พัทยา-(13 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. ร.ต.ท.เชาวลิต สุวรรณมณี รองสวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ร่วมกันจับกุม นายภาณุวัฒน์ สุบรรณ ณ อยุธยา อายุ 21 ปี และน.ส.ไพรินทร์ รอบแคว้น อายุ 35 ปี พร้อมของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 8 ตัว หัวแต่ง 6 ตัว น้ำยากลิ่นผลไม้ต่างๆ จำนวน 40 ขวด ที่ภายในซอยบงกช พัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจากได้รับทราบจากสายลับว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ จึงให้สายลับทำการติดต่อซื้อสิ้นค้าในราคา 2,000 บาท จากนั้นได้นัดส่งของกันภายในซอยบงกช เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นพบกระเป๋าเป้สีแดงอยู่ภายในรถตรวจสอบพบบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยากลิ่นผลไม้จำนวนมากดังกล่าว จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมควบคุมตัวมายัง สภ.เมืองพัทยา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ขายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาโดยผิดกฎหมาย” ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว Ku Salick
พัทยา-(7 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 04.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งมีคนถูกอาวุธมีดฟันที่อวัยวะเพศ ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งภายในซอยเนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่า พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อ นายสมชาย(นามสมมุติ) อายุ 41 ปี คนกรุงเทพมหานคร ได้พาร่างที่บริเวณเป้าชุ่มไปด้วยเลือดใช้ถุงน้ำแข็งประคบอวัยวะเพศ ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด โดยมี น.ส.แอน(นามสมมุติ) ภรรยา อายุ 39 ปี คนกำแพงเพชร ยืนรอดูอาการอย่างไม่ละสายตา เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลบางละมุงอย่างเร่งด่วน
สอบถาม น.ส.แอน(นามสมมุติ) ผู้เป็นภรรยา เล่าว่าตนทั้งสองมีอาชีพค้าขายไก่ทอด ก่อนเกิดเหตุได้ระแคะระคายว่าสามีสุดที่รักแอบปันใจให้หญิงอื่น ซึ่งหญิงสาวคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทที่ตนเองไว้ใจแอบมามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสามี ทำให้ตนเองเกิดความคับแค้นใจเป็นอย่างมาก จึงวางแผนทำที่ไปลูบคลำอวัยวะเพศ จากนั้นอาศัยจังหวะที่สามีกำลังเคลิบเคลิ้มใช้มีดคัตเตอร์เฉือนอวัยวะเพศของสามีจนเกือบขาดเลือดพุ่งกระฉูดเต็มที่นอน ทำให้สามีร้องลั่นบ้านด้วยความสงสารจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำส่งโรงพยาบาล
เบื้องต้น นายสมชาย(นามสมมุติ) ได้รับบาดเจ็บและเสียเลือดมาก ขณะนี้อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนอวัยวะเพศจะกลับมาใช้การได้เหมือนเดิมหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เนื่องจากกลัวกระทบกระเทือนจิตใจของผู้บาดเจ็บ จึงต้องรอติดตามผลการรักษาและพักฟื้นดูอาการต่อไป
ภาพ/ข่าว Ku Salick
พัทยา-(23 พ.ค. 59) เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค สำนักการสาธารณสุขเมืองพัทยา นำโดย นางบุปผา ส่งสกุลชัย นักวิชาการสุขาภิบาลชำนาญการ ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านขายน้ำส้มคั้น บริเวณท่าเที่ยวเรือท่องเที่ยว (แหลมบาลีฮาย) พัทยาใต้ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังมีกระแสข่าวเกี่ยวกับ พ่อค้าน้ำส้มคั้นหัวใส นำขวดกรอกน้ำประปาผสมหัวเชื้อน้ำส้ม ขายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์เมืองพัทยาเป็นอย่างมาก
เนื่องจากยังไม่มีการร้องเรียนจากผู้บริโภค การลงพื้นที่ครั้งนี้จึงเป็นการเฝ้าระวัง เพื่อตรวจสอบความสะอาดสุขอนามัย เบื้องต้นพบว่า มีร้านขายน้ำส้มคั้นในบริเวณดังกล่าวอยู่ 2-3 ร้าน และจากการตรวจสอบยังไม่พบพ่อค้าต้องสงสัยคนในข่าวแต่อย่างใด
สอบถาม นางสุปราณี ปราณพยับ อายุ 54 ปี เล่าว่า ตนเองขายน้ำส้มบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายมามากกว่า 8 ปี วิธีการจะทำวันต่อวันโดยใช้น้ำส้มแท้คั้นสด ผสมกับน้ำส้มสังเคราะห์ที่ซื้อจากห้างสรรพสินค้า (ไม่ใสสารกันบูด) แล้วนำมาใสขวดพลาสติกมาจำหน่ายในราคา 20 บาทต่อขวด ซึ่งจัดเตรียมมา 200 ขวด ในวันปกติ และ 400 ขวดในวันหยุดเทศกาล ซึ่งจะขายหมดทุกครั้ง หากมีตกค้างบ้างจะไม่นำมาขายต่อ ส่วนกระแสข่าวเกี่ยวกับพ่อค้าน้ำส้ม ตนเองรู้สึกไม่ดีและเสียใจ เนื่องจากทำให้อาชีพของตนที่ทำมานานเสื่อมเสีย อีกทั้งหลังจากมีกระแสข่าวออกไป ส่งผลให้ยอดขายน้ำส้มของตนลดลง แต่ตนจะไม่ย่อท้อเพราะมั่นใจในรสชาติและความสะอาด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บตัวอย่างน้ำส้ม ขวดพลาสติกที่ใช้ และส่วนผสมต่างๆ เพื่อนำไปตรวจสอบความสะอาด และการเจือบนของแบคทีเรีย ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-7 วัน ก่อนประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เพื่อหามาตรการควบคุมดูแล และดำเนินการกับผู้กระทำความผิดต่อไป
ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้
พัทยา-(1 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 03.30 น. ร.ต.ท.อมรเทพ ใหม่มา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักชนรถแม่ค้าที่จอดอยู่ข้างทางได้รับความเสียหาย เหตุเกิดบริเวณหน้าทางเข้าถนนวอล์คกิ้ง สตรีท ถนนเลียบชายหาดพัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กูภัยสว่างธรรมสถานเมืองพัทยา รีบรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแตกตื่นกับเหตุการณ์ โดยรถตู้โดยสารร่วม บขส.(ช) สายกรุงเทพฯ-พัทยา ทะเบียน 15-7938 กทม. พุ่งชนเข้ากับรถขายกาแฟโบราณ รถขายปลาหมึกย่าง ก่อนชนอัดเข้ากับแท่นแบลิเออร์ ได้รับความเสียหายข้าวของกระจัดกระจายแตกเกลื่อนพื้นถนน
ตรวจสอบภายในรถตู้มีชาย 3 คนอยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนักพูดจาไม่รู้เรื่อง โดยมี นายศักย์ศรณ์ กิตติชัยภูมิ อายุ 25 ปี เป็นผู้ขับขี่ และนายกิตติศักดิ์ หาญมนตรี อายุ 65 ปี (เจ้าของรถ) อีกรายทาบชื่อคือนายเก่ง พร้อมสุรายี่ห้อดัง 2 ขวด ขวดโซดาและแก้วเหล้า โดยที่นายกิตติศักดิ์ อยู่ในอาการเมาโวยวายไม่ยอมรับผิดชอบใดๆ เจ้าหน้าตำรวจจึงควบคุมตัวไปยัง สภ.เมืองพัทยา
สอบถาม น.ส.เนตรทราย เอกอุ่น 51 ปี เจ้าของรถกาแฟโบราณ เล่าว่าในขณะเธอได้จอดรถไว้ริมทางเพื่อเดินเอาน้ำไปส่งลูกค้าที่วินจยย.รับจ้างบริเวณข้างเคียง จากนั้นรถตู้คันดังกล่าวก็ขับมาด้วยความเร็วส่ายไปสายมา และเสียหลักชนกับรถกาแฟของตนเอง รถขายปลาหมึกอย่างที่จอดแอบอยู่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเวลาดังกล่าวนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปมาจำนวนมาก ทั้งวินจยย.บริเวณใกล้เคียงต่างพากันโดดหนีตายกันอลหม่าน โชคดีมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายถึงชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัว นายศักย์ศรณ์ ผู้ขับขี่ ไปตรวจวัดระดับปริมาณแอลกฮอล์ในร่างกาย ส่วนรถตู้จะยึดไว้เป็นของกลางพร้อมแจ้งขอกล่าวหาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-(16 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 02.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เพ็ญนภา นนศรีภักดี อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดเลย อาชีพแม่ค้าเร่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.สิระภูเดชน์ ชำนาญกิจ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าเมื่อช่วง 5 ทุ่ม คืนที่ผ่านมา มีชายอ้างตัวเป็นตำรวจเชิดลอตเตอรี่ ภายในซอย 7 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา
น.ส.เพ็ญนภา แม่ค้าเร่ขายฉลากกินแบ่งรัฐบาล เล่าว่า ได้มีลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติ นั่งดื่มสุราอยู่ในบาร์เบียร์ เรียกเธอเข้าไปขอเลือกซื้อลอตเตอรี่ แต่ปรากฏว่าต่างชาติคนดังกล่าวได้ดึงลอตเตอรี่หลุดออกมาทั้งหมด 8 ใบ แต่ได้เลือกซื้อเพียง 1 ใบเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 7 ใบ ซึ่งถืออยู่ในมือข้างขวาและที่กำลังจะเย็บเข้าแผง และได้มีชายไทย อายุประมาณ 30 ปี สีผิวดำ-แดง รูปร่างผอม ตัดผมรองทรง สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมชุดกีฬา โดยอยู่ในอาการเมาสุรา
จากนั้นชายคนดังกล่าวได้นั่งเก้าอี้อยู่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างกลางซอยที่เกิดเหตุ ได้เข้ามาคว้ามือและดึงลอตเตอรี่จากมือที่ถืออยู่ไป ก่อนจะหลอกถามว่าหวยทั้งหมด 7 ใบ ราคาเท่าไหร่ จึงได้ตอบไปว่าทั้งหมดราคา 630 บาท ซึ่งขายตกใบละ 90 บาท จากนั้นชายดังกล่าวได้อ้างตัวเป็นตำรวจพร้อมกับข่มขู่ว่าถูกจับแล้ว โดยจะสั่งเจ้าหน้าที่สายตรวจมารับตัวไปดำเนินคดี ทำให้เริ่มรู้สึกไม่ดี
ต่อมาได้มีหัวหน้าวินจุดเกิดเหตุ เข้ามาเจรจาพูดคุยให้ปล่อยตัวไป จนกระทั่งชายดังกล่าวจะได้ปล่อยตัวและเดินหนีหายไปพร้อมกับลอตเตอรี่ ทั้งนี้ วินจักรยานยนต์รับจ้างต่างพากันพูดว่าชายดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศจ่า แต่ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ทำให้วันนั้นต้องเลิกขายทันที ก่อนจะนำเรื่องเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่หน้าอัลคาซ่าร์ คาบาเร่ต์ พัทยา ฟังถึงเหตุการณ์ ก่อนจะได้คำแนะนำให้แจ้งความเอาผิดและอายัดลอตเตอรี่ไว้ก่อน
ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะลงพื้นที่จุดเกิดเหตุหาข้อมูล เกี่ยวกับผู้ก่อเหตุอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นข้าราชการตำรวจจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้อายัดลอตเตอรี่ ประจำงวดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ถูกก่อเหตุไว้แล้ว
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยาอัพเดทนิวส์ นำเสนอ ฉับไว เพื่อสังคม