พัทยา-(1 พ.ย. 61) เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณะภัยหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน เหตุเกิดที่บ้านพักไม่มีเลขที่ภายใน ซอยวัดบุญสัมพันธ์ 14 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลหนองปรือและเมืองพัทยารุดที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักลักษณะเป็นเพิง ปลูกสร้างด้วยสังกะสีจำนวนกว่า 20 หลังปลูกติดกันคล้ายแคมป์ก่อสร้าง เปลวเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างหนัก กลุ่มควันพวยพุ่งคละคลุ้งไปทั่วบริเวณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้รถดับเพลิงจำนวน 5 คัน และรถอุปกรณ์ของสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา ต่างระดมฉีดน้ำสกัดแต่สภาพอากาศที่มีลมแรงทำให้เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วจนเผาผลาญจนวอดไปถึง 5 หลัง เจ้าหน้าที่พยายามฉีดน้ำสะกัดเพลิงอย่างต่อเนื่องจนเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบลง จากการเข้าตรวจสอบยังไม่แน่ชัดว่าต้นเพลิงเกิดจากสาเหตุใด

สอบถามน.ส.ยุพิน ฉิมบ้านไร่ อายุ 59 ปี เล่าว่าขณะที่ตนและหลานชายได้นอนอยู่ภายในที่พัก ได้ยินเสียงประทุดังสนั่น จึงออกมาตรวจสอบก็พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง จึงรีบเรียกลูกชายให้ช่วยกันขนทรัพย์สินออกจากบ้าน แต่สามารถขนออกมาได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ที่เหลือถูกเพลิงไหม้เหลือแต่ซากให้ดูต่างหน้า

เบื้องต้น พ.ต.ท.นพดล รักษาวงศ์ สว.สส. สภ.หนองปรือ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน แต่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้ ส่วนทรัพย์สินที่เสียหายไปนั้นก็ต้องรอเจ้าของบ้านแต่ละหลังชี้แจ้ง ถือว่าโชคดีที่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีมีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ทั้งนี้ว่าที่พันตรี ชาติชาย ศรีโพธิ์อ่อน ปลัดอาวุโส รักษาการนายอำเภอบางละมุง ได้กำลังลังเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมจัดการกางเต้นให้ผู้ประสบภัยได้พักพิง พร้อมจัดหาอาหารเครื่องนุ่งห่มและสิ่งของจำเป็นมอบให้เพื่อเยียวยาในเบื้องต้น

พัทยา-(16 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 00.30 น. นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พ.ต.ท.ศรัณยพงศ์ ใหมทองกุลธร สวป. สภ.เมืองพัทยา ร.ท.สันนิบาล แสนดี หัวหน้าชุดคชส. พื้นที่อำเภอบางละมุง ร่วมกันสนธิกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ออกตรวจสอบสถานบันเทิงเป้าหมายในพื้นที่เมืองพัทยาจำนวน 4 จุด ประกอบด้วย ร้านนัวร์ ผับ ร้านฟินน์ ผับ ร้านนมโต และร้านฟาสต์ ผับ

ผลปรากฏว่าตรวจสอบ ร้านนมโต พบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 3 ตัว พร้อมน้ำยากลิ่นผลไม้ ซุกซ่อนอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน สอบถาม ผู้ดูแลร้าน อ้างว่า บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยากลิ่นผลไม้ เป็นของเจ้าของร้าน แต่ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบไม่อยู่ร้านเนื่องจากไปทำธุระนอกร้าน

ส่วนร้านฟาสต์ พบว่าทางร้านปล่อยปละละเลยให้เด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ 2 คน นอกจากนี้ พบอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ ยาเค จำนวนหนึ่ง อาวุธมีดดาบ ภายในกระเป๋าพนักงานเสิร์ฟ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้กระทำความผิดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(17 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 21.30 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยเรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม และกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้เข้าทำการจับกุมตัวนายยงยุทธ ทรัพย์สิน อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนักรวม 1.75 กรัม อุปกรณ์การเสพ และเงินสดจำนวนหนึ่ง สามารถจับกุมได้ที่บริเวณห้องพักแห่งหนึ่ง พื้นที่ ม.1 ชุมชนบ้านโรงโป๊ะ

นายชาคร นายอำเภอบางละมุง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุได้รับการร้องเรียนว่าที่ชุมชนตะเคียนเตี้ย ม.1 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีการมั่วสุมยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบ สามารถจับกุมผู้เสพยาเสพติดได้จำนวน 5 ราย แยกเป็นชาย 3 ราย หญิง 2 ราย สอบสวนขยายผล น.ส.ก้อย (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้ต้องหา ให้การยอมรับว่า เสพยาเสพติดประเภทยาไอซ์จริง

โดยทุกครั้งที่เสพยาไอซ์ก็มักจะนัดหมายกับนายยงยุทธ ซึ่งเป็นคู่ขา รู้จักกันทางแอพพลิเคชั่นแชทบีทอล์ค ไปเปิดห้องพักรายวัน มั่วสุมเสพยาไอซ์ และร่วมหลับนอนมีเพศสัมพันธ์กัน เจ้าหน้าที่จึงให้ น.ส.ก้อย วางแผนล่อให้นายยงยุทธ ออกมารับไปเปิดห้องทำภารกิจ เมื่อเวลานัดหมาย นายยงยุทธ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีม่วง ทะเบียน จกน 217 ชลบุรี มาถึงบริเวณห้องพัก น.ส.ก้อย

เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ตรวจค้นพบยาไอซ์จำนวนดังกล่าว ซุกซ่อนอยู่ในกางเกงใน ส่วนอุปกรณ์การเสพอยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุม เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัว นายยงยุทธ ไปตรวจค้นห้องพัก ภายในซอย 81 สุขุมวิท ปรากฏว่าพบแฟนสาวของนายยงยุทธ กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บเสื้อผ้าของนายยงยุทธ เก็บยัดใส่กระเป๋าเดินทางไล่ออกจากบ้าน หลังจากแฟนสาวจับได้ว่านายยงยุทธ แอบไปมีกิ๊กสาวหน้าใหม่

ภายหลังเบื้องต้น นายยงยุทธ ให้การว่า ปกติมีอาชีพ ขับเรือสปีดโบ๊ท ในพื้นที่เมืองพัทยา สำหรับยาเสพติดไปรับมาจากเอเย่นต์รายใหญ่ในพื้นที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พัทยา-(4 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 19.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม และนายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ได้นำกำลังฝ่ายปกครอง เข้าจับกุมตัว นายวิวัฒน์ วราเดช อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 1 ถุง น้ำหนักรวม 1 กรัม โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง กลางซอยดู๋ดี๋ ย่านพัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบมาว่านายวิวัฒน์ มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่จึงส่งสายลับนำเงินสดจำนวน 2,000 บาท ไปติดต่อขอล่อซื้อยาไอซ์จำนวน 1 กรัม โดยนัดหมายส่งกันที่บริเวณหอพักแห่งหนึ่ง ย่านพัทยากลาง เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายวิวัฒน์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์นำยาไอซ์ส่งให้กับสายลับ ทันทีเจ้าหน้าที่ซึ่งซุ่มตัวอยู่บริเวณดังกล่าว จึงแสดงตัวเข้าจับกุมไว้ได้พร้อมของกลาง จากนั้นได้ควบคุมตัว นายวิวัฒน์ ไปตรวจค้นห้องพัก หลังชุมชนวัดธรรมสามัคคี แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

สำหรับ นายวิวัฒน์ ได้พ้นโทษคดียาเสพติดออกมาได้ไม่ถึง 2 เดือน ก็มีพฤติกรรมหันเหกลับไปเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่เมืองพัทยาอีกครั้ง โดยจะใช้รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์เป็นยานพาหนะในการขับขี่ส่งยาเสพติด เนื่องจากรถค่อนข้างจะแรงกว่ารถจักรยานยนต์ปกติ เพื่อสะดวกในส่งยาเสพติดและให้ทันใจลูกค้าและง่ายในแหกด่านการหลบหนีเวลาเจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายวิวัฒน์ พร้อมของกลาง ส่งพนักงาน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(3 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้สืบทราบว่านายชาลี สินสายรัมย์ อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดและมักจะโพสต์เฟสบุ๊คอวดรวยอีกด้วย จึงสั่งการให้นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ร.ท.ภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม นายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังฝ่ายปกครองและชุดปราบปรามยาเสพติดอำเภอบางละมุง ออกสืบสวนหาข่าว

จนกระทั่งทราบว่า นายชาลี พักอาศัยอยู่ห้องพักแห่งหนึ่ง ย่านเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ เจ้าหน้าที่จึงส่งสายลับนำเงินจำนวน 600 บาท ติดต่อขอล่อซื้อยาบ้าจำนวน 3 เม็ด โดยนัดหมายกันที่ห้องพักของนายชาลี เมื่อสายลับส่งสัญญาณ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวบุกเข้าจับกุมทันที พบนายชาลี กำลังนั่งกินรับประทานอาหารอยู่กับแฟนสาวชาวลาว ตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 45 เม็ด และยาไอซ์จำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนใต้ตู้เย็น นอกจากนี้อายัดทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 5,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1องค์ สมุดธนาคาร 4 เล่ม ยอดเงินหมุนเวียนกว่า 1 แสนบาท เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนขยายผล จับกุมตัว นายวัชรินทร์ ปองไว้ อายุ 20 ปี และน.ส.วิภารัตน์ ยากลาง อายุ 28 ปี สองสามีภรรยา พร้อมยาบ้าจำนวน 200 เม็ด และยาไอซ์ 4 กรัม คารถเก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนส์-เทา ขณะจอดกำลังรถเก๋งส่งยาเสพติดให้กับลูกค้า บริเวณถนนเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวสองสามีภรรยารายนี้ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า-ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(2 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับการร้องเรียนว่าบ้านพักเลขที่ 64 บ้านทุ่งกลม ม.14 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปมั่วสุมยาเสพติดกันจำนวนมาก จึงสั่งการให้ นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอบางละมุงหัวหน้าฝ่ายมั่นคง เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอบางละมุงฝ่ายป้องกันปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.14 ฝ่ายปกครอง และชุดปราบปรามยาเสพติดอำเภอบางละมุง เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปตรวจสอบบริเวณข้างบ้านหลังดังกล่าว พบมีกลุ่มวัยรุ่นกำลังมั่วสุมเสพยาเสพติดกันอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าไปจับกุม แต่ปรากฏว่ากลุ่มวัยรุ่นไหวตัวทันวิ่งหลบหนีออกไปทางทุ่งนาหลังบ้าน โดยทิ้งของกลางไว้เป็นอุปกรณ์การเสพกัญชาและยาบ้า จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากการขยายผลตรวจสอบภายในห้องพักบ้านหลังดังกล่าวพบ นายสุเทพ สินกลิ่น อายุ 23 ปี และน.ส.จันทร์จิรา เณรตากล้อง อายุ 25 ปี สองผัวเมีย ที่ป่วยเป็นโรคร้ายกำลังนอนอยู่ บริเวณโต๊ะพบกัญชา อุปกรณ์การเสพกัญชา ยาบ้า ยาไอซ์ และอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก

เบื้องต้น สองผัวเมียรายนี้ ยอมรับสารภาพว่า ได้เสพยาเสพติดหลายชนิดอาทิเช่น กัญชา ยาบ้า ยาไอซ์ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวพร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(23 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 13.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี โดยเรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน, พ.ต.สมเกียรติ ซึมกลาง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ มณฑลทหารบกที่ 14 พื้นที่บางละมุง, นายนิพนธ์ เกษมสวัสดิ์ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์พื้นที่ 2 ศรีราชา, หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และสาธารณสุขเมืองพัทยา ร่วมกันเข้าตรวจสอบบริษัทวันดี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 162/200-222 ถนนทัพพระยา ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนว่าร้านดังกล่าวนำสัตว์ป่าสงวนมาเลี้ยงโดยไม่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย มาเลี้ยงภายในอาคาร เช่น เสือ จระเข้ งูพิษ แลสัตว์ป่าสงวนจำนวนมาก ซึ่งเกรงว่าสัตว์ป่าอาจหลุดมาทำร้ายประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้

จากการตรวจสอบว่าบริษัทดังกล่าว เป็นอาคารพาณิชย์ 3 คูหา สูง 4 ชั้น โดยชั้นล่างเปิดเป็นสำนักงานทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ บริเวณมุมของสำนักงานพบงูอนาคอนด้า ความยาวประมาณ 4 เมตร และจระเข้ขนาดเล็ก ถูกเลี้ยงอยู่ในตู้กระจกขนาดใหญ่ นอกจากนี้บริเวณชั้น 2 พบตู้กระจกลักษณะเดียวกับที่พบชั้นล่างจำนวนมาก ภายในมีสัตว์ประเภทเลื้อยคลานหลากหลายชนิดรวม 17 สายพันธุ์ อาทิ อีกัวน่า งูเขียวกาบหมาก งูตาแมว งูเห่าสีนวล งูห่างกระดิ่ง งูทะเลทราย ซึ่งล้วนเป็นสัตว์สงวนหายาก

จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานซึ่งเจ้าหน้าที่ร่วมกันพิจารณาแล้วว่า การมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองของ นางนิตยา อิสระศิลป์ เป็นการครอบครองโดยได้รับการผ่อนผันตามเอกสารราชการ จึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 พร้อมทั้งเร่งรัดเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบติดเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า เพื่อ

สอบถาม ผู้ดูแลบริษัท ให้การว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งนี้ ซึ่งมี น.ส.นิตยา วงษ์สิน อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของกิจการ สำหรับสัตว์สงวนเหล่านี้ยอมรับว่าทาง น.ส.นิตยา เป็นผู้ที่ชื่นชอบสัตว์แปลกเป็นชีวิตจิตใจ ถึงขั้นส่งลูกน้อง ซึ่งเป็นผู้ดูแลสัตว์ทั้งหมดไปศึกษานิสัยการเพาะเลี้ยงและดูแลยังประเทศแอฟริกา แต่ไม่ทราบว่าทาง น.ส.นิตยา ไปหาซื้อสัตว์เหลานี้มาได้อย่างไร ก่อนจะนำมาเลี้ยงใส่ตู้กระจกประดับสำนักงานบริษัท เพื่อเสริมสร้างบารมีทางด้านธุรกิจและชีวิต ตามความเชื่อส่วนบุคคล

มีรายงานเพิ่มเติมเข้ามาว่าบริษัทดังกล่าวเคยถูกเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา พร้อมอายัดไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายสัตว์ป่าต่างๆ ซึ่งพบว่ามีสัตว์อันตรายทั้งจระเข้ และเสือดาวอาศัยอยู่ด้วย แต่ ณ ปัจจุบัน สัตว์ดังกล่าวทั้งสองได้ถูกเคลื่อนย้ายไปแล้ว โดยนายสุเมธ ให้การว่า ถูกเคลื่อนย้ายไปยังบ้านพักบริเวณจอมเทียน แต่ไม่บอกพิกัดที่แน่นอน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนเพื่อเป็นหลักฐานต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ฝ่ายปกครองบางละมุงบุกตรวจฉี่พนักงานเมืองพัทยาพบมีสีม่วง 14 คน หนึ่งในนั้นสารภาพขโมยสายไฟของหลวงไปหลายครั้งมูลค่ากว่า 6 แสนบาท

พัทยา-(4 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 15.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นอภ.บางละมุง จ.ชลบุรี สืบทราบว่ามีพนักงานประจำโรงเก็บพัสดุ ส่วนการโยธา สำนักการช่างเมืองพัทยา ตั้งอยู่ในซอยถั่วงอก ถนนชัยพรวิถี ต.หนองปรือ อ.บางะมุง ลักลอบเสพยาบ้าหลายคน จึงสั่งการให้นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง กับ ร.ท.ภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหาร มทบ.14 เดินทางไปตรวจสอบ

โดยเจ้าหน้าที่ได้อาศัยอำนาจตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/2559 ทำการสุ่มตรวจพนักงานประจำโรงเก็บพัสดุกว่า 30 คน พบมีชายไทยปัสสาวะสีม่วงซึ่งคาดว่าน่าจะมีสารเสพติดจำนวน 14 คน ซึ่งหนึ่งในนั้น (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) ให้การรับสารภาพว่า เสพยาบ้ามานานแล้ว พอไม่มีเงินก็จะแอบขโมยสายไฟในโรงเก็บไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าอยู่เป็นประจำ มูลค่ารวมๆ กันแล้วประมาณ 6 แสนบาท จึงควบคุมตัวทั้งหมดเพื่อรอดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหารเข้าตรวจร้านจำเนียรรับซื้อของของเก่า ตั้งอยู่เลขที่ 320/12 ถนนชัยพรวิถี ม.4 ต.นาเกลือ กับ ร้านศุภชัยรับซื้อของเก่า ตั้งอยู่เลขที่ 17/13 ม.8 ต.หนองปลาไหล ซึ่งเป็นสถานที่ที่พนักงานประจำโรงเก็บพัสดุให้การรับสารภาพว่านำสายไฟมาขาย แต่เบื้องต้นไม่พบหลักฐาน แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่มีใบอนุญาต และไม่จัดทำบัญชีผู้ขายของเก่า จึงควบคุมตัว น.ส.ศรีวิไล ผาจวง อายุ 39 ปี ผู้ดูแลร้านจำเนียร กับนายศุภชัย พรหมสิน อายุ 39 ปี เจ้าของร้านศุภชัย ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(1 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง และนายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอ ได้นำกำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ออกตรวจสอบสถานบันเทิงเมืองพัทยาลักลอบเปิดเกินเวลาที่กฎหมายบัญญัติ เพื่อเป็นการจัดระเบียบสังคม ตามนโยบานนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสถานบันเทิงหลายแห่งของเมืองพัทยาให้ความร่วมมือปิดร้านตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่ยังพบว่าร้านเดอะฟาสต์ ผับพัทยา ตั้งอยู่ถนนพัทยาใต้ เปิดให้บริการให้กับลูกค้าอยู่ จึงเข้าไปทำการตรวจสอบ นักท่องราตรีจำนวนหนึ่ง กำลังดื่มกินสุรากันภายในร้าน จึงสั่งให้ทางร้านเปิดไฟและปิดเพลง ก่อนจะตรวจบัตรประจำตัวประชาชน และตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย ปรากฏว่าพบนักท่องวราตรีมีปัสสาวะสีม่วง 1 ราย โดยมี นายวีรพงษ์ มูลดา อายุ 25 ปี แสดงตัวเป็นผู้จัดการร้าน

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดเดียวกัน ได้ทำการเข้าตรวจสอบร้านบีเบิร์ด คาราโอเกะ เนื่องจากยังเปิดให้บริการจำหน่ายสุรากับนักเที่ยวราตรีอยู่ และมีเสียงเพลงเล็ดลอดออกมา โดยปิดประตูหน้าร้านเอาไว้ ซึ่งใช้ประตูหลังร้านเป็นทางเข้าออก เพื่อตบตาและหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบจับกุม ทั้งนี้ ตรวจสอบไม่พบนักเที่ยวพนักงานอายุต่ำกว่ากำหนด และไม่มีสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งมี นายอรุณ สิงห์โข่ง อายุ 35 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน

นอภ.บางละมุง กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 ร้าน ในฐานความผิด เปิดสถานบันเทิงเกินเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติ จำหน่ายสุราเกินเวลา และเป็นสถานที่สะสมอาหาร ก่อนควบคุมตัวผู้ที่รับเป็นผู้จัดการและผู้ดูแล ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับเสนอเรื่องไปยังนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อสั่งปิดสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่งนี้ต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย