พัทยา-(21 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 17.00 น.ร.ต.อ.สิทธาวัชร์ ชลกรชียรรัตน์ รอง สว.สอบสวน สภ.บางละมุง พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา ร่วมตรวจสอบเหตุรถบรรทุกน้ำชนร้านสะดวกซื้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาที่ 01812 หนองเกตุใหญ่ ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิทพัทยา 15 (แยกไฟแดงหนองเกตุใหญ่-สุขุมวิท) ถนนสุขุมวิท ม.2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกน้ำสีฟ้าคาดขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พุ่งชนเข้าด้านข้างร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาที่ 01812 หนองเกตุใหญ่ จนกำแพงตรงใกล้กับเคาน์เตอร์คิดเงินทะลุ โชคดีไม่มีพนักงานร้านเซเว่นได้รับบาดเจ็บมีเพียง นายศิวะ มหาพรม อายุ 25 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยาจึงได้ทำการปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลแหลมฉบังไปก่อนหน้า

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายศิวะ มหาพรม ขับรถบรรทุกน้ำมาจากภายในซอยหนองเกตุใหญ่มุ่งหน้าออกสุขุมวิท มาถึงที่เกิดเหตุเป็นจังหวะสัญญาณไฟแดง นายศิวะไม่สามารถเบรกรถได้จึงตัดสินใจหักเข้าชนร้านเซเว่น เนื่องจากด้านหน้ามีรถ จยย.หลายคันจอดติดไฟแดงอยู่

หลังบันทึกภาพที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ ก่อนรอ นายศิวะ มาให้ปากคำถึงสาเหตุที่แท้จริงก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พัทยา-(22 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผกก.สส.สภ.นาจอมเทียน ช่วยราชการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ภ.จว.ชลบุรี หรือ ศปอช. พร้อมกำลังตำรวจ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายมนัสนันท์ หรือหนิง ศรีบาล อายุ 32 ปี ชาว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี นายเอกพันธุ์ หรือเกรซ ภูสระไสย์ อายุ 23 ปี ชาว อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ และนายนัฐตพงษ์ หรือนก ดวงศรี อายุ 27 ปี ชาว อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี 3 สาวประเภทสอง ผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมี นายซามัน กุมารา (Mr.Saman Kumara) อายุ 28 ปี ผู้เสียหายชาวศรีลังกา ชี้ให้จับกุม

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีคดีสาวประเภทสองก่อเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไปเดินเล่นอยู่บริเวณริมชายหาดเมืองพัทยาอยู่เป็นประจำ ทาง พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี จึงสั่งการให้ตำรวจ ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี และ สภ.เมืองพัทยา ร่วมกันออกหาข่าวเพื่อติดตามจับกุมคนร้าย เพราะกรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว

กระทั่งกลางดึกวันนี้ (22 พ.ค.) ตำรวจจึงวางกำลังสายลับเฝ้าสังเกตการณ์พร้อมถ่ายคลิปวิดีโอพฤติกรรมต้องสงสัย อยู่บริเวณริมชายหาดพัทยา ตรงข้ามซอย 13 ย่านพัทยาใต้ ในเวลาต่อมาพบผู้ต้องหาสาวประเภทสองทั้ง 3 คน กำลังทำทีเข้าไปรุมโอบกอด นายซามัน กุมารา นักท่องเที่ยวชาวศรีลังกา ก่อนที่นายเอกพันธุ์ หรือเกรซ จะแอบปลดสร้อยคอทองเคพร้อมจี้ น้ำหนัก 6.9 กรัม ที่ นายซามัน กุมารา สวมใส่อยู่ และกำลังจะพากันหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มอยู่ใกล้เคียงจึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว

และได้ควบคุมตัวทั้ง 3 คนมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เคยร่วมกันก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง เพื่อนำเงินไปปรนเปรอผู้ชายและเล่นการพนัน เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

แชร์สนั่นคลิปพ่อค้าน้ำส้มคั้นพัทยาหัวใส ผสมน้ำประปากับเชื้อน้ำส้ม ขายนักท่องเที่ยว ด้านผู้ค้ารายอื่นโวยเดือดสร้างความเสื่อมเสียแก่อาชีพและภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว

จากกรณี แชร์สนั่นโลกโซเซียลในเฟสบุ๊คชื่อ “จันทรภร จี๊ดเจริญ” ระบุใจความว่า “มาที่ท่าเรือเพื่อข้ามไปเกาะล้าน ที่จอดรถ บังเอิญเห็นคนเห็นแก่ตัว #เสื่อม น้ำส้มคั้นเป็นขวดๆ คือมึงเอาขวดกอกน้ำประปา แล้วเอาหัวเชื้อน้ำส้มใส่ และเขย่า…” ก่อนที่เพจ “เรารักพัทยา” นำวีดีโอของจันทรภร จี๊ดเจริญมาแชร์ต่อ “เขาว่าพัทยา แถวมาท่าเรือเพื่อข้ามไปเกาะล้าน ขายน้ำส้มกอกน้ำประปาใส่ขวด เติมหัวเชื้อน้ำส้มเขย่า แล้วก็ขายขวดละ 20 บาท” จนมีคนเข้าไปชมและคอมเม้นท์แสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก สร้างความเสียหายกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก

เมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 21 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณท่าเทียบเรือท่องเที่ยว (แหลมบาลีฮาย) เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือข้ามไปยังเกาะล้าน และพบบริเวณที่คนถ่ายคลิประบุซึ่งเป็นบริเวณหน้าร้านอาหารอิตาเลียนที่ปิดบริการไปแล้ว จากตรวจสอบยังพบฝาขวดพลาสติกตกอยู่ แต่ไม่พบผู้ชายคนได้ภาพตามที่ปรากฏในวีดีโอ

ด้าน ป้ากอง ครุฑจร อายุ 52 ปี แม่ค้าขายไก่ทอดตรงจุดที่ถ่ายคลิปเล่าว่า เห็นผู้ชายตามภาพในคลิปเป็นประจำปกติจะมาแล้ว แต่วันนี้ยังไม่เห็นเลย แต่ตนเองไม่ได้สนใจเพราะเห็นเพียงกำลังบรรจุน้ำส้มคั่นใส่ขวด จึงไม่ได้คิดเอะใจอะไร และไม่ทราบว่าใช้น้ำประปาในการผสมด้วย

ด้านนางราตรี เคารพครู อายุ 65 ปี แม่ค้าขายน้ำซึ่งก็ขายน้ำส้มคั้นด้วย เล่าว่า ไม่รู้เรื่องดังกล่าวแต่ตนเองบอกได้เลยว่าน้ำส้มคั้นของตนเองคั้นจากน้ำส้มแท้ และขายมานานไม่เคยทำแบบในวีดีโอที่นักท่องเที่ยวถ่ายได้ และให้สังเกตน้ำส้มของตนเองจะมีเนื้อของตัวส้ม และสีจะเข้มเมื่อชิมรสชาติแล้วจะรู้ว่าเป็นน้ำส้มคั้นแท้

ส่วนของ นางปรารอม โสอุดม อายุ 46 ปี แม่ค้าน้ำส้มที่ท่าเทียบเรือเช่นกัน พูดในลักษณะเดียวกันกับนางราตรี น้ำส้มจะต้องมีเนื้อส้มผสมอยู่ในขวด และสีจะเข้มเมื่อดื่มแล้วจะรู้ทันทีว่าเป็นน้ำส้มของแท้ ไม่ใช่เอาน้ำมาผสมกับตัวน้ำประปา ซึ่งวีดีโอดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียให้กับพวกตนที่เป็นแม่ค้าขายน้ำส้มคั้น นอกจากนี้ยังสร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพพจน์เมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างเมืองพัทยา อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งจัดการกับชายคนในรูปวีดีโอให้เร็วที่สุด

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

พัทยา-(20 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 13.00 น.ร.ต.อ.สิทธาวัชร์ ชวกรเธียรรัตน์ รองสว.สอบสวน สภ.บางละมุง พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบที่เพลิงพัก ไม่มีเลขที่ บ้านหัวทราย หมู่ 2 ตำบลหนองปลาไหล เขตอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต

ในที่เกิดเหตุพบ นางอังอร จั่นจร อายุ 45 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเปลหน้าเพลิงพัก ในสภาพศพนอนตะแคลงข้าง สวมผ้าถุงลายสก็อตสีแดง ตรวจสอบไม่มีร่องราย ของการถูกทำร้าย ที่ตามร่างกายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7-8 ชั่งโมง

นายสุเมธ หงส์เจริญศรี 43 ปี เพื่อนของผู้ตาย บอกว่า นางอังอร ผู้ตาย เป็นภรรยาของผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นนายจ้างของตน และเมื่อหลายวันก่อน ได้ออกไปทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัด โดยก่อนหน้านี้ทราบมาว่า นางอังอร ผู้ตาย ป่วยเป็นโรคลิ้นหัวไจรั่ว ทางหมอได้สั่งห้ามไม่ให้ นางอังอร ผู้ตาย ดื่มสุราอย่างเด็ดขาด แต่นางอังอร กลับไม่ยอมเชื่อฟัง ยังคงดื่มสุราจนเมามายอยู่ทุกวัน

ทั้งนี้ในวันนี้ จึงได้เข้ามาเยี่ยม นางอังอร ผู้ตาย ที่เพลิงพัก แต่กลับพบว่านางอังอร ได้เสียชีวิตแล้ว จึงได้รีบแจ้งให้ทางญาติของนางอังอร ทราบ ก่อนที่จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาทำการตรวจสอบดังกล่าว

ภาพ/ข่าว เฮียก๊วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟชบุ๊ค Palm Cnk มีการโพสต์ภาพกล้องวงจรปิดจากหน้ารถยนต์ลงบนเพจดัง”เรารักพัทยา” ในชื่อเรื่อง ”เกือบไปเเล้ว#พัทยา พร้อมระบุข้อความ” เลียบทางรถไฟ จากกล้องหน้ารถของพี่ชายผมเองถนนเลียบทางรถไฟแถวๆ พัทยา ทางแยกเยอะมาก อันตรายมากคับ #เฉียดไปนิดเดียวโชคดีที่ไม่เป็นอะไร”

สำหรับคลิปวีดีโอดังกล่าวยาวประมาณ 1 นาที ซึ่งในขณะที่รถคันที่กล้องวงจรปิดหน้ารถสามารถบันทึกภาพนาทีเฉียดตายของหนุ่มใหญ่ ที่ขับขี่จักรยายนต์ ฮอนด้าคลิก สีดำ วิ่งตามถนนเส้นเลียบทางรถไฟมุ่งหน้าพัทยา จนมาถึงบริเวณแยกทุ่งกลม-ตาลหมัน ได้ชะลอให้รถบรรทุกสิบล้อที่กำลังมุ่งหน้าออกสุขุมวิทออกไปก่อน

จากนั้นได้ชายคนดังกล่าวได้เร่งเครื่องจักรยานยนต์ออกไปอย่างช้าๆ โดยไม่คาดฝันว่าจะมีรถบรรทุกหกล้อขับมาด้วยความเร็วมุ่งหน้าจากสุขุมวิทเข้ามาในซอย ทำให้ล้อหลังด้านขวาของรถบรรทุกหกล้อ เหยียบเข้าที่ด้านหน้าของตัวรถจักรยานยนต์เข้าอย่างจัง คนขับรถบรรทุกหกล้อรีบหยุดรถในทันทีจึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ทั้งนี้ได้มีการแชร์คลิปดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ใช้เฟชบุ๊คต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆนาๆ ถึงการใช้การใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกต่างๆ ที่ไม่มีสัญญาณไฟ ควรระมัดระวังและชะลอความเร็ว เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจจะรุนแรงจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือถึงแกชีวิต

ภาพ/ข่าว Ku Salick

เจ้าหนู วัย 15 ปี ขับรถจักรยานยนต์ ออกจากบ้านพักจะไปซื้อกับข้าว แต่กลับถูกเด็กนักเรียนเดินข้ามถนนตัดหน้า เสียหลักพลิกคว่ำ ได้รับบาดเจ็บ อดฉลองวันหยุดมื้อเที่ยงกับครอบครัว

พัทยา-(20 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 11.00 น. รถหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ มูลนิธิสว่างบริบูรณฯเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบที่บริเวณด้านหน้าปากทางเข้าโรงเรียนสว่างบริบูรณ์วิทยาคม ภายในซอยเนินพลับหวาน อ.บางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย

ในที่เกิดเหตุพบ เด็กชายอาดี อายุ 15 ปี ได้รับบาดเจ็บจากรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำจนแขนด้านซ้ายหักผิดรูป และยังมีบาดแผลถลอกที่ตามร่างกายอีกหลายแห่ง จึงได้ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้าย เด็กชายอาดี เข้าไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบางละมุง

สอบถามเด็กชายอาดี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ ออกจากบ้านพักที่อยู่กลางซอยเนินพลับหวาน จะไปซื้อกับข้าว ที่ร้านขาประจำย่านบริเวณวัดสุธาวาสฯ ต่อระหว่างทางพอมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ถูกเด็กนักเรียนหญิง เดินตัดหน้ารถ จนทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ จนได้รับบาดเจ็บ อดไปซื้อกับข้าวมาฉลองมื้อเที่ยง กับครอบครัวดังกล่าว

ภาพ/ข่าว เฮียก๊วย

พัทยา-(19 พ.ค. 59) เวลา 18.00 น. ร.ต.อ.จักรกฤษ จันตาคำ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบเหตุคนถูกไฟฟ้าเสียชีวิต ภายในซอยกอไผ่ 6/2 ย่านพัทยาใต้ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าห้องพักชื่อบ้านเหลืองอร่าม เลขที่ 164 ม.10 ห่างจากปากซอยประมาณ 10 เมตร พบกลุ่มไทยมุงจำนวนมากกำลังจับกลุ่มพากันวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเจ้าหน้าที่กำลังปั๊มหัวใจ นายวิเชียร สีดา อายุ 33 ปี สวมกางเกงชั้นในขาสั้นสีดำเพียงตัวเดียวอยู่บริเวณปากบ่อบาดาล แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

สอบถามนายจีรศักดิ์ ชูรัตน์ อายุ 29 ปี เพื่อนผู้ตายให้การว่าเป็นลูกจ้างร้านวัสดุก่อสร้างและได้ขับรถบบรรทุกเครน 6 ล้อยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 85-0455 ชลบุรี เพื่อนำปากท่อปูนซีเมนส์มาส่งยังสถานที่ดังกล่าว แต่ขณะที่เครนยกเพื่อนำท่อปูนลงมายังพื้นนั้น เครนเกิดโดนสายไฟฟ้า ซึ่งผู้ตายกำลังจับลวดสลิงบริเวณเครนอยู่พอดีจึงเกิดไฟฟ้าช็อต

จากนั้นตนเองรีบลงมาช่วยผู้ตายแต่ถูกไฟช็อตกกระเด็นตกลงไปในบ่อบาดาลที่กำลังขุดอยู่ซึ่งมีความลึกประมาณ 9 เมตร จากนั้นจึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านละแวกดังกล่าวแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบในที่สุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้นำศพส่งโรงพยาบาลเพื่อญาติติดต่อมารับศพไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พัทยา-(19 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.วินัย โห้เหรียญ สารวัตรสอบสวน สภ.หนองปรือ รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์ที่จอดอยู่ บริเวณริมถนนสาย 36 (กระทิงลาย-ระยอง) ฝั่งขาเข้าระยอง ตรงข้ามโรงเรียนนานาชาติ ม.1 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ นิสสัน อเมร่า สีบอร์น ทะเบียน กย-7714 ระยอง จอดติดเครื่องยนต์อยู่ เปิดไฟเลี้ยวขวาทิ้งไว้ มีร่องรอยเฉี่ยวชนที่กันชนหน้ารถด้านซ้าย ตรวจสอบภายในรถพบว่าไม่มีการเปิดแอร์ บริเวณที่นั่งคนขับ พบร่างผู้เสียชีวิต อายุประมาณ 40-45 ปี สภาพนั่งคว่ำหน้าไปเอนทางด้านซ้ายตัวแข็งทื่อ มีกลิ่นเหล้าโชยออกมาจากปาก ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายใดๆ คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 3-4 ชั่วโมง

ตรวจสอบภายในรถพบบัตรพนักงาน ระบุชื่อ นายโยธิน โพธิ์สุ ตำแหน่ง Safety Supervisor บริษัท Insultec (บริษัทจำหน่ายและบริการผลิตภัณฑ์ฉนวนป้องกันความร้อน) นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ เงินสดจำนวนหนึ่ง และขวดเหล้ายี่ห้อดังยังไม่ถูกเปิดอีก 1 ขวด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม ดาบตำรวจ ทรงศักดิ์ เดินกระจ่าง ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.3 เล่าว่า ขณะกำลังออกปฏิบัติหน้าที่ในเขตรับผิดชอบ ได้พบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ลักษณะผิดวิสัย จึงเข้าไปตรวจสอบ จนพบเข้ากับร่างผู้เสียชีวิต จึงประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจเขตรับผิดชอบดังกล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปและบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่สามารถระบุได้ แต่เชื่อว่าไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้ายอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามจะต้องแจ้งญาติผู้เสียชีวิตให้รับทราบ ก่อนส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รวบ “ขวัญ” วอล์กกิ้งสตรีท ได้พร้อมของกลาง และอุปกรณ์การเสพยา จึงได้ควบคุมตัวไปยัง สภ.เมืองพัทยา ตรวจหาสารเสพติด สารภาพยาเสพติดนั้นเป็นเพียงสารส้มกับยาทันใจ ที่ทำมาไว้หลอกขายให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

พัทยา-(18 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ในขณะที่ ร.ต.อ.อัครชัย วงศ์คำโสม รองสว.จราจรสภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา ได้ทำการตั้งด่านตรวจสิ่งของผิดกฎหมาย บริเวณใต้สะพานต่างระดับแหลมบารีฮายพัทยาใต้ ม. 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้พบรถจักยายนต์ต้องสงสัย เป็นหญิงไทยขับขี่ด้วยความเร็วจึงได้ทำการเรียกตรวจค้น พบกระเป๋ามือถือภายในมีอุปกรณ์การเสพยา และค้นภายในตัวพบถุงซิปภายในบรรจุเกล็ดสีขาวตกผลึกลักษณะคล้ายยาไอซ์ จำนวน 3 ถุง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา และควบคุมตัวไปยัง สภ.เมืองพัทยา

จากการสอบถาม นางขวัญ หรือขวัญ วอล์กกิ้งสตรีท บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า อุปกรณ์การเสพยาเป็นของตนจริง ส่วนเกล็ดสีขาวที่อยู่ภายในถุงซิปเป็นเพียงสารส้มผสมกับยาทันใจ ที่ทำขึ้นเพื่อนำไปหลอกขายให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในราคาถุงละ 1,000-2,000 บาท หลังทำการซื้อขายเสร็จจึงได้รีบหนีเกรงว่าลูกค้าจะรู้ว่าเป็นของปลอม จนวันนี้ได้มาถูกตำรวจจับกุม

เบื้องต้นเจ้าหน้าตำรวจได้ทำการยึดของกลางทั้งหมดไว้ พร้อมนำตัวไปตรวจหาสารเสพติด และตรวจของกลางว่าเป็นยาเสพติดของจริงหรือของปลอม และหากพบว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายจริงจะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว แบงค์ คนบ้า