พัทยา-(12 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ.10) พร้อมเจ้าหน้าที่ติดตาม เดินทางมายังห้อง ศปก. สภ.บางละมุง เพื่อมาติดตามและสอบถามความคืบหน้าของคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์เงินสด 8.8 ล้านบาท ขณะ 2 พนักงานบริษัทแซมโก้ไปขนเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์สาขาบิ๊กซี พัทยาใต้ แล้วหลบหนีลอยนวล

โดยมี พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภาค2 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพัทยา ชุดสืบสวนบางละมุง ชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี สืบสวนภาค2 เข้าร่วมประคืบความคืบหน้าพร้อมสรุปในคดีดังกล่าว โดยการประชุมใช้เวลากว่า 1 ชม. และไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับฟัง หลังประชุมเสร็จจึงได้เปิดเผยรายละเอียดของการประชุมส่วนการประชุมในครั้งนี้

ส่วนการประชุมในครั้งนี้ทาง พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ.10) ติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญในพื้นที่ ภ.จว.ชลบุรี และ ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้แก่ 1. คดีชิงทรัพย์รถขนเงิน พื้นที่ สภ.เมืองชลบุรี 2.คดีชิงทรัพย์รถขนเงิน พื้นที่ สภ.เมืองพัทยา 3. คดีพยายามลักทรัพย์ตู้กดเงิน พื้นที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา 4. คดีพยายามลักทรัพย์ตู้กดเงิน พื้นที่ สภ.เขาหินซ้อน ห้องประชุม สภ.บางละมุง จว.ชลบุรี และจะประชุมผ่านระบบประชุมทางไกลผ่านจอภาพกับทาง ภ.จว.ฉะเชิงเทรา

ส่วนความคืบหน้ากรณีปล้นเงินภายในจังหวัดชลบุรี หลังจากการประชุมเสร็จ ทาง พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ.10) ได้ออกมาเปิดเผยว่า จากการประชุมความคืบหน้าในเบื้องต้นที่คนร้ายก่อเหตุในพื้นที่ฉะเชิงเทรานั้นมีโอกาสหน้าจะเป็นคนคนเดียวกัน เนื่องจากพาหนะที่ใช้ พฤติกรรมที่ทำรวมทั้งรูปพรรณคนร้าย

ส่วนในพื้นที่จังหวัดชลบุรีคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นคนละคนกัน และวิธีการทำน่าจะเป็นคนละแก๊งกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำงานกำลังเร่งสืบสวนและคลีคลายคดี นอกจากนั้นทางผู้การแต่ละจังหวัดประสานงานไปยังบริษัทแซมโก้เพื่อไม่ให้เสียภาพลักษณ์และเกิดความเสียหายไปมากกว่านี้
ส่วนในกรณีในที่คนร้ายปล้นเงิน 8.8 ล้านหน้า ห้างบิ๊กซี พัทยาใต้ นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกบุคคลต้องสงสัยมาสอบสวนรวมทั้งตรวจค้นบ้านพักคนบุคคลเหล่านั้นที่คาดว่าน่าจะมีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวคนร้าย ซึ่งคาดว่ารู้จะเห็นกับคนร้าย หรือให้ช่องทางจนทำให้คนร้ายสามารถไปก่อเหตุได้ ซึ่งบุคคลเหล่านั้น (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวมาสอบสวนเพื่อจะหาข้องมูลของคนร้ายได้ ซึ่งบุคคลที่เราเรียกมาไม่ได้เป็นบุคคลต้องสงสัย เป็นเพียงบุคคลที่อาจจะให้ข้อมูลไปถึงคนร้ายได้

ภาพ/แบงค์ สุขวัฒนะ

ข่าว/อนันต์ สุขวัฒนะ

พัทยา-(12 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 16.30 น. พ.ต.อ.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผกก.ตม.จว.ชลบุรี สืบทราบว่ามีชาวต่างชาติลักลอบทำใบขับขี่ปลอมที่ ร้านปริ๊นท์ เอ็กซ์เพรสส์ 143/84 ซอย10 ถนนเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.รัชทพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผกก.สส. วางแผนส่งสายลับชาวต่างชาติติดต่อขอใช้บริการกระทั่งได้หลักฐานแน่ชัดจึงประสาน พ.ต.สมเกียรติ ซึมกลาง หน.ชป.พท.บางละมุง มทบ.14 นำกำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี และทหาร มทบ.14 ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี อาศัยอำนาจตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/2559 บุกเข้าจับกุม

โดยสถานที่ดังกล่าวเป็นตึกแถวสูง 4 ชั้น ด้านล่างเป็นห้องว่างเปล่ามีบันไดทางขึ้นไปยังชั้นบน ตรวจสอบบริเวณชั้น 2 ซึ่งเปิดเป็นออฟฟิศโรงพิมพ์ย่อยๆ พบ Mr.Ruslan Galliamov อายุ 29 ปี สัญชาติรัสเซีย เจ้าของโรงพิมพ์ นั่งอยู่กับภรรยาชาวไทย โดยมีชายชาวรัสเซีย 3 คน และหญิงชาติเดียวกัน 1 คน นั่งอยู่บริเวณโต๊ะรับแขก จึงควบคุมตัวไว้ ก่อนทำการตรวจค้นพบเอกสารใบขับขี่ปลอมของประเทศรัสเซีย , ใบรับรองจากสถานกงสุลรัสเซีย และใบรับรองแพทย์ ที่ปลอมแปลงขึ้นมา รวมถึงนามบัตรภาษารัสเซียที่มีรูป นายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ติดอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ตรวจค้นในกระเป๋าเป้ของ Mr.Abdul Ivanov อายุ 22 ปี ชาวรัสเซีย ที่นั่งอยู่บริเวณโต๊ะรับแขก เจอใบขับขี่ประเทศรัสเซีย ใบรับรองแพทย์ และใบรับรองสถานบุคคลจากสถานกงสุลรัสเซียปลอมอีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นจึงยึดของกลางทั้งเอกสารทางราชการปลอมและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน Mr.Ruslan Galliamov เจ้าของโรงพิมพ์ ให้การรับสารภาพว่า ปกติจะเปิดโรงพิมพ์รับสกรีนเสื้อและทำนามนามรับบังหน้า แต่ฉากหลังทำใบรับรองสถานกงสุล ใบรับรองแพทย์ และขับขี่ปลอมของประเทศรัสเซียให้กับลูกค้าชาวรัสเซียมาได้ประมาณ 3-4 เดือนแล้ว เนื่องจากปกติชาวรัสเซียที่มาทำธุรกิจหรือพักอาศัยในเมืองไทย หากต้องการทำใบขับขี่ของประเทศไทย จะต้องมีใบขับขี่ของรัสเซียเสียก่อน โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่ต้องการใช้บริการจะติดต่อมาทางอินเตอร์เน็ตตามที่อยู่ที่แนบไว้ในนามบัตร หรือไม่ก็ติดต่อผ่าน Mr.Abdul Ivanov ลูกน้องชาวรัสเซีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นเซลล์คอยติดต่อหาลูกค้า และจะคิดราคาค่าบริการรายละ 6-8 พันบาท จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว Mr.Ruslan Galliamov เจ้าของโรงพิมพ์ กับ Mr.Abdul Ivanov ซึ่งทำหน้าที่เซลล์ มาดำเนินคดีในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ก่อน ส่วนชายรัสเซีย 2 คน กับหญิง 1 คน ที่อยู่ในร้านเบื้องต้นได้นำตัวมาตรวจสอบ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

พัทยา-(12 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 01.30 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งว่ามีเหตุ ชายหนุ่มกินน้ำยาซักผ้าขาวไฮเตอร์หวังฆ่าตัวตาย เหตุเกิดขึ้นภายในบ้านพักเลขที่ 423/40 ของหมู่บ้านพัฒนาพร ตั้งอยู่กลางซอยบงกช ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงสั่งให้การ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพนำรถฉุกเฉิน เดินทางไปช่วยเหลือ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณทางประตูเข้าบ้านพัก เจ้าหน้าที่พบร่าง นายบุญร่วม สะตะ อายุ 33 ปี พ่อค้าขายปลาหมึกสดย่าง นอนอาเจียนและมีฟองน้ำยาไฮเตอร์ไหลออกจากปากจำนวนมาก ใกล้กันพบขวดน้ำยาซักผ้าขาวไฮเตอร์ ขนาด 600 มิลลิลิตร ถูกดื่มกินจนหมดขวด ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อทำการรักษาเร่งด่วน

สอบถาม น.ส.บัวรี ดอกบก อายุ 27 ปี แฟนสาว ให้การว่า นายบุญร่วม เป็นแฟนหนุ่มที่คบหากันมานาน ทั้งคู่ได้ประกอบอาชีพขายปลาหมึกสดย่างตามชายหาดเมืองพัทยา ก่อนเกิดเหตุได้ทะเลาะกันเรื่องส่วนตัว ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยลายละเอียดได้ หลังจากมีปากเสียงกัน นายบุญร่วม ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกไปข้างนอก เพื่อซื้อน้ำยาซักผ้าขาวไฮเตอร์ เมื่อมาถึงบ้านก็เปิดฝาขวดแล้วซดน้ำยาหวังฆ่าตัวตายดังกล่าว

ภาพ/ข่าว Ku Salick

ที่ปรึกษา สบ.10 แถลงผลการกวาดล้างอาชญากรรมช่วงสงกรานต์ ตรวจยึดอาวุธปืน และยาเสพติดจำนวนมาก หวังสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในแต่ละพื้นที่เพื่อความปลอดภัย

พัทยา-(12 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา(สบ.10) พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ขนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง ร่วมแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาทิ ปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล ยาเสพติด และจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 1-10 เม.ย.59 โดยผลการจับกุมมีดังนี้

ในคดีอาวุธสงคราม จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลาง อาวุธปืนเอ็ม 16 เอ จำนวน 1 กระบอก, คดีอาวุธปืน(ธรรมดา)จับกุมผู้ต้องหา 145 ราย พร้อมของกลางอาวุธปืนจำนวน 152 กระบอก และกระสุนปืนอีก 982 นัด และสามารถบุกทลายแหล่งผลิตอาวุธปืนเถื่อนในพื้นที่ สภ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลาง เครื่องกลึงอาวุธปืน แท่นสว่าน ปากกาหนีบตั้งโต๊ะ มอเตอร์เจียร ปืนอัดลม และชิ้นส่วนในการประกอบปืนอีกจำนวนมาก

ส่วนคดีเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งหมด 480 คดี จับกุมผู้ต้องหา 493 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 17,113 เม็ด ยาไอซ์ 312.31 กรัม ยาอี 200 เม็ด และกัญชา 1,418.49 กรัม นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายได้อีก 1,472 หมาย

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

พัทยา-(11 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 01.30 น. พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสคร รอง ผกก.ปป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้พลัดตกจากที่สูงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในโรงแรมจอมเทียน โฮเทล ลองสเตย์ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บคือนายอ๋อง (นามสมมุติ) อายุ 25-30 ปีสัญชาติกัมพูชา ตกจากระเบียงชั้นที่6 ของโรงแรมลงหลังคาก่อนร่างจะตกกระแทกพื้น ได้รับบาดเจ็บนอนหายใจโรยริน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน

สอบถาม นายสายันต์ เม้นทอง อายุ 59 ปี พนักงานโรงแรม ให้การว่า ซึ่งในขณะที่ตนเองเดินตรวจตราอยู่นั้นได้ยินเสียงเหมือนมีวัตถุขนาดใหญ่ตกใส่หลังคาดังสนั่นหวั่นไหว จึงได้เดินไปตามต้นเสียงพบว่าผู้บาดเจ็บพลัดตกลงมาจากห้องพักนอนแน่นิ่งจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ผู้บาดเจ็บพักอยู่ชั้น 6 ห้อง 607 กับคู่ขาชาวต่างชาติทราบชื่อคือ MR.GRAHAM BRETT STICKELLS อายุ 47 ชาวแอฟริกาใต้ แต่ไม่ทราบว่าน้อยใจเรื่องอะไร เนื่องจากคู่ขาต่างชาติอยู่ในอาการตกใจและสื่อสารไม่รู้เรื่อง ทำให้ผู้บาดเจ็บกระโดดลงมาจากระเบียงห้องพักดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

หนุ่มเจ้าของร้านอินเทอร์เน็ต โพสต์วงจรปิดแฉพฤติกรรมสาวทอมลักขโมยโน้ตบุ๊ค พร้อมประกาศหากนำมาคืนจะให้อภัยไม่ดำเนินคดี แต่สุดท้ายหายเงียบโร่แจ้งความร้องทุกข์เอาผิด

พัทยา-(10 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 00.30 น. นายถาวร คงถาวร อายุ 38 ปี เจ้าของร้านอินเทอร์เน็ต เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ยุทธพล บุญเกิด รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่าถูกผู้หญิงคล้ายทอมบอย ลักขโมยคอมพิวเตอร์แบบพกพาหรือโน้ตบุ๊ค ยี่ห้อ HP จำนวน 1 เครื่องไป เหตุเกิดภายร้านอินเทอร์เน็ตพัทยาเวฟ ภายในซอยโพธิสาร ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดย นายถาวร คงถาวร (ผู้เสียหาย) เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำโน้ตบุ๊กไปลงโปรแกรม แล้วได้วางโน้ตบุ๊กไว้บนเครื่องถ่ายเอกสาร แต่เมื่อปิดร้านจะนำโน้ตบุ๊กมาใช้งานกลับหาไม่พบ จึงได้เปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่ากล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ โดยสาวลักษณะทอมบอยได้เข้ามาใช้บริการประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นได้อาศัยจังหวะเผลอ แอบหยิบคอมพิวเตอร์แบบพกพาหรือโน้ตบุ๊คซุกซ่อนในเสื้อแล้วเดินออกจากร้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุก็ยังไม่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ แต่ได้นำภาพวงจรปิดไปโพสต์ยังเพจดัง “เรารักพัทยา” โดยมีข้อความระบุว่า “ท่านใดรู้จักหรือตัวบุคคลในวีดีโอนี้ได้ดูอยู่โปรดนำโน้ตบุ๊กตัวสีขาวที่ท่านได้หยิบไปมาคือทางร้านเราด้วยมิเช่นนั้นเราจะแจ้งดำเนินคดี เราให้เวลาท่านแค่วันที่ 9 เมษายน ก่อน 17.00 น. เท่านั้น” หวังว่าผู้ก่อเหตุจะกลับใจแต่ก็ไม่มีวี่แววจึงเดินทางเข้าแจ้งร้องทุกข์ความดังกล่าว

ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนออกหมายจับผู้ก่อเหตุรายนี้ และติดตามตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(9 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 02.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งรถจักรยานยนต์แหกโค้งเสียหลักล้มคว่ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เหตุเกิดภายในซอย 17 เทพประสิทธ์ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า R15 อยู่ในสภาพล้มคว่ำได้รับความเสียหาย ข้างกันพบผู้บาดเจ็บ 2 รายเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 18-20 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ทำการปั้มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต ก่อนเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล เพื่อให้การรักษาอย่างเร่งด่วน

สอบถามทราบว่า ผู้บาดเจ็บได้ซิ่งรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์หลบหนีคู่อริ ซึ่งติดตามมาด้วยความเร็ว จนกระทั่งมาถึงโค้งเกิดเสียหลักหลุดโค้งพุ่งชนอัดกับกำแพงอย่างจังได้รับบาดเจ็บ ก่อนมีพลเมืองดีผ่านมาเห็นจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยฯเข้าช่วยเหลือดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(9 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 18.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม และพ.ต.สมเกียรติ ซึมกลาง หัวหน้าชุดปฏิบัติการ มณฑลทหารบกที่ 14 พื้นที่อำเภอบางละมุง ได้ร่วมกันนำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ออกตรวจสอบแหล่งมั่วสุม อาทิร้านเหล้า โต๊ะสนุกเกอร์ แหล่งชุมชนเป้าหมาย บนเกาะล้าน เมืองพัทยา เพื่อเป็นการจัดระเบียบสังคมและป้องกันเหตุร้ายช่วงเทศกาลสงกรานต์

สำหรับการออกตรวจสอบพื้นที่เกาะล้านครั้งนี้ จุดเป้าแรกเป็นโต๊ะสนุกเกอร์ ตั้งอยู่ถนนเส้นศาลเจ้าพ่อดำ ซึ่งได้รับการร้องเรียนมาว่ามีการลักลอบเล่นไพ่พนันเอาทรัพย์สินกัน เมื่อเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจสอบ ปรากฏว่านักพนันจำนวน 6-8 คน ที่ร่วมวงแตกตื่นพากันวิ่งหลบหนีไปได้ทั้งหมด โดยอาศัยเป็นผู้ชำนานพื้นที่วิ่งหลบเข้าไปในป่ามืดทึบ ตรวจค้นห้องพักในโต๊ะสนุกเกอร์ สามารถยึดไพ่ไม่เสียภาษีสรรพสามิต 23 สำรับ โดยมี นายสัมฤทธิ์ ขวัญม่วง อายุ 54 ปี รับเป็นเจ้าของไพ่ โดยให้การยอมรับว่าเปิดมักจะมีผู้อาศัยพื้นที่โต๊ะสนุกเกอร์ เปิดวงพนันเล่นไพ่สมสิบกันเป็นประจำ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตระเวนตรวจตราร้านเหล้าจำนวนหลายแห่ง บนพื้นที่เกาะล้าน พบว่าส่วนใหญ่มีใบจำหน่ายสุราถูกต้องตามกฎหมาย และให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเป็นอย่างดี แต่ยังพบว่าร้านเหล้าสุดเขต ตรวจสอบพบว่าไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุรา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายทิวา กุลทอง อายุ 36 ปี เจ้าของร้านดำเนินคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการร้านเหล้าบนเกาะล้าน ในการเปิด-ปิด ตรงเวลา หากมีการร้องเรียนในการเอารัดเอาเปรียบลูกค้าและเปิดเกินเวลาจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้น

นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า จากการนำกำลังฝ่ายปกครอง ทหาร ตรวจ ลงพื้นที่บนเกาะล้าน สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญขึ้นชื่อของเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ และยังเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย หากนักท่องเที่ยวรายใดเดินทางมาท่องเที่ยวถูกเอารัดเอาเปรียบไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางละมุงได้ตามวันเวลาราชการ

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(9 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.ท.(หญิง) เกวลีศิริ ผาสุขธนไพศาลรองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น MR.NAVEEN BANSAL อายุ 25 ปี สัญชาติอินเดีย ว่าถูกสาวประเภทสองล้วงกระเป๋าได้ทรัพย์สินไป กว่า 45,000 บาท แล้วขับขี่จยย.หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

MR.NAVEEN BANSAL ให้การผ่านล่ามแปลภาษาว่าในขณะที่ยืนรอกลุ่มเพื่อนอยู่บริเวณหน้าโรงแรมเบลล่า เอ็กเพลส พัทยากลาง ได้มีสาวประเภทสอง 2 คน จอดรถจยย. แล้วเดินเข้ามาทำทีพูดคุยตีสนิท ก่อนอาศัยจังหวะที่ตนเองเผลอล้วงกระเป๋าเงินไป มารู้ตัวอีกทีพบว่ากระเป๋าเงินได้หายไปเป็น 1,200 ดอลล่า 5000 ลูปี รวมเป็นเงินไทยประมาณ 45,000 บาท หลังเกิดเหตุจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้น ร.ต.ท.(หญิง) เกวลีศิริ ผาสุขธนไพศาล รองสารวัตรสอบสวน เจ้าของคดี หลังรับแจ้งได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

จากกรณี ช่วงเย็นวันที่ผ่านมา คนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์รถขนเงินของบริษัท สยามแอดมินนิสเทรทีฟ แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ แซมโก้ เหตุเกิดบริเวณธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพัทยาใต้ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้ถุงเงินสดจำนวน 8.8 ล้านบาท ก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดย พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านจุดสกัดในพื้นที่ อ.บางละมุง แต่ยังไร้วี่แววคนร้าย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันเดียวกัน พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุก รองผบช.ภ2 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่กองวิทยาการ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเก็บหลักฐานสำคัญต่างๆ และสอบปากคำพยานแวดล้อม ในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนจำนวน 2 ปลอก และพบหัวกระสุน 1 หัว ฝังอยู่บริเวณประตูท้ายรถ

จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมและกล้องวงจรปิด ทราบว่า คนร้ายลักษณะเป็นชายไทย 1 คน แต่งกายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีน้ำเงิน คล้ายเสื้อวอล์มทีมฟุตบอลเชลซี กางเกงขายาวสีทึบ ก่อเหตุโดยได้อาศัยจังหวะ ขณะที่ 2 พนักงานขนเงินกำลังหิ้วถุงเงินสีเขียวออกจากธนาคารไทยพาณิชย์ และกำลังเปิดประตูรถเพื่อนำถุงเก็บ

จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธขนาด 9 มม.ยิงขึ้นฟ้า 1 นัด เปิดเพื่อทาง ทำให้เหตุการณ์ชุลมุน ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งมาหยิบถุงเงิน และยิงไปที่รถขนเงินอีก 1 นัด ก่อนขับขี่ รถจักรยานยนต์ แบบออโตเมติก คล้ายยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว มือจับหลังสีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลบหนีย้อนศรไปทางถนนเทพประสิทธิ์อย่างรวดเร็ว

ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนีพบว่า คนร้ายได้ขับรถหลบหนีย้อนศรไปทางตามถนนพัทยาใต้ ก่อนขับเข้าไปในซอยเขาตาโล ผ่านทางรถไฟ และเลี้ยวหายไปบริเวณแยกวัดบุญสัมพันธ์ คาดว่า เลี้ยวไปตามเส้นทางวัดเขาเสาธงทอง

ภายหลังการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุก รอง.ผบช.ภ.2 ได้จัดประชุมความคืบหน้าคดี พร้อมสั่งการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน อาทิ ชุดสืบสวนภาค ชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี และ ชุดสืบสวน สภ.พัทยา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ใกล้เคียง ระดมกำลังเร่งหาเบาะแสของคนร้าย เพื่อไล่ล่าติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย