คลังเก็บป้ายกำกับ: กะเทย

“น้องบาบาร่า” สวยเก่งมัดใจคณะกรรมการ คว้ามงกุฎ Miss Queen Sodsai House 2017 ไปครอง

พัทยา-ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลมารีน่า พัทยา มีการจัดการประกวด Miss Queen Sodsai House 2017 โดยมี คุณญาณอมรรัตน์ จัดของ ผู้บริหารพินิกซ์ เป็นประธานกล่าวเปิดการประกวด โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้การจัดการประกวด Miss Queen Sodsai House 2017 จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้สาวประเภทสองทั้งประเทศได้แสดงศักยภาพทั้งความสวยและความสามารถของสาวประเภทสองบนเวทีประกวด พร้อมกับการได้เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของทาง Sodsai House อีกด้วย ซึ่งได้รับเกียรติคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมากมายมาร่วมให้คะแนน อาทิ คุณปุริมประชญ์ ไชยะคำ ผู้บริหารหมู่บ้านช้างพัทยา, คุณปานตะวัน จารุวัฒนานุกูล Miss Tiffarny’s Universe 2003, คุณรัชระวี จิระประภากุล Miss Tiffarny’s Universe 2006 โดยได้รับความสนใจจากสาวประเภทสองทั่วประเทศกว่า 20 คนเข้าร่วมประชันความงามและความสามารถ

สำหรับรางวัล Miss Queen Sodsai House 2017 ตกเป็นของ หมายเลข 13 “บาบาร่า” พรฆเณศ เกศรัศมีโชติ อายุ 26 ปี ได้เงินรางวัล 80,000 บาท สายสะพาย มงกุฎเกียรติยศ และของรางวัลมูลค่ากว่า 2 แสนบาท พร้อมกับคว้ารางวัล Miss Photoginic By Neon รับเงินรางวัลไปอีก 5,000 บาท สายสะพาย และของรางวัลอีกว่า 2 แสนบาท

รองอันดับ 1 ตกเป็นของ หมายเลข 10 “น้องกวางตุ้ง” กฤษณพร ไตธวงษ์ อายุ 25 ปี ได้เงินรางวัล 50,000 บาท สายสะพาย และของรางวัลมูลค่ากว่า 2 แสนบาท พร้อมกับคว้ารางวัล Miss Sexy Body รับเงินรางวัลไปอีก 5,000 บาท สายสะพาย และของรางวัลอีกว่า 2 แสนบาท

รองอันดับ 2 ตกเป็นของ หมายเลข 18 “น้องร็อค” ขวัญลดา รุ่งโรจน์อำภา อายุ 19 ปี ได้เงินรางวัล 20,000 บาท สายสะพาย และของรางวัลมูลค่ากว่า 2 แสนบาท พร้อมกับคว้ารางวัล Miss Skin By Adara Princess และรางวัลขวัญใจสื่อมวลชน ได้รับเงินรางวัลรวม 10,000 บาท สายสะพาย และของรางวัลอีกกว่า 4 แสนบาท

รางวัลนางงามพยายามสวย ได้แก่ หมายเลข 3 ยุทธกร เลิศพนมวรรณ ได้เงินรางวัล 5,000 บาท สายสะพาย ของรางวัลมูลค่ากว่า 2 แสนบาท

ข่าว/อนันต์ สุขวัฒนะ

อันตราย! กะเทยพัทยาอาละวาดหนัก รูดทรัพย์นักท่องเที่ยว 2 รายซ้อน

พัทยา-(6 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 00.10 น. นายอิชิคาว่า เทคามิ อายุ 45 ปี เจ้าของร้านอาหารชาวญี่ปุ่น เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.เฉลียว บุญคุ้ม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าถูกสาวประเภทสองก่อเหตุล้วงกระเป๋าสูญทรัพย์สินไป 28,000 บาท เหตุเกิดภายในซอย 1 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดยนายอิชิคาว่า เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินออกจากที่พักซึ่งอยู่ในซอยที่เกิดเหตุเพื่อออกไปรับประทานอาหาร จนกระทั่งถึงช่วงกลางซอยได้มีสาวประเภทสอง 2 คนขับขี่จักรยานยนต์มาจอดใกล้ๆ จากนั้นสาวประเภทสองที่ซ้อนท้ายได้ลงมาพูดคุยตีสนิทพร้อมโอบกอดลูบไล้ ด้วยความที่ไม่ชอบสาวประเภทสองจึงรีบผลักออก สาวประเภทสองก็เดินไปขึ้นจักรยานยนต์แล้วขับขี่ออกไป ตนเองรู้สึกงงๆแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งมาถึงหน้าร้านอาหารตนเองก็พบว่ากระเป๋าเงินได้สูญหายไป จึงรีบเดินทางเข้าแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

นอกจากนี้ น.ส.จีระพร ชูเนื่อง อายุ 47 ปี พร้อมสามีชาวฝรั่งเศส แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่าสามีถูกล้วงกระเป๋าบนรถสหกรณ์สองแถว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนและสามีได้โดยสารรถสหกรณ์สองแถวมาจากบริเวณแยกวัดชัยมงคลพัทยาใต้ ระหว่างทางได้มีผู้โดยสารเป็นกลุ่มคนไทย 3-4 คน ซึ่งมีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และสาวประเภทสอง ส่วนที่เหลือเป็นชาวต่างประเทศใช้บริการตามปกติ แต่กลุ่มคนไทยได้พยายามเข้ามานั่งเบียดก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งตนเองและสามีได้ลงที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล บีช พัทยา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ปรากฏว่ากระเป๋าภายในมีเงิน 8,000 บาท ของสามีได้สูญหายไป จึงรีบขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ตรวจสอบ

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ตร.ท่องเที่ยว จับมือ ตร.พัทยา เดินเท้าดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวให้พ้นเงื้อมือกะเทย วอล์กกิ้งสตรีท

พัทยา-(30 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 21.00 น. พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.ต.สมบูรณ์ เอื้อสมานไมตรี สวป.สภ.เมืองพัทยา ร.ต.อ.จักรกฤษ จันตาคำ รองสวป.สภ.เมืองพัทยา และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ร่วมปล่อยแถวดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ภายในถนน วอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

image

สืบเนื่องมาจากพื้นที่ถนนวอกกิ้งสตรีทเป็นพื้นที่เสี่ยงที่สาวประเภทสองใช้ก่อเหตุลักทรัพย์ล้วงกระเป๋า ปลดสร้อย หรือทรัพย์สินมีค่า ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวในเมืองพัทยา จึงได้ระดมกำลังตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจภูธรเมืองพัทยาปล่อยแถวชี้แจงภารกิจ ออกเดินเท้าป้องกัน เหตุที่เกี่ยวกับทรัพย์และชีวิตร่างกาย รวมไปถึงการลักลอบค้าบริการ และการลักลอบค้ายาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ฆ่าโหดกะเทยพัทยายัดศพหมกใต้เตียงห้องเช่ากลางเมือง

พัทยา-(20 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยาร่วมตรวจสอบผู้เสียชีวิต ภายในห้องพัก ลิทเทิ้นคอร์ท เลขที่ 285/18 ม.9 ซ.บัวขาว ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าสูง 5 ชั้น ภายในห้องเลขที่ 666 ชั้นดาดฟ้าที่ดัดแปลงทำห้องเช่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบศพสาวประเภทสอง ไม่ทราบชื่อสกุล อยู่บริเวณใต้เตียงนอน ลักษณะขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารถระบุได้ว่าถูกฆ่ารัดคอ หรือถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณศีรษะ เนื่องจากสภาพศพเสียชีวิตมามากกว่า 3 วัน ต้องส่งสถาบันนิติเวชชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง

จากการสอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่า ห้องที่เกิดเหตุมีชาย 2 คน มาเช็คอินเข้าพักตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนชื่อที่ใช้ในการเข้าพัก เจ้าหน้าที่ขอไม่เปิดเผยเพราะเกรงจะเสียรูปคดี จากนั้นในวันที่ 18 เวลาประมาณ 01.35 น.ชายทั้ง 2 ได้พาสาวประเภทสองมาพักที่ห้อง และชายทั้ง 2 คน ได้ออกเช็คเอาท์จากห้องพักไปวันที่ 18 ส.ค. เวลาประมาณ 9.00 น.

ต่อมาในวันที่ 19 ส.ค.59 เวลาประมาณ 17.30 น. ได้มีชายหญิงมาใช้บริการห้องพักห้องพักดังกล่าว และขอให้พนักงานเอาสเปร์ยน้ำหอมไปฉีด เนื่องจากในห้องมีกลิ่นเหม็นเล็กน้อยแต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 20 ส.ค. แม่บ้านได้มาทำความสะอาดห้อง และพบว่าห้องมีกลิ่นเหม็นมากและมีเลือดไหลออกมาจากใต้เตียง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบจนพบศพผู้เสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เผยว่า ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อและรูปพรรณผู้ต้องสงสัยที่มาเช่าห้องแล้ว พร้อมกับกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพชายทั้ง 2 ได้ แต่ขอไม่เปิดรายละเอียดมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวอยู่ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานสักระยะ คาดว่าคงได้ตัวมาในเร็วๆนี้ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด คาดว่าอาจเกิดมาจากปัญหาส่วนตัว หรือปัญหาของชายทั้ง2คน ที่พาสาวประเภทสองมาร่วมหลับนอนหรือไม่ ซึ่งจะต้องตรวจสอบโดยอย่างละเอียดอีกครั้ง

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

กะเทยพัทยาระบาด ออกปลดสร้อยคอนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ก่อนเผ่นหนีลอยนวล

พัทยา-(17 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.อ.ธานินทร์ กันภัย รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกคนร้ายก่อเหตุปลดสร้อย เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงแรมโมนาเพลส ภายในซอย 14 พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้สายตรวจเขตรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวทราบชื่อ MR.SHAILESH KUMAR อายุ 34 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอินเดีย เจ้าของร้านโทรศัพท์ มือถือที่ต่างประเทศ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมให้การผ่านล่ามแปลภาษาว่า ถูกสาวประเภทสองเข้ามาทำทีกอดจูบ ลูบไล้ แล้วอาศัยจังหวะเผลอปลดสร้อยคอทองคำราคา 12,000 บาท แล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่มีเพื่อนร่วมทีมจอดรออยู่ ก่อนพากันหลับหนีไปตามถนนเส้นพัทยาสายสาม ตนเองจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับคนร้ายตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีแต่ก็ไร้วี่แวว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ดูรูปพรรณสัณฐานเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

นักธุรกิจชาวจีนถูกกะเทยชายหาดพัทยาปลดสร้อยคอหลักแสนบาทหลบหนีลอยนวล

พัทยา-(13 ก.ค. 59) เวลา 03.30 น. ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกสาวประเภทสองปลดสร้อย ราคา150,000 บาทไป เหตุเกิดบริเวณตรงข้าม ห้างรอยัล การ์เด้น พลาซ่า พัทยาใต้ ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังชุดสืบสวนไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณชายหาด ผู้เสียหายทราบชื่อคือนาย LYU MIAG อายุ 38 ปี สัญชาติจีน เล่าว่าตนเป็นนักธุรกิจอยู่ที่ประเทศจีน ได้เดินทางมาเที่ยวพัทยากับกลุ่มเพื่อน จากนั้นได้ชวนเพื่อนออกมาเดินชมวิวที่ของชายหาดพัทยา จนมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีสาวประเภทสองจำนวน 2-3 คน ออกมาเสนอขายบริการ สาวประเภทสองก็ทำทีเข้ามาลูบไล้เพื่อให้เกิดอารมณ์ ตนพยายามจะผลักออกและเดินหนี จากนั้นทางเพื่อนได้สังเกตเห็นว่าสร้อยคอหายไป ตนตกใจมากและคิดว่ากลุ่มสาวประเภทสองเอาไปแน่ จึงเดินตามหาแต่ก็ไม่พบ จึงรีบเดินทางเข้าแจ้งความให้ตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้นร.ต.อ.สุพรรณ โสภี รองสว.สอบสวนเจ้าของคดี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่สอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

หนุ่มวิศวกรโรงงานกระดาษ โดนกะเทยลวนลามแล้วปลดสร้อยพร้อมจี้หลบหนีลอยนวล

พัทยา-(2 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. ร.ต.อ.นครราช นนสีลาด รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเกิดเหตุสาวประเภทสองก่อเหตุปลดสร้อยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าโรงแรมซีซั่น ไฟว์ ตั้งอยู่กลางซอย 5 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานชุดสืบสวน ร่วมกันตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหายเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทราบชื่อคือ นายราจู เบนต้า อายุ 50 ปี สัญชาติอินเดีย อาชีพ วิศวกร ควบคุมเครื่องจักรกลโรงงานกระดาษดับเบิ้ลเอ จ.ปราจีนบุรี พร้อมครอบครัวชาติเดียวกัน ประกอบด้วย ภรรยา ลูกสาว และเพื่อนร่วมงาน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและชี้จุดคนร้ายก่อเหตุ

สอบสวน ผู้เสียหาย ให้การด้วยภาษาไทยว่า หลังจากที่พาครอบครัวพร้อมเพื่อนร่วมงาน ไปดูการแสดงคาบาเร่ต์ ที่โรงละครอัลคาซ่าร์โชว์พัทยา ขณะกำลังจะเดินกลับโรงแรมที่พัก ได้มีกะเทยจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ แบบออโตเมตริก จากนั้นกะเทยทั้ง 2 คน ได้ทำทีเข้ามาโอบกอดลวนลามจุดสำคัญ ก่อนอาศัยจังหวะไม่ทันระวังตัวปลดสร้อยคอทองคำรูปพรรณ น้ำหนัก 1.50 สตางค์ พร้อมจี้ประเทศอินเดีย มูลค่า 35,000 บาท แล้วพากันหลบหนีไป

ทั้งนี้ ผู้เสียหาย ยังได้กล่าวถึงความรู้สึกด้วยอีกว่า ตนเองทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 17 ปี สำหรับเหตุการณ์ในครั้งเกิดขึ้นกับตนเองเป็นครั้งแรก ทำให้ครอบครัว เช่น ภรรยา ลูกสาว หวาดกลัวกับสาวประเภทสองผู้ก่อเหตุเป็นอย่างมาก จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งรัดจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ไวที่สุด

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เพื่อเป็นเบาะแสในการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

หนุ่มจีนแชทจีบสาวผ่านเฟสบุ๊ก นัดพบสุดท้ายกลายเป็นกะเทย ก่อนมีปากเสียงถูกชกเจ็บ

พัทยา-(14 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 00.30 น. ศูนย์วิทยุเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีนักท่อเที่ยวชาวจีนถูกรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่หน้า โรงแรมเบลล่า วิลล่า พรีม่า ภายในซอย 4 พัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเขตและเจ้าน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนรีบรุดไปตรวจสอบ

thumbnail_IMG_5224

ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวชาวจีน 3 คน และแฟนสาวชาวไทย ยืนรอให้การกับเจ้าที่ ว่าถูกสาวประเภทสองทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ MR.HSIAO SHUN-WEN อายุ 32 ปี สัญชาติจีน ได้รับบาดเจ็บมีร่องรอยปูดบวมที่บริเวณใบหน้า อีกราย MR.YEH CHUNG-YI อายุ 32 ปี สัญชาติจีน ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้าเช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยภัยฯ ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

สอบถาม น.ส.วิไรรัตน์ หล้ากุล อายุ 26 ปี แฟนสาว MR.YEH CHUNG-YI เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเพื่อนของแฟนหนุ่มคือ MR.HSIAO ได้รู้จักและคุยกับสาวสวยผ่านทางเฟสบุ๊ก จนกระทั่งตกลงปรงใจนัดพบกัน แต่ปรากฏว่าสาวสวยดังกล่าวเป็นกะเทยไม่ใช่ผู้หญิงแท้ๆMR.HSIAO คิดว่าตนเองถูกหลอกจึงได้มีปากเสียงกันก่อนลงมือทำร้ายร่างกายดังกล่าว หลังจากนั้นก็ได้วิ่งหลบหนีไป พวกตนจึงไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

หนุ่มวิน จยย. ทิ้งลูกค้าก่อนวิ่งไปรวบตัวกะเทยล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว ชายหาดพัทยา

พัทยา-(16 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 02.00 น.ร.ต.อ.วิษณุ ไชยสุวรรณ รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีพลเมืองดีสามารถจับกุมสาวประเภทสองล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวอินเดียไว้ได้พร้อมของกลาง เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณ หน้าศูนย์การค้า รอยัล การเด้นท์ พลาซ่า ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรีหลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบพลเมืองดี ทราบชื่อคือ นายคมสันต์ โปร่งกมล อายุ 35 ปี อาชีพขับวินจักรยานยนต์รับจ้างและเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้านอีกด้วย กำลังควบคุมตัว นายคมสันต์ พิบูลย์สังข์ อายุ 29 ปี ผู้ก่อเหตุสาวประเภทสอง พร้อมด้วยของกลางเงินสดจำนวน 2,260 บาท ซึ่งมี นายทาแรนดิฟ ซิง อายุ 25 ปี นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย เป็นผู้เสียหาย ยืนยันชี้ตัวผู้ก่อเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม

DSC_3513

สอบถาม นายคมสันต์ พลเมืองดี ให้การว่า ขณะที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งลูกค้ามาตามถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา จากนั้นสังเกตเห็นสาวประเภทสองผู้ก่อเหตุ กำลังยืนโอบกอดเหยื่อพร้อมกับทำท่าลามกลักษณะกระเด้งหน้ากระเด้งหลัง ทำให้เหยื่อเกิดอาการเคลิ้ม ก่อนจะใช้มือซ้ายล้วงกระเป๋ากางเกงหลังแล้วฉกเงินแบบต่อหน้าต่อตา จึงจอดหยุดรถและลงไปจับกุมได้พร้อมของกลางไว้ได้ดังกล่าว

เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุ เอาแต่ปิดหน้าปิดตาและยังไม่ให้การใดๆทั้งสิ้น โดยระบุเพียงว่าไม่ได้เป็นคนลงมือก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพยานแวดล้อมหลายคนเห็นพฤติกรรม ภายหลังสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ก่อเหตุ ในฐานความผิด “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับ นายคมสันต์ โปร่งกมล พลเมืองดีรายนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 2อาทิตย์ ที่ผ่านมา สามารถจับกุมแก๊งกะเทยล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวไว้ได้ถึง 2 ราย พร้อมของกลาง ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์เมืองพัทยา ว่าคนดียังมีที่เมืองพัทยา

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ตร.ท่องเที่ยวพัทยา จับหนุ่มสวยเต้นคาบาเรต์ให้ชาวจีนจับหน้าอกแลกเงิน บนภัตตาคารหรูบนเรือสำราญ

จากกรณีที่มีคลิปวีดีโอเป็นหญิงสาวประเภทสองแต่งชุดราตรี ให้นักท่องเที่ยวชาวจีนจับหน้าอกเพื่อแลกเงินพร้อมโพสต์ท่าถ่ายภาพ อย่างสนุกสนาน เป็นเวลายาวกว่า 1.30 นาที จนเป็นเป็นที่ฮือฮาในโลกสังคมออนไลน์ โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นกันจำนวนมากลักษณะแสดงไม่เหมาะสม

thumbnail_Screenshot_2016-05-25-22-11-01

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. ของวันนี้ 25 พ.ค. พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จึงได้สืบสวนโดยร่วมกันตรวจสอบบุคคลที่ปรากฏเป็นคลิปดังกล่าว จนกระทั่งสืบทราบสถานที่เกิดเหตุเป็นห้องภัตตาคารอาหาร บนเรือสำราญ บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้

สำหรับผู้ที่ปรากฏในคลิปเป็นสาวประเภทสองที่เต้นคาบาเรต์โชว์อยู่ภายในเรือภัตตาคาร ทราบชื่อคือนายบี (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี จึงได้เชิญตัวมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงยังสถานีตำรวจ สภ.เมืองพัทยา

สอบถามนายบี (นามสมมุติ) ให้การรับสารภาพว่าได้เป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวจริง ซึ่งปกติจะทำงานเต้นคาบาเรต์โชว์อยู่ในเรือภัตตาคาร เพื่อให้ความบันเทิงแก่นักท่องเที่ยวที่มารับประทานอาหาร ซึ่งไม่ได้มีการแต่งกายโป๊เปลือย หรือโชว์ลามกอนาจาร แต่อย่างใด แต่เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุ หลังจากเต้นโชว์แล้ว นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาขอถ่ายภาพด้วยได้รบเร้า ขอจับหน้าอกตน ตนจึงยอมให้จับและนักท่องเที่ยวได้ให้เงินตน จำนวน 20 บาท

thumbnail_Screenshot_2016-05-25-22-11-10

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแจ้งข้อกล่าวหากับนายบี (นามสมมุติ) ในฐานความผิด “กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย” ก่อนจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด เป็นจำนวน 5,000 บาท

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย