พัทยา-ผู้สื่อข่าวรายงาน ศูนย์ทันตกรรมความงามและรากเทียม รพ.กรุงเทพพัทยา นำโดย ทพญ.สุกัญญา กวางทองนิชย์ ทพญ.ชนันพร นุ่นละออง ทพญ.ธิดารัตน์ สิงขร และเจ้าหน้าที่ ร่วมออกหน่วยตรวจสุขภาพฟันให้กับน้องๆนักเรียนศูนย์ธารชีวิต
สำหรับการออกหน่วยตรวจสุขภาพฟันนั้นทาง ศูนย์ทันตกรรมความงามและรากเทียม รพ.กรุงเทพพัทยา ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปี เพื่อให้น้องๆ นักเรียน ที่ ศูนย์ธารชีวิต มีสุขภาพฟันที่แข็งแรง สะอาด ปราศจากคราบหินปูน และนอกจากนี้ยังแนะนำวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องให้นักเรียน
พัทยา-(30 ส.ค. 59) ที่ บริเวณชายหาดจอมเทียนเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายเศรษฐพล บุญสวัสดิ์ ประ ธานคณะทำงานด้านกฎหมายให้คำปรึกษาผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา นำคณะแพทย์ฉุกเฉินจากโรง พยาบาลเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทางทะเล เทศกิจ และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่เพื่อจัดโครงการประชาสัมพันธ์เชิงรุกในการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวเพื่อให้เพิ่มความระมัดระวังในการเล่นน้ำทะเลบริเวณหน้าอ่าวจอมเทียน หลังจากพบว่าปัจจุบันมีลมสรสุมพัดเข้าฝั่งซึ่งส่งผลให้มีแมงกะพรุนหลายชนิดถูกซัดมากับน้ำเข้าใกล้ฝั่งจนไปสร้างอันตรายแก่ผู้ที่สัมผัสมาแล้วต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้มีการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ในการเตือนภัย และวิธีการปฏิบัติหลังได้รับบาดเจ็บจากการสัมผัสแมงกะพรุนเหล่านี้ โดยระบุข้อความทั้ง ภาษาไทย อังกฤษ จีน และรัสเซีย เพื่อประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง
นายเศรษฐพล กล่าวว่าทุกปีในช่วงระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม จะเป็นช่วงลมมรสุมพัดเข้าหาฝั่งทำให้ทะเลมีคลื่นแรงและน้ำขุ่นมัว ซึ่งจากกรณีดังกล่าวทำให้แมงกะพรุนหลายชนิดที่พบบริเวณกลางอ่าว ทั้ง แมงกะพรุนหนัง แมงกะพรุนถ้วย หรือแมงกะพรุนไฟ ซึ่งมีพิษรุนแรงแตกต่างกัน ถูกคลื่นซัดเข้าหาฝั่งด้วย และเมื่อนักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำและสัมผัสก็จะถูกต่อยจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งบางรายที่มีอาการแพ้ก็อาจส่งผลรุนแรงได้ โดยตลอดเดือนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวที่บาดเจ็บจากการโดนแมงกะพรุนเหล่านี้มา แล้วถึง 7 ราย
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและเฝ้าระวังเหตุที่อาจเกิดขึ้นจึงมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดแนวชายหาดทั้งบนบกและในทะเล รวมทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น อาทิ น้ำยาล้างพิษ ซึ่งจะใช้น้ำส้มสายชูเป็นหลักเพื่อให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เชิงรุกทั้งการติดตั้งป้าย และการแนะนำข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวโดยทั่วไป ขณะที่ประชาชนที่ประสบปัญหาและต้องการความช่วยเหลือก็สามารถแจ้งได้ที่ Call Center 1337 ได้ตลอด 24 ชม.
ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้
อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี สนธิกำลังฝ่ายปกครองลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์ถังสารเคมีกลางป่าใก้ลบ่อน้ำบ้านโป่ง หลังมีมือดีลอบทิ้ง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรุดแจ้งความพร้อมปิดกั้นพื้นที่หวั่นกระทบชาวบ้าน
จากกรณีที่มีชาวบ้านร้องเรียนมายังสื่อมวลชนหลังจากมีกลุ่มบุคคลไม่ทราบจำนวน ขับรถบรรทุก 6 ล้อขนถังสารเคมีจำนวนมากนำมากองทิ้งไว้ บริเวณบ่อทรายเก่าใกล้แหล่งน้ำในพื้นที่ของชุมชนบ้านนาเหมือง ม. 5 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าสารดังกล่าวระบุเป็นสารชนิด “สไตรีน โมโนเมอร์ ” ซึ่งถูกกองทิ้งไว้อย่างระเกะระกะ มีสารบางชนิดที่มีกลิ่นฉุนรุนแรงไหลนองที่พื้นและซึมลงแหล่งน้ำในพื้นที่ดังกล่าว ส่งผลให้ชาวบ้านหวาดระแวงต่อสุขอนามัยนั้น
ล่าสุดเวลา 11.00 น.ของวันที่ 28 ส.ค.59 นายกิตติศักดิ์ มนต์แก้ว ปลัดเทศบาลตำบลโป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยนายนิกร กรัดกราย กำนันตำบลโป่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง และเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัย อุตสาหกรรมจังวหัดชลบุรี เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณที่ได้รับแจ้ง โดยพบเศษกองวัสดุเป็นถังบรรจุสารเคมีบางชนิดที่ถูกกองทิ้งไว้กว่า 50 ใบ ซึ่งบางส่วนฝาถูกเปิดทิ้งไว้จนมีสารภายในไหลซึมออกมาด้านนอกส่งกลิ่นฉุนรุนแรง นอกจากนี้ใกล้เคียงกันยังมีสภาพเป็นแหล่งน้ำ จึงได้การปิดกั้นพื้นที่ก่อนเข้าทำการเก็บตัวอย่างเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์
นายสุริยา วงษาศักดิ์ นักวิทยาศาสตร์ จากศูนย์วิจัยอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบยังคงไม่สามารถระบุได้ว่าสารเหล่านี้เป็นสารชนิดใด จึงคงต้องนำตัวอย่างส่งไปตรวจพิสูจน์ซึ่งคงใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นคาดว่าคงจะเป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมบางอย่าง ที่มีกลิ่นฉุนรุนแรงซึ่งอาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้ จึงควรหลีกเลี่ยงและอยู่ให้พ้นรัศมีของมลพิษนี้
ขณะที่ นายกิตติศักดิ์ มนต์แก้ว ปลัดเทศบาลตำบลโป่ง ระบุว่าจากนี้คงต้องทำการปิดกั้นพื้นที่เป็นการชั่วคราวเพื่อรอผลพิสูจน์จากอุตสาหกรรมจังหวัด พร้อมจัดกำลังมาเฝ้าระวังเนื่องจากหวั่นปัญหามล พิษทางกลิ่นและอาจเป็นสารไวไฟและก่อให้เกิดปัญหาอัคคีภัยขึ้นได้ ขณะที่ส่วนการดำเนินคดีนั้นจากนี้จะได้ไปแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐานไว้ก่อน แต่เบื้องต้นก็คงมองว่าเป็นสารเคมีที่จะส่งผลกระทบต่อชุมชน ซึ่งจะได้ประสานไปทางเจ้าของที่ดินเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงและติดตามดำเนินคดีกับผู้ลักลอบทิ้งต่อไป
ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้
โป่ง-(27 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในเขตพื้นที่ ม.5 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่ามีคนลักลอบน้ำสารเคมีมาทิ้งในพื้นที่บ่อทรายใกล้กับแหล่งน้ำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ชองชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกดังกล่าวได้ จึงลงพื้นที่เพื่อติดตามข้อเท็จจริง
ที่เกิดเหตุเป็นบ่อทรายขนาดใหญ่มีแหล่งน้ำขนาดเล็กอยู่ภายในพบถังสารเคมีขนาดกลางและขนาดใหญ่จำนวนหลายถึงถูกทิ้งไว้อย่างระเกะระกะ บางถังถูกเปิดออกพบสารเคมีไม่ทราบชนิดตกสู่พื้นดินและแหล่งน้ำ ส่งกลิ่นเหม็นจนแสบจมูก จนผู้สื่อข่าวทุกคนที่ลงพื้นที่ต้องเมินหน้าหนี ตรวจสอบสลากข้างถังระบุเป็นวัตถุอันตราย สไตรีน โมโนเมอร์
สอบถาม นายประวิทย์ ประดิษฐ์ธรรม อายุ 52 ปี ชาวบ้านรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว เล่าว่า 2-3 วันที่ผ่านมาเห็นรถฮีโน่ 6 ล้อ ได้ขับเข้ามาโดยบริเวณตัวรถมีผ้าคลุมอย่างมิดชิดก่อนจะมาลักลอบทิ้งสารเคมีดังกล่าว เนื่องจากเจ้าของพื้นที่ให้คนเอาขยะมาทิ้งในบ่อได้ เพราะต้องการจะถมที่ จนมีผู้ลักลอบเข้ามาทิ้งสารเคมีในที่สุด
ส่วนเรื่องผลกระทบนั้นในบางวันที่มีลมแรงก็จะพัดพากลิ่นสารเคมีเข้าบ้านเรือนประชาชนละแวกซึ่งมีความเหม็นอย่างรุนแรง ชาวบ้านจึงเกรงว่าหากปล่อยไว้นานจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่แก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านอย่างจริงจังด้วย เพราะหากปล่อยไว้นานวันมลพิษทางอากาศก็จะมีมากขึ้นจนอาจเกิดอันตรายต่อชาวบ้านได้
ข่าว/ ศูนย์ข่าวลับโคมันยอง
พัทยา-(27 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 11.00 น.นายเศรษฐพล บุญสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานด้านกฎหมายและให้คำปรึกษาผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่จัดระเบียบทางเดินเท้าสาธารณะริมถนนหาดจอมเทียน ภายหลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชนชนและนักท่องเที่ยวว่าไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณฟุตปาธปากซอย 5 ริมหาดจอมเทียนพบว่ามีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าบางรายตั้งร่านยื่นออกมากินพื้นที่ทางเดินเท้าทำให้ไม่สะดวกต่อการเดินสัญจรไปมา เบื้องต้นได้ทำการว่ากล่าวตักเตือนพร้อมขอความร่วมมือในการ่วมกันจัดระเบียบเพื่อให้หาดจอมเทียนเป็นหน้าตาของเมืองพัทยาต่อไป
นายเศรษฐพล บุญสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานด้านกฎหมายและให้คำปรึกษาผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการทวงคืนพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้สอยเพื่อให้เกิดกระโยชน์สูงสุด โดยไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดได้ประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว และหลังจากนนี้จะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจคิยติดตามการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอีกครั้ง
ข่าว/ ศูนย์ข่าวลับโคมันยอง
จากกรณีเกิดเหตุความวุ่นวายใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเหตุให้มีความเสียหายทั้งทางชีวิตและทรัพย์สิน โดยส่งผลกระทบด้านภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย จนปัจจุบันรัฐบาลพยายามควบคุมสถานการณ์เร่งหาคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี พร้อมให้ทุกพื้นที่มีการเฝ้าระวังเหตุความไม่สงบอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางมูลนิธิช่วยเหลือนักท่องเที่ยว นำโดย นายนพกร ส.ตันสกุล คณะกรรมการบริหารมูลนิธิ พร้อมเจ้าหน้าที่และตัวแทนจาก สภ.เมืองพัทยา ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบเหตุระเบิดที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมแสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่ากระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีความรู้สึกไม่ปลอดภัย การเดินทางไปเยี่ยมเยือนในครั้งนี้เพื่อตอกย้ำว่าเราคนไทยไม่ได้นิ่งดูดายกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน
นายนพกร ส.ตันสกุล คณะกรรมการบริหารมูลนิธิช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เปิดเผยว่า การไปเยี่ยมเยือนในครั้งนี้เพื่อสอบถามความต้องการว่าพวกเขาต้องการให้ช่วยเหลืออะไรพิเศษหรือไม่ ซึ่งทุกคนบอกว่าไม่ต้องแล้ว เพราะมีหน่วยงานหลายหน่วยงานมอบความช่วยเหลือ ทั้งส่วนราชการ และสถานทูตก็เข้ามาดูแล และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มีประกันภัยของตนเองอยู่แล้ว
ด้านตัวแทนผู้ประสบเหตุ เผยว่าต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีความพอใจและทราบซึ้งใจเป็นอย่างมาก เพราะได้เห็นถึงน้ำใจของคนไทยที่เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลของไทยด้วยเช่นกัน
ภาพ/ข่าว ศูนย์ข่าวลับโคมันยอง
พัทยา-(12 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านไก่ย่าง ชุมชนไปรษณีย์นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ขึ้นป้ายประกาศ “วันแม่ให้กินไก่ย่างฟรี” เพื่อคืนกำไรให้ลูกค้า และต้องการทำบุญเนื่องในวันแม่ โดยเฉพาะกับเด็กๆที่ครอบครัวยากจนในชุมชน จะได้กินของดีๆ อิ่มท้อง และประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัว สร้างความฮือฮาให้ชาวบ้านละแวกดังกล่าวเป็นอย่างมาก
โดยเจ้าของร้านคือ นางนัย สิงห์เรือง กล่าวว่าปกติจะขายไก่ย่าง ไม้ละ 10 บาท เด็กๆ และคนทำงานสามารถหาซื้อได้ และยังกินอิ่มท้องก่อนไปโรงเรียนและทำงาน แต่เห็นว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี บางครอบครัวแทบจะไม่มีรายได้ บางครอบครัวมีลูกมาก จึงเกิดความเห็นใจ ประกอบกับอยากทำบุญให้กับแม่ที่ล่วงลับไปแล้วนานกว่า 10 ปี ที่สำคัญพุทธศาสนาสอนให้เรารู้จักการให้กับเพื่อนมนุษย์ จึงคิดให้บริการแจกไก่ย่างฟรี 200 ไม้ น่องไก่ทอด 15 กิโลกรัม และข้าวเหนียว 10 กิโลกรัม ในช่วงวันแม่ 12 สิงหาคม 2559 นี้ โดยปีนี้ก็เริ่มทำเป็นปีแรกและจะทำเป็นประจำทุกปีต่อไป
ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้
พัทยา-(12 ส.ค. 59) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา เรียกประชุมด่วนหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เป็นการเร่งด่วน เพื่อร่วมหารือในการจัดเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ปัญหาความไม่ปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยว หลังเกิดเหตุความไม่สงบจากการลอบวางระเบิดในหลายพื้นที่ของประเทศในช่วงวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีของการป้องกันเหตุร้ายในช่วงระหว่างการชุมชนของตัวแทนจากองค์กรภาครัฐ เอกชน ผู้นำชุมชน และประชาชนจำนวนมากที่จะมาร่วมตัวกันเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมการถวายราชสดุดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ในเวลา 18.30 น.ของวันเดียวกันนี้ ที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ จ.ชลบุรี ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่เมืองพัทยาจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
นายชนัฐพงศ์ กล่าวว่า กิจกรรมนี้ในทุกปีจะมีตัวแทนจากภาคต่างๆ เข้าร่วมงานนับพันคน เพื่อร่วม กันแสดงความจงรักภักดีและถวายราชสดุดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนารถ แต่จากเหตุ การณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นจึงต้องมีการหารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์ด้านการท่อง เที่ยวอีกด้วย จึงมีคำสั่งด่วนให้ยกเลิกการเดินขบวนเทิดพระเกียรติที่มีเส้นทางผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างถนนวอล์คกิ้ง สตรีท พัทยาใต้ และการจัดกิจกรรมบริเวณสถานที่เดิมคือท่าเรือแหลมบาลีฮาย เนื่อง จากเป็นพื้นที่เปิดและค่อนข้างล่อแหลม อีกทั้งยังมีความยากลำบากในการเฝ้าระวังป้องกันเหตุ โดยมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ในการจัดกิจกรรมมายังบริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี แทน โดยได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เข้าร่วมทราบไปแล้ว
ในการนี้ได้มีการประสานสนธิกำลังจากทุกภาคส่วนในการเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ทั้งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดหรือ EOD กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ในส่วนสังกัดของเมืองพัทยา เพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รวมทั้งขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะ แสเกี่ยวกับบุคลหรือวัตถุต้องสงสัยเพื่อเป็นการป้องกันเหตุอย่างรัดกุม ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวจะมีการดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมภาคีทุกเครือข่ายที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้
ค่ำคืนวันที่ 8 สิงหาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีชและสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา พบว่ามีแฟนพันธุ์แท้เกมโปเกมอนทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาเล่นเกมกันอย่างหนาตาทำให้ดูคึกคักขึ้นมาถนัดตา ทั้งยังสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบกิจการร้านค้าในละแวกใกล้เคียงอีกด้วย
ทั้งนี้ ยังมีบางรายที่ใช้วิธีการขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไปตามท้องถนนเพื่อไล่จับโปเกมอนหายาก บางรายถึงกับว่าจ้างรถจักรยานยนต์รับจ้างและรถสหกรณ์แท็กซี่ เพื่อตระเวนเล่นเกมกันเลยทีเดียว แต่บางรายก็เลือกที่จะใช้บริการสหกรณ์สองแถวเนื่องจากราคาย่อมเยากว่า สร้างความแปลกตาให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเด็กนักเรียนจับกลุ่มเล่นกันจนดึกดื่น โดยที่ไม่มีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด สร้างความเป็นห่วงให้กับผู้พบเห็นด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานอีกว่ามีผู้ปกครองที่พบเห็นกลุ่มเด็กนักเรียนอายุประมาณ 12-15 ปีที่รวมตัวกันเล่นเกมกันจนมืดค่ำ ว่าเป็นการติดเกมมากจนเกินไปจนไม่กลับบ้านหรือไม่ จึงอยากวอนให้ผู้ปกครองทุกท่านดูแลให้บุตรหลานอย่างใกล้ชิดหากหนีออกมาเล่นเกมเกรงว่าจะเกิดอันตราย นอกจากนี้ยังอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านให้ช่วยตรวจตราในจุดที่เปลี่ยวและมีความเสี่ยงต่อการอาจเกิดอันตรายกับผู้ที่เล่นเกมจนไม่คำนึงถึงภัยที่อาจแฝงเข้ามาในรูปแบบต่างๆด้วย
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
จากกระแสสังคมออนไลน์ที่มีการโพสต์และแชร์ภาพหญิงสาวคนหนึ่งที่ชาวเน็ตขนานนามว่า “ช่างแอร์สาวในตำนาน” กำลังทำงานบริการล้าง และซ่อมแอร์อย่างขมักเขม่นผ่านแฟนเพจเฟสบุ๊คชื่อดังจนเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้นั้น
เมื่อวันที่ 5 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังแฟนเพจดีถาวร แอร์เซอร์วิส เพื่อสอบถามข้อมูลพร้อมประสานให้ทีมช่างแอร์สาว ให้มาทำการล้างเครื่องปรับอากาศ ณ สำนักงานผู้สื่อข่าวเพื่อบันทึกภาพการทำงานและนำเสนอข่าว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากช่างแอร์สาวเป็นอย่างดี
ทั้งนี้เมื่อถึง ช่างแอร์สาวได้แนะนำตัว ชื่อ น.ส.ศุทธนุช ขำสม อายุ 26 ปี หรือ น้องมะนาว พร้อมนำอุปกรณ์มาทำการชำระล้างเครื่องปรับอากาศภายในสำนักงานด้วยท่าทีที่แข็งขันทะมัดทะแมง โดยแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างเป็นสัดส่วน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ
น.ส.ศุทธนุช ขำสม หรือ น้องมะนาว เผยว่า ปกติตนเองประกอบอาชีพเป็นพนักงานบัญชีฟรีแลนด์ ส่วนอาชีพช่างแอร์ทำเป็นอาชีพเสริมหารายได้พิเศษ ภายหลังตกเป็นกระแสในโลกโซเซียลก็มีคนโทรศัพท์เข้ามาติดต่อใช้บริการล้างแอร์ และซ่อมแอร์เป็นจำนวนมาก ทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นจากที่เคยได้อยู่วันละ 2 ราย ก็เพิ่มขึ้นเป็น 4-5 ราย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็มีบางสายโทรเข้ามาออกแนวโรคจิต บ้างจะให้ล้างแอร์แต่ให้มาคนเดียว บ้างชวนคุยโน่นนี่สารพัด บ้างโทรมาถามว่ากินข้าวแล้วยัง แต่ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดแต่ว่าทำงานให้ลูกค้าพอใจก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะกำลังทำการบันทึกภาพเพื่อถ่ายทำการทำงานอยู่นั้น ได้มีลูกค้าจากจังหวัดสงขลาได้โทรศัพท์ติดต่อเข้ามายังน้องมะนาวเพื่อติดต่อใช้บริการ แต่น้องมะนาวได้ชี้แจงว่าให้บริการในเขตเมืองพัทยาและจังหวัดชลบุรีเท่านั้น สร้างความฮือฮาและเรียกรอยยิ้มให้กับผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี
ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้
พัทยาอัพเดทนิวส์ นำเสนอ ฉับไว เพื่อสังคม