่า สภาพศพขึ้นอึดเปลือยกายไม่สวมเสื้อผ้า หน้าอกข้างขวามีรูคล้ายถูกกระสุนปืน 1 รู กลางหน้าอกมีร่องรอยการถูกแทงด้วยของมีคมจำนวน 4 แผล

เบื้องต้นได้รับการเปิดจาก พ.ต.อ.อนันต์ ภู่ระหงษ์ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ ว่า นายมนตรี ผู้ตายถูกหลานชายชื่อ นายพงศธร อยู่แก้ว อายุ 17 ปี ฆ่าตายแล้วนำมาฝั่งดิน ซึ่งก่อเหตุตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.พ.) ซึ่งทางพ่อแม่ของ นายพงศธร นำเข้ามอบตัวหลังทราบว่า นายพงศธรเป็นคนฆ่า จากนั้นจึงนำมาชี้จุดและขุดดินจึงพบศพผู้ตายดังกล่าว

ส่วนสาเหตุนั้นจากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายชอบดุด่า และห้ามออกไปเที่ยว กับห้ามสูบบุหรี่ จึงเกิดบันดาลโทสะเลยลงมือฆ่า นายมนตรี แล้วนำศพไปฝัง เพื่อหลบตาคน

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ ส่วนคนร้ายจะมีกี่คนยังไม่ทราบ ต้องรอสอบสวนปากคำให้ละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ตร.ระดมกำลังปิดเมืองไล่ล่าโจรกระชากสร้อย แย่งปืนตำรวจยิงเปิดทางหลบหนี

พัทยา-(20 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 12.30 น. สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับการประสานงานจาก สภ.หนองขาม ให้ช่วยสกัดจับคนร้าย 1 คน ขับรถ จยย.ยามาฮ่าซูมเมอร์เอ็กซ์ สีเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ในพื้นที่ สภ.หนองขาม โดยมี ร.ต.ท.ดำรงค์ เท่งเจียว รอง.สว.สายตรวจตู้ยามดาราไล่ติดตามมาจนถึงบริเวณภายในซอยสำนักงานขนส่งบางละมุง คนร้ายได้แย่งปืนพกประจำกายของ ร.ต.ท.ดำรงค์ พร้อมกับยิงปืนเปิดทาง 1 นัด แล้วหลบหนี โดยขับ จยย.ย้อนศรมาตามถนนหลวงสาย 7 ตอน 5 ขาเข้าพัทยา

47941

หลังจากนั้น พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง จึงสั่งการให้ สวป. และ รอง สวป. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจระดมกำลังเข้าสกัดจับโดยรอบบริเวณดังกล่าว จนกระทั่ง ดต.ทัดพงษ์ ทองทัด ผบ.งาน ป.สภ.บางละมุง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาพบคนร้ายขับ รถ จยย. คันต้องสงสัย บริเวณทางเบี่ยงสะพานหนองปรือตัดสาย 7 ตอน 5 จึงเข้าสกัดจับ คนร้ายได้ชักปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางอีก 1 นัด ดต.ทัดพงษ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาพยายามหลบจนรถ จยย.ล้มได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนร้ายจะขับรถ จยย.หลบหนีไปตามถนนชัยพรวิถี กำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.บางละมุง จึงกระจายกำลังติดตามค้นหาตัวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

124099

จนกระทั่ง พ.ต.ท.ภาคภูมิ นาคพนม สว.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบ สภ.บางละมุง ไปพบรถ จยย. ยามาฮ่า ซูมเมอร์เอ็กซ์ สีเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ภายในซอยหนองปลาไหล 6 ม.2 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นต้องสงสัยตามตรงตามข้อมูลที่ได้รับการประสานมา จากนั้นจึงกระจายกำลังออกไล่ล่า จนสามารถจับคนร้ายได้ บริเวณโรงไม้ย่านถนนบายพาส 36 ทราบชื่อต่อมา นายกิตติศักดิ์ ถ้วนสัมฤทธิ์ อายุ 33 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล และจะนำมาแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.59)

ล้วงคองูเห่า กะเทยซุกยาไอซ์ในแบงค์ 500 ให้ผู้ต้องหา โดนรวบคาโรงพักพัทยา

พัทยา-(18 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 00.30 น. ร.ต.ท.ไชยณรงค์ ไชยอินทร์ รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ร่วมกันจับกุมตัวนายภุชงค์ ลอยมั่ง อายุ 21 ปี สาวประเภทสอง (กะเทย) และน.ส.วรรณวิภา ฉวีทอง อายุ 34 ปี พร้อมของกลางเป็นเงิน 500 บาท และยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) น้ำหนัก 0.45 กรัม สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้องขัง สภ.เมืองพัทยา

สืบเนื่องจาก ช่วงบ่ายของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้ทำการจับกุม น.ส.วรรณวิภา ในข้อหามีสารเสพติดในร่างกาย โดยควบคุมตัวไว้ยังห้องคุมขัง สภ.เมืองพัทยา เพื่อรอส่งฟ้องศาล กระทั่งเวลาเกิดเหตุนายภุชงค์ เข้ามาติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณหน้าห้องคุมขังนักโทษ ขอเข้าเยี่ยมน.ส.วรรณวิภา

เมื่อเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้นายภุชงค์ทำทีคุยถามสารทุกข์สุขดิบ จากนั้นก็ได้หยิบธนบัตรใบละ 500 บาทพับครึ่ง โดยมียาไอซ์บรรจุซองพลาสติกแบบซิบยัดอยู่ในธนบัตรใบดังกล่าว หวังตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ก็ไม่พ้นสายตาของ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นจับกุมไว้ได้ในที่สุด

สอบสวน นายภุชงค์ ให้การว่า สาเหตุที่นำยามาให้กับ น.ส.วรรณวิภา เพราะเห็นว่า น.ส.วรรณวิภา ถูกจับมากลัวจะไม่มียาเสพ จึงได้ลักลอบนำเข้ามาให้และโดนจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

จับตานโยบายห้ามมีกิจกรรมชายหาด แต่ “สีสันตะวันออก” กลับโผล่ออกร้านริมหาดพัทยา

จับตานโยบายห้ามมีกิจกรรมชายหาดพัทยาหลังภาคธุรกิจรวมตัวยื่นหนังสือร้องขอ แต่สุดท้ายงาน “สีสันตะวันออก 2559” โผล่ออกร้านริมทะเลพัทยา 120 ร้าน รองนายกพัทยาปวดหัวหวั่นหาบเร่แผงลอยกลับมา พร้อมประสานกำลังทหารดูแลความสงบเรียบร้อย

พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 13.30 น. นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา และนายบุญชัย ทันสมัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี ร่วมประชุมปรึกษาหารือและเตรียมความพร้อมในการดำเนินการจัดงานมหกรรมด้านการท่องเที่ยวระดับชาติ งานมหกรรมสีสันตะวันออกงานเทศกาลท่องเที่ยว “สีสันตะวันออก 2559” ครั้งที่ 2 โดยมีตัวแทน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก (ชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี-ตราด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ทหาร มทบ.14 ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตลอด จนส่วนงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุม 242 ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

IMG_7285

สำหรับกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกัน โดยมีเวทีกลางอยู่บริเวณลานกิจกรรมศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีช รวมทั้งการออกบูธจำหน่ายสินค้ากินพื้นที่ทางเดินเท้าสาธารณะริมชายทะเลพัทยา ระหว่างวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ ไฮไลท์สำคัญของงานอยู่ที่การออกร้าน OTOP ระดับ 4-5 ดาว ร้านอาหารขึ้นชื่อแบบปรุงสำเร็จและปรุงสุกในงาน แหล่งท่องเที่ยว ที่พักโรงแรม จาก 4 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราดจังหวัดละ 30 บูธ รวมทั้งสิ้น 120 บูธ กินพื้นที่ตลอดแนวถนนระยะกว่า 400 เมตร

โดยกิจกรรมนี้กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเป็นผู้เสนอโครงการและงบประมาณผ่านสำนักงบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมกว่า 3 ล้านบาท เพื่อผลักดันให้เกิดการส่งเสริมรายได้จากการท่องเที่ยว โดยแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยมี บริษัท อิมเมจ คอปอเรชั่น (ประเทศไทย) เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินจัดงานหลายช่วงหลายปีที่ผ่านมา

IMG_7288

ในที่ประชุมได้มีการนำเสนอรูปแบบจัดงานที่ปีนี้กำหนดในคอนเซ็ปต์ “สีสันตะวันออก สีสันของชีวิตคุณ” โดยทางตัวแทนบริษัทผู้จัดงานเผยว่าที่ผ่านมาได้จัดการแถลงข่าวจัดงานนี้ไปแล้ว โดยมี นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา และนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เข้าร่วม ขณะที่การหารือวันนี้เป็นการพิจารณาแนวทางในการเตรียมความพร้อมของงาน

โดยในส่วนของบริษัทออแกไนเซอร์ผู้จัดงานได้ขอรับการสนับสนุนกำลังพลในการดูแลความสงบเรียบ ร้อยและรักษาความปลอดภัย พร้อมขอทำการปิดถนนตั้งแต่ช่วงพัทยากลางถึงพัทยาใต้ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป เพื่อจัดเตรียมขบวนพาเหรด โดยมีการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดจราจรและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เนื่องจากอาจได้รับผล กระทบจากการสัญจรในช่วงเวลาดังกล่าว

IMG_7289

ด้านนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ได้เน้นย้ำกับบริษัทผู้จัดงานให้มีการกำหนดรูปแบบการจัดงานให้ดีที่สุดและลดปัญหาที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับผู้ประกอบการหาบเร่ แผงลอยที่อาจขนคนและสินค้าเข้ามาวางจำหน่ายในพื้นที่เป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวได้ โดยร้องขอให้มีการปรับแผนการดูแลใหม่ด้วยการสนธิกำลังจากหลายฝ่ายเข้าร่วม เพื่อดูแล รวมทั้งเฝ้าระวังเรื่องของความปลอด ภัย การจราจร และความสะอาดในระหว่างการจัดงานด้วย

มีรายงานว่าที่ผ่านมากิจกรรมสำคัญอย่างเทศกาลปีใหม่ หรือพัทยาเคาท์ดาวน์ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหลักที่เมืองพัทยาจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวจนติด 1 ใน 10 ของกิจกรรมที่ได้ รับความนิยมสูงสุด ได้มีกลุ่มภาคเอกชนเมืองพัทยาในนามสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา รวม ทั้งสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ได้ยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการถึงนายกเมืองพัทยาเพื่อร้องขอให้พิจารณายกเลิกการจัดกิจกรรมบริเวณริมชายหาดพัทยาอย่างเด็ดขาด เนื่องจากมองว่าการออกร้านจำหน่ายสินค้าริมชายพัทยานั้นไม่เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว เนื่องจากขาดความเป็นระเบียบจนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์อย่างรุนแรง รวมทั้งเป็นการทำลายสภาพแวดล้อมริมชายหาดพัทยาให้มีความเสื่อมโทรม

IMG_7295

ซึ่งกรณีดังกล่าวในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จึงได้มีนโยบายให้ทุกฝ่ายเพิ่มความเข้มงวดอย่างจริงจัง พร้อมเห็น ชอบร่วมกันกับเมืองพัทยาที่จะยกเลิกพื้นที่การจัดเทศกาลปีใหม่จากบริเวณริมชายหาดและไปใช้พื้นที่เฉพาะบริเวณท่าเทียบเรือบาลีฮายพัทยาใต้แทน โดยมีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครนับพันนายมาดูแลตลอดแนวชายหาด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการค้าขายตลอดแนว

โดยในส่วนของกิจกรรม “สีสันตะวันออก” จึงถือเป็นกิจกรรมแรกที่ได้เข้ามาจัดงานและออกร้านริมชาย หาดหลังมีนโยบายในช่วงที่ผ่านมา โดยมีการระบุว่ากิจกรรมนี้เป็นงานของกลุ่มจังหวัดที่จะเสริมสร้างการท่องเที่ยว กระทั่งมีการวิพากษ์วิจารณ์จากหลายส่วนว่ากิจกรรมนี้เหมาะสมต่อการยกเว้นหรือไม่

ตร.พัทยา ตามรวบอดีตคนขับรถโรงแรม ออกตระเวนเช่ารถตามเต็นท์แล้วเชิดเผ่นหนี

พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 18.30 น.พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แถลงข่าวจับกุม นายกานต์ ปั้นบุญชู อายุ 41 ปี ชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาในคดีเช่ารถยนต์แล้วเชิดหลบหนี พร้อมของกลางรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กล 2334 ขอนแก่น และรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฮน-6807 กรุงเทพฯ โดยมี น.ส.วราภรณ์ สิงห์ค้อ อายุ 38 ปี ผู้เสียหายชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น และน้องชาย ชี้ให้จับกุม

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.วราภรณ์ อาชีพรับราชการในตำแหน่งธุรการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ จ.ขอนแก่น ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุขทัศน์ เพื่อขอให้ช่วยตามรถยนต์ของกลางทั้ง 2 คัน ที่นายกานต์ ผู้ต้องหารายนี้เช่ามาจากเต๊นท์รถที่ น.ส.วราภรณ์ กับเพื่อนร่วมหุ้นกันทำในเมืองขอนแก่น และสามารถจับสัญญาณ จีพีเอส.ของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ได้ว่าอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา ภายหลังจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา พร้อมกับผู้เสียหาย เดินทางไปตามสัญญาณจีพีเอส จนพบรถจอดอยู่บริเวณโกดังตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพัทยาใต้ และสามารถจับกุมนายกานต์ ได้ในเวลาต่อมา ก่อนสอบขยายผลตามไปยึดรถตู้อีก 1 คัน ที่ ห้างสรรพสินค้าโลตัส ใน อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

โดย น.ส.วราภรณ์ เล่าว่า เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว นายกานต์ ได้นำเอกสารสัญญาการขอเช่ารถยนต์ของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา มาทำการแสดงและอ้างว่าต้องการเช่ารถไปรับส่งลูกค้าชาวต่างชาติในพัทยา และขอเช่ารถตู้ในราคาเดือนละ 17,000 บาท ก่อนที่จะจ่ายเงินบางส่วนให้ กระทั่งเดือน ม.ค.ปีนี้ นายกานต์ นำเอกสารมาขอเช่ารถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ อีก 1 คัน ในราคา 23,000 บาทต่อเดือน พร้อมกับนัดหมายจ่ายเงินประกันจำนวน 20,000 บาทในวันที่ 5 ก.พ. ด้วยความเชื่อใจ และดูเป็นคนภูมิฐาน จึงยอมปล่อยรถไป แต่ภายหลังเจ้าตัวกลับติดต่อไม่ได้และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ไว้เป็นหลักฐาน และสามารถจับสัญญาณ จีพีเอส.ของรถว่ายังอยู่ในเมืองพัทยา จึงเข้าพบตำรวจและขอให้ช่วยไปจับกุมดังกล่าว
จากการสอบปากคำนายกานต์ ผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพว่า ในอดีตเคยเป็นพนักงานขับรถรับ-ส่งนักท่องเที่ยวของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา แต่ภายหลังเพราะพิษเศรษฐกิจจึงทำให้โดนปลดออกจากงานทำให้ไม่มีเงินใช้ จึงตัดสินใจไปเช่ารถยนต์แล้วเชิดหนี แล้วนำไปส่งต่อให้กับนายเศรษฐวุฒิ ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง เพื่อนร่วมแก๊ง เพื่อเอาไปขายต่อตามเต๊นท์รถย่านลาดกระบัง และ อ.สามโคก จต.ปทุมธานี ในราคาตกคันละประมาณ 70,000 – 100,000 บาท

ด้าน พ.ต.อ.สุขทัศน์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายกานต์ มีหมายจับในพื้นที่เมืองพัทยาจำนวน 2 หมาย และพื้นที่ธัญญะบุรีอีก 1 หมาย เบื้องต้นทำการควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

นายกสมาคมนักข่าวพัทยาถือฤกษ์วันคล้ายวันเกิด จัดทำบุญเปิดสำนักงานศูนย์ข่าวพัทยา

IMG_7274
นายกสมาคมนักข่าวพัทยาถือฤกษ์วันคล้ายวันเกิด จัดทำบุญเปิดสำนักงานศูนย์ข่าวพัทยา นักการเมืองท้องถิ่น ตัวแทนองค์กรรัฐ-เอกชนพาเหรดร่วมแสดงความยินดี

IMG_7246

พัทยา-ผู้สื่อข่าวรายงาน เนื่องด้วยตรงกับวันคล้ายวันเกิด นายอัมพร แสงแก้ว นายกสมาคมนักข่าวพัทยา ครบปีที่ 43 จึงได้จัดงานทำบุญเลี้ยงเพลพระเพื่อความเป็นสิริมงคลพร้อมเปิดตัวสำนักงานศูนย์ข่าวพัทยาอย่างเป็นทางการ

IMG_7235

ภายในพิธีทำบุญเลี้ยงพระได้นิมนต์พระเถรานุเถระจากวัดหนองใหญ่ จำนวน 9 รูป ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ โดยมีบรรดานักการเมือง กลุ่มพลังมวลชน ตลอดจนตัวแทนองค์กรภาครัฐและเอกชนทยอยเข้าร่วมงานตั้งแต่ช่วงเช้า

IMG_7220

นายอัมพร แสงแก้ว นายกสมาคมนักข่าวพัทยา กล่าวว่าการเปิดตัวศูนย์ข่าวพัทยาอย่างเป็นทางการในครั้งนี้เพื่อจะเป็นเซ็นเตอร์ในการประสานงานการทำงานด้านสื่อสารมวลชนในเมืองพัทยาให้มีความเชื่อมโยงกับระบบสื่อมวลชนจังหวัดชลบุรีอย่างครอบคลุม

IMG_7230

“หัวใจการทำงานของสื่อ คือการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ ชัดเจนและเป็นธรรม ศูนย์ข่าวพัทยาแห่งนี้จะเป็นเหมือนสถานที่ที่พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการทำสื่อเพื่อพัฒนาการทำงานร่วมกันของพี่น้องนักข่าวในเมืองพัทยา ตลอดจนจังหวัดชลบุรีต่อไป” นายกสมาคมนักข่าวพัทยา ระบุ

IMG_7251

ชายอ้างเป็นตำรวจ เชิดลอตเตอรี่แม่ค้าชาวจังหวัดเลย

พัทยา-(16 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 02.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เพ็ญนภา นนศรีภักดี อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดเลย อาชีพแม่ค้าเร่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.สิระภูเดชน์ ชำนาญกิจ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าเมื่อช่วง 5 ทุ่ม คืนที่ผ่านมา มีชายอ้างตัวเป็นตำรวจเชิดลอตเตอรี่ ภายในซอย 7 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา

น.ส.เพ็ญนภา แม่ค้าเร่ขายฉลากกินแบ่งรัฐบาล เล่าว่า ได้มีลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติ นั่งดื่มสุราอยู่ในบาร์เบียร์ เรียกเธอเข้าไปขอเลือกซื้อลอตเตอรี่ แต่ปรากฏว่าต่างชาติคนดังกล่าวได้ดึงลอตเตอรี่หลุดออกมาทั้งหมด 8 ใบ แต่ได้เลือกซื้อเพียง 1 ใบเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 7 ใบ ซึ่งถืออยู่ในมือข้างขวาและที่กำลังจะเย็บเข้าแผง และได้มีชายไทย อายุประมาณ 30 ปี สีผิวดำ-แดง รูปร่างผอม ตัดผมรองทรง สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมชุดกีฬา โดยอยู่ในอาการเมาสุรา

จากนั้นชายคนดังกล่าวได้นั่งเก้าอี้อยู่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างกลางซอยที่เกิดเหตุ ได้เข้ามาคว้ามือและดึงลอตเตอรี่จากมือที่ถืออยู่ไป ก่อนจะหลอกถามว่าหวยทั้งหมด 7 ใบ ราคาเท่าไหร่ จึงได้ตอบไปว่าทั้งหมดราคา 630 บาท ซึ่งขายตกใบละ 90 บาท จากนั้นชายดังกล่าวได้อ้างตัวเป็นตำรวจพร้อมกับข่มขู่ว่าถูกจับแล้ว โดยจะสั่งเจ้าหน้าที่สายตรวจมารับตัวไปดำเนินคดี ทำให้เริ่มรู้สึกไม่ดี

ต่อมาได้มีหัวหน้าวินจุดเกิดเหตุ เข้ามาเจรจาพูดคุยให้ปล่อยตัวไป จนกระทั่งชายดังกล่าวจะได้ปล่อยตัวและเดินหนีหายไปพร้อมกับลอตเตอรี่ ทั้งนี้ วินจักรยานยนต์รับจ้างต่างพากันพูดว่าชายดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศจ่า แต่ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ทำให้วันนั้นต้องเลิกขายทันที ก่อนจะนำเรื่องเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่หน้าอัลคาซ่าร์ คาบาเร่ต์ พัทยา ฟังถึงเหตุการณ์ ก่อนจะได้คำแนะนำให้แจ้งความเอาผิดและอายัดลอตเตอรี่ไว้ก่อน

ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะลงพื้นที่จุดเกิดเหตุหาข้อมูล เกี่ยวกับผู้ก่อเหตุอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นข้าราชการตำรวจจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้อายัดลอตเตอรี่ ประจำงวดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ถูกก่อเหตุไว้แล้ว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย