จากกรณีคนร้ายเป็นชายไทยจำนวน 1 คน ทำทีเป็นลูกค้าเข้าไปเลือกขอดูแหวนทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 2 สลึง ก่อนอาศัยช่วงจังหวะเจ้าของร้านเผลอหยิบแหวนวงดังกล่าวเดินออกจากร้านไปอย่างหน้าตาเฉย โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์และรูปร่างคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน เหตุเกิดขึ้นที่ ห้างทองบัวขาว พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 เมษายน 2560 พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงศ์สุรวัฒน์ วงษ์สารัมย์ สว.สส.ฯ ร.ต.อ.ณธกร จันทร์ลอด รอง สว.สส.ฯ และกำลังชุดสืบสวน สามารถจับกุมตัวคนร้ายแล้ว ทราบชื่อคือนายนายชัยชาญ หรือต้า ภู่ศิลป์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีวิ่งราวทรัพย์ของศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.144/2560 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2560
พ.ต.อ.อภิชัย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้สั่งการชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด ก่อนจะทราบว่านายชัยชาญ เป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ จึงรวบรวมพยานและหลักฐานอนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับ ก่อนได้สืบทราบว่านายชัยชาญ หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีกบดานไปยังบ้านเกิดที่จังหวัดนครสวรรค์ จึงนำกำลังไปจับกุมตัวแต่ปรากฏว่านายชัยชาญ ไหวตัวทันหลบหนีการจับกุมไปได้
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาพยายามติดตามตัวมาหลายวันแต่ก็ไม่สามารถจับกุมได้ จึงใช้วิธีส่งสายลับติดต่อกับนายชัยชาญ โดยออกอุบายให้นายชัยชาญมาชดใช้ค่าเสียหายและค่าปรับอีกจำนวนหนึ่ง โดยทางเจ้าของร้านทองจะยินยอมไม่ผิด ระหว่างนายชัยชาญกำลังยืนเงินชดใช้ค่าเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปลอมตัวเป็นพนักงานร้านทองจึงแสดงหมายจับเข้าทำการจับกุมตัวนายชัยชาญทันที ทำเอานายชัยชาญ คอตกหลังจากถูกตำรวจซ้อนแผนจับกุม
เบื้องต้น นายชัยชาญ ให้การรับสารภาพว่า ปกติได้ประกอบอาชีพเป็นพนักงานเต้นอยู่ที่บาร์เกย์แห่งหนึ่ง ย่านถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ซึ่งยอมรับว่าตนเองเป็นผู้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้จริง เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หนี้เอเย่นต์ยาเสพติดและเที่ยวเตร่ช่วงวันสงกรานต์
นอกจากนี้ยังพบว่า นายชัยชาญ เคยถูกจับกุมคดียาเสพติดมาแล้วถึง 2 ครั้ง อีกทั้งได้หลบหนีหมายจับคดีข่มขืนและอนาจาร ในพื้นที่ สภ.หนองปิง จ.นครสวรรค์ อีกด้วย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ตำรวจกำลังต้องการตัวอยู่พอดี อย่างไรก็ตามจึงควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย