พัทยา-(13 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 16.30 น. พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พ.ต.ท.ธนเสฎฐ์ ประชาชัยศรี รอง ผกก.(สส.)พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
โดยรายแรกจับกุม นายนพรัต หรือปั้ม รัศมีเดือน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ พร้อมของกลาง รถจยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีม่วง-ขาว ทะเบียน 1กถ-6001 ชลบุรี หมวกกันน็อคสีเทาและรองเท้าแตะสีขาว
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์กระชากสร้อยนักท่องเที่ยว ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีผู้เสียหายจำนวนหลายราย ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและคำให้การของผู้เสียหาย ทราบว่า คนร้ายเป็นชายไทย ลักษณะท้วม ผิวดำแดง สูงประมาณ 180-190 ซม. มีตำหนิลายสักทีแขนซ้าย แต่งกายสีเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าเตะแบบคีบสีขาว สวมหมวกกันน็อคสีเทา เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนแกะรอยจึงทราบว่า คนร้ายผู้ก่อเหตุคือ นายนพรัต หรือปั้ม รัศมีเดือน พักอยู่ในซอยเนินพลับหวาน ซอยมาบยายเลีย 4/1 จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริงจึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
อีกรายร่วมกันจับกุม นายสุรศักดิ์ หรือพุด นาคนวล อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1,000 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายสุรศักดิ์ หรือพุด นาคนวล มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้า ในเขตพื้นที่ อ.บางละมุง จึงทำการสืบสวน กระทั่งต่อมา เมื่อวันที่ 11 พ.ค.59 สืบทราบว่า นายสุรศักดิ์ จะนำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าที่บริเวณ บ้านโป่งสะเก็ด ม.3 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จึงนำกำลังไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ นายสุรศักดิ์ ลักษณะรูปพรรณตรงตามที่สายลับได้แจ้งไว้ ยืนอยู่ริมถนนสาย 331 ม.3 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จึงแสดงตัวและทำการตรวจค้นจนพบยาบ้าของกลางดังกล่าว
สอบสวน นายสุรศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของ นายป๋า (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ซึ่งเป็นผู้สั่งการให้ตนไปเก็บมาจากริมถนนสายด่านผจญ-นิคมพัฒนาฯ เพื่อนำมารอจำหน่ายให้ลูกค้า จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว ส่วนนายป๋า ไหวตัวทันได้หลบหนีไป โดยในการส่งยาแต่ละครั้ง นายสุรศักดิ์ จะได้ค่าจ้างครั้งละ 500 บาท ทั้งนี้ จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนขยายผลเพื่อเร่งติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้
พัทยา-(10 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.สมพาน สุขสำราญ รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท. ปวัชร์ชัย. สุดสคร. รอง ผกก.(ป.) ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ประกอบด้วย นายวรเพชร หรือกอล์ฟ วรรณศิริ อายุ 24 ปี (ส่งตัวแล้ว) พร้อมของกลางยาบ้า 4เม็ด, นายเอนก เนียมศรี อายุ 25 ปี และนายเอกลักษณ์ ละออเอี่ยม อายุ 24 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 200 เม็ด และตรวจยึดของกลางยาบ้า 10,000 เม็ด จากบริเวณเสาป้ายเครื่องหมายจราจร ข้างกำแพงหลังหมู่บ้านแกร์นด์โฮม ถ.บายพาสหนองมน ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี
ด้าน พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.59 เวลาประมาณ 02.00 น.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนำกำลัง ติดต่อล่อซื้อยาบ้าจาก นายวรเพชร หรือกอล์ฟ จำนวน 4 เม็ด จนสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง และนำตัวมาขยายผลติดต่อซื้อยาบ้าจำนวน 200 เม็ด จาก นายเอนก เนียมศรี และนายเอกลักษณ์ ละออเอี่ยม ซึ่งสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง จากนั้นได้ขยายผลติดต่อขอซื้อยาอีกจำนวน 10,000 เม็ด จากเอเย่นรายใหญ่รายหนึ่ง สามารถยึดของกลางไว้ได้เท่านั้น เนื่องจากไม่พบตัวผู้ต้องหา เพราะแก๊งยาเสพติดดังกล่าวนำยาบ้ามาวางไว้ ซึ่งยังไม่บอกสถานที่ พอวางเสร็จก็จะบอกสถานที่ให้มารับ จึงไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ จึงควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้
ผู้สื่อข่าวรายงาน (26 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รรท.ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.เอนก นาคธร สว.กก.2 บก.ป. ร.ต.อ.จิรพัฒน์ เขียวศิริ รอง สว.กก.2.บก.ป. เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายพูนศุกดิ์ พากเพียร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.5 ต.ทุ่งนางโอก อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 25/2558 ลงวันที่ 23 ม.ค.58 ในความผิดฐาน “พรบ.ยาเสพติดให้โทษ(ครอบครองเมทแอมเฟตามีน)” ได้ที่ หน้าหมู่บ้านวราภิรมย์ ลำลูกกา คลอง3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ร.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่าพบเห็นนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติดรายนี้หนีคดีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักของบิดามารดาซึ่งอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว อีกทั้งยังมีพฤติเสพยาเสพติดอย่างหนักจนบางครั้งเกิดอาการหลอนลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายบิดามารดารวมถึงทำลายสิ่งของภายในบ้าน ทำให้ชาวบ้านในละแวกหวาดกลัวและเกรงว่าหากปล่อยไว้อาจจะเป็นอันตรายแก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้กระจายกำลังลงพื้นที่ปลอมตัวเป็นเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าหมู่บ้านเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเมื่อพบผู้ต้องหารายนี้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในหมู่บ้านจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่นายพูนศักดิ์ เกิดไหวตัวพยายามวิ่งหนีฝ่าวงล้อม แต่ไม่เป็นผลถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ทั้งนี้ต่อมานายประยูร และ นางชม พากเพียร บิดา-มารดา ของนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้ ได้เดินทางมาที่ กองบังคับการปราบปราม โดยนายประยูรได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการหวาดกลัวว่า ตนนั้นประกอบอาชีพขับรถรับจ้างขนกระเบื้อง มีบุตรชายเพียง 2 คน โดยก่อนหน้านี้ครอบครัวของตนพอมีฐานะเนื่องจากบุตรชายคนเล็กเป็นคนขยันและเรียนเก่งจบการศึกษาระดับปริญญาโทได้ทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง คอยส่งเสียค่าใช้จ่ายภายในบ้านแต่ได้มาเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งในภายหลัง เหลือเพียงนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุตรคนโตแต่ไม่เคยช่วยทางบ้านทำมาหากิน มีแต่คอยขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ต่อมาระยะหลังครอบครัวตนเริ่มขาดสภาพคล่องทางการเงินทำให้ไม่มีเงินมาให้นายพูนศักดิ์ซื้อยาเสพ นายพูนศักดิ์ จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายตนและภรรยาอยู่เป็นประจำ โดยมีครั้งหนึ่งรุนแรงถึงขั้นหยิบก้อนหินขนาดใหญ่มาเพื่อหวังจะทุ่มใส่ตนหมายเอาชีวิต เพียงแค่ตนหาเงินมาซื้อยาเสพให้ไม่ได้ แต่ยังโชคดีที่ครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่สายตรวจขี่รถผ่านมาพอดีจึงทำให้ตนรอดตายอย่างหวุดหวิด
นายประยูร กล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานายพูนศักดิ์ ได้ใช้มีดและค้อนขู่บังคับให้นางชม ผู้เป็นมารดา ออกเดินตามหาตน เพื่อต้องการขอเงินไปซื้อยามาเสพ จนตนต้องหนีไปขอให้ตำรวจท้องที่มาช่วยเหลือ แต่เมื่อตำรวจมาถึงนายพูนศักดิ์ กลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวจึงได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในบ้านพร้อมกับนำเศษกระจกตู้ปลาที่ถูกทุบแตกนำมากรีดหน้าท้องจนเป็นแผลเหวอะหวะเพื่อขู่ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาภายในบ้าน จนตำรวจต้องยอมเจรจาตกลงล่าถอยออกไปเพราะเกรงว่านายพูนศักดิ์จะเป็นอันตรายมากกว่านี้ ส่วนตนและนางชมต้องหนีไปพักอาศัยที่บ้านของญาติชั่วคราวเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย กระทั่งมาทราบข่าวว่านายพูนศักดิ์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจับกุมตัวได้จึงเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามในวันนี้ ทั้งนี้ตนเองก็หวังว่าการถูกจับกุมในครั้งนี้ของบุตรชายจะทำให้เจ้าตัวสำนึกผิด และตนก็พร้อมจะให้อภัยลูกคนนี้ได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคมเสมอ
จากการสอบสวนนายพูนศักดิ์ ยังคงให้การวกวน โดยยอมรับว่าได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา พรบ.ยาเสพติด ตามหมายจับจริงเนื่องจากเครียดที่ตนถูกภรรยาคนปัจจุบันทิ้งไปมีคนอื่นจนต้องหันมาพึ่งยาเสพติดเพื่อไม่ให้เกิดความฟุ้งซ่าน แต่ยืนยันว่าไม่ได้ใช้กำลังทำร้ายร่างกายบิดามารดาแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าโกรธและไม่พอใจที่ทั้งสองคนนั้นมีส่วนที่ทำให้ตนต้องเลิกกับภรรยา อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้พบว่า ก่อนหน้านี้เคยต้องโทษในคดียาเสพติดมาแล้ว 6 ครั้ง และหนีการรายงานตัวระหว่างการคุมประพฤติจนถูกออกหมายจับในคดีล่าสุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เตรียมนำตัวส่งศาลอาญาธนบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว ปีโป้
พัทยาอัพเดทนิวส์ นำเสนอ ฉับไว เพื่อสังคม