พัทยา-(11 ก.พ. 59) ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ บริเวณถนนเลียบชายหาดพัทยา หน้าศูนย์การค้าเซนทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กรมการขนส่งทางบก นำโดย นายธีรกุล แก้วสุวรรณ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่งจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา และกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 14 ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจับกุมรถแท็กซี่ ผิดพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
สืบเนื่องจากรัฐบายมีนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนบูรณาการแก้ไขปัญหารถยนต์รับจ้าง รถโดยสารสาธารณะที่บรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 7 คนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกลุ่มที่ขาดความเป็นระเบียบ ประกอบการอย่างไม่ถูกต้อง หรือมีการกระทำที่ส่อต่อความผิดทางกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา
ทั้งนี้ จึงระดมกำลังหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยจากการสุ่มตรวจรถแท็กซี่จำนวน 171 คัน สามารถจับกุมรถแท็กซี่กระทำความผิดได้จำนวน 60 คัน ซึ่งความผิดส่วนใหญ่จะพบในเรื่องของ การไม่เปิดใช้มิเตอร์จำนวน อุปกรณ์ส่วนควบไม่ควบถ้วน ไม่ตรวจสภาพรถประจำปี ไม่ชำระภาษีประจำปี ไม่จัดทำเครื่องหมายตามกฎกระทรวง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนในรถหรือแผ่นเพลท ไม่แสดงอัตราค่าโดยสาร ใช้รถป้ายแดงในการรับส่งผู้โดยสาร และแต่งกายไม่สุภาพ โดยดำเนินการเปรียบเทียบปรับในเบื้องต้นเพื่อเป็นการปรามรายละ 200 – 300 บาท แล้วแต่ข้อหา ถ้าข้อหาใดไม่ร้ายแรงก็จะว่ากล่าวตักเตือนให้ไปแก้ไข เพื่อให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ที่ให้บริการในพื้นที่อำเภอบางละมุงและเมืองพัทยา ตระหนักถึงข้อกำหนดของกฎหมาย และปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
ภาพ/ข่าว รุ่ง โรมิโอ อินดี้
รัฐบาลเอาจริงสางปัญหาแท็กซี่ที่ทำร้ายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
พัทยา-(9 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ โรงละครอัลคาซาร์พัทยา เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พ.อ.ประเสริฐ ใจกล้า รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 14 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรัตม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จ.ชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สภ.เมืองพัทยา ขนส่งจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง สมาคมนักธุรกิจ และการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เรียกกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่ในเมืองพัทยาหารือแนวทางการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหารถโดยสารสาธารณะที่ประกอบการส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา โดยมีตัว แทนบริษัทสหกรณ์แท็กซี่พื้นที่อำเภอบางละมุงทั้ง 6 บริษัทเข้าร่วมหารือ
พันเอกประเสริฐ กล่าวว่าปัจจุบันนายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายและมีการสั่งการมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนบูรณาการแก้ไขปัญหารถยนต์รับจ้าง รถโดยสารสาธารณะที่บรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 7 คนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกลุ่มที่ขาดความเป็นระเบียบ ประกอบการอย่างไม่ถูกต้อง หรือมีการกระทำที่ส่อต่อความผิดทางกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา
ทั้งนี้จากการสำรวจและตรวจสอบสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นพบว่าเกิดจากหลายกรณีที่พบว่ามีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง อาทิ ปัญหาของการไม่กดมิเตอร์ขณะให้บริการลูกค้าโดยจะประกอบการในลักษณะเหมาเป็นหลัก ระเบียบการแต่งกายของพนักงานขับขี่ที่ไม่มีความสุภาพเรียบร้อย ความปลอดภัยขณะการให้ บริการ รวมทั้งปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำที่ตั้งโต๊ะเปิดบริการนักท่องเที่ยวริมถนนสาธารณะ และสถานประกอบ การโรงแรม และปัญหารถแท็กซี่จากนอกพื้นที่ซึ่งมารอรับการให้บริการทับสัมปทานของผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยไม่มีจุดพักหรือจุดจอดที่เป็นรูปธรรม
โดยปัญหาที่เกิดขึ้นจากนี้จะมีการบูรณาการร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งในช่วงแรกจะมีการออกมาตรการรวมทั้งเรียกผู้ประกอบการรถแท็กซี่ทั้ง 6 บริษัทที่ให้บริการในพื้นที่อำเภอบางละมุงและเมืองพัทยามารับทราบเกี่ยวกับข้อกำหนดของกฎหมาย รวมถึงจะมีการขอความร่วมมือผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่ให้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
พัทยาอัพเดทนิวส์ นำเสนอ ฉับไว เพื่อสังคม