ตามที่นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง ได้บูรณาการเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยว และกำลังตำรวจอาสา ปล่อยแถวระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรมในเมืองท่องเที่ยวรับเทศกาลวาเลนไทน์นั้น

ช่วงดึกวันนี้ (13 ก.พ.60) หลังจากเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังปฏิบัติงานตามสถานที่ต่างๆ ทั่วเมืองพัทยาแล้ว นายนริศ นายอำเภอบางละมุง ได้นำกำลังออกตรวจตราภายในโครงการถนนคนเดิน วอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังยามราตรีของเมืองพัทยาเพื่อสร้างความอุ่นใจให้นักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจสอบร้านวินด์มิลค์คลับอะโกโก้ พบว่าบริเวณชั้น 3 ของร้านได้เปิดเป็นห้องช็อตไทม์ โดยพบว่ามีห้องถูกปิดจากด้านในจึงเรียกให้เปิดห้อง หลังทราบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อายุ 62ปีกำลังร่วมหลับนอนอยู่กับหญิงสาวไทย ซึ่งเป็นพนักงานของร้านอะโกโก้ดังกล่าว ก่อนให้ทั้งคู่สวมเสื้อผ้าและลงมาสอบสวนความบริเวณชั้นล่างของร้าน

นอกจากนี้บริเวณหน้าห้องน้ำยังพบป้ายมีข้อความเขียนว่า”กรุณา!ปิดประตูห้องน้ำเบาๆนิด แขกต๊กใจ! หำหด ละคะลูกสาว โทรศัพท์เช่นกัน …คุยไกลๆห้องช๊อต” จึงได้ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ จึงควบคุมตัวน.ส.มาลิน แก้ววิเชียร ผู้ดูแลร้านดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่าเป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณี ลักลอบให้มีการค้าประเวณีในสถานประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พัทยา-(8 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 01.00น.ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย จันลา รองสวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ร.ต.สุวิทย์ ลากลาง รองผบ.หัวหน้าชุด คสช.พื้นที่อำเภอบางละมุง พร้อมกำลัง ร่วมตรวจสอบสถานบันเทิงภายในซอยชัยพูล ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องมาจากได้รับการแจ้งว่าร้าน เดอะ เพล พัทยา ซึ่งเคยถูกสั่งปิด 5 ปี ตามคำสั่ง คสช. แต่ยังมีการลักลอบเปิดให้บริการ จึงนำกำลังบุกเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงร้านพบว่าหน้าร้านได้มีการตกแต่เตรียมจัดงานปาร์ตี้ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบใบอนุญาตและประวัติพนักงาน พบว่าไม่มีใบอนุญาตเปิดถานบริการ

ตรวจสอบพบว่ามีนายเจษฎา ศรีรอด อายุ 30 ปี รับเป็นเจ้าของร้านโดยให้การว่าตนเองได้เซ้งกิจการต่อมาจากเจ้าของเก่าในราคาถูก แต่เจ้าของเก่าไม่ได้บอกกล่าวว่าร้านถูกเจ้าหน้าที่สั่งปิด 5 ปี ซึ่งตนเองก็ไม่ได้คิดที่จะฝ่าฝืนคำสั่งแต่อย่างใด

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเปิดบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนเรื่องการเปิดฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่สั่งปิด 5 ปี จะต้องเชิญตัวเจ้าของเก่ามาสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พัทยา-(23 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 02.00 น. พ.ต.ท.สมพาน สุขสำราญ รอง ผกก. สส. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวน 10 นาย บุกเข้าตรวจสอบ ร้าน 808 คลับพัทยา สถานบันเทิงชื่อดังกลางวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการมั่วสุมยาเสพติด

จากการตรวจสอบคลับสุดหรูใจกลางถนนวอล์กกิ้งสตรีทแห่งนี้ พบนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติกว่า 500 คน กำลังดื่มสุราพร้อมกับเต้นตามจังหวะเสียงเพลงของดีเจอย่างสนุกสนาน แต่ต้องหมดสนุกลง เมื่อเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือให้ปิดเพลงและเปิดไฟร้าน เพื่อทำการสุ่มตรวจปัสสาวะของนักท่องเที่ยว

เบื้องต้น จากการสุ่มตรวจปัสสาวะของนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 20 คน ไม่พบผู้ใดมีสารเสพติดในร่างกาย ก่อนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางกลับ ส่วนทางสถานบันเทิงก็ได้เปิดให้บริการตามปกติ พร้อมกับยืนยันว่าทางร้านเข้มงวดกับเรื่องยาเสพติด อาวุธ และนักเที่ยวอายุต่ำเป็นอย่างมาก

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(11 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 04.30 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร มทบ.14 และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าตรวจสอบร้านบางใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนพัทยาสายสาม ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังพบว่าสถานบริการแห่งนี้เปิดเกินเวลา

ตรวจสอบพบว่าทางร้านเหล้านั่งชิลล์แห่งนี้หัวใสได้ทำการปิดไฟร้านทั้งหมด คล้ายกับปิดให้บริการแล้ว เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่แต่ยังมีการเปิดเพลงเสียงดังและบริการจำหน่ายสุราให้กับลูกค้าอยู่เกือบเต็มร้าน โดยมีสาวนั่งดริ้งจำนวนหนึ่ง ค่อยนั่งพูดคุยคลายเหงาให้กับหนุ่มลูกค้าตามโต๊ะอีกด้วย โดยตรวจสอบอย่างละเอียดพบเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวน 2 ราย ไม่พกบัตรประชาชน 6 คน

เบื้องต้นจึงควบคุมตัว น.ส.ลดาวัลย์ จันทะรัตน์ อายุ 26 ปี เจ้าของร้าน พร้อมด้วย นายปิยะวัฒน์ กันเกิด อายุ 23 ปี ผู้จัดการร้าน ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา 1.เปิดสถานบริการไม่ได้รับอนุญาต 2.เปิดสถานบริการเกินเวลา 3.จำหน่ายสุราเกินเวลา 4.จำหน่ายสุราให้เด็กอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี พร้อมกับเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งปิด 5 ปี สถานบริการแห่งนี้อีกด้วย

ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันฯ กล่าวว่า ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมทหาร มทบ.14 ออกตรวจสอบสถานบริการในพื้นที่เมืองพัทยา พร้อมกับประกาศห้ามสถานบริการแห่งใดลักลอบเปิดเกินเวลา จนกระทั่งช่วงเวลาเกิดเหตุ พบว่าร้านบางใหญ่ ยังคงเปิดให้บริการอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมทันที โดยไม่มีข้อยกเว้น

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(26 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 22.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอบางละมุงฝ่ายป้องกันปราบปราม และนายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอบางละมุงฝ่ายความมั่นคง นำกำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันเข้าตรวจสอบสถานบริการชื่อร้านไวเปอร์บาร์ ตั้งอยู่ซอย 4 เขาพระตำหนัก พัทยาใต้ จ.ชลบุรี

โดยพบว่าร้านดังกล่าวเปิดให้บริการตามปกติ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในร้าน มีลูกค้านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามานั่งดื่มจำนวนหนึ่ง โดยมีสาวโคโยตี้ แต่งกายสวมเสื้อเอวลอย นุ่งกางเกงขาสั้น กำลังเต้นรูดเสาโชว์ลูกค้า ตามจังหวะเสียงเพลงอย่างสนุกสนาน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงพนักงานร้านปิดเพลงและขอความร่วมมือให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย

จากการคัดแยกพบว่าทางร้านมีพนักงานสาวโคโยตี้จำนวน 12 คน พนักงานเสิร์ฟ บาร์น้ำ แคชเชียร์ และพนักงานรักษาความปลอดภัย รวม 5 คน จากนั้นได้ทำการตรวจบัตรประจำตัวประชาชน และตรวจสารปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดของพนักงานทุกคน ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่พบสารเสพติดในร่างกายของพนักงานรักษาความปลอดภัย โดยไม่มีผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของร้านหรือผู้จัดการ

ต่อมาเวลา 02.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้เข้าตรวจสอบร้านเดอะเพลย์คลับพัทยา ตั้งอยู่กลางซอยชัยพูน พัทยากลาง หลังจากทราบว่าสถานบันเทิงแห่งนี้ถูกจับกุมและโดนสั่งปิดเป็นเวลา 5 ปี แต่ยังฝ่าฝืนลักลอบเปิดให้บริการ ตรวจสอบพบสาวหล่อซึ่งเป็นพนักงานกว่า 20 คน กำลังดื่มสุราบริการลูกค้าผู้หญิงอยู่ตามโต๊ะภายในร้าน ทั้งนี้ สามารถจับกุมพนักงานอายุต่ำได้จำนวน 3 คน ซึ่งมี น.ส.ชวิศา นาคเกษม อายุ 32 ปี รับเป็นผู้ดูแลร้าน

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จึงได้ควบคุมตัว น.ส.ชวิศา นาคเกษม อายุ 29 ปี ผู้ดูแลร้านเดอะเพลย์คลับพัทยา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี ส่วนร้านไวเปอร์บาร์ ซึ่งไม่มีผู้ใดแสดงตัวรับผิดชอบ จะได้สอบสวนออกหมายจับเจ้าของร้านต่อไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงอยากไปยังผู้ประกอบการว่าเปิดให้บริการอยู่ในกอบที่กฎหมายบัญญัติไว้ หากยังฝ่าฝืนจะถูกจับกุมไม่มีข้อยกเว้น

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(27 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 04.30 น. ขณะที่นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม และนายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ออกตรวจสอบสถานบันเทิงในพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อเป็นการจัดระเบียบสังคม ตามนโยบาย นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี

ระหว่างการตรวจสอบสถานบันเทิง ถนนสายพัทยาเหนือ พบว่า ร้านคลับโอ ยังเปิดให้บริการอยู่ โดยรถยนต์ของลูกค้าจำนวนมากจอดกันบนทางเท้าล้นจนออกมาริมถนนซึ่งตีเส้นจราจรขาวแดง จึงเข้าไปทำการตรวจสอบร้านแห่งนี้ ปรากฏว่าลูกค้าชาวไทยอยู่ในอาการเมามาย เริ่มเช็คบิลทยอยออกจากกันแล้ว แต่ภายในร้านยังมีลูกค้านั่งดื่มกันอยู่แค่บางส่วน

โดยมีพนักงานสาวเด็กนั่งดริ๊งก์หน้าตาดี สวมชุดสีแดง จำนวน 40 คน ซึ่งบางรายยังนั่งดื่มสุรากับลูกค้ากันอย่างสนุกสนาน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จึงทำการตรวจสอบบัตรประชาชนลูกค้าและพนักงานเด็กนั่งดริ๊งก์ พร้อมกับตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ทั้งนี้ พบเด็กนั่งดริ๊งก์ไม่พกบัตรรวม 5 ราย แต่ไม่พบผู้ใดมีสารเสพติดในร่างกาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จึงได้ควบคุมตัวนายมณเฑียร กฤษณา อายุ 39 ปี เจ้าของร้านคลับโอ ดำเนินคดีในฐานความผิด 1.เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.จำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายบัญญัติ ส่วนสาวนั่งดริ๊งก์ทั้งหมดได้เชิญตัวไปบันทึกถ้อยคำและทำประวัติ ยังที่ว่าการอำเภอบางละมุง ก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ฝ่ายปกครอง ตรวจจับสถานบันเทิง 6 จุดทั่วเมืองพัทยา เป้าหมายผู้ว่าฯเมืองชลบุรี พบปล่อยเยาวชนเที่ยวอื้อ-ขายบารากู่ไม่กลัวกฎหมายบ้านเมือง

พัทยา-(30 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 02.30 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้สั่งการให้ เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำโดย พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ร่วมกันไปตรวจสอบสถานบันเทิงจำนวน 6 จุด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา หลังได้รับการร้องเรียนผ่านเว็บไซด์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี

สำหรับการเข้าตรวจค้น 5 จุด ตั้งอยู่โซนพัทยาใต้ ประกอบด้วย ร้านทวิน โอเอซิส, ร้านลาบาเนส, ร้านเมามาย, ร้านบอลกะไบร์ทตัน, และร้านเก็บตะวัน ซึ่งบางร้านเคยถูกจับกุมมาแล้วแต่ก็ยังไม่เข็ดหลาบ โดยพบการกระทำความผิด อาทิเช่น จำหน่ายสุราเกินเวลาและเด็กอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด แถมยังปล่อยเยาวชนอายุเข้าใช้บริการ รวมทั้งสิ้น 7 คน และยังตรวจยึดของกลาง ยาดองกว่า 20 ลิตร รวมถึง สินค้าห้ามขายตามประกาศของนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วยเตาสูบบารากู่กว่า 50 เตา พร้อมอุปกรณ์ และยาเส้นปรุง ชนิดบารากู่เกือบ 4 กิโลกรัม อีกด้วย

ในส่วนจุดสุดท้าย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้เข้าตรวจสอบร้านฉอฉิ่งตีดัง ตั้งอยู่ริมถนนพัทยาสายสาม พบว่าในเวลา 05.00 น. ยังเปิดให้บริการอยู่ โดยสังเกตได้จากมีกลุ่มวัยรุ่นยืนออกันหน้าร้าน และยังได้ยินเสียงเพลงซึ่งดังกระหึ่มเล็ดลอดมายังนอกร้าน เมื่อเข้าตรวจสอบภายในร้านปรากฏพบเยาวชนสาวลักษณะทอมดี้ กำลังมั่วสุมดื่มสุรา เต้นรำ ตามจังหวะเสียงเพลงดีเจ อย่างสนุกสนาน

ทางเจ้าหน้าที่สั่งปิดเพลง เปิดไฟร้าน ก่อนทำการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนของเยาวชนในร้านทุกราย โดยพบว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าทำงาน 5 คน และเยาวชนนักเที่ยวไม่พกบัตรประชาชนจำนวน 2 คน โดยมี น.ส.วรรณภา ศิลปะชีวิน อายุ 46 ปี แสดงตัวเจ้าของร้าน จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
นอภ.บางละมุง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ ตรวจจับสถานบันเทิงทำผิดกฎหมายมาแล้วหลายร้าน ซึ่งแต่ละครั้งในที่ประชุมก็จะประกาศเน้นย้ำห้ามปล่อยเยาวชนเข้าไปใช้บริการ เรื่องใช้ยาเสพติด และอาวุธปืน แต่ก็ยังมีชาวบ้านพบเห็นการกระของผู้ประกอบการบางร้านยังทำผิดแบบไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงได้ร้องเรียนจนเป็นที่มาของการจับกุม อย่างไรก็ตามจะเสนอเรื่องผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อสั่งปิดร้านถูกจับกุมทั้งหมดคืนนี้ ตามลำดับต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(26 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 05.30น. ร.ต.อ.วีรยุทธ กางกะละ รองสว.สอบสวนสภ.เมืองพัทยารับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายและยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ร้านฟินน์ ย่านพัทยาเหนือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถ พบกลุ่มวัยรุ่นกำลังแยกย้ายกันกับบ้าน พบเพียงกองเลือดส่วนผู้บาดเจ็บเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบางละมุงก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ นายศุภศิต มาละออ อายุ 27 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าที่ขาซ้าย 1 นัด หัวกระสุนฝังใน ต้องทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน

สอบสวน นายศุภศิต (คนเจ็บ) เล่าว่าตนเองและกลุ่มเพื่อนได้เดินทางมาเที่ยวร้านฟินน์ กระทั้งเวลาประมาณ 05.20 น.กำลังจะกลับบ้าน จึงเดินออกมาที่ลานจอดรถพบว่าเพื่อนที่มาด้วยมีปัญหากับวัยรุ่นกลุ่มอื่นจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย ปรากฏว่าหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นได้ชักปืนยิงใส่จำนวน 3 นัด ถูกเข้าที่ขา 1 นัด ส่วนเพื่อนถูกชกต่อยได้รับบาดเจ็บ

เบื้องต้น ร.ต.อ.วีรยุทธ กางกะละ รองสว.สอบสวนสภ.เมืองพัทยาเจ้าของคดีได้ทำการสอบสวนกลุ่มคนเจ็บอย่างละเอียด พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Slick