ตร.ระดมกำลังปิดเมืองไล่ล่าโจรกระชากสร้อย แย่งปืนตำรวจยิงเปิดทางหลบหนี

พัทยา-(20 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 12.30 น. สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับการประสานงานจาก สภ.หนองขาม ให้ช่วยสกัดจับคนร้าย 1 คน ขับรถ จยย.ยามาฮ่าซูมเมอร์เอ็กซ์ สีเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ในพื้นที่ สภ.หนองขาม โดยมี ร.ต.ท.ดำรงค์ เท่งเจียว รอง.สว.สายตรวจตู้ยามดาราไล่ติดตามมาจนถึงบริเวณภายในซอยสำนักงานขนส่งบางละมุง คนร้ายได้แย่งปืนพกประจำกายของ ร.ต.ท.ดำรงค์ พร้อมกับยิงปืนเปิดทาง 1 นัด แล้วหลบหนี โดยขับ จยย.ย้อนศรมาตามถนนหลวงสาย 7 ตอน 5 ขาเข้าพัทยา

47941

หลังจากนั้น พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง จึงสั่งการให้ สวป. และ รอง สวป. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจระดมกำลังเข้าสกัดจับโดยรอบบริเวณดังกล่าว จนกระทั่ง ดต.ทัดพงษ์ ทองทัด ผบ.งาน ป.สภ.บางละมุง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาพบคนร้ายขับ รถ จยย. คันต้องสงสัย บริเวณทางเบี่ยงสะพานหนองปรือตัดสาย 7 ตอน 5 จึงเข้าสกัดจับ คนร้ายได้ชักปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางอีก 1 นัด ดต.ทัดพงษ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาพยายามหลบจนรถ จยย.ล้มได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนร้ายจะขับรถ จยย.หลบหนีไปตามถนนชัยพรวิถี กำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.บางละมุง จึงกระจายกำลังติดตามค้นหาตัวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

124099

จนกระทั่ง พ.ต.ท.ภาคภูมิ นาคพนม สว.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบ สภ.บางละมุง ไปพบรถ จยย. ยามาฮ่า ซูมเมอร์เอ็กซ์ สีเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ภายในซอยหนองปลาไหล 6 ม.2 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นต้องสงสัยตามตรงตามข้อมูลที่ได้รับการประสานมา จากนั้นจึงกระจายกำลังออกไล่ล่า จนสามารถจับคนร้ายได้ บริเวณโรงไม้ย่านถนนบายพาส 36 ทราบชื่อต่อมา นายกิตติศักดิ์ ถ้วนสัมฤทธิ์ อายุ 33 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล และจะนำมาแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.59)

ตลกไม่ออก! 3 นักเที่ยวรัสเซียเล่นพิเรนทร์แสดงเป็นซอมบี้บุกป่วนร้านอาหาร

ตลกไม่ออก! 3 นักเที่ยวรัสเซียเล่นพิเรนทร์แสดงเป็นซอมบี้บุกป่วนร้านอาหารประธานที่ปรึกษานายกเมืองพัทยาทำนักท่องเที่ยวกระเจิง เจ้าของร้านระบุไม่ทราบเจตนาแท้จริงว่ารักสนุกหรือหวังต่อทรัพย์ พร้อมตัดพ้อหลังเกิดเหตุโทรแจ้งตำรวจนับสิบครั้งแต่ไม่มาตรวจสอบ

พัทยา-(20 ก.พ. 59) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายพัฒนา บุญสวัสดิ์ ประธานที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา ในฐานะผู้บริหารร้านอาหารครัวเซิร์ฟ จอมเทียน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาเวลาประ มาณ 3-4 ทุ่มขณะที่มีลูกค้าชาวต่างชาติเข้าใช้บริการอยู่เต็มร้าน ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวชายชาวรัสเซียจำ นวน 3 คน อายุประมาณ 30-35 ปี เข้ามาสั่งอาหารกินดื่มด้วยแต่แยกย้ายนั่งคล้ายไม่รู้จักกัน

ต่อมาไม่นานชายคนแรกได้แสดงอาการแปลกประหลาดโดดฟุบหน้าลงกับโต๊ะก่อนทิ้งลมที่พื้น จนพนักงานในร้านเข้าไปช่วยเหลือเพราะเกรงว่าอาจมีอาการป่วยของโรคประจำตัว ขณะนั้นชายคนดังกล่าวก็ลุกขึ้นแสดงหน้าตาถมึงทึงพร้อมส่งเสียงร้องคำรามคล้ายสัตว์ป่า ก่อนเดินทำท่าคล้ายกับซอมบี้หรือผีดิบเดินไปหาเพื่อนชายที่นั่งอยู่อีกโต๊ะข้างกันก่อนรัดคอและก้มลงกัดที่ลำคอจนชายคนที่ 2 ล้มลงกับพื้น

เหตุการณ์ขณะนั้นเริ่มมีความวุ่นวาย เมื่อชายคนที่ 2 ทีถูกกัดกลับมีอาการเป็นซอมบี้คล้ายกับคนแรกจากนั้นได้เดินไปแสดงท่าผีดิบไปขู่นักท่องเที่ยว ก่อนตรงเข้าไปกัดที่คอของชายคนที่ 3 อีกทำให้เกิดความโกลา หลในร้านเป็นอย่างยิ่ง เพราะลูกค้าต่างตกใจวิ่งหนีกันไปคนละทิศคนละทาง ขณะที่บางคนเกิดความโมโหตรงเข้าชกหน้าชายคนที่ 2 จนต้องวิ่งหลบหนีไป

นายพัฒนา เล่าต่อว่าขณะนั้นรู้สึกมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงพยายามรวบรวมสติโทรศัพท์แจ้งเจ้า หน้าที่ตำรวจให้มาช่วยเหลือแต่ก็ยังไม่มา พลเมืองดีจึงช่วยกันจับกุมชายชาวต่างชาติทั้ง 3 คนเอาไว้ได้ ซึ่งปรากฏว่าทั้ง 3 รู้จักกันเป็นอย่างดี ก่อนพากันกราบขอโทษโดยแจ้งว่าเป็นการแสดงเล่นกันสนุกๆเท่านั้น แต่ด้วยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุมีเพียงเจ้าหน้าที่เทศกิจจึงจำต้องปล่อยตัวไป

ทั้งนี้ นายพัฒนาได้ให้ความเป็นห่วงเกรงว่าการละเล่นเหล่านี้อาจมีเป้าประสงค์ไปในทางไม่ดี คือสร้างความวุ่นวายให้นักท่องเที่ยวอื่นตกใจและอาจประสงค์ต่อทรัพย์ อีกทั้งยังอาจสร้างอันตรายแก่ผู้สูงอายุได้ รวม ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวเพราะนอกจากจะทำให้เกิดความวุ่นวายในร้านแล้ว ความไม่เข้าใจของลูกค้ากับเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของร้านอย่างรุนแรงด้วย

ข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพเหตุการณ์ซอมบี้บุกร้านดังกล่าวกันอย่างแพร่หลาย บ้างก็มองเป็นเรื่องสนุกสนาน บ้างก็มองเป็นเรื่องที่ไม่สนควร จนชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นก่อนแชร์ต่อกันไปอย่างกว้างขวางด้วย

ตร.สอบสวนกลางลงพื้นที่พัทยา ปราบปรามการค้ามนุษย์ รวบผู้ต้องหาได้หลายราย

พัทยา-(20 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 14.00 น.พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวกวาดล้างอาชญากรรมด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยสามารถจับกุม น.ส.ยุวดี เรืองนก อายุ 37 ปี และนายวสันต์ คมขำ อายุ 25 ปี ในข้อกล่าวหา ร่วมกันบังคมขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กไปขอทาน หรือใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทานอันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบจากเด็ก พร้อมจับกุมบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกจำนวน 14 ราย

สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่เมืองพัทยา ตามยุทธการ “ไพร่ฟ้าหน้าใส” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่นักท่องเที่ยว

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงระดมกำลังตรวจสอบบริเวณถนนวอล์กกิ้งสตรีทพัทยา จึงพบกลุ่มชาวไทยและชาวต่างด้าวกำลังขอทานนักท่องเที่ยวกระจายอยู่เต็มพื้นที่ จึงควบคุมตัวมาตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว

ทั้งนี้ หากพบว่าผู้ใดมีพฤติกรรมในการให้ที่พักพิงบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถือว่ามีความผิดตามข้อกฎหมาย และหากบุคคลต่างด้าวถูกผลักดันออกนอกประเทศไปแล้ว อาจจะกลับมาอีกได้หรือไม่ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองต่อไป

แก๊งแขกขาวอาละวาดหนัก ! ฉกเงินแสน หลังใช้เหลี่ยมโจรหลอกแลกเงิน

พัทยา-(19 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 00.10 น. นายสมโภช อมรเศรษฐสกุล อายุ 33 ปี พนักงานร้านแลกรับเงินตราต่างประเทศ บริษัทห้างหุ่นส่วนจำกัดเพียรพัฒนาวิทย์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.อมรเทพ ใหม่มา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังต่างชาติคล้ายชาวตะวันออกกลางทำทีแลกเงิน ก่อนจะฉวยโอกาสแอบฉกเงินสกุลต่างประเทศกว่า 1 แสนบาท หลบหนีไป เหตุเกิดที่ตู้แลกเงินตราสกุลต่างประเทศของบริษัท ถนนพัทยาใต้

โดย นายสมโภช ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชายต่างชาติคล้ายชาวตะวันออกกลางถือเงินจำนวน 10,000 ยูโร เข้ามาแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทย จากการนับธนบัตรปรากฏว่าเงินนั้นขาดไป 100 ยูโร จึงได้ยื่นเงินของคนร้ายกลับคืนไป ทั้งนี้ คนร้ายได้นับเงินอยู่หลายรอบและสอบถามต่างๆ นาๆ เพื่อให้เกิดความสับสน จากนั้นคนร้ายได้เติมเงินส่วนที่ขาดเหลือจนครบ 10,000 ยูโร ก่อนออกอุบายพร้อมกับใช้เหลี่ยมโจรและไม่ทันระวังตัว

จึงหลงเชื่อใจแลกเปลี่ยนเงินกับคนร้ายโดยไม่ได้นับตรวจเช็คอีกรอบเนื่องจากรีบแลกลูกค้าต่างชาติที่ยืนต่อคิวอยู่ หลังจากนั้นจึงกลับมาเช็คจำนวนอีกที ปรากฏว่าเงินยูโรที่คนร้ายนำมาแลกสูญหายไปทั้งหมด 2,800 ยูโร เป็นเงินไทยกว่า 1 แสนบาท จึงรีบตรวจสอบกล้องวงจรปิดถ่ายรูปภาพคนร้ายและส่งลงแอปพลิเคชั่นไลน์ กลุ่มร้านแลกเงินในเมืองพัทยาให้ช่วยกันระมัดระวัง ปรากฏว่าที่ต่อคิวคนร้ายก็เพิ่งได้ก่อเหตุลักษณะแบบนี้ได้เงินไปร่วม 1 แสนบาท

ภายหลังสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนสั่งการชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวเกี่ยวกับคนร้ายแก๊งแขกขาวรายนี้ เนื่องจากแก๊งคนร้ายได้ออกอาละวาดก่อเหตุในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ล้วงคองูเห่า กะเทยซุกยาไอซ์ในแบงค์ 500 ให้ผู้ต้องหา โดนรวบคาโรงพักพัทยา

พัทยา-(18 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 00.30 น. ร.ต.ท.ไชยณรงค์ ไชยอินทร์ รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ร่วมกันจับกุมตัวนายภุชงค์ ลอยมั่ง อายุ 21 ปี สาวประเภทสอง (กะเทย) และน.ส.วรรณวิภา ฉวีทอง อายุ 34 ปี พร้อมของกลางเป็นเงิน 500 บาท และยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) น้ำหนัก 0.45 กรัม สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้องขัง สภ.เมืองพัทยา

สืบเนื่องจาก ช่วงบ่ายของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้ทำการจับกุม น.ส.วรรณวิภา ในข้อหามีสารเสพติดในร่างกาย โดยควบคุมตัวไว้ยังห้องคุมขัง สภ.เมืองพัทยา เพื่อรอส่งฟ้องศาล กระทั่งเวลาเกิดเหตุนายภุชงค์ เข้ามาติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณหน้าห้องคุมขังนักโทษ ขอเข้าเยี่ยมน.ส.วรรณวิภา

เมื่อเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้นายภุชงค์ทำทีคุยถามสารทุกข์สุขดิบ จากนั้นก็ได้หยิบธนบัตรใบละ 500 บาทพับครึ่ง โดยมียาไอซ์บรรจุซองพลาสติกแบบซิบยัดอยู่ในธนบัตรใบดังกล่าว หวังตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ก็ไม่พ้นสายตาของ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นจับกุมไว้ได้ในที่สุด

สอบสวน นายภุชงค์ ให้การว่า สาเหตุที่นำยามาให้กับ น.ส.วรรณวิภา เพราะเห็นว่า น.ส.วรรณวิภา ถูกจับมากลัวจะไม่มียาเสพ จึงได้ลักลอบนำเข้ามาให้และโดนจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

“ใจอาสา” บริจาคโลหิต เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา องค์อุปนายิกา ผอ.สภากาชาดไทย

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช ร่วมกับ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จังหวัดชลบุรี สภากาชาดไทย ตั้งศูนย์บริจาคโลหิตในโครงการ “ใจอาสา บริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีอุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย”

IMG_7518

พัทยา-(19 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ทาง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช ร่วมกับ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จังหวัดชลบุรี สภากาชาดไทย เปิดรับบริจาคโลหิดในโครงการ “PTB ASA ธนาคารเลือดรวมใจ” ที่ บริเวณลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช

IMG_7520

สำหรับโครงการดังกล่าวได้เชิญชวนพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมแสดงความจงรักภักดี น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ บริจาคโลหิตในโครงการ “ใจอาสา บริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีอุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย”

IMG_7521

เนื่องด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อสภากาชาดไทย ทรงให้ความสำคัญกับงานบริการโลหิตของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติเป็นอย่างมาก เพราะเป็นงานที่ได้รับมอบหมาย จากรัฐบาล ให้จัดหาโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ มีคุณภาพปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้ป่วยทั่วประเทศ

IMG_7522

ซึ่งบรรยากาศในวันนี้มีพนักงาน ร้านค้า และนักท่องเที่ยว เข้ามาร่วมบริจาคโลหิตเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น. และพิเศษผู้เข้าบริจาคโลหิตในวันนี้จะได้รับสิทธิพิเศษมากมายจากร้านค้าที่เข้าร่วมรายการกว่า 7 ร้านค้า

สัมมนาการเสริมสร้างศักยภาพอาคารบางประเภทบางขนาดให้ปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3

พัทยา-(18 ก.พ. 59) ที่ โรงแรมเอ-วัน เดอะรอยัล ครูส นายเจนจบ สุขสด ผู้อำนวยการฝ่ายคุรภาพสิ่งแวดล้อมและห้องปฏิบัติการ กรมควบคุมมลพิษ เป็นประธานเปิดการสัมมนาการเสริมสร้างศักยภาพอาคารบางประเภทบางขนาดให้ปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3 โดยมี ผู้ประกอบการโรงแรม โรงพยาบาลและผู้ประกอบการอาคารชุด ในพื้นที่จังหวัด ชลบุรี และระยอง จำนวน 100 ราย เข้าร่วมสัมมนา

นายเจนจบ สุขสด ผู้อำนวยการฝ่ายคุรภาพสิ่งแวดล้อมและห้องปฏิบัติการ กรมควบคุมมลพิษ กล่าววว่า จากการประกอบกิจการอาคารบางประเภทบางขนาดที่บัญญัติตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 หรือที่เรียกว่า “อาคาร” ถูกกำหนดเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษมีผลให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารดังกล่าวมีหน้าที่ต้องควบคุมการปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะให้เป็นไปตามค่ามาตรฐานน้ำทิ้งที่กฎหมายกำหนด อาคารบางแห่งยังคงประสบปัญหาน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจมีสาเหตุต่างๆ เช่น ผู้ประกอบการไม่ทราบข้อกฎหมายว่าตนเข้าข่ายเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ หรือมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ประสิทธิภาพไม่เพียงพอ รวมถึงไม่มีพื้นที่สำหรับจัดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น

S__11059208

กรมควบคุมมลพิษได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือให้ปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมมีหน้าที่ให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายสิ่งแวดล้อมให้แก่แหล่งกำเนิดมลพิษ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจผ่านการจัดสัมมนาสำหรับผู้ประกอบการ และการให้คำแนะนำในพื้นที่เมื่อมีการร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษรการสัมมนาครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งช่องทางการให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารที่ถูกกำหนดให้เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ ให้สามารถทราบข้อมูลด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมจากอาคารบางประเภทบางขนาด หลักการบำบัดน้ำเสีย และสามารถนำไปพิจารณาปรับปรุงดูแลรักษาระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพและผ่านมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด

สมาคมพระเครื่องเมืองพัทยา มอบเงินช่วยเหลือสังคม และทุนการศึกษา

IMG_7300
สมาคมพระเครื่องเมืองพัทยา มอบเงินช่วยเหลือสังคม และทุนการศึกษา ให้กับมูลนิธิและโรงเรียนในเขตอำเภอบางละมุง เพื่อนำเงินที่ได้ไปต่อยอดทางการศึกษาให้กับเด็กๆ

IMG_7308

พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ โรงแรมฟลิปเปอร์เฮ้าส์ ซอย 7 ถนนพัทยาสาย 2 ทาง สมาคมพระเครื่องเมืองพัทยา นำโดย นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร เหรัญญิกสมาคมพร้อมคณะกรรมการสมาคมฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือสังคม และทุนการศึกษา ให้กับมูลนิธิ และโรงเรียนในเขตอำเภอบางละมุง โดยมี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ งามพิเชษฐ์ อดีต ส.ส.พรรคพลังชล นายเอกสิทธิ์พิเชษฐ์ เลขานุการสมาคมนักธุรกิจเมืองพัทยา ร่วมเป็นสักขีพยาน

IMG_7306

สำหรับในวันนี้มูลนิธิ และโรงเรียน ที่ได้เข้ารับเงินช่วยเหลือสังคมและทุนการศึกษา มีทั้งหมด 4 หน่วยงาน ได้แก่ โรงเรียนผู้รู้ ญ สส.80, ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และเด็กถูกล่วงละเมิด (บ้านครูจา), โรงเรียนอนุบาลหนองปรือ และโรงเรียนวัดเขาโพธิ์ทอง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 110,000 บาท

IMG_7303

จับตานโยบายห้ามมีกิจกรรมชายหาด แต่ “สีสันตะวันออก” กลับโผล่ออกร้านริมหาดพัทยา

จับตานโยบายห้ามมีกิจกรรมชายหาดพัทยาหลังภาคธุรกิจรวมตัวยื่นหนังสือร้องขอ แต่สุดท้ายงาน “สีสันตะวันออก 2559” โผล่ออกร้านริมทะเลพัทยา 120 ร้าน รองนายกพัทยาปวดหัวหวั่นหาบเร่แผงลอยกลับมา พร้อมประสานกำลังทหารดูแลความสงบเรียบร้อย

พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 13.30 น. นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา และนายบุญชัย ทันสมัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี ร่วมประชุมปรึกษาหารือและเตรียมความพร้อมในการดำเนินการจัดงานมหกรรมด้านการท่องเที่ยวระดับชาติ งานมหกรรมสีสันตะวันออกงานเทศกาลท่องเที่ยว “สีสันตะวันออก 2559” ครั้งที่ 2 โดยมีตัวแทน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก (ชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี-ตราด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ทหาร มทบ.14 ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตลอด จนส่วนงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุม 242 ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

IMG_7285

สำหรับกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกัน โดยมีเวทีกลางอยู่บริเวณลานกิจกรรมศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีช รวมทั้งการออกบูธจำหน่ายสินค้ากินพื้นที่ทางเดินเท้าสาธารณะริมชายทะเลพัทยา ระหว่างวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ ไฮไลท์สำคัญของงานอยู่ที่การออกร้าน OTOP ระดับ 4-5 ดาว ร้านอาหารขึ้นชื่อแบบปรุงสำเร็จและปรุงสุกในงาน แหล่งท่องเที่ยว ที่พักโรงแรม จาก 4 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราดจังหวัดละ 30 บูธ รวมทั้งสิ้น 120 บูธ กินพื้นที่ตลอดแนวถนนระยะกว่า 400 เมตร

โดยกิจกรรมนี้กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเป็นผู้เสนอโครงการและงบประมาณผ่านสำนักงบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมกว่า 3 ล้านบาท เพื่อผลักดันให้เกิดการส่งเสริมรายได้จากการท่องเที่ยว โดยแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยมี บริษัท อิมเมจ คอปอเรชั่น (ประเทศไทย) เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินจัดงานหลายช่วงหลายปีที่ผ่านมา

IMG_7288

ในที่ประชุมได้มีการนำเสนอรูปแบบจัดงานที่ปีนี้กำหนดในคอนเซ็ปต์ “สีสันตะวันออก สีสันของชีวิตคุณ” โดยทางตัวแทนบริษัทผู้จัดงานเผยว่าที่ผ่านมาได้จัดการแถลงข่าวจัดงานนี้ไปแล้ว โดยมี นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา และนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เข้าร่วม ขณะที่การหารือวันนี้เป็นการพิจารณาแนวทางในการเตรียมความพร้อมของงาน

โดยในส่วนของบริษัทออแกไนเซอร์ผู้จัดงานได้ขอรับการสนับสนุนกำลังพลในการดูแลความสงบเรียบ ร้อยและรักษาความปลอดภัย พร้อมขอทำการปิดถนนตั้งแต่ช่วงพัทยากลางถึงพัทยาใต้ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป เพื่อจัดเตรียมขบวนพาเหรด โดยมีการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดจราจรและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เนื่องจากอาจได้รับผล กระทบจากการสัญจรในช่วงเวลาดังกล่าว

IMG_7289

ด้านนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ได้เน้นย้ำกับบริษัทผู้จัดงานให้มีการกำหนดรูปแบบการจัดงานให้ดีที่สุดและลดปัญหาที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับผู้ประกอบการหาบเร่ แผงลอยที่อาจขนคนและสินค้าเข้ามาวางจำหน่ายในพื้นที่เป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวได้ โดยร้องขอให้มีการปรับแผนการดูแลใหม่ด้วยการสนธิกำลังจากหลายฝ่ายเข้าร่วม เพื่อดูแล รวมทั้งเฝ้าระวังเรื่องของความปลอด ภัย การจราจร และความสะอาดในระหว่างการจัดงานด้วย

มีรายงานว่าที่ผ่านมากิจกรรมสำคัญอย่างเทศกาลปีใหม่ หรือพัทยาเคาท์ดาวน์ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหลักที่เมืองพัทยาจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวจนติด 1 ใน 10 ของกิจกรรมที่ได้ รับความนิยมสูงสุด ได้มีกลุ่มภาคเอกชนเมืองพัทยาในนามสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา รวม ทั้งสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ได้ยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการถึงนายกเมืองพัทยาเพื่อร้องขอให้พิจารณายกเลิกการจัดกิจกรรมบริเวณริมชายหาดพัทยาอย่างเด็ดขาด เนื่องจากมองว่าการออกร้านจำหน่ายสินค้าริมชายพัทยานั้นไม่เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว เนื่องจากขาดความเป็นระเบียบจนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์อย่างรุนแรง รวมทั้งเป็นการทำลายสภาพแวดล้อมริมชายหาดพัทยาให้มีความเสื่อมโทรม

IMG_7295

ซึ่งกรณีดังกล่าวในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จึงได้มีนโยบายให้ทุกฝ่ายเพิ่มความเข้มงวดอย่างจริงจัง พร้อมเห็น ชอบร่วมกันกับเมืองพัทยาที่จะยกเลิกพื้นที่การจัดเทศกาลปีใหม่จากบริเวณริมชายหาดและไปใช้พื้นที่เฉพาะบริเวณท่าเทียบเรือบาลีฮายพัทยาใต้แทน โดยมีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครนับพันนายมาดูแลตลอดแนวชายหาด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการค้าขายตลอดแนว

โดยในส่วนของกิจกรรม “สีสันตะวันออก” จึงถือเป็นกิจกรรมแรกที่ได้เข้ามาจัดงานและออกร้านริมชาย หาดหลังมีนโยบายในช่วงที่ผ่านมา โดยมีการระบุว่ากิจกรรมนี้เป็นงานของกลุ่มจังหวัดที่จะเสริมสร้างการท่องเที่ยว กระทั่งมีการวิพากษ์วิจารณ์จากหลายส่วนว่ากิจกรรมนี้เหมาะสมต่อการยกเว้นหรือไม่

ผู้สื่อข่าวหนุ่มพัทยาติดลิฟท์ ชั้น 6 อพาร์ทเม้นท์ กู้ภัยฯ เร่งช่วยเหลือวุ่น

ผู้สื่อข่าวหนุ่มพัทยาขึ้นชั้น 6 อพาร์ทเม้นท์ หวังเก็บภาพเหตุไฟไหม้ ขาลงไฟดับลิฟท์ค้าง กู้ภัยฯพร้อมเพื่อนผู้สื่อข่าวรุดช่วยเหลือวุ่น

จากกรณีเมื่อเวลา 17.50 น. ของวันที่ 18 ก.พ.59 เกิดเหตุเพลิงไหม้สนามมวย “แม็กซ์มวยไทยสเตเดียม” ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท-พัทยา 42 ถนนสุขุมวิท พัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา นำรถน้ำดับเพลิงและรถกระเช้ากว่า 10 คัน รุดเข้าช่วยเหลือระงับเหตุโดยด่วน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างเกิดเหตุเพลิงไหม้อยู่นั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้สื่อข่าวติดอยู่ภายในลิฟท์ ของ เอส.เค อพาร์ทเม้นท์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ จึงนำกำลังเข้าช่วยเหลือ

S__19062905

จากตรวจสอบทราบว่า ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวติดอยู่ภายในลิฟท์ บริเวณชั้นที่ 5 เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์งัดประตูลิฟท์ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถช่วยเหลือนำออกมาได้สำเร็จ ทราบชื่อต่อมา นายธีระรักษ์ สุทธาธิวงษ์ อายุ 37 ปี ฉายา “ตั้ม เมืองแพ” ผู้สื่อข่าวประจำเมืองพัทยา

โดย นายธีระรักษ์ เล่าเหตุการณ์ระทึกว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขึ้นไปเก็บภาพเหตุการณ์ไฟไหม้บนชั้น 6 ของอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว หลังจากเสร็จกิจจึงกลับลงมาโดยใช้ลิฟท์ จากนั้นเหตุไม่คาดฝันจึงเกิดขึ้น ไฟเกิดดับจนลิฟท์ค้างอยู่ที่ชั้น 5 ตอนแรกก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะอาคารดังกล่าวยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ และยังไม่เปิดให้คนเข้าพัก จึงพยายามตั้งสติและโทรศัพท์แจ้งเพื่อนนักข่าวด้วยกันที่กำลังทำข่าวไฟไหม้ ก่อนทุบประตูลิฟท์และส่งเสียงขอความช่วยเหลือ จนเวลาผ่านไปกว่า 10 นาที จึงสามารถช่วยเหลือออกมาได้ ซึ่งเหตุการณ์ติดลิฟในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิต

S__19062896

เบื้องต้น ผู้สื่อข่าวรายนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และรีบกลับไปทำหน้าที่ทำข่าวต่อทันที ส่วนสาเหตุเกิดจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาตัดกระแสไฟฟ้า จนทำให้ลิฟท์เกิดค้างเป็นเหตุให้ผู้สื่อข่าวหนุ่มติดอยู่ในลิฟท์ดังกล่าว