พัทยา-(10 ก.ค. 59) เมื่อเวลา 03.00 น.ร.ต.อ.ปิยะ บุญอ่อน รองสว.สอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักชนเสาไฟฟ้าเกิดเพลิงลุกใหม่ เหตุเกิดบริเวณใกล้เคียงวัดห้วยใหญ่ ม.3 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยาและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงห้วยใหญ่รีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีบรอนซ์ เสียหลักตกข้างทางชนกับเสาไฟฟ้าแรงสูง จนเสาไฟฟ้าล้มลงมาทับกลางรถ สายไฟขาดระโยงระยางยาวกว่า 200 เมตร ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงรีบฉีดน้ำระงับเพลิงเพลิงที่โหมอย่างรุนแรงท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากบริเวณจุดเกิดเหตุเนื่องจากสายไฟฟ้าแรสูงยังมีกระแสไฟ สร้างความลำบากให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก
สอบถามนายมานะ ภิญโญพงษ์ อายุ 58 ปี คนขับ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุกำลังเดินทางกลับที่พัก หลังจากไปงานเลี้ยงฉลองกับกลุ่มเพื่อน ได้ขับมาตามเส้นทางถนนห้วยใหญ่ท่ามกลางสายฝน มารู้สึกตัวอีกที่พบว่าได้เสียหลักตกข้างทางชนกับเสาไฟฟ้าแรงสูงมีเพลิงลุกไหม้ที่ด้านหน้าของตัวรถ จึงรวบรวมสติวิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกมาได้แบบหวุดหวิด โดยที่ตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ก่อนมีชาวบ้านช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
เบื้องต้นร.ต.อ.ปิยะ บุญอ่อน รองสว.สอบสวน เจ้าของคดี ได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมทั้งควบคุมตัวนายมานะ มาสอบปากคำและตรวจวัดปริมาณระดับแอลกอฮอในร่างกายว่าเกินกฎหมายกำหนดหรือไม่ ส่วนสาเหตุคนขับอาจจะหลับใน หรือขับฝ่าสายฝนทำทัศวิสัยในการมองไม่ดีจึงเสียหลักตกข้างทางชนกับเสาไฟฟ้าแรงสูงดังกล่าว
ภาพ/ข่าว Ku Salick
พัทยา-(24 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. พ.ต.ท.สมคิด เฮียงเสถียร สารวัตร(สอบสวน) สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุรถตู้โดยสารพลิกคว่ำมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนสาย 36 หน้าสนามแข่งรถพีระเซอร์กิต พัทยา ฝั่งมุ่งหน้าเมืองพัทยา หมู่ 5 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ฯ พัทยารุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถตู้โดยสารยี่ห้อโตโยต้าคอมมิวเตอร์ สีบอร์น ทะเบียนป้ายเหลือง 30 223 บุรีรัมย์ ของบริษัท ประดับทัวร์ สภาพตะแคงอยู่ภายในร่องกลางถนนจากการตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 8 ราย เป็นชาย 5 รายหญิง 3 รายเป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียทั้งหมด มีอาการบาดเจ็บถลอกตามร่างกายและอยู่ในอาการตกใจกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยรีบรำเลียงส่งรพ.กรุงเทพ-พัทยา ส่วนคนขับได้หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึงเนื่องจากกลัวความผิด
จากการสอบถามนายโลกูนอฟ ดีมิทรี่ อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บเล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนพร้อมคณะทัวร์เดินทางมาจากเกาะช้าง จ.ตราด มุ่งหน้าเข้าเมืองพัทยา พอมาถึงจุดเกิดเหตุจู่รถเกิดส่ายไปมาโดยไม่ทราบสาเหตุจากนั้นรถพุ่งลงเกาะร่องกลางถนนพลิกตะแคง ส่วนคนขับหลังเกิดเหตุได้พยายามออกจากตัวรถแล้ววิ่งหลบหนีไป แล้วมีพลเมืองดีที่ผ่านมาเจอเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือตนพร้อมลุกทัวร์คนอื่นๆก่อนแจ้งเจ้ามาหน้าที่มาตรวจสอบ
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานก่อนติดตามโชว์เฟอร์รายนี้มาสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้หากพบว่าเกิดจากความประมาทจะต้องถูกดำเนินตามกฎหมายสบต่อไป
ภาพ/ข่าว Ku Salick
พัทยา-(1 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 03.30 น. ร.ต.ท.อมรเทพ ใหม่มา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักชนรถแม่ค้าที่จอดอยู่ข้างทางได้รับความเสียหาย เหตุเกิดบริเวณหน้าทางเข้าถนนวอล์คกิ้ง สตรีท ถนนเลียบชายหาดพัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กูภัยสว่างธรรมสถานเมืองพัทยา รีบรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแตกตื่นกับเหตุการณ์ โดยรถตู้โดยสารร่วม บขส.(ช) สายกรุงเทพฯ-พัทยา ทะเบียน 15-7938 กทม. พุ่งชนเข้ากับรถขายกาแฟโบราณ รถขายปลาหมึกย่าง ก่อนชนอัดเข้ากับแท่นแบลิเออร์ ได้รับความเสียหายข้าวของกระจัดกระจายแตกเกลื่อนพื้นถนน
ตรวจสอบภายในรถตู้มีชาย 3 คนอยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนักพูดจาไม่รู้เรื่อง โดยมี นายศักย์ศรณ์ กิตติชัยภูมิ อายุ 25 ปี เป็นผู้ขับขี่ และนายกิตติศักดิ์ หาญมนตรี อายุ 65 ปี (เจ้าของรถ) อีกรายทาบชื่อคือนายเก่ง พร้อมสุรายี่ห้อดัง 2 ขวด ขวดโซดาและแก้วเหล้า โดยที่นายกิตติศักดิ์ อยู่ในอาการเมาโวยวายไม่ยอมรับผิดชอบใดๆ เจ้าหน้าตำรวจจึงควบคุมตัวไปยัง สภ.เมืองพัทยา
สอบถาม น.ส.เนตรทราย เอกอุ่น 51 ปี เจ้าของรถกาแฟโบราณ เล่าว่าในขณะเธอได้จอดรถไว้ริมทางเพื่อเดินเอาน้ำไปส่งลูกค้าที่วินจยย.รับจ้างบริเวณข้างเคียง จากนั้นรถตู้คันดังกล่าวก็ขับมาด้วยความเร็วส่ายไปสายมา และเสียหลักชนกับรถกาแฟของตนเอง รถขายปลาหมึกอย่างที่จอดแอบอยู่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเวลาดังกล่าวนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปมาจำนวนมาก ทั้งวินจยย.บริเวณใกล้เคียงต่างพากันโดดหนีตายกันอลหม่าน โชคดีมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายถึงชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัว นายศักย์ศรณ์ ผู้ขับขี่ ไปตรวจวัดระดับปริมาณแอลกฮอล์ในร่างกาย ส่วนรถตู้จะยึดไว้เป็นของกลางพร้อมแจ้งขอกล่าวหาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 18.30 น.พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แถลงข่าวจับกุม นายกานต์ ปั้นบุญชู อายุ 41 ปี ชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาในคดีเช่ารถยนต์แล้วเชิดหลบหนี พร้อมของกลางรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กล 2334 ขอนแก่น และรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฮน-6807 กรุงเทพฯ โดยมี น.ส.วราภรณ์ สิงห์ค้อ อายุ 38 ปี ผู้เสียหายชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น และน้องชาย ชี้ให้จับกุม
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.วราภรณ์ อาชีพรับราชการในตำแหน่งธุรการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ จ.ขอนแก่น ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุขทัศน์ เพื่อขอให้ช่วยตามรถยนต์ของกลางทั้ง 2 คัน ที่นายกานต์ ผู้ต้องหารายนี้เช่ามาจากเต๊นท์รถที่ น.ส.วราภรณ์ กับเพื่อนร่วมหุ้นกันทำในเมืองขอนแก่น และสามารถจับสัญญาณ จีพีเอส.ของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ได้ว่าอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา ภายหลังจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา พร้อมกับผู้เสียหาย เดินทางไปตามสัญญาณจีพีเอส จนพบรถจอดอยู่บริเวณโกดังตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพัทยาใต้ และสามารถจับกุมนายกานต์ ได้ในเวลาต่อมา ก่อนสอบขยายผลตามไปยึดรถตู้อีก 1 คัน ที่ ห้างสรรพสินค้าโลตัส ใน อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
โดย น.ส.วราภรณ์ เล่าว่า เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว นายกานต์ ได้นำเอกสารสัญญาการขอเช่ารถยนต์ของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา มาทำการแสดงและอ้างว่าต้องการเช่ารถไปรับส่งลูกค้าชาวต่างชาติในพัทยา และขอเช่ารถตู้ในราคาเดือนละ 17,000 บาท ก่อนที่จะจ่ายเงินบางส่วนให้ กระทั่งเดือน ม.ค.ปีนี้ นายกานต์ นำเอกสารมาขอเช่ารถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ อีก 1 คัน ในราคา 23,000 บาทต่อเดือน พร้อมกับนัดหมายจ่ายเงินประกันจำนวน 20,000 บาทในวันที่ 5 ก.พ. ด้วยความเชื่อใจ และดูเป็นคนภูมิฐาน จึงยอมปล่อยรถไป แต่ภายหลังเจ้าตัวกลับติดต่อไม่ได้และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ไว้เป็นหลักฐาน และสามารถจับสัญญาณ จีพีเอส.ของรถว่ายังอยู่ในเมืองพัทยา จึงเข้าพบตำรวจและขอให้ช่วยไปจับกุมดังกล่าว
จากการสอบปากคำนายกานต์ ผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพว่า ในอดีตเคยเป็นพนักงานขับรถรับ-ส่งนักท่องเที่ยวของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา แต่ภายหลังเพราะพิษเศรษฐกิจจึงทำให้โดนปลดออกจากงานทำให้ไม่มีเงินใช้ จึงตัดสินใจไปเช่ารถยนต์แล้วเชิดหนี แล้วนำไปส่งต่อให้กับนายเศรษฐวุฒิ ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง เพื่อนร่วมแก๊ง เพื่อเอาไปขายต่อตามเต๊นท์รถย่านลาดกระบัง และ อ.สามโคก จต.ปทุมธานี ในราคาตกคันละประมาณ 70,000 – 100,000 บาท
ด้าน พ.ต.อ.สุขทัศน์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายกานต์ มีหมายจับในพื้นที่เมืองพัทยาจำนวน 2 หมาย และพื้นที่ธัญญะบุรีอีก 1 หมาย เบื้องต้นทำการควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย
รถตู้นักท่องเที่ยวรัสเซียชนปาเจโร่นักท่องเที่ยวเจ็บหลายราย
ภาพเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยาเร่งปฐมพยาบาลนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา หลังเกิดเหตุรถตู้ที่นั่งมาชนกับรถยนต์ รายนี้เปิดเผย เมื่อเวลา 15.30 น. ( 10 ก.พ.59) พ.ต.ต.จีระศักดิ์ แอบแฝง พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา ร่วมเดินทางตรวจสอบและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บรถชนกัน เหตุเกิดบนถนนเลียบทางรถไฟขาเข้าสัตหีบช่วงแยกบ้านหนองหิน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ในที่เกิดเหตุพบรถตู้โตโยต้า สีบรอน ทะเบียน นง-4207 ชลบุรี สภาพจอดพลิกตะแครงข้าง ตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บชาวรัสเซีย เป็นเด็กชาย และผู้หญิงรวม 4 คน เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลแล้วนำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา โดยมีนายชลชาติ สกุลรักษ์ อายุ 38 ปี เป็นคนขับ ห่างกันบริเวณแยกเข้าบ้านหนองหิน พบรถยนต์มิตซูบิชิปาเจโร่ สีเปลือกมังคุด ทะเบียน ฆฉ-2537 กทม.สภาพด้านหน้าซ้ายพัง โดยมี Mr.Antonin Louis Sablier อายุ 88 ปี ชาวฝรั่งเศส เป็นคนขับยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
จากการสอบสวนทราบว่านายชลชาติขับรถตู้รับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจำนวน 10 คน มาจากในเมืองพัทยามุ่งหน้าไปส่งที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์พัทยา มาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางแยก มีรถรถยนต์มิตซูบิชิปาเจโร่ที่มี Mr.Antonin เป็นคนขับขับมาจากปากซอยมุ่งหน้าเข้าบ้านหนองหิน ขับข้ามแยกแบบกระชัดชิดจึงเฉี่ยวชนกัน รถตู้จึงพลิกตะแครงไถลไปกว่า 10 เมตร จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักบาน ก่อนตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงจากปากคำพยานแวดล้อมว่าใครเป็นคนขับรถคันไหนเป็นคนผิด ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว รุ่ง โรมิโอ อินดี้
พัทยาอัพเดทนิวส์ นำเสนอ ฉับไว เพื่อสังคม