สาวอุบลโร่แจ้งความ หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็น ตร.บุกจับแล้วรีดทรัพย์ ทั้งพาไปขืนใจ

พัทยา-(22 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีหญิงสาวชาวไทยคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าตัวเองถูกกลุ่มตำรวจนอกรีตโรงพักแห่งหนึ่งทำการจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติด แล้วทำการลักทรัพย์ , ข่มขู่รีดไถเงินเพื่อแลกอิสรภาพ และพาไปข่มขืนกระทำชำเรา กำลังจะเดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

ภายในห้องสอบสวนบนชั้น 2 พบ พ.ต.ท.ออมสิน สุขการค้า หัวหน้างานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา กับ ร.ต.อ.สิระภูเดชน์ ชำนาญกิจ รองสารวัตร (สอบสวน) เจ้าของคดี กำลังสอบปากคำ น.ส.อ้อ (นามสมมุติ) (น.ส.เพชรมณี ดวงแสง หรือแอน) อายุ 33 ปี ชาว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.อุบลราชธานี ก่อนที่ผู้เสียหายจะออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพเป็นหมอนวดแผนไทยอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่ภายหลังถูกทางการเกาหลีใต้จับกุมในข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก่อนถูกเนรเทศกลับประเทศไทย และเพิ่งมาขอพักอาศัยอยู่กับเพื่อนชื่อ น.ส.วรรณนิภา หรือบิว เข้มแข็ง ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งในซอยเฉลิมพระเกียรติ 9 ย่านพัทยาเหนือ และเพื่อรอเวลาหางานใหม่

กระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนนั่งกินข้าวอยู่กับ น.ส.วรรณนิภา หรือบิว และ น.ส.ฟาง (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) เพื่อนของ น.ส.วรรณนิภา ซึ่งรู้จักกันแค่เพียงผิวเผิน จู่ๆ มีชายฉกรรจ์จำนวน 4 คน และเด็กชายอายุประมาณ 5 ขวบ 1 คน ใช้กุญแจไขประตูเปิดเข้ามาในห้อง พร้อมกับอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาจอมเทียน ทราบชื่อภายหลังคือ นายอึ่ง ซึ่งอ้างตัวเป็นหัวหน้าชุด , นายเอ , นายโรจน์ และหนึ่งในนั้นมีตำรวจยศ “ด.ต.” รวมอยู่ด้วย จากนั้นทั้งหมดได้ทำการค้นห้องพัก ก่อนฉวยเอาพระเครื่องของตนรวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ ไปเป็นของตัวเองโดยอ้างว่าจะเก็บไว้ให้ ซึ่งจากการตรวจค้นพบยาไอซ์จำนวน 40 กรัม อยู่ในตัว น.ส.วรรณนิภา หรือบิว ส่วนตนเองก็ยอมรับว่าเสพยาจริง ทางตำรวจจึงนำตัวไปที่ สภ.นาจอมเทียน ก่อนพาไปกักตัวที่ห้องทำงาน และยังไม่ถูกนำตัวเข้าห้องควบคุม

ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย. น.ส.วรรณนิภา หรือบิว มาบอกว่า ตำรวจให้หาเงินมาจำนวน 5,000 บาท เพื่อจะใช้ล่อซื้อยาเสพติด ถ้าหามาไม่ได้ตำรวจก็จะไม่ปล่อยตัว ตนจึงโทรศัพท์ไปยืมพี่ชายซึ่งเป็นตำรวจที่กรุงเทพฯ และได้เงินมาจำนวน 2,000 บาท รวมกับเงินสดในบัญชีธนาคารของตนอีก 1,500 บาท เป็นเงินทั้งหมด 3,500 บาท เลยต่อรองว่ามีเงินเพียงเท่านี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงให้ตนโอนเข้าบัญชีของ น.ส.วรรณนิภา และไม่ทราบว่าเพื่อนสาวเอาเงินไปล่อซื้อยาเสพติดตามที่บอกหรือไม่ กระทั่งกลางดึกวันที่ 10 มิ.ย. ชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจชื่อต้น (ไม่ทราบยศ) และเข้าเวรห้องควบคุมอยู่ในขณะนั้น ได้เรียกตนออกมาจากห้องขัง ซึ่งในขณะนั้นมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันถูกคุมขังอยู่รวม 7 คน ก่อนพาไปนอนยังห้องๆ หนึ่งบนสถานีตำรวจ พร้อมกับบอกว่าจะทำเครื่องหมายฝากไว้เพื่อไม่ให้ใครมายุ่ง จากนั้นจึงใช้ปากดูดลำคอของตนจนเป็นรอยจ้ำ และพยายามจะปลุกปล้ำขืนใจ แต่ตนอ้างว่ามีประจำเดือน นายต้น จึงผละออกไปและนำตนกลับไปยังห้องควบคุมเหมือนเดิม

ถัดไปเพียงวันเดียว น.ส.วรรณนิภา หรือบิว มาบอกให้ตนหาเงินมาอีก 15,000 บาท เพื่อใช้ล่อซื้อยาอีกครั้ง และครั้งนี้หากหาเงินมาได้ตำรวจก็จะปล่อยตัว ตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงโทรศัพท์ไปหาพี่สาวที่ต่างจังหวัดเพื่อขอความช่วยเหลือ พี่สาวจึงเอาสร้อยคอทองคำไปจำนำแล้วส่งเงินมาให้ ก่อนที่ตนโอนเข้าบัญชี น.ส.วรรณนิภา หรือบิว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับการปล่อยตัว และในคืนวันเดียวกันนั้นนายต้น ที่เข้าเวรหน้าห้องควบคุม ได้เรียกตนออกมาจากห้องขังอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่าจะพาไปขับรถเที่ยวเพื่อให้หายเครียด แต่ภายหลังกลับพาตนขับรถเข้าไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งที่กำลังก่อสร้าง ตั้งอยู่หลังลุมพินีคอนโดมิเนียม ถนนจอมเทียนสาย 2 ย่านชายหาดจอมเทียน ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว ก่อนพยายามปลุกปล้ำขืนใจ แต่ตนมีประจำเดือนประกอบกับอวัยวะเพศของนายต้น ไม่แข็งตัว ทำให้ไม่สำเร็จความใคร่ ก่อนที่จะพาตนกลับไปคุมขังตามเดิม

จนเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. พี่ชายซึ่งเป็นตำรวจอยู่โรงพักแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้เดินทางมาเยี่ยมตนพร้อมกับสอบข้อเท็จจริง ก่อนที่จะไปเจรจากับนายอึ่ง ที่อ้างตัวเป็นหัวหน้าชุดจับกุม นายอึ่ง จึงยื่นข้อเสนอให้หาเงินมาจำนวน 100,000 บาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ แต่พี่ชายหาเงินมาได้เพียง 60,000 บาท เลยทำการต่อรองจนนายอึ่ง ยินยอม จากนั้นมีชายไทยชื่อ นายหวัง มารับเงินจำนวนดังกล่าว แต่ภายหลังนายอึ่ง กลับบอกว่าตนเองจะต้องถูกดำเนินคดีพนันฟุตบอล หากไม่อยากถูกดำเนินคดีก็ต้องจ่ายเงินอีก ตนเลยบอกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวเหลืออยู่แค่ 3,000 บาท ทางนายอึ่ง ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนยึดเงินจำนวนดังกล่าวของตนไป แล้วปล่อยตัวออกมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน

ภายหลังตนได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาญาติๆ และคิดว่าการกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้อง จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับไปตรวจร่างกายที่ รพ.บางละมุง และ รพ.เมืองพัทยา ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าถูกข่มขืนกระทำชำเรา (ตรวจร่องรอยการมีเพศสัมพันธ์) จากนั้นจึงเดินทางเข้าร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี , กระทรวงยุติธรรม และจเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความช่วยเหลือและนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย

ด้าน ร.ต.อ.สิระภูเดชน์ ชำนาญกิจ รองสารวัตร (สอบสวน) เจ้าของคดี เผยว่า เบื้องต้นได้ประสานไปยังตำรวจชุดสืบสวนเพื่อให้ตรวจสอบกล้องจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พร้อมกับรวบรวมพยาน-หลักฐานส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยืนยันว่าจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่าผิดจริงก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น