พัทยา-(28 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 21.30 น. ร.ต.อ.สิทธาวัชร์ ชวกรเธียรรัตน์ รองสว.สอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุจักรยายนต์เสียหลักล้มคว่ำแล้วถูกรถที่ตามมาเหยียบซ้ำ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิด หน้าสถานีเชื้อเพลิงพีเอพีแก๊ส บนถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าพัทยา ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายไทยอายุประมาณ 20-25 ปี ตรวจสอบภายในร่างกายไม่พบเอกสารระบุตัวบุคคล ถูกเหยียบที่ลำตัวและศีรษะนอนเสียชีวิตจมกองเลือด เป็นที่น่าสยดสยอง เจ้าหน้าที่นำผ้าปิดไว้กันเป็นที่อุจาดตา ข้างกันพบรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ยี่ห้อยามาฮ่า สีฟ้า-ขาว หมายเลขทะเบียน1 กล 7240 ชลบุรี ด้านหน้ารถได้รับความเสียหายยับเยิน

ถัดไปประมาณ 20 เมตรพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ชฎ 1634กรุงเทพมหานคร ไดรับความเสียหายช่วงกันชนหน้าเล็กน้อย โดยมี น.ส.ณัฐกานต์ เนียรศิริ อายุ 27 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับ นายณัฐพงษ์ อัมพรัตน์ อายุ 28 ปี พยานผู้เห็นเหตุการณ์

สอบถาม นายณัฐพงษ์ (พยานผู้เห็นเหตุการณ์) เล่าว่าตนเองนั้นได้ขับมุ่งหน้าสัตหีบ เห็นว่ารถที่ขับอยู่ด้านหน้าได้หักหลบอุบัติเหตุอย่างฉุกเฉิน ตนเองจึงรีบเหยียบเบรกแล้วเปิดไฟผ่าหมาก จากนั้นก็มีพลเมืองดีมาช่วยกันโบกรถ แต่จังหวะเดียวกันได้มีรถเก่งอีกคันขับมาด้วยความเร็วได้หักหลบอุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้รถที่ตามมาด้านหลังซึ่งเป็นรถของ น.ส.ณัฐกานต์ เบรกไม่ทันจึงหักหลบโดยไม่ทราบว่าข้างหน้ามีอุบัติเหตุจึงเหยียบเข้ากับร่างผู้บาดเจ็บ เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้น ร.ต.อ.สิทธาวัชร์ ชวกรเธียรรัตน์ รองสว.สอบสวน เจ้าของคดี ได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมจะประสานตรวจสอบกล้องบริเวณจุดเกิดเหตุว่ารถจักรยานยนต์ประสพอุบัติเหตุกับรถอะไร เนื่องจากด้านหน้ารถมีร่อยรอยการชนอย่างหนัก ส่วนศพผู้เสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จะเก็บรักษายังโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อรอญาติติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พัทยา-(27 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 22.30น. ร.ต.อ.พิศาล หงษ์ฝาแก้ว รองสว.สอบสวน สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสียหลักชนเสาไฟส่องทาง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณถนนเลียบทางรถไฟหนองเกตุใหญ่ ฝั่งขาเข้าสัตหีบ ม.8 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลังคือ นายรัฐชาติ น้อยวัฒนกุล อายุ 19 ปี นอนจมกองเลือดอยู่ในสภาพสยดสยองอยู่ข้างเสาไฟฟ้าส่องสว่างริมทาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงนำผ้ามาปิดกันเป็นที่อุจาดตาข้างกันพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ฟีโน่ สีแดง หมายเลขทะเบียน 3 กว 9879 กรุเทพมหานคร ได้รับความเสียหายยับเยิน

สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ในขณะที่ขับขี่รถผ่านมาไดเห็นผู้เสียชีวิต ขับขี่มาตามเส้นเลียบทางรถไฟ อยู่ดีๆ ก็เกิดเสียหลักส่ายไปมาก่อนพุ่งเข้าไปชนกับเสาไฟส่องสว่างอย่างจัง ตนเองผู้ที่ขับขี่ตามมาจึงรีบเข้าช่วยเหลือและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบดังกล่าว

เบื้องต้น ร.ต.อ.พิศาล หงษ์ฝาแก้ว รองสว.สอบสวน เจ้าของคดี ได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุคาดว่าน่าจะเสียหลักจากการลื่นทรายบนพื้นถนนก็เป็นได้ ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำไปเก็บรักษายังโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อรอญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พัทยา-(27 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 00.15 น. พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสคร รองผกก.ปป. สภ.เมืองพัทยารับแจ้งเหตุคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อย เหตุเกิดบริเวณร้านเซเว่นอีเลฟเว่น บริเวณปากซอย 6 โพธิสาร ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้สายตรวจเหตุรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายทราบชื่อคือ นายธนูศักดิ์ โพธิ์งาม อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดระยอง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าในขณะที่ตนเองยืนซื้อผลไม้อยู่ริมทาง ได้มีชายวัยรุ่นขับขี่จักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 125 สีเทา กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระสมเด็จวัดดังเลี่ยมทอง แล้วเร่งเครื่องหลบหนีไปภายในซอยอย่างรวดเร็ว ตนเองจึงรีบขับขี่ติดตามไปแต่ไม่ทันจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้สอบถามรูปพรรณสัณฐานและยานพาหนะของผู้ก่อเหตุ และวิทยุสกัดจับตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าผู้ก่อเหตุจะหลบหนีผ่านไปแต่ก็ไร้วี่แวว พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(26 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนจะกระโดดสะพานลอยฆ่าตัวตาย เหตุเกิดบนสะพานลอยหน้าปั้มน้ำมันบางจาก สาขาพัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบนสะพานลอยหน้าปั้มน้ำมัน พบหญิงทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.อมรา ชัยเจริญ อายุ 45 ปี พนักงานบริษัทกำจัดปลวกและแมลง อยู่ในอาการสิ้นหวังปืนขึ้นไปนั่งห้อยขาร้องไห้อยู่บนราวสะพานลอย พยายามจะกระโดดลง เจ้าหน้าที่จึงพยายามเกลี้ยกล่อม แต่ น.ส.อมรา ก็ไม่สนใจฟังคำพูดใดๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่อาศัยจังหวะเผลอวิ่งเข้าช่วยกันชาร์จตัวลงมาได้อย่างหวุดหวิด

สอบถาม น.ส.อมรา เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้ น้องสาวซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ ได้มาขอความช่วยเหลือว่าไม่มีรถใช้งาน ให้ออกรถให้เป็นชื่อของเธอ แต่น้องสาวจะเป็นผู้ผ่อนชำระค่างวดเอง ด้วยความสงสารและเห็นว่าเป็นพี่น้องกันจึงจัดการให้ แต่ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ส่งจดหมายแจ้งทวงหนี้ค่างวดรถหลายครั้ง เมื่อติดต่อไปสอบถามกับน้องสาวกับติดต่อไม่ได้ เธอต้องมาแบกรับภาระหนี้สินไว้เองเป็นค่างวดหลายเดือน ทำให้รู้สึกเครียดมากจึงถือเหล้าขาวมานั่งดื่มย้อมใจก่อนขึ้นไปหวังจะโดดลงมาฆ่าตัวตายหนีปัญหาดังกล่าว

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พัทยา-(26 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 21.00 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารับแจ้งเหตุราวสะพานปูนล้มทับคน มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบริเวณสะพานท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ม.10 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์รีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศจำนวนมากแตกตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือ นายชูสิน แซ่ตั้น อายุ 56 ปี การ์ดดูแลนักท่องเที่ยวลงเรือข้ามฝาก นอนร้องครวญครางขอความช่วยเหลือ โดยมีราวกั้นสะพานปูนขนาดใหญ่ มีน้ำหนักประมาณ 300กิโลกรัม ทับขาด้านซ้ายจนหัก เจ้าหน้าที่และพลเมืองดีช่วยกันยกแท่นปูนราวสะพานออกอย่างยากลำบาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายตัวส่งโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

สอบถาม เจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย เล่าว่า ผู้บาดเจ็บมีหน้าที่ดูแลความสะดวกและความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเรือข้ามฝาก ซึ่งในช่วงสัปดาห์นี้มีพายุและคลื่นลมแรง ขณะเกิดเหตุ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองตามปกติ คลื่นลมก็โหมเข้ามาอย่างหนักทำให้ลำเรือที่จอดอยู่ถูกซัดกระแทกกับเสาสะพานอย่างแรง ทำให้ราวสะพานที่อาจจะชำรุดอยู่แล้วพังล้มลงมาทับขาของผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

จากกรณีที่มีคลิปวีดีโอเป็นหญิงสาวประเภทสองแต่งชุดราตรี ให้นักท่องเที่ยวชาวจีนจับหน้าอกเพื่อแลกเงินพร้อมโพสต์ท่าถ่ายภาพ อย่างสนุกสนาน เป็นเวลายาวกว่า 1.30 นาที จนเป็นเป็นที่ฮือฮาในโลกสังคมออนไลน์ โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นกันจำนวนมากลักษณะแสดงไม่เหมาะสม

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. ของวันนี้ 25 พ.ค. พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จึงได้สืบสวนโดยร่วมกันตรวจสอบบุคคลที่ปรากฏเป็นคลิปดังกล่าว จนกระทั่งสืบทราบสถานที่เกิดเหตุเป็นห้องภัตตาคารอาหาร บนเรือสำราญ บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้

สำหรับผู้ที่ปรากฏในคลิปเป็นสาวประเภทสองที่เต้นคาบาเรต์โชว์อยู่ภายในเรือภัตตาคาร ทราบชื่อคือนายบี (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี จึงได้เชิญตัวมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงยังสถานีตำรวจ สภ.เมืองพัทยา

สอบถามนายบี (นามสมมุติ) ให้การรับสารภาพว่าได้เป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวจริง ซึ่งปกติจะทำงานเต้นคาบาเรต์โชว์อยู่ในเรือภัตตาคาร เพื่อให้ความบันเทิงแก่นักท่องเที่ยวที่มารับประทานอาหาร ซึ่งไม่ได้มีการแต่งกายโป๊เปลือย หรือโชว์ลามกอนาจาร แต่อย่างใด แต่เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุ หลังจากเต้นโชว์แล้ว นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาขอถ่ายภาพด้วยได้รบเร้า ขอจับหน้าอกตน ตนจึงยอมให้จับและนักท่องเที่ยวได้ให้เงินตน จำนวน 20 บาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแจ้งข้อกล่าวหากับนายบี (นามสมมุติ) ในฐานความผิด “กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย” ก่อนจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด เป็นจำนวน 5,000 บาท

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

คลิปวินาที จยย.ฝ่าไฟแดงข้ามถนนกลางแยกโรงโป๊ะเจอเก๋งมาทางตรงชนกระจาย ชาวเน็ตเตือนเป็นอุทาหรณ์เคารพกฎจราจร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากล้องวงจรปิดเคลื่อนที่ของประชาชนรายหนึ่งที่ติดตั้งไว้ที่หมวกนิรภัยสามารถบันทึกภาพอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์บริเวณสี่แยกโรงโป๊ะ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ไว้ได้ โดยเป็นคลิปวีดิโอความยาว 1.08 นาที บันทึกเวลาประมาณ 07.30 น.ของวันที่ 25/5/2016

เป็นภาพเหตุการณ์รถจักรยายนต์ซ้อนสองก่อนฝ่าฝืนสัญญานไฟแดงขับขี่ข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่ง โดยมีจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ทางซ้ายของจอภาพอีกประมาณ 2-3 คันขี่ตามมา จากนั้นมีรถยนต์เก๋งที่ขับมาทางตรงขับพุ่งชนจนรถจักรยานยนต์ทำให้คนขับและคนซ้อนกระเด็นลอยไปคนละทิศละทาง โดยมีเสียงหวีดร้องของประชาชนบริเวณดังกล่าวตามมาหลังเกิดเหตุ

ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวมีการโพสต์และแชร์ต่อไปต่อในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กช่องทางต่างๆ อย่างกว้างขวางในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างให้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์เตือนใจสำหรับผู้ใช้ถนนทุกคนให้เคารพและรักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัดก่อนจะเกิดเหตุไม่คาดฝันจนสร้างความสูญเสียตามมาในชีวิตและทรัพย์สิน

ขอบคุณ : Nuttawut Teanboot‎