คลังเก็บป้ายกำกับ: ตำรวจ

หนุ่ม-สาวซิ่งจยย. เจอด่านตรวจขับย้อนศรพุ่งชนชาวบ้าน-ตำรวจเจ็บ

thumbnail_1462139624471
พัทยา-(2 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. ขณะที่ร.ต.อ.วิษณุ ไชยสุวรรณ รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและอาสาสมัครตำรวจบ้าน ตั้งด่านตรวจสิ่งของผิดกฎหมาย บริเวณหน้าปั้มน้ำมันเชลล์ ถนนพัทยาใต้ เพื่อเป็นการป้องกันอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ตามนโยบาย พ.ต.อ.สุทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.หัวหน้าสถานี

thumbnail_1462139628351

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบชายขับขี่จักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีหญิงสาวซ้อนท้ายมาด้วย เมื่อทั้งคู่เห็นด่านตรวจก็พากันขับย้อนศรแล้วเร่งเครื่องหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไป ระหว่างนั้นปรากฏว่าวัยรุ่นทั้งสองคน ขับไปเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ที่สวนทางมาอย่างจัง ก่อนที่ตัวรถจักรยานยนต์จะกระเด็นไปโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งไล่ติดตามจับกุมได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

thumbnail_1462139646844

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ประสานงานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ เมืองพัทยา มารับตัวคนเจ็บไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลบางละมุง พร้อมกับอายัดตัวดำเนินคดีในข้อกล่าวหาหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

เจ้าของโรงแรมเจอยาไอซ์ซุกในซองจดหมาย รีบแจ้งตำรวจตรวจสอบ

เจ้าของโรงแรมห้องเช่าพัทยาตกใจมือสั่น หลังเจอจดหมายปริศนามาหน้าตึก เปิดออกดูพบเป็นวัตถุคล้ายยาเสพติด รีบแจ้ง จนท.ตรวจสอบทันควัน

พัทยา-(29 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าของห้องเช่าไม่มีชื่อแห่งหนึ่งภายในซอยดงตาล ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่า มีพัสดุไปรษณีย์ปริศนาส่งมาโดยชื่อผู้รับหน้าซองจดหมายไม่ตรงกับผู้พักอาศัย เมื่อเปิดซองออกดูพบเป็นวัตถุชนิดเกล็ดสีขาวคล้ายยาเสพติดประเภทยาไอซ์ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

thumbnail_DSC00250

เมื่อไปถึงพบเป็นห้องแบ่งเช่ารายเดือนประมาณ 10 ห้อง ความสูง 6 ชั้น ตรวจสอบบริเวณตู้ไปรษณีย์หน้าอาคารพบซองจดหมายสีขาว ระบุชื่อผู้รับ ANNA SMIT แต่ไม่มีชื่อผู้ส่งและไม่พบหลักฐานแสตมป์ไปรษณียากร หรือหลักฐานผ่านขั้นตอนการตรวจสอบจากเจ้าหน้าไปรษณีย์แต่อย่างใด ภายในพบกระดาษ A4 พับคุมซองซิปพลาสติกสีน้ำตาลไว้อย่างดี ภายในซองซิปพลาสติกสีน้ำตาลมีวัตถุคล้ายยาไอซ์จำนวนหนึ่งอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อส่งตรวจว่าเป็นยาเสพติดจริงหรือไม่

สอบถามเจ้าของโรงแรม (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ทราบว่า ตนได้เซ้งกิจการจากเจ้าของคนเดิมได้ประมาณ 1-2 เดือน โดยปกติพ่อของตนจะเดินไปตรวจสอบที่ตู้รับจดหมายทุกวัน จนวันนี้ได้ไปตรวจสอบพบจดหมาย จึงเก็บไว้ที่โต๊ะทำงาน จนกระทั่งตนมาเห็นจึงตรวจสอบรายชื่อลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรมแต่ก็ไม่มีชื่อลูกค้าคนดังกล่าว เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นยาเสพติดจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

thumbnail_DSC00254

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าถ้าเป็นยาเสพติดจริงอาจเป็นขบวนการค้ายาเสพติดนัดหมายกันส่งยาบริเวณดังกล่าว แต่เจ้าของห้องเช่ามาเปิดตู้ไปรษณีย์เจอเสียก่อน แต่หากไม่ใช่ยาเสพติดอาจเป็นการกลั่นแกล้งหรือกระทำไปเพื่อความคึกคะนอง ซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตามแกะรอยติดตามคนร้ายมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

บุกจับลูกทรพี ทุบตี พ่อ-แม่ ปางตาย หากไม่หาเงินมาให้ซื้อยาเสพ

ผู้สื่อข่าวรายงาน (26 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รรท.ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.เอนก นาคธร สว.กก.2 บก.ป. ร.ต.อ.จิรพัฒน์ เขียวศิริ รอง สว.กก.2.บก.ป. เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายพูนศุกดิ์ พากเพียร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.5 ต.ทุ่งนางโอก อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 25/2558 ลงวันที่ 23 ม.ค.58 ในความผิดฐาน “พรบ.ยาเสพติดให้โทษ(ครอบครองเมทแอมเฟตามีน)” ได้ที่ หน้าหมู่บ้านวราภิรมย์ ลำลูกกา คลอง3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

ร.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่าพบเห็นนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติดรายนี้หนีคดีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักของบิดามารดาซึ่งอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว อีกทั้งยังมีพฤติเสพยาเสพติดอย่างหนักจนบางครั้งเกิดอาการหลอนลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายบิดามารดารวมถึงทำลายสิ่งของภายในบ้าน ทำให้ชาวบ้านในละแวกหวาดกลัวและเกรงว่าหากปล่อยไว้อาจจะเป็นอันตรายแก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้กระจายกำลังลงพื้นที่ปลอมตัวเป็นเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าหมู่บ้านเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเมื่อพบผู้ต้องหารายนี้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในหมู่บ้านจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่นายพูนศักดิ์ เกิดไหวตัวพยายามวิ่งหนีฝ่าวงล้อม แต่ไม่เป็นผลถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุมตัวได้ดังกล่าว

ทั้งนี้ต่อมานายประยูร และ นางชม พากเพียร บิดา-มารดา ของนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้ ได้เดินทางมาที่ กองบังคับการปราบปราม โดยนายประยูรได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการหวาดกลัวว่า ตนนั้นประกอบอาชีพขับรถรับจ้างขนกระเบื้อง มีบุตรชายเพียง 2 คน โดยก่อนหน้านี้ครอบครัวของตนพอมีฐานะเนื่องจากบุตรชายคนเล็กเป็นคนขยันและเรียนเก่งจบการศึกษาระดับปริญญาโทได้ทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง คอยส่งเสียค่าใช้จ่ายภายในบ้านแต่ได้มาเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งในภายหลัง เหลือเพียงนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุตรคนโตแต่ไม่เคยช่วยทางบ้านทำมาหากิน มีแต่คอยขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ต่อมาระยะหลังครอบครัวตนเริ่มขาดสภาพคล่องทางการเงินทำให้ไม่มีเงินมาให้นายพูนศักดิ์ซื้อยาเสพ นายพูนศักดิ์ จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายตนและภรรยาอยู่เป็นประจำ โดยมีครั้งหนึ่งรุนแรงถึงขั้นหยิบก้อนหินขนาดใหญ่มาเพื่อหวังจะทุ่มใส่ตนหมายเอาชีวิต เพียงแค่ตนหาเงินมาซื้อยาเสพให้ไม่ได้ แต่ยังโชคดีที่ครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่สายตรวจขี่รถผ่านมาพอดีจึงทำให้ตนรอดตายอย่างหวุดหวิด

นายประยูร กล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานายพูนศักดิ์ ได้ใช้มีดและค้อนขู่บังคับให้นางชม ผู้เป็นมารดา ออกเดินตามหาตน เพื่อต้องการขอเงินไปซื้อยามาเสพ จนตนต้องหนีไปขอให้ตำรวจท้องที่มาช่วยเหลือ แต่เมื่อตำรวจมาถึงนายพูนศักดิ์ กลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวจึงได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในบ้านพร้อมกับนำเศษกระจกตู้ปลาที่ถูกทุบแตกนำมากรีดหน้าท้องจนเป็นแผลเหวอะหวะเพื่อขู่ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาภายในบ้าน จนตำรวจต้องยอมเจรจาตกลงล่าถอยออกไปเพราะเกรงว่านายพูนศักดิ์จะเป็นอันตรายมากกว่านี้ ส่วนตนและนางชมต้องหนีไปพักอาศัยที่บ้านของญาติชั่วคราวเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย กระทั่งมาทราบข่าวว่านายพูนศักดิ์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจับกุมตัวได้จึงเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามในวันนี้ ทั้งนี้ตนเองก็หวังว่าการถูกจับกุมในครั้งนี้ของบุตรชายจะทำให้เจ้าตัวสำนึกผิด และตนก็พร้อมจะให้อภัยลูกคนนี้ได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคมเสมอ

จากการสอบสวนนายพูนศักดิ์ ยังคงให้การวกวน โดยยอมรับว่าได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา พรบ.ยาเสพติด ตามหมายจับจริงเนื่องจากเครียดที่ตนถูกภรรยาคนปัจจุบันทิ้งไปมีคนอื่นจนต้องหันมาพึ่งยาเสพติดเพื่อไม่ให้เกิดความฟุ้งซ่าน แต่ยืนยันว่าไม่ได้ใช้กำลังทำร้ายร่างกายบิดามารดาแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าโกรธและไม่พอใจที่ทั้งสองคนนั้นมีส่วนที่ทำให้ตนต้องเลิกกับภรรยา อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้พบว่า ก่อนหน้านี้เคยต้องโทษในคดียาเสพติดมาแล้ว 6 ครั้ง และหนีการรายงานตัวระหว่างการคุมประพฤติจนถูกออกหมายจับในคดีล่าสุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เตรียมนำตัวส่งศาลอาญาธนบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว ปีโป้

เมืองพัทยาจัดโครงการปฏิบัติการพัทยาสีขาวเพื่อการจัดการปัญหายาเสพติดเมืองพัทยา ครั้งที่ 3

พัทยา-(26 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ ชุมชนต้นกระบก อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายวิสิฐศักดิ์ วงศ์วรชาติ หัวหน้าศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหายาเสพติดเมืองพัทยา ได้รับเกียรติเป็นประธานเปิดโครงการปฏิบัติการพัทยาสีขาวเพื่อการจัดการปัญหายาเสพติดเมืองพัทยา ครั้งที่ 3 โดยมีตัวแทนจาก 14 ชุมชน ในเขตเมืองพัทยา พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

IMG_1115

โดยโครงการดังกล่าวเมืองพัทยาได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค2 เจ้าหน้าที่ สอปส. และเชิญประธานชุมชนในเขตเมืองพัทยา ซึ่งมีตัวแทนจากชุมกระทิงลาย ชุมชนต้นกระบก ชุมชนชัยพรวิถี ชุมชนตลาดเก่านาเกลือ ชุมชนบ้านกระบก 33 ชุมชนบ้านหัวทุ่ง ชุมชนไปรษณีย์ ชุมชนโพธิสัมพันธ์ ชุมชนโรงไม้ขีด ชุมชนลานโพธิ์ ชุมชนวัดช่องลม ชุมชนหนองตะแบก ชุมชนหนองใหญ่บ้านบน ชุมชนแหลมราชเวช รวมทั้งหมด 14 ชุมชนเข้าร่วมรับฟังการอบรมให้ความรู้ พร้อมทั้งรับฟังปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับยาเสพติด จากวิทยากรจากหน่วยงานต่างๆ ที่ทางเมืองพัทยาเชิญมาเพื่อพัฒนาและจัดทำดัชนีชีวัดปัญหายาเสพติดของหมู่บ้าน ชุมชน บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด

ทั้งนี้เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนเป็นเครื่องมือในการประเมินสภาพปัญหายาเสพติดของหมู่บ้าน ชุมชน แนวโน้มความรุนแรงในการแพร่ระบาดของยาเสพติด และใช้ติดตามประเมินผลการดำเนินงานในการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดอีกด้วย

IMG_1136

โดยกิจกรรมครั้งนี้ทางเมืองพัทยาจะจัดเก็บข้อมูลพร้อมทั้งลงพื้นที่ประเมินรายละเอียดเกี่ยวกับชุมชนในด้านปัญหายาเสพติดเกี่ยวกับผู้ผลิต/ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ซึ่งหากพบว่าชุมชนใดมีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทางเมืองพัทยาก็จะส่งเจ้าหน้าที่ลงแก้ไขปัญหาพร้อมทั้งให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการแก้ไข้ปัญหายาเสพติดในชุมชนให้ลดน้อยลงหรือหมดไปจากเมืองพัทยา

ภาพ/ข่าว เอกชัย สุขวัฒนะ

หนุ่มเมืองผู้ดี ไล่ตะครุบกะเทยมือเบาฉกเงินร่วม 2 แสน บนรถสองแถว

พัทยา-(24 เม.ย.59) เมื่อเวลา 21.00 น. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุล้วงกระเป๋าไว้ได้ บริเวณตลาดการเคหะเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุ พบผู้เสียหายทราบชื่อ นายอิมแลน โมฮัมเหม็ด อคาตาร์ อายุ 35 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ พร้อมแฟนสาวชาวไทย กำลังช่วยกันควบคุมตัวสาวประเภทสองผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายพงศ์พิพัฒน์ มณีรัตน์ อายุ 28 ปี พร้อมด้วยของกลางเงินจำนวน 3,000 ปอนด์สเตอร์ลิง คิดเป็นเงินไทยราว 200,000 บาท

สอบสวน ผู้เสียหาย ให้การว่า ขณะที่กำลังนั่งโดยสารอยู่บนรถสองแถว เพื่อไปเดินช้อปปิ้งตลาดเปิดท้าย เมื่อมาถึงจุดหมายปลายทางได้กดกริ่งลง ระหว่างนั้นได้เหลือบมองไปเห็นเงินจำนวนหนึ่งหล่นอยู่กับพื้น ตรวจสอบในกระเป๋ากางเกงพบว่าเงินส่วนที่เหลือสูญหายไป จึงเอะอะโวยวายผู้โดยสารบนรถสองแถว

ก่อนจะมาพบเงินส่วนที่เหลืออยู่ใต้ขาของผู้ก่อเหตุที่นั่งทับไว้ เมื่อผู้ก่อเหตุเริ่มเห็นท่าไม่ดี จึงกระโดดลงจากรถสองแถวพยายามวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อนผู้ก่อเหตุที่จอดรออยู่ แต่ขณะนั้นได้ตั้งสติและวิ่งไล่จับผู้ก่อเหตุไว้ได้ ส่วนเพื่อนร่วมขบวนการหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุ รับสารภาพว่า ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยอาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายไม่ทันระวังตัว ใช้วิชามือเลาล้วงเอาเงินในกระเป๋ากางเกง แต่ก่อเหตุไม่สำเร็จ เนื่องจากผู้เสียหายรู้ตัวก่อน เลยถูกจับกุมได้ในที่สุด ส่วนที่ต้องลงมือก่อเหตุเพราะว่าต้องการเงินไปใช้หนี้สินค่าห้องพัก

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

รวบ 2 กะเทยโหดทุบเยอรมันเจ็บ และรวบอีก 2 เยาวชนวิ่งราวทรัพย์

พัทยา-(23 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสคร รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ปิ่นรัตน์ สว.สส. พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา และตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายภูมินทร์ หรือแนน สาระนันต์ อายุ 20 ปี ชาว อ.คำตากล้า จ.สกลนคร กับนายนพพร หรือปอ จิตต์สม อายุ 21 ปี ชาว อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี 2 สาวประเภทสอง ผู้ต้องหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม โดยมีนายรูส มอร์เลอร์ อายุ 45 ปี สัญชาติเยอรมัน ชี้ให้จับกุม

S__2400282

สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก รพ.พัทยาเมโมเรียลว่า นายรูส มอร์เลอร์ ถูกสาวประเภทสองจำนวน 2 คน ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บแล้วชิงทรัพย์หลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณปากซอย 5 ถนนเลียบชายหาดจอมเทียน ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายรูส เดินอยู่บริเวณดังกล่าว ได้มีสาวประเภทสองจำนวน 2 คน เข้ามาตีสนิทแล้วชักชวนไปร่วมหลับนอน แต่ถูกนายรูส ปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใย ทำให้ทั้งคู่โมโหคว้าก้อนอิฐมาตีที่ใบหน้าและศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ แล้วชิงเอาเงินสดจำนวน 4,000บาท ก่อนขับรถ จยย.หลบหนีไปกระทั่งตำรวจสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายภูมินทร์ กับนายนพพร จึงติดตามไปจับกุมตัวทั้งคู่ได้ที่ห้องเช่าพร้อมของกลาง คุมตัวมาสอบสวนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

S__2400293

ส่วนอีกรายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา จับกุมนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี กับนายบี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี 2 เยาวชนก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่บริเวณตลาดในซอย 5 ถนนพระตำหนัก ย่านพัทยาใต้ เมื่อ 2 ทุ่มของวันที่ 12 เม.ย. นอกจากนี้ทั้งคู่ยังก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี อีก 1 คดี เหตุเกิดที่บริเวณหน้าโรงแรมเรดแพลนเน็ต ถนนพัทยาสาย 2 ย่านพัทยาใต้ เมื่อเวลาประมาณ 23.20 น. วันที่ 21 เม.ย. สอบปากคำให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คดีจริง เพื่อหาเงินไปใช้เที่ยวเตร่และเล่นเกมส์อินเทอร์เน็ต เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป

ตำรวจบุกทลายปาร์ตี้ยาริมสระน้ำรีสอร์ทหรู ย่านจอมเทียน

พัทยา-(20 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้สืบทราบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นเปิดรีสอร์ทหรู ย่านชายหาดจอมเทียน ปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติดเสียงดัง เดือดร้อนชาวบ้านข้างเคียง จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ศรัณยพงศ์ ใหมทองกุลธร สวป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามพิเศษ สภ.เมืองพัทยา ไปตรวจสอบ

_MG_0036

จากการเข้าตรวจสอบบริเวณริมสระน้ำมีบ้านพักล้อมรอบ พบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นกำลังเปิดเพลงแดนซ์ ดื่มกินสุราและเต้นตามจังหวะเสียงเพลงอย่างเมามันส์ ทั้งนี้ สามารถควบคุมตัววัยรุ่นชาย-หญิง ได้ทั้งหมดประมาณ 30 คน ซึ่งเปิดห้องพักจำนวน 3 ห้อง เพื่อพักอาศัย

เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย ปรากฏว่าพบเป็นฉี่สีม่วงจำนวน 19 คน ตรวจค้นพบยาเค ชนิดผงสีขาวตกอยู่จำนวน 1 ถุง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ระหว่างการตรวจค้นได้มีหญิงสาววัยรุ่น ในกลุ่มของผู้ต้องหา อ้างเป็นหลานผู้การตำรวจนครบาล แต่ตำรวจชุดจับกุมไม่สนใจ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

_MG_0014

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดดังกล่าว ได้เดินทางจากกรุงเทพมหานคร มาท่องเที่ยวยังเมืองพัทยา เพื่อเล่นน้ำวันไหลของเมืองพัทยา โดยมาเปิดห้องพักรีสอร์ทเป็นที่พักอาศัยและจัดปาร์ตี้มั่วสุม ซึ่งชายส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ส่วนหญิงสาวก็จะมีอาชีพเป็นพริ้ตตี้รับงานอีเว้นท์

ภาพ/ข่าว Ku Salick

สาวนครสวรรค์ ดิ่งชั้น 7 โรงแรมหรูกลางเมืองพัทยาดับสยอง

พัทยา-(13 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 03.00 น. พ.ต.ท.สมคิด สิทธิศาสตร์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งมีผู้พลัดตกตึกเสียชีวิต เหตุเกิดภายในโรงแรมเมอร์เคียว ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมหรูย่านพัทยาใต้ บริเวณข้างตึกพบผู้เสียชีวิตตกจากระเบียงห้อง 724 ชั้น 7 ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.สายฝน กอพล อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ อยู่ในสภาพกะโหลกศีรษะแตกมันสมองไหลกระจายเต็มพื้น แขนขาหักผิดรูป เป็นที่น่าสยดสยอง โดยมีนายมาร์ค เดนิส อายุ 48 ปี ออสเตรเลีย แฟนหนุ่ม นอนร่ำไห้อยู่ข้างศพ

เบื้องต้น นายมาร์ค แฟนหนุ่มผู้ตาย ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกและเสียใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก โดยยังไม่ให้การกับเจ้าหน้าที่ใดๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามจะได้ควบคุมตัวนายมาร์ค แฟนหนุ่ม ไปสอบสวนหาสาเหตุการอีกครั้ง ส่วนศพผู้ตายจะได้ส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการตายด้วยอีกว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ที่ปรึกษา สบ.10 แถลงผลการกวาดล้างอาชญากรรมช่วงสงกรานต์ ตรวจยึดอาวุธปืน ยาเสพติด เพียบ

ที่ปรึกษา สบ.10 แถลงผลการกวาดล้างอาชญากรรมช่วงสงกรานต์ ตรวจยึดอาวุธปืน และยาเสพติดจำนวนมาก หวังสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในแต่ละพื้นที่เพื่อความปลอดภัย

S__22954077

พัทยา-(12 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา(สบ.10) พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ขนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง ร่วมแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาทิ ปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล ยาเสพติด และจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 1-10 เม.ย.59 โดยผลการจับกุมมีดังนี้

S__22954073

ในคดีอาวุธสงคราม จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลาง อาวุธปืนเอ็ม 16 เอ จำนวน 1 กระบอก, คดีอาวุธปืน(ธรรมดา)จับกุมผู้ต้องหา 145 ราย พร้อมของกลางอาวุธปืนจำนวน 152 กระบอก และกระสุนปืนอีก 982 นัด และสามารถบุกทลายแหล่งผลิตอาวุธปืนเถื่อนในพื้นที่ สภ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลาง เครื่องกลึงอาวุธปืน แท่นสว่าน ปากกาหนีบตั้งโต๊ะ มอเตอร์เจียร ปืนอัดลม และชิ้นส่วนในการประกอบปืนอีกจำนวนมาก

S__22954072

ส่วนคดีเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งหมด 480 คดี จับกุมผู้ต้องหา 493 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 17,113 เม็ด ยาไอซ์ 312.31 กรัม ยาอี 200 เม็ด และกัญชา 1,418.49 กรัม นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายได้อีก 1,472 หมาย

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

นายกเล็ก ตำบลตะเคียนเตี้ย มอบกล้องติดหมวก ให้แก่ตำรวจ สภ.บางละมุง

นายกเล็ก ตำบลตะเคียนเตี้ย มอบกล้องติดหมวก ให้แก่ตำรวจ สภ.บางละมุง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่เพิ่มมากขึ้น และเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ สร้างความเชื่อมั่นให้ตำรวจที่ดี

223166

พัทยา-(11 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายมานพ ประกอบธรรม นายกเทศมนตรีตำบลตะเคียนเตี้ย เดินทางมามอบกล้องบันทึกวิดีโอ(โกโปร)สำหรับติดหมวกกันน็อค จำนวน 20 เครื่อง มูลค่า 30,000 บาท พร้อมเงินสนับจำนวนหนึ่ง ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจงานจราจรและงานปราบปราม สภ.บางละมุง โดยมี พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง เป็นตัวแทนรับมอบ

223170

นายมานพ ประกอบธรรม เปิดเผยว่า จุดประสงค์ของการมอบกล้องวิดีโอสำหรับติดหมวกกันน็อคในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนในการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งยังบันทึกภาพการปฏิบัติหน้าที่ไว้เป็นหลักฐาน และลดข้อพิพาท ตำรวจกับประชาชน รวมถึงป้องกันกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องความประพฤติไม่เหมาะสม สามารถตรวจสอบการทำงานย้อนหลัง ซึ่งเป็นการช่วยเจ้าหน้าที่ในการป้องกันตัวจากการถูกกล่าวหาได้อีกด้วย

223175

ด้าน พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง เผยว่า การติดตั้งกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวไว้บนหมวกกันน็อคเป็นเรื่องที่ดี ทำให้บันทึกและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง อีกทั้งการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจรและสายตรวจมีการปฏิบัติในยามค่ำคืนหรือตั้งจุดตรวจจุด-สกัดจะเป็นการดีหากมีการบันทึกการทำงานไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่เพิ่มมากขึ้น

S__22904866

และเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ตำรวจที่ดี ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและประชาชนผู้ได้รับการปฏิบัติในการตรวจค้นจับกุม และให้บริการประชาชนด้วยความสุภาพ สร้างความเป็นกันเองและเป็นมิตรที่ดีกับประชาชน อีกทั้งกล้องดังกล่าวสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ได้ เพื่อนำข้อมูลภาพนั้นมาใช้ในการสืบสวนขยายผลต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้