พัทยา-(15 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ บริเวณหน้า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวจัดระเบียบการจราจร โดยมีข้าราชตำรวจทุกหน่วยงาน ตัวแทนอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.14 รวมถึงอาสาสมัครทุกหน่วยงานเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน
พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า จังหวัดชลบุรีโดยเฉพาะเมืองพัทยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ จึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างคาดหวังในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และได้รับความสะดวกทุกๆ ด้าน รวมทั้งด้านการจราจร ไม่ว่าจะเป็นการสัญจรไปมา หรือที่จอดรถ
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องระดมกำลังช่วยเหลือ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อคืนผิวถนนให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยนำเอานโยบาย 5 จริง 5 จอม มาใช้ในการปฏิบัติ ได้แก่ จอมปาด(ขับปาดแซงเส้นทึบ), จอมล้ำ(หยุดรถล้ำเส้นหยุด),จอมขวาง(หยุดรถขวางแยก), จอมย้อน(ขับย้อนศร) และจอมปลอม(ปลอมป้ายทะเบียน) เพื่อให้การดำเนินการสำเร็จเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
พัทยา-(12 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 03.00 น. ร.ต.อ.สิทธาวัชร์ ชวกรเธียรรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุพบศพชายชาวต่างชาตินอนคาจักรยาน โดยทราบสาเหตุการเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณกลางซอย 43 บางละมุง ม.6 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลัง
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบศพ นายฮันส์ เดียร์เตอร์ อายุ 71 ปี สัญชาติ เยอรมัน นอนหงายหน้า สะพายกระเป๋าโน้ตบุ๊ก สภาพมีร่องรอยบาดแผลถลอก หลายแห่งตามร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 ชั่วโมง ข้างกายผู้ตายพบรถจักรยาน ยี่ห้อ จีที สีดำ พลิกคว่ำอยู่ โดยสภาพนั้นไม่มีร่องรอยการถูกเฉี่ยวชนแม้แต่นิดเดียว เมื่อบรรดาญาติผู้ตาย ทราบข่าวต่างพากันแห่ดูศพผู้ตาย ในอาการเศร้าโสกเสียใจกับเหตุการณ์
จากการสอบถาม นางสนม เดียร์เตอร์ อายุ 64 ปี ภรรยาผู้ตาย ทราบว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมาผู้ตายจะมักปั่นจักรยาน ออกไปซื้อของใช้ภายในบ้านที่ร้านสะดวกซื้อ พร้อมกับดื่มเบียร์ตามร้านค้า บริเวณข้างวัดหนองเกตุน้อย ห่างจากบ้านพักประมาณ 2 กิโลเมตร โดยจะกลับเข้าบ้านช่วง 3 ทุ่ม จนกระทั่งเวลาผ่านไปก็ไม่มีใครสงสัยว่าผู้ตายไปไหน ซึ่งคิดว่าอาจจะติดดื่มเบียร์ติดลมกับบรรดาเพื่อนๆ จนสุดท้ายทราบข่าวว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว
ภายหลังสอบสวนและตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่าผู้ตายน่าจะดื่มสุรามาพอสมควร เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้เกิดอาการวูบ เนื่องจากผู้ตายมีอายุค่อนข้างมาก เลยทำให้เกิดอาการช็อค หรือไม่ก็อาจจะหัวใจล้มเหลวเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ส่งศพผู้ตายไปชันสูตรยังสถานบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
รัฐบาลเอาจริงสางปัญหาแท็กซี่ที่ทำร้ายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
พัทยา-(9 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ โรงละครอัลคาซาร์พัทยา เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พ.อ.ประเสริฐ ใจกล้า รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 14 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรัตม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จ.ชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สภ.เมืองพัทยา ขนส่งจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง สมาคมนักธุรกิจ และการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เรียกกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่ในเมืองพัทยาหารือแนวทางการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหารถโดยสารสาธารณะที่ประกอบการส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา โดยมีตัว แทนบริษัทสหกรณ์แท็กซี่พื้นที่อำเภอบางละมุงทั้ง 6 บริษัทเข้าร่วมหารือ
พันเอกประเสริฐ กล่าวว่าปัจจุบันนายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายและมีการสั่งการมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนบูรณาการแก้ไขปัญหารถยนต์รับจ้าง รถโดยสารสาธารณะที่บรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 7 คนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกลุ่มที่ขาดความเป็นระเบียบ ประกอบการอย่างไม่ถูกต้อง หรือมีการกระทำที่ส่อต่อความผิดทางกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา
ทั้งนี้จากการสำรวจและตรวจสอบสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นพบว่าเกิดจากหลายกรณีที่พบว่ามีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง อาทิ ปัญหาของการไม่กดมิเตอร์ขณะให้บริการลูกค้าโดยจะประกอบการในลักษณะเหมาเป็นหลัก ระเบียบการแต่งกายของพนักงานขับขี่ที่ไม่มีความสุภาพเรียบร้อย ความปลอดภัยขณะการให้ บริการ รวมทั้งปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำที่ตั้งโต๊ะเปิดบริการนักท่องเที่ยวริมถนนสาธารณะ และสถานประกอบ การโรงแรม และปัญหารถแท็กซี่จากนอกพื้นที่ซึ่งมารอรับการให้บริการทับสัมปทานของผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยไม่มีจุดพักหรือจุดจอดที่เป็นรูปธรรม
โดยปัญหาที่เกิดขึ้นจากนี้จะมีการบูรณาการร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งในช่วงแรกจะมีการออกมาตรการรวมทั้งเรียกผู้ประกอบการรถแท็กซี่ทั้ง 6 บริษัทที่ให้บริการในพื้นที่อำเภอบางละมุงและเมืองพัทยามารับทราบเกี่ยวกับข้อกำหนดของกฎหมาย รวมถึงจะมีการขอความร่วมมือผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่ให้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
พัทยาอัพเดทนิวส์ นำเสนอ ฉับไว เพื่อสังคม