คลังเก็บป้ายกำกับ: กองปราบปราม

กองปราบฯ รวบตัวหนุ่มรับจ้างขนยานรกเครือข่ายเรือนจำ ของกลางถูกทิ้งกลางวัดดังฝั่งธน

image

(1 มิ.ย. 58) เมื่อเวลา 11.15 น. ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผบช.ก. รรท.ผบก.ป. พร้อมพ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1บก.ป. พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รรท.ผกก.2บก.ป. พ.ต.อ.จิณวัตร ก้อนทองดี ผกก.สน.บุคคโล ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายเจษฎา แสวงหา อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 1 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่จ. 357/2559 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2559 ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์และย้าบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในร้านอาหารแบดบอย คาเฟ่ ถ.บางแสนล่าง ซอย12 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี

พ.ต.อ.จิรภพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ตำรวจสน.บุคคโล พบยาบ้า 40,000 เม็ดและยาไอซ์ 2 กก. ถูกทิ้งไว้บริเวณกระถางต้นไม้ด้านหน้าศาลาสวดศพ ภายในวันวัดสุทธาวาส ซอยตากสิน 24 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี จากการสอบถามพยานทราบว่ามีชาย 2 คนขับรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด ทะเบียน บพ 3056 แพร่ มาจอดรถทิ้งไว้บริเวณกลางซอยตากสิน 24 ก่อนหลบหนีไป เมื่อตรวจสอบภายในรถกระบะดังกล่าว พบบัตรประชาชน และสมุดบัญชีของนายเจษฎา นำไปสู่ศาลออกหมายจับนายเจษฎา ตำรวจ สน.บุคคโลจึงประสานตำรวจกองปราบร่วมติดตามจับกุม กระทั่งสืบทราบว่า นายเจษฎาหลบหนีไปอยู่ที่ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี และวันที่ 31 พฤษภาคม เวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่จึงสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว

image

ด้านนายเจษฎา รับสารภาพว่าตนขนยาจำนวนดังกล่าวจริง โดยก่อนหน้านี้เคยถูกจับกุมและได้รู้จักกับเสี่ยตง ชาวพม่า ในเรือนจำ เมื่อได้รับการปล่อยตัวตนก็หันมารับจ้างขนยาจากเสี่ยตง โดยรับมาจากจ.เชียงราย ได้ค่าจ้างครั้งละ 200,000 บาท ปกติจะรับจ้างขนแต่ยาบ้า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ขนยาไอซ์ ทำมาทั้งหมด 4 ครั้ง ครั้งแรกส่งที่ จ.ราชบุรี ครั้งที่ 2 ส่งที่จ.สุพรรณบุรี ครั้งที่ 3 ส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ยังไม่ได้ส่งก็เกิดเรื่องเสียก่อน เพราะหลังจากตนรับยาจาก จ.เชียงราย แล้วก็ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวมากับนายจะกือ (เพื่อนชาวไทยใหญ่) ซึ่งเป็นลูกน้องของเสี่ยตง โดยระหว่างทางพวกตนต้องการเข้าห้องน้ำจึงจอดรถภายในวัดดังกล่าว พบกลุ่มวัยรุ่นท่าทางพิรุธ คาดว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวน่าจะเข้าใจผิดว่าพวกตนเป็นคู่อริ จึงเปิดฉากยิงและไล่ฟันพวกตน ก่อนนายจะกือและตนจะทิ้งยาไว้ พร้อมหลบหนีไป กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว

นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้พบว่าเคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ สภ.เมืองเชียงราย เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2556 ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวออกมาเมื่อปีที่ผ่านมา เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.บุคคโล ก่อนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป

บุกจับลูกทรพี ทุบตี พ่อ-แม่ ปางตาย หากไม่หาเงินมาให้ซื้อยาเสพ

ผู้สื่อข่าวรายงาน (26 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รรท.ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.เอนก นาคธร สว.กก.2 บก.ป. ร.ต.อ.จิรพัฒน์ เขียวศิริ รอง สว.กก.2.บก.ป. เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายพูนศุกดิ์ พากเพียร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.5 ต.ทุ่งนางโอก อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 25/2558 ลงวันที่ 23 ม.ค.58 ในความผิดฐาน “พรบ.ยาเสพติดให้โทษ(ครอบครองเมทแอมเฟตามีน)” ได้ที่ หน้าหมู่บ้านวราภิรมย์ ลำลูกกา คลอง3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

ร.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่าพบเห็นนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติดรายนี้หนีคดีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักของบิดามารดาซึ่งอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว อีกทั้งยังมีพฤติเสพยาเสพติดอย่างหนักจนบางครั้งเกิดอาการหลอนลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายบิดามารดารวมถึงทำลายสิ่งของภายในบ้าน ทำให้ชาวบ้านในละแวกหวาดกลัวและเกรงว่าหากปล่อยไว้อาจจะเป็นอันตรายแก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้กระจายกำลังลงพื้นที่ปลอมตัวเป็นเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าหมู่บ้านเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเมื่อพบผู้ต้องหารายนี้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในหมู่บ้านจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่นายพูนศักดิ์ เกิดไหวตัวพยายามวิ่งหนีฝ่าวงล้อม แต่ไม่เป็นผลถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุมตัวได้ดังกล่าว

ทั้งนี้ต่อมานายประยูร และ นางชม พากเพียร บิดา-มารดา ของนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้ ได้เดินทางมาที่ กองบังคับการปราบปราม โดยนายประยูรได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการหวาดกลัวว่า ตนนั้นประกอบอาชีพขับรถรับจ้างขนกระเบื้อง มีบุตรชายเพียง 2 คน โดยก่อนหน้านี้ครอบครัวของตนพอมีฐานะเนื่องจากบุตรชายคนเล็กเป็นคนขยันและเรียนเก่งจบการศึกษาระดับปริญญาโทได้ทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง คอยส่งเสียค่าใช้จ่ายภายในบ้านแต่ได้มาเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งในภายหลัง เหลือเพียงนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุตรคนโตแต่ไม่เคยช่วยทางบ้านทำมาหากิน มีแต่คอยขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ต่อมาระยะหลังครอบครัวตนเริ่มขาดสภาพคล่องทางการเงินทำให้ไม่มีเงินมาให้นายพูนศักดิ์ซื้อยาเสพ นายพูนศักดิ์ จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายตนและภรรยาอยู่เป็นประจำ โดยมีครั้งหนึ่งรุนแรงถึงขั้นหยิบก้อนหินขนาดใหญ่มาเพื่อหวังจะทุ่มใส่ตนหมายเอาชีวิต เพียงแค่ตนหาเงินมาซื้อยาเสพให้ไม่ได้ แต่ยังโชคดีที่ครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่สายตรวจขี่รถผ่านมาพอดีจึงทำให้ตนรอดตายอย่างหวุดหวิด

นายประยูร กล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานายพูนศักดิ์ ได้ใช้มีดและค้อนขู่บังคับให้นางชม ผู้เป็นมารดา ออกเดินตามหาตน เพื่อต้องการขอเงินไปซื้อยามาเสพ จนตนต้องหนีไปขอให้ตำรวจท้องที่มาช่วยเหลือ แต่เมื่อตำรวจมาถึงนายพูนศักดิ์ กลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวจึงได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในบ้านพร้อมกับนำเศษกระจกตู้ปลาที่ถูกทุบแตกนำมากรีดหน้าท้องจนเป็นแผลเหวอะหวะเพื่อขู่ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาภายในบ้าน จนตำรวจต้องยอมเจรจาตกลงล่าถอยออกไปเพราะเกรงว่านายพูนศักดิ์จะเป็นอันตรายมากกว่านี้ ส่วนตนและนางชมต้องหนีไปพักอาศัยที่บ้านของญาติชั่วคราวเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย กระทั่งมาทราบข่าวว่านายพูนศักดิ์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจับกุมตัวได้จึงเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามในวันนี้ ทั้งนี้ตนเองก็หวังว่าการถูกจับกุมในครั้งนี้ของบุตรชายจะทำให้เจ้าตัวสำนึกผิด และตนก็พร้อมจะให้อภัยลูกคนนี้ได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคมเสมอ

จากการสอบสวนนายพูนศักดิ์ ยังคงให้การวกวน โดยยอมรับว่าได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา พรบ.ยาเสพติด ตามหมายจับจริงเนื่องจากเครียดที่ตนถูกภรรยาคนปัจจุบันทิ้งไปมีคนอื่นจนต้องหันมาพึ่งยาเสพติดเพื่อไม่ให้เกิดความฟุ้งซ่าน แต่ยืนยันว่าไม่ได้ใช้กำลังทำร้ายร่างกายบิดามารดาแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าโกรธและไม่พอใจที่ทั้งสองคนนั้นมีส่วนที่ทำให้ตนต้องเลิกกับภรรยา อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้พบว่า ก่อนหน้านี้เคยต้องโทษในคดียาเสพติดมาแล้ว 6 ครั้ง และหนีการรายงานตัวระหว่างการคุมประพฤติจนถูกออกหมายจับในคดีล่าสุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เตรียมนำตัวส่งศาลอาญาธนบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว ปีโป้