กสทช. เปิดตัวแอปพลิเคชัน “3 ชั้น” ป้องกันลักลอบนำบัตรประชาชนเปิดเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยเจ้าของไม่รู้ตัว
เมื่อเวลา 11.00 น ของวันที่ 12 ธันวาคม 2560 ที่ ร้านกาแฟ The Sweeteners ซอย.เขาตาโล ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข ผู้อำนวยการสำนักบริหารและจัดการเลขหมายโทรคมนาคม เปิดการแถลงข่าว แอปพลิเคชัน “3 ชั้น” ป้องกันลักลอบนำบัตรประชาชนเปิดเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยเจ้าของไม่รู้ตัว ได้กล่าว่าวในปัจจุบันมีผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมทั้งสิ้นกว่า 120 ล้านเลขหมาย และผู้ใช้บริการบางรายอาจใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มากกว่า 1 เลขหมาย รวมทั้งมี การใช้แอปพลิเคชันผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่มากขึ้นในการทำธุรกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ ซึ่งต้องใช้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่อ้างอิงในการใช้งาน ดังนั้นเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ และป้องกันการลักลอบนำบัตรประชาชนไปลงทะเบียนเปิดใช้งานโดยเราไม่รู้ตัว สำนักงาน กสทช. จึงได้จัดทำแอปพลิเคชันในชื่อว่า “3 ชั้น” เพื่อทำการ “ตรวจ” “แจ้ง” และ “ล็อค” โดยผู้ใช้บริการทั้งระบบรายเดือนและระบบเติมเงิน สามารถดาวน์โหลดผ่าน https://3steps.nbtc.go.th หรือพิมพ์คำว่า “3 ชั้น” ผ่าน Google Play หรือ Play Store และสมัครใช้งานแอปพลิเคชันได้ที่ศูนย์ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกค่าย โดยเลือกสมัครเพียงค่ายนั้นที่ท่านใช้งานอยู่เพียงค่ายเดียวเท่านั้น แอปพลิเคชันนี้เป็นการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและเป็นการปกป้องสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่จึงมีความจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนก่อนการใช้ แอปพลิเคชันผ่านศูนย์ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อความปลอดภัย จึงทำให้ประชาชนบางส่วนมองว่ายุ่งยาก และอาจเกิดความลังเลในการเริ่มใช้งาน แต่เมื่อใช้งานแอปพลิเคชันนี้แล้วจะสามารถป้องกันผู้อื่นนำบัตรประชาชน ไปเปิดเบอร์โทรศัพท์โดยไม่รู้ตัว
สำหรับขั้นตอนการใช้งาน แบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือ 1. ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถตรวจเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในชื่อคุณภายใน 1 คลิ๊ก โดยระบบจะตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนในชื่อของคุณจากฐานข้อมูลของทุกค่าย 2. แจ้งระงับเบอร์แปลกปลอมที่ลงทะเบียนในชื่อของคุณ หรือเบอร์ของคุณที่ขาดหายไป ก่อนยืนยันตัวตนที่ศูนย์ให้บริการ และ 3. ผู้ใช้บริการสามารถล็อคและปลดล็อคการเปิดเบอร์โทรศัพท์ใหม่ด้วยตัวคุณเอง เพื่อป้องกันผู้อื่นนำบัตรประชาชนของคุณไปแอบอ้างการเปิดเบอร์ใหม่ และเมื่อคุณต้องการเปิดเบอร์ใหม่ก็สามารถทำการปลดล็อคจากแอพพลิชันได้ด้วยตัวเอง
“ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกค่าย สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน 3 ชั้น ได้ตั้งแต่วันนี้ ซึ่งวัตถุประสงค์หลัก สำนักงาน กสทช. ต้องการให้ประชาชนมีเครื่องมือของตัวเองในการตรวจสอบ และปกป้องตัวเองจากการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยดำเนินงานร่วมกันกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกค่าย เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการกำกับดูแล และการให้บริการประชาชนในยุคดิจิทัล ที่สามารถนำข้อมูลของผู้ใช้บริการที่กระจายอยู่กับทุกค่ายมาบูรณาการเป็นหนึ่งเดียวเพื่อเป็นเครื่องมือในการ ตรวจ แจ้ง ล็อค ให้กับประชาชน
ตะเคียนเตี้ย-ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ อาคารอเนกประสงค์ ชุมชนตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง และนายธิติ จันทร์แต่งผล รักษาการผู้จัดการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) สำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง (อพท.3) ร่วมเปิดกิจกรรมดาราพาเที่ยววิถีไทย พักใจที่บางละมุง ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สัมผัสและเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ณ ชุมชนตะเคียนเตี้ย โดยมี พ.จ.อ.นิวัฒน์ ภู่สากล หัวหน้าฝ่ายปกครอง เทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย และ พ.จ.อ.สมชัย ศิริสมบัติ ปลัดเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย
สำหรับงานดังกล่าวจังหวัดชลบุรีโดย บริษัท ประชารัฐรวมใจรักสามัคคี (ชลบุรี) ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคประชาชนในชุมชนร่งมดำเนินการจัดขึ้นตามนโยบายประชารัฐที่ต้องการเห็นทุกภาคส่วนในสังคมช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ โดยจะดำเนินการในพื้นที่ต่างๆ ที่มีความเหมาะสม ก่อนหาจุดขายหลักของท้องถิ่นมาเป็นตัวชูโรงดำเนินเรื่องสร้างความน่าสนใจให้กิจกรรม
ตำบลตะเคียนเตี้ย ตั้งอยู่ในเขตอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี มีทั้งสิ้น 5 หมู่ รวม 9 ชุมชน ในอดีตมีอาชีพทำนา แต่ต่อมาน้ำไม่เพียงพอ ก่อนผันมาปลูกมะพร้าวและทำการเกษตรหลากหลาย โดยมีมะพร้าวเป็นอาชีพหลักนำรายได้เข้าสู่ชุมชน ถือเป็นชุมชนวิถีไทยที่มีมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อคือ “ไก่กะลา” ซึ่งเป็นอาหารที่หาทานยาก ถือเป็นเมนูเฉพาะที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์อีกเมนูหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในกิจกรรมได้จัดให้มีการสาธิตวิธีทำไก่กะลา โดยมี จูเนียร์ เดอะสตาร์ มาร่วมสร้างสีสัน นอกจากนี้ได้มีการประกวดตั้งชื่อ ถนนวัฒนธรรมตะเคียนเตี้ย ซึ่งเป็นถนนสายหลักและเป็นศูนย์กลางของชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย โดยชื่อที่ชนะการประกวดที่ได้รับรางวัลคือ “ถนนไก่กะลา” ซึ่งถ่ายทอดความเป็นตัวตนของชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ยได้เป็นอย่างดี ซึ่งในวันนี้ก็ได้ถือโอกาสเปิดถนนไก่กะลาอย่างเป็นทางการด้วย
“เอสเซ็นโซ่” บุกตลาดภาคตะวันออก เลือกพัทยา จัดกิจกรรมชงชิม ฟรี!! 4 ภาคทั่วไทย บริษัท เอส ซี เอ็ม แอล (ประเทศไทย) จำกัด นำ โดยนายสรพล บุญภากร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท พี.เอส.บี.จำกัด จูงมือแบรนด์แอมบาสเดอร์ อาเล็ก ธีรเดช จัดกิจกรรม “เอสเซ็นโซ่” ชงชิม ฟรี!! 4 ภาคทั่วไทย ส่ง 2 รสใหม่ เต็มรสเต็มกลิ่นเอาใจคนรักกาแฟดำ โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ที่ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเฟสติวัลเฟสติวัลพัทยาบีช
นายสรพล บุญภากร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท พี.เอส.บี.จำกัด กล่าวว่ส หลังทำการเปิดตัว “เอสเซ็นโซ่ ” กาแฟ ไมโครกราวด์ บุกตลาด 3 in 1 และ 2 in 1 เป็นกาแฟคั่วบดละเอียด (กาแฟสด) ในปี 2559 ที่ ผ่านมา จนประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยยอดขายกว่า 165 ล้านบาท ในปีแรก และเพื่อทำการตลาดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ในปี 2560
บริษัท เอส ซี เอ็ม แอล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายกาแฟปรุงสำเร็จ ภายใต้แบรนด์ “ซุปเปอร์กาแฟ” และแบรนด์ “เอสเซ็นโซ” จากประเทศสิงคโปร์ ได้ใช้งบประมาณ 180 ล้านบาท สำหรับการออกสินค้าใหม่ “เอสเซ็นโซ่ ไมโครกราวด์ แบล็ค คอฟฟี่” เป็นกาแฟคั่วบดละเอียด (กาแฟสด) มาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะ 2 สัมผัสใหม่ ได้อย่างเต็มรสเต็มกลิ่นในแบบกาแฟดำที่ปราศจากน้ำตาลและนม เพื่อเพิ่มจำนวนกลุ่มผู้บริโภค แตกไลน์ไปสู่กลุ่มที่ชื่นชอบดื่มกาแฟดำให้มีมากขึ้น
โดยบริษัทได้ทำการประชาสัมพันธ์ และจัดกิจกรรมการตลาดส่งเสริมการขาย ในทุกเซ็กเมนต์ พร้อมกันนี้ ยังดึงศิลปินชื่อดัง “อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ และ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อเข้าถึงคอกาแฟได้ทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งแฟนๆ ของดาราทั้ง 2 คน สามารถติดตามชมโฆษณาของทั้ง 2 คน ได้ทางช่องโทรทัศน์หลักๆ และสื่อต่างๆ นอกจากนี้ “อาเล็กและแต้ว” แบรนด์แอมบาสเดอร์ จะสลับผลัดเปลี่ยน เดินสายพบปะแฟนคลับ ในการนำ “เอสเซ็นโซ่ ไมโครกราวนะแบล็ค คอฟฟี่” ชงให้ได้ชิมกันสดๆ ถึง 4 จังหวัด 4 ภาค
มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 โดยมี 5 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก และ เพชรบูรณ์ จัดนิทรรศการชูศักยภาพ ภายใต้โครงการพัฒนาสมรรถนะการจัดการแหล่งท่องเที่ยวชุมชน แหล่งท่องเที่ยวนิเวศและเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ณ ศูนย์การค้า Harbor Pattaya
ดร.อาทิตย์ พงษ์พานิช รองผู้อำนวยการวิทยาลัยประชาคมอาเซียนศึกษา และหัวหน้าโครงการพัฒนาสมรรถนะการจัดการแหล่งท่องเที่ยวชุมชน แหล่งท่องเที่ยวนิเวศ และเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2558-2560 ได้กำหนดไว้ 3 ยุทธศาสตร์ คือการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว การพัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยว การบริหารจัดการการท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มภาคเหนือตอนล่าง 1 คือ จังหวัด พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก และเพชรบูรณ์ มีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่สำคัญหลากหลายทั้งทางนิเวศ เช่น อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อุทยานแห่งชาติเขาหลวง อุทยานแห่งชาติเขาค้อ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมเช่น อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย พระราชวังจันทร์
ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและมีศักยภาพในการพัฒนาได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านกายภาพของภูมิภาคสามารถเชื่อมโยงภายในและภายนอกโดยสะดวก เป็นพื้นที่ผสมผสานทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการบริการอย่างครบถ้วน จุดเด่นของภูมิภาคดังกล่าวทำ ให้มีโอกาสในการพัฒนาและสร้างสรรค์เศรษฐกิจได้กว้างไกลหลากหลายเช่น การเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวด้วยความหลากหลายของทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้องในรูปแบบต่างๆ
ดร.อาทิตย์ กล่าวต่ออีกว่า งานนิทรรศการการท่องเที่ยวและนำเสนอผลิตภัณฑ์ 4 ภาค ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 จะเวียนไปตามภาคต่างๆ โดยมีธีมงานหลักคือ 5 จังหวัด สักครั้งในชีวิต โดยนำเสนอศักยภาพและจุดเด่นการท่องเที่ยวทางนิเวศ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ผลิตภัณฑ์เด่นจาก ทั้ง 5 จังหวัด นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมพิเศษต่างๆ การ เจรจาธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ จุดแสดงภาพถ่าย ของทั้ง 5 จังหวัด
อีเลฟเว่นสตรีท (11street) อีคอมเมิร์ชดังแดนกิมจิรุกตลาดไทย ล่าสุดเลือกพัทยาเปิดตัวขยายฐานการตลาดสู่ภาคตะวันออก หวังอำนวยความสะดวกให้กับคนชอบช้อปออนไลน์
พัทยา-(20 ก.ค. 60) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ โรงแรมเมอร์เคียวพัทยาโอเชี่ยน รีสอร์ท จ.ชลบุรี กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซจากประเทศเกาหลีใต้ภายใต้ชื่อ อีเลฟเว่นสตรีท (11street) นำโดย นายฮง โซล จอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีเลฟเว่นสตรีท ประเทศไทย พร้อมด้วยนายเดวิด โช ผู้จัดการฝ่ายดิจิตอลมาเก็ตติ้ง ร่วมเปิดตัวอีเลฟเว่นสตรีทขยายตลาดออนไลน์สู่ชาวภาคตะวันออก โดยมีสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าร่วม
นายฮง โซล จอน ให้ข้อมูลผ่านล่ามแปลภาษาว่า อีเลฟเว่นสตรีท (11street) เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท SK Telecom ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอันดับหนึ่งของประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นตลาดสินค้าออนไลน์ที่มาเป็นอันดับหนึ่งในแดนกิมจิที่มีสินค้ามากมาย มีระบบการซื้อขายที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มก่อตั้งในปี 2551 ที่ผ่านมาเปิดให้บริการนักช้อปออนไลน์ทั้งในประเทศ รวมถึงต่างประเทศ ทั้ง มาเลเซีย ตุรกี และอินโดนีเซีย
ในส่วนของประเทศไทย อีเลฟเว่นสตรีท ได้เข้ามาเปิดตัวธุรกิจอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีสำหรับลูกค้าชาวไทย จากข้อมูลล่าสุดพบว่ามีตัวเลขผู้ร่วมเข้าร่วมชมแล้วกว่า 17 ล้านราย สามารถขายของบนแพลตฟอร์มของอีเลฟเว่นสตรีทแล้วกว่า 1.6 หมื่นราย มีนักช้อปแล้วกว่า 4.3 แสนราย ถือเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่กำลังมาแรง ก่อนขยายตลาดออนไลน์มาสู่ภาคตะวันออกโดยเลือกเมืองพัทยาเป็นสถานที่เปิดตัวธุรกิจดังกล่าว
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญ “KTB Precious Exclusive Movie Day in Pattaya” ชมภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าสนุกและตื่นเต้นเร้าใจ เรื่อง Spiderman-Homecoming ที่ โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ดิอเวนิว พัทยา
พัทยา-ธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน ได้จัดกิจกรรม KTB Precious Exclusive Movie Day in Pattaya ถือเป็นกิจกรรมที่ทางธนาคารกรุงไทยจัดขึ้นเพื่อมอบความสุขให้กับลูกค้าให้ได้ร่วมสัมผัสกับประสบการณ์สุดประทับใจ โดยกิจกรรมดังกล่าวที่เมเจอร์ซินีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าดิอเวนิว พัทยา จ.ชลบุรี
ในกิจกรรมได้จัดให้ลูกค้าพิเศษทาง http://www.ktb.co.th มาร่วมชมภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่เรื่อง Spiderman-Homecoming นอกจากนี้ภายในยังมีกิจกรรมความบันเทิงมากมาย อาทิ การแสดงสุดพิเศษ “I am Spiderman” ที่จะมาช่วยสร้างรอยยิ้ม และความประทับใจ พร้อมถ่ายภาพร่วมกับ สไปเดอร์แมน เพื่อที่ระลึกด้วย
นายเมธี พานสายตา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มเครือข่ายภาคตะวันออกธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน กล่าวว่า กิจกรรม KTB Precious Exclusive Movie Day in Pattaya ถือเป็นกิจกรรมที่ทางธนาคารกรุงไทยจัดขึ้นเพื่อมอบความสุขให้กับลูกค้าให้ได้ร่วมสัมผัสกับประสบการณ์สุดประทับใจ ซึ่งในครั้งนี้ได้จัดขึ้นที่เมืองพัทยา
“สำหรับลูกค้าคนพิเศษของธนาคารกรุงไทยเตรียมพบกับประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับกิจกรรม “KTB Precious Exclusive Movie Day” ได้ที่ http://www.ktb.co.th รับรองได้ว่าจะได้รับความสนุกสุดวีไอพี พร้อมกิจกรรมความบันเทิงมากมาย ตลอดทั้งปี” นายเมธี ระบุ
พัทยา-(19 เม.ย. 60) เป็นเทศกาลวันไหลเมืองพัทยา ซึ่งตรงกับวันที่ 19 เม.ย.ของทุกปี ถือเป็นปฏิทินการท่องเที่ยวไทยที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณถนนเลียบสายชายหาดพัทยา ทำการปิดถนนตลอดสาย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนมาจัดกิจกรรมสร้างสีสัน ทำให้ชายหาดแน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา นำโดย พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดมาตั้งเต็นท์ดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมนำไอศกรีมมาแจกจ่ายให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำสงกรานต์เพื่อคล้ายร้อน จากอุณหภูมิที่สูงกว่า 30 องศา ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวแห่รับไอศกรีมเป็นจำนวนมาก นอกจากแจกไข่ต้มแล้วตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ยังนำหมวก และซองกันน้ำมาแจกจ่ายให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-(19 เม.ย. 60) เมื่อเวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เข้าตรวจสอบเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคลุ้มคลั่งอาละวาด เหตุเกิดบริเวณอพาร์ทเม้นท์ป้าสมคิด ภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ 17 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังล้อมจับกุมตัวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (ไม่ทราบชื่อและสัญชาติ) อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งพูดจาไม่รู้เรื่องส่งเสียงโวยวายสนั่น มีบาดแผลที่ใบหน้าและตามร่างกายพบบาดแผลหลายแห่ง เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องใช้เชือกมัดและช่วยกันจับตัวไว้ ก่อนพาไปปฐมพยาบาลบาดแผลสงบสติอารมณ์
สอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ทราบว่าชาวต่างชาติคนดังกล่าว คลุ้มคลั่งปีนขึ้นไปวิ่งบนหลังคาบ้าน จนกระเบื้องหลังคาแตกตกลงมาในตัวบ้านวิ่งไล่ทำลายข้าวของไปทั่ว ชาวบ้านจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและช่วยกันจับกุมดังกล่าว
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-(18 เม.ย. 60) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุโครงเหล็กอุโมงค์น้ำที่ตั้งอยู่ริมชายหาดพัทยา บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยาบีช ล้มลงมาทับคนงานได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบโครงเหล็กสูงประมาณ 8 เมตร ที่สร้างเป็นอุโมงค์น้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวเล่นในวันไหลพัทยา ซึ่งมีกำหนดเปิดใช้ในวันไหลพัทยา (19 เม.ย. 60) สภาพเสาทั้ง 4 ด้านล้มครืนลงมาจนคานเหล็กที่สร้างครอบถนนอยู่ด้านบน หล่นลงมาทับรถยนต์ชาวบ้านเสียหายเล็กน้อย 1 คัน และกีดขวางการจราจรทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้
นอกจากนี้ยังมีพนักงานฝ่ายสวนสาธารณะ ส่วนส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม สำนักสิ่งแวดล้อมเมืองพัทยา ถูกโครงเหล็กทับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ขา 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่ง รพ.เมืองพัทยา ส่วนพนักงานที่เหลือต่างพากันรีบถอดส่วนประกอบเพื่อรื้อโครงเหล็กออกจากถนน ก่อนขนขึ้นรถบรรทุกนำไปเก็บไว้ พร้อมกับเปิดการจราจรตามปกติ
สอบถามหนึ่งในพนักงานฝ่ายสวนสาธารณะ เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้นำกำลังมาย้ายอุโมงค์น้ำจากจุดดังกล่าวไปไว้ที่หน้า สภ.เมืองพัทยา เพราะว่าทางศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยาบีช จะใช้พื้นที่ตั้งเวทีคอนเสิร์ตโดยที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทั้งๆ ที่ได้ติดตั้งโครงเหล็กและระบบน้ำไว้หมดแล้ว โดยในระหว่างช่วยกันยกเสาค้ำยันคานอุโมงค์น้ำอยู่นั้น จู่ๆ เสาเกิดล้มครืนลงมาทับขาพนักงาน 2 รายจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยดังกล่าว ภายหลังจึงช่วยกันรื้อโครงเหล็กนำไปเก็บไว้ และยกเลิกการติดตั้งอุโมงค์น้ำช่วงดังกล่าวไปโดยปริยาย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ทำการสอบสวนพยานแวดล้อมเพื่อหาข้อสรุปและผู้ที่จะมารับผิดชอบความเสียหายต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-(17 เม.ย. 60) เมื่อเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ เหตุเกิดบริเวณใกล้เคียงโรงแรมไดยาน่า ริมถนนพัทยาสายสาม ม.9 ต.หนองปรือ อ.บาละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ MR.YUN KWANG JIN อายุ 65 ปี สัญชาติเกาหลี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านล่ามแปลภาษาว่า ในขณะที่กำลังเดินเท้ากลับที่พักมีชายวัยรุ่นขับขี่จยย. โดยมีผู้หญิงผมยาวนั่งซ้อนท้ายเอื้อมมือมากระชากกระเป๋าสะพาย ซึ่งภายในกระเป๋ามีเงินสด 20,000 บาท โทรศัพท์ มือถือ 1 เครื่อง ราคาประมาณ 15,000 บาท และเอกสารสำคัญหลายรายการ ก่อนพากันเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
สอบถาม น.ส.อ้อมตะวัน เชลิอุส อายุ 36 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะนั้นเห็นชายวัยรุ่นขับขี่จยย. มากันสองคนกับผู้หญิง ก่อนจะได้ยินเสียงชาวต่างชาติตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ว่าถูกกระชากกระเป๋า จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ภาพ/ข่าว Ku Salick
พัทยาอัพเดทนิวส์ นำเสนอ ฉับไว เพื่อสังคม