เรื่องทั้งหมดโดย samart

ช้างพังคลั่งกระทืบคราญดับต่อหน้านักท่องเที่ยว

พัทยา-(7 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 19.00 น. ร.ต.อ.อัศวิน จันโท รอง.สว.(สอบสวน) สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกช้างทำร้ายอาการสาหัส ภายในศูนย์การแสดงช้าง “สยามช้าง สาขา 2” ถนนสาย 36 (กระทิงลาย-ระยอง) ม.1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับจึงเดินทางตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง

ที่เกิดเหตุ เป็นสถานท่องเที่ยวของเอกชนเชิงอนุรักษ์ ในเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ภายในมีหมู่บ้านกระเหรี่ยงไทใหญ่จำลอง ขี่ช้างชมวิว และ รถม้า โดยมีช้างอยู่ในสังกัดกว่า 30 เชือก ตรวจสอบบริเวณหน้าบ้านชาวกระเหรี่ยงจำลอง พบเพียงกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.บางละมุง และ เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ คือ นายสายฝน ศาลางาม อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ อาชีพคราญช้าง โดยแพทย์เวรระบุ สาเหตุการตายเกิดจาก ร่างกายถูกกระแทกอย่างรุนแรง จนซีกโครงด้านขวาหักลงมากองอยู่ชายโครงด้านซ้ายทั้งแถบ ปอดฉีกทั้ง 2 ข้าง

S__24649796

จากการสอบสวน นายวินัย สร้อยแสง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเดิมเลขที่ 80 ม.10 ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ อาชีพคราญช้าง และ เป็นเจ้าของช้างที่ลงมือทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิต โดยให้การเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ช้างเพศเมีย ชื่อ พังหงษ์หยก อายุ 10 ปี กำลังพานักท่องเที่ยวชาวจีน 2 คนนั่งบนด้านหลังพาดูวิว บ้านหมู่บ้านกระเหรี่ยงจำลอง พามาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆ พังหงษ์หยก ก็เกิดอาการคุ้มคลั่ง วิ่งพุ่งชนผู้ตาย ที่กำลังยืนถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่ จนร่างกระเด็น ก่อนจะวิ่งไปกระทืบซ้ำ และใช้งากดกระแทกผู้ตายอย่างบ้าคลั่ง จนนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 คนที่นั่งอยู่บนหลังช้างล่วงตกลงมา ส่วนคราญช้างที่เห็นเหตุการณ์ต่างวิ่งเข้าไปช่วยห้าม ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยวชาวจีนกว่าครึ่งร้อย จากนั้นก็ช่วยกันนำร่างผู้ตายส่ง รพ.ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายวินัย สร้อยแสง เล่าต่ออีกว่า ปกติ พังหงษ์หยก เป็นช้างแสนรู้ ไม่ดื้อ และ ไม่ดุร้าย อีกทั้งยังเป็นช้างเด็ก จึงรู้สึกแปลกใจเพราะเหตุใด พังหงษ์หยก จึงมีอาการดังกล่าว ส่วนสาเหตุเบื้องต้น น่าเกิดจาก พังหงษ์หยก ไม่ชอบคราญช้างผู้ตาย หรือ อาจไม่ถูกกับช้างตัวใกล้ๆ จนเกิดอาการดุร้าย ทำร้ายผู้ตาย จนเสียชีวิต

S__24649788

พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง กล่าวว่า เบื้องต้น ได้ประสานให้เจ้าของสถานท่องเที่ยวดังกล่าว หยุดนำพังหงษ์หยก มาออกร่วมกิจกรรมต่างๆ โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งประสานสัตว์แพทย์ให้มาตรวจสอบอาการช้างอย่างใกล้ชิด ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ตกจากหลังช้างขณะเกิดเหตุโชคดีได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พร้อมทั้งยังสั่งการให้ตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียด เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

โครมันยอง 2 โชว์สเต็ปเทพแห่งการทอยพิน เก็บคะแนนรวมสูงสุดซิวถ้วยรางวัลชนะเลิศกลับบ้าน

ตามที่สมาคมนักข่าวพัทยาได้กำหนดจัดการแข่งขันโบลว์ลิ่งการกุศล ประจำปี 2559 ที่เอสเอฟ สไตร์ค โบลว์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยา จ.ชลบุรี โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันกันอย่างคึกคัก เพื่อกระชับความสัมพันธ์ รวมถึงเป็นการหารายได้สนับสนุนกิจกรรมของทางสมาคมนักข่าวพัทยา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ทั้งนี้ กิจกรรมการแข่งแข่งขันดังกล่าวมีตัวแทนนักกีฬาโบลว์ลิ่งจากหน่วยงานต่างๆ ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันกว่า 150 ทีม ส่งผลให้บรรยากาศการแข่งขันเป็นไปด้วยความคึกคักและสนุกสนานเป็นอย่างมาก นักกีฬาแต่ละทีมพยามรวบรวมสมาธิก่อนอาศัยทักษะและความสามารถส่วนตัวเพื่อทำคะแนนเก็บแต้ม

image

หลังจากการแข่งขันเสร็จสิ้น ปรากฏว่าในประเภททีมทีมที่ชนะเลิศคะแนนสูงสุดได้แก่ ทีมโครมันยอง 2 จากการนำทีมโดย นายสุวัฒนชัย หอมชื่น ที่สวมบทเป็นหัวหน้าทีม คอยเน้นย้ำให้ลูกทีมรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้ ก่อนสามารถเก็บชัยชนะด้วยคะแนนรวมสูงสุด 1,370 คะแนน ได้รับรางวัลเป็นถ้วยเกียรติยศ ดร.สันตศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ไปครองได้สำเร็จ ส่วน รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมบลูไลอ้อนได้คะแนนรวม 1,325 คะแนน รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ทีมแม็ท 2 ได้คะแนนรวม 1,325 คะแนน รางวัลบู้บี้ได้แก่ทีมโปไซดอลคะแนนรวม 563 คะแนน

ในส่วนของประเภทบุคคลชาย รางวัลชนะเลิศตกเป็นของตัวแทนจากทีมแม็ทซ์ 1 คะแนนรวม 482 คะแนน รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ตัวแทนทีมปอรอ คะแนนรวม 460 คะแนน และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ตัวแทนจากทีมบลูไลอ้อน 2 คะแนนรวม 446 คะแนน ส่วนประเภทบุคคลหญิง รางวัลชนะเลิศได้แก่ตัวแทนจากทีมโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ทำคะแนนรวม 438 คะแนน รองชนะเลิศอันดับ 1และอันดับ 2 ได้แก่ตัวแทนจากทีมหนิงทั้ง 2 รางวัล ด้วยคะแนนรวม 427 คะแนน และ 408 คะแนนตามลำดับ

ภาพ/ข่าว เก่งลิง

สมาคมนักข่าวพัทยา จัดแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลประจำปี 2559 ตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ตบเท้าเข้าร่วมประลองฝีมือ

image

พัทยา-(7 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ เอสเอฟ สไตร์ค โบว์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีช จ.ชลบุรี ดร.วีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลสมาคมนักข่าวพัทยา ประจำปี 2559 โดยพบว่ามีตัวแทนองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคักและสนุกสนาน

image

นายสามารถ ทองรอด นายกสมาคมนักข่าวพัทยา กล่าวว่าการแข่งขันโบลว์ลิ่งการกุศลสมาคมนักข่าวพัทยา ประจำปี 2559 เป็นการแข่งขันชิงถ้วยเกียรติยศ ดร.สันตศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ถือเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นระหว่างสื่อมวลชนและองค์กรภาคส่วนอื่นๆ ให้แน่นแฟ้น และเป็นกิจกรรมหารายได้เข้าสมาคมเป็นสวัสดิการให้แก่สมาชิก และสมทบส่วนหนึ่งมอบให้องค์กรการกุศล

image

ทั้งนี้ ภายในงานได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมกิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก อาทิ นายมาย ไชยนิตย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ นายสุวัช รชตวัฒนกุล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนืองปรือ นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รองประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายกฤษณ์ จิระมงคล ที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา นายสกน ผลลูกอินทร์ รองประธานสภา อบจ.ชลบุรี นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา น.ส.ไพรชิตร เจตะภัย ประธานสมาคม YWCA กรุงเทพฯ-ศูนย์พัทยา

ข่าว/ ศูนย์ข่าวโครมันยอง

คนร้ายซิ่งจยย.กระชากสร้อยหนุ่มจีน ได้ครึ่งเพียง เส้นส่วนอีกครึ่งเส้นตกที่พื้น

พัทยา-(7 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้พาตัวผู้เสียหาย นายซอง ฮู อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.หญิง เต็มตรอง รอดศิริ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังถูกคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำได้ไปครึ่งเส้น เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านสบายรูม อาบอบนวด ถนนพัทยาสายสอง

image

โดย ผู้เสียหาย ให้การว่า ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่บริเวณถนนพัทยาสายสอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น สวมเสื้อสีดำ ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ ปิดบังใบหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาด้านหลังแล้วเอื้อมมือกระชากสร้อยคอทองคำ ที่สวมใส่อยู่ มูลค่า 50,000 บาท ขาดติดมือคนร้ายไปครึ่งเส้น ส่วนอีกครึ่งเส้นตกอยู่กับพื้นถนน จากนั้นคนร้ายจะเร่งเครื่องหลบหนีไป หลังเกิดเหตุได้มีอาสาสมัครอยู่บริเวณนั้นพอดี จึงพาตัวเข้าแจ้งความร้องทุกข์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหยื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถูกคนร้ายวิ่งราวทรัพย์และล้วงกระเป๋า พบว่าระยะช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในพื้นที่เมืองพัทยาและใกล้เคียง ถูกคนร้ายก่อเหตุรายวัน โดยบางวันมีนักท่องเที่ยวตกเป็นเหยื่อเกือบ 10 ราย ซึ่งถือว่าคนร้ายตระเวนก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ถึงแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีวางมาตรการป้องกันและกวนขันจับกุมแล้วก็ตาม

ภาพ/ข่าว Ku Salick

เสี่ยหนุ่มเกาหลี ถูกคนร้ายขี่จยย.ประกบกระชากสร้อยมูลค่านับแสนบาท

พัทยา-(6 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก. สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ประกบกระชากสร้อยนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี บริเวณหน้าเอ็ม แมนชั่น ซอยโพธิสาร ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังชุดสืบสวนไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนายคิม บอง ซุก อายุ 45 ปี นักธุรกิจชาวเกาหลี ผู้เสียหาย พร้อมเพื่อนชายหญิง 2 คน สัญชาติเดียวกัน เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองพัทยาเป็นวันแรก ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจในอาการตกใจ พร้อมกับชี้จุดที่คนร้ายก่อเหตุ ตรวจสอบที่พื้นถนนใกล้จุดเกิดเหตุ พบจี้สร้อยคอผู้เสียหายตกอยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปและเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบ

สอบสวน นายคิม ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่บริเวณใกล้เคียงโรงแรมที่พัก เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีคนร้ายเป็นชายไทย รูปร่างท้วม สวมเสื้อแจ็คเก็ต สีครีม นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่ข้างหลัง ก่อนจะลงมือกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท มูลค่า 75,000 บาท แล้วเครื่องเร่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เบาะแสจากชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ ว่า คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สปาร์ค สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และเมื่อเหยื่อพร้อมพวกเดินมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งค่อนข้างมืดและไร้ผู้คน ได้ลงมือก่อเหตุทันที

ภายหลังสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งวิทยุกระจายข่าว สถานีตำรวจภูธรข้างเคียง ให้สกัดจับกุมคนร้ายตามรูปพรรณสันฐาน แต่ก็ยังไร้วี่แวว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจะได้ลงพื้นที่เก็บภาพกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นแนวทางในการจับกุมคนร้ายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

2 มาเฟียคูเวต ไล่แทงเพื่อนชาติเดียวกัน กลางบาร์เบียร์ชาวอาหรับ

พัทยา-(7 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. ร.ต.ท.หญิง เต็มตรอง รอดศิริ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวจำนวน 2 ราย ถูกอาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บ บริเวณภายในร้านไททานิค บาร์เบียร์ชาวอาหรับ กลางซอย 16 พัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยคนเจ็บได้เข้ามารักษาตัวยัง รพ.พัทยาเมโมเรียล ส่วนผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันไล่จับกุมไว้ได้จำนวน 2 คน

จากการไปตรวจสอบโรงพยาบาลพบนักท่องเที่ยวทราบชื่อคือ นายอาเหม็ด อีฮา อายุ 29 ปี ชาวคูเวต ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่แขนขวาและขาทั้งสองข้าง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนอีกรายทราบชื่อคือ นายซามิ โจฮา อายุ 29 ปี ชาวคูเวต ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่หูข้างซ้าย โดยบาดแผลนั้นฉีกขาดขนาดใหญ่ ส่วนผู้ก่อเหตุจำนวน 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวคูเวต ถูกเจ้าหน้าที่และชาวบ้านไล่จับกุมไว้ได้ เบื้องต้นยังปฏิเสธไม่ให้การใดๆ

สอบถาม นายศักดิ์รินทร์ ขาวโคกกรวด อายุ 26 ปี พนักงานแคชเชียร์ของบาร์เบียร์เกิดเหตุ ทราบว่า กลุ่มคนเจ็บและผู้ก่อเหตุ เมื่อสองวันที่ผ่านมาเคยมีปัญหาหมาดบางกันมาก่อน แต่ไม่ทราบสาเหตุเกิดจากอะไร จนกระทั่งเวลาเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายเกิดเหตุพบกันที่บาร์เบียร์แห่งนี้ ทำให้เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จากนั้นเหตุการณ์ชุลมุนก็เกิดขึ้นเมื่อทั้งสองฝ่ายชกต่อยกันพร้อมกับชักมีดออกมาไล่แทงกันได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ท่ามกลางสายตานักดื่มที่กำลังเพลิดเพลินอยู่เป็นจำนวนมาก

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

เพลิงไหม้ “บ้านพญาไม้” คาดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน เผยเตรียมเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว

image
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมช่วยกันฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้บ้านพญาไม้ที่ใช้เวลาปลูกสร้างมานานกว่า 10 ปี กำลังจะเสร็จเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเข้าชม คาดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

พัทยา(6 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผกก.สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพญาไม้ ตั้งอยู่เลขที่ 124/9 ซ.มาบสอง-หนองใหญ่ 10 ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลหนองปรือ, เทศบาลตำบลโป่ง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา รุดทำการช่วยเหลือ

image

ที่เกิดเหตุพบรถดับเพลิงกว่า 10 คัน กำลังช่วยกันระดมฉีดน้ำควบคุมเปลวเพลิงที่กำลังโหมรุกไหม้บ้านไม้ทรงไทยขนาดใหญ่ ที่ปลูกด้วยไม้เก่าแก่ราคาแพง บนเนื้อที่กว่า 1.5 ไร่ จนเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ยังไม่สามารถควบคุมเปลวเพลิงไว้ได้ เนื่องจากโครงสร้างทั้งหมดเป็นไม้ และมีลมแรง จนทำมีโครงสร้างบ้างส่วนพังทลายลงมา สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ในระแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก

image

เบื้องต้นทราบว่าเจ้าของชื่อ นายขุนทอง อู่เงิน นักธุรกิจชื่อดังในเมืองพัทยา ซึ่งยังไม่สามารถให้รายละเอียดอะไรได้มากนัก เนื่องจากกำลังอยู่ในอาการตกใจ ทราบเพียงว่าบ้านพญาไม้หลังดังกล่าวปลูกมากว่า 10 ปี และกำลังจะเสร็จและเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ซึ่งตอนเกิดเหตุมีคนงานกำลังต่อเติมภายในด้านบนอยู่ จู่ๆ ได้เกิดไฟฟ้าช็อตและมีเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมเพลิงได้

image

ส่วนเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ไม่มีรายงานเกี่ยวกับผู้ได้รับบาด คาดมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จากนั้นจะทำการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 (ชลบุรี) เพื่อเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุหารายละเอียดและสรุปสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

สองแถวพัทยา โดนกลุ่ม นทท.แดนโรตี รุมทำร้ายจนขาหัก ตร.คาดสาเหตุสื่อสารไม่เข้าใจ

พัทยา-(6 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 03.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณโค้งปลาโลมาถนนพัทยา-นาเกลือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบ นายสมชาย อินทะสร้อย อายุ 38 ปี โชเฟอร์รถสหกรณ์สองแถวถูกรุ่มทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ฟกช้ำตามร่างกาย ขาขวาหักนอนร้องครวญครางขอความช่วยเหลืออยู่ข้างทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนตัวส่งโรงพยาบาลบางละมุง

สอบถาม นายสมชาย(โชเฟอร์สหกรณ์สองแถว) ทราบว่า ได้รับนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย 7 คนมาจากวอล์กกิ้งสตีท พัทยาใต้ โดยไม่รู้จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุจึงได้หยุดรถลงไปสอบถามนักท่องเที่ยวว่าจะเดินทางไหนจึงทราบว่ารถได้ผ่านที่พักของกลุ่มนักท่องเที่ยวไปแล้ว จึงได้พูดคุยสอบถามว่าจะให้ย้อนกลับไปส่งหรือไม่ แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวกลับเดินหนีไม่ยอมจ่ายค่ารถ ตนเองจึงรีบวิ่งตามไปพร้อมทั้งต่อว่าด้วยความโกธร ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวไม่พอใจเข้ามารุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ติดตามควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ซึ่งให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าโชเฟอร์สหกรณ์สองแถวได้ขว้างก้อนหินใส่ได้รับบาดเจ็บพร้อมทั้งโชว์บาดแผล จึงได้ต่อสู้ป้องกันตัว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าทีตำรวจจะได้สอบปากคำทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากการสื่อสารไม่เข้าใจกันจึงเป็นเหตุให้เข้าใจผิดและทำร้ายกันจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ภาพ/ข่าว Ku Salick

หนุ่มแดนโคนม เดินเที่ยววอล์กกิ้งสตีท พัทยา ถูกทำร้ายร่างกายเจ็บ


พัทยา-(6 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งมีนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้า ร้านเดอะ ไอรอน คลับ ภายในถนนวอล์กกิ้งสตีท พัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวทราบชื่อคือ นายอังเดร อายุ 24 ปี สัญชาติเดนมาร์ค ถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะแตก ฟกช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอาสาพาผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลเอง

สอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การว่านักท่องเที่ยวได้ทะเราะวิวาทกับนักท่องเที่ยวด้วยกันเองและวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือกับทางร้าน แต่ทางนักท่องเที่ยวได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าหน้าที่กล่าว และไม่ได้มีปัญหากับชาวต่างชาติเดียวกัน

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะพานักท่องเที่ยวไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลและจะพาพบ พนักงานสอบสอนเพื่อสอบปากคำและเดินทางตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้งว่าเหตุการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไรต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

ฮือฮา! พ่อค้าทุเรียนพัทยาเน้นคุณภาพไม่หลอกลวงผู้บริโภค ทำยอดขายกระฉูดวันละกว่า 2 ตัน

ฮือฮา! พ่อค้าทุเรียนพัทยาเน้นคุณภาพไม่หลอกลวงผู้บริโภค ทำยอดขายกระฉูดวันละกว่า 2 ตัน ซิวเงินเข้ากระเป๋านับแสน เผยต้องทำบัตรคิวเพราะลูกค้ามากบางทีแย่งคิวกันจนมีปากเสียง

พัทยา-(4 พ.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าร้านทุเรียนทองคำ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายทุเรียนหมอนทอง ภาย ในซอยอรุโณทัย พัทยากลาง จ.ชลบุรี มีความคึกคักเป็นอย่างมาก เนื่องจากพบว่ามีลูกค้าซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาจับจองคิวเพื่อซื้อทุเรียนไปรับประทานกันอย่างคึกคักแน่นขนัด ส่งผลให้ในแต่ละวันตั้งแต่ช่วงเช้าทางร้านจะสามารถทำรายได้จากการจำหน่ายทุเรียนหมอนทองได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

S__17645578

โดยจากการลงพื้นที่สำรวจร้านดังกล่าวพบว่าเป็นห้องขนาดหนึ่งคูหา บริเวณหน้าร้านมีการตั้งเต็นท์กันแดดจำหน่ายทุเรียนหมอนทองระบุราคากิโลกรัมละ 85 บาท ซึ่งพบว่ามีลุกค้ามารอคิวเข้าซื้อทุเรียนกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้พบว่าทางร้านได้จัดทำบัตรคิวให้ลูกค้าเพื่อความเป็นระเบียบและง่ายต่อการบริการด้วย

นายทองคำ ระยับศรี อายุ 51 ปี เจ้าของร้านทุเรียนทองคำ เล่าว่าการเปิดร้านจำหน่ายทุเรียนเป็นธุรกิจของครอบครัวที่ทำกันเองโดยเปิดร้านรวม 2 สาขา สาขาที่ 2 จะอยู่ภายในซอยกอไผ่ พัทยาใต้ ทุเรียนดังกล่าวจะรับมาจากสวนฝั่งระยอง จันทบุรีและตราด โดยจะคัดเลือกแต่ทุเรียนที่ได้จากสวนดีๆ เท่านั้น แต่ละวันจะนำทุเรียนมาขายได้ประมาณ 1-2 ตัน หรือ 1,000-2,000 กิโลกรัม โดยร้านจะเปิดตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันไปจนถึงเวลาตีสอง แต่ละวันจะมีรายได้จากการขายทุเรียนไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท

เนื่องจากมีลูกค้าเป็นจำนวนมากด้วยทางร้านเน้นคุณภาพของสินค้าและตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ทั้งเรื่องความสด สะอาด หวาน อร่อย และรวดเร็ว ซึ่งเมื่อมีปัญหาที่มีลูกค้ามาซื้อมากขึ้นก็เกิดการแย่งคิวกันมีการทะเลาะด่ากัน เราก็ดูไม่ทันเพราะคนขายมีน้อยกว่าลูกค้า

S__17645576

จากนั้นจึงคิดใช้บัตรคิวเพื่อความเป็นระเบียบและความสะดวกต่อการให้บริการ ซึ่งถือว่าช่วยได้มากเพราะปัญหาเรื่องการแซงคิวกันหมดไป ลุกค้าก็มารอซื้อทุเรียนอย่างเป็นระเบียบ ลูกค้ารายหนึ่ง กล่าวว่าเป็นคนชื่นชอบกินทุเรียนและมาใช้บริการร้านนี้นานมากแล้วเพราะทุเรียนอร่อยมาก ราคาก็ไม่แพงเกินไป การทำบัตรคิวก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะช่วยให้ลูกค้าไม่แซงคิวกันและดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

ภาพ/ข่าว Ku Slick