คลังเก็บหมวดหมู่: อาชญากรรม

เสี่ยหนุ่มเกาหลี ถูกคนร้ายขี่จยย.ประกบกระชากสร้อยมูลค่านับแสนบาท

พัทยา-(6 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก. สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ประกบกระชากสร้อยนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี บริเวณหน้าเอ็ม แมนชั่น ซอยโพธิสาร ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังชุดสืบสวนไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนายคิม บอง ซุก อายุ 45 ปี นักธุรกิจชาวเกาหลี ผู้เสียหาย พร้อมเพื่อนชายหญิง 2 คน สัญชาติเดียวกัน เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองพัทยาเป็นวันแรก ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจในอาการตกใจ พร้อมกับชี้จุดที่คนร้ายก่อเหตุ ตรวจสอบที่พื้นถนนใกล้จุดเกิดเหตุ พบจี้สร้อยคอผู้เสียหายตกอยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปและเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบ

สอบสวน นายคิม ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่บริเวณใกล้เคียงโรงแรมที่พัก เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีคนร้ายเป็นชายไทย รูปร่างท้วม สวมเสื้อแจ็คเก็ต สีครีม นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่ข้างหลัง ก่อนจะลงมือกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท มูลค่า 75,000 บาท แล้วเครื่องเร่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เบาะแสจากชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ ว่า คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สปาร์ค สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และเมื่อเหยื่อพร้อมพวกเดินมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งค่อนข้างมืดและไร้ผู้คน ได้ลงมือก่อเหตุทันที

ภายหลังสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งวิทยุกระจายข่าว สถานีตำรวจภูธรข้างเคียง ให้สกัดจับกุมคนร้ายตามรูปพรรณสันฐาน แต่ก็ยังไร้วี่แวว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจะได้ลงพื้นที่เก็บภาพกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นแนวทางในการจับกุมคนร้ายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

2 มาเฟียคูเวต ไล่แทงเพื่อนชาติเดียวกัน กลางบาร์เบียร์ชาวอาหรับ

พัทยา-(7 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. ร.ต.ท.หญิง เต็มตรอง รอดศิริ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวจำนวน 2 ราย ถูกอาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บ บริเวณภายในร้านไททานิค บาร์เบียร์ชาวอาหรับ กลางซอย 16 พัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยคนเจ็บได้เข้ามารักษาตัวยัง รพ.พัทยาเมโมเรียล ส่วนผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันไล่จับกุมไว้ได้จำนวน 2 คน

จากการไปตรวจสอบโรงพยาบาลพบนักท่องเที่ยวทราบชื่อคือ นายอาเหม็ด อีฮา อายุ 29 ปี ชาวคูเวต ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่แขนขวาและขาทั้งสองข้าง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนอีกรายทราบชื่อคือ นายซามิ โจฮา อายุ 29 ปี ชาวคูเวต ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่หูข้างซ้าย โดยบาดแผลนั้นฉีกขาดขนาดใหญ่ ส่วนผู้ก่อเหตุจำนวน 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวคูเวต ถูกเจ้าหน้าที่และชาวบ้านไล่จับกุมไว้ได้ เบื้องต้นยังปฏิเสธไม่ให้การใดๆ

สอบถาม นายศักดิ์รินทร์ ขาวโคกกรวด อายุ 26 ปี พนักงานแคชเชียร์ของบาร์เบียร์เกิดเหตุ ทราบว่า กลุ่มคนเจ็บและผู้ก่อเหตุ เมื่อสองวันที่ผ่านมาเคยมีปัญหาหมาดบางกันมาก่อน แต่ไม่ทราบสาเหตุเกิดจากอะไร จนกระทั่งเวลาเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายเกิดเหตุพบกันที่บาร์เบียร์แห่งนี้ ทำให้เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จากนั้นเหตุการณ์ชุลมุนก็เกิดขึ้นเมื่อทั้งสองฝ่ายชกต่อยกันพร้อมกับชักมีดออกมาไล่แทงกันได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ท่ามกลางสายตานักดื่มที่กำลังเพลิดเพลินอยู่เป็นจำนวนมาก

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

เพลิงไหม้ “บ้านพญาไม้” คาดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน เผยเตรียมเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว

image
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมช่วยกันฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้บ้านพญาไม้ที่ใช้เวลาปลูกสร้างมานานกว่า 10 ปี กำลังจะเสร็จเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเข้าชม คาดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

พัทยา(6 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผกก.สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพญาไม้ ตั้งอยู่เลขที่ 124/9 ซ.มาบสอง-หนองใหญ่ 10 ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลหนองปรือ, เทศบาลตำบลโป่ง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา รุดทำการช่วยเหลือ

image

ที่เกิดเหตุพบรถดับเพลิงกว่า 10 คัน กำลังช่วยกันระดมฉีดน้ำควบคุมเปลวเพลิงที่กำลังโหมรุกไหม้บ้านไม้ทรงไทยขนาดใหญ่ ที่ปลูกด้วยไม้เก่าแก่ราคาแพง บนเนื้อที่กว่า 1.5 ไร่ จนเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ยังไม่สามารถควบคุมเปลวเพลิงไว้ได้ เนื่องจากโครงสร้างทั้งหมดเป็นไม้ และมีลมแรง จนทำมีโครงสร้างบ้างส่วนพังทลายลงมา สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ในระแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก

image

เบื้องต้นทราบว่าเจ้าของชื่อ นายขุนทอง อู่เงิน นักธุรกิจชื่อดังในเมืองพัทยา ซึ่งยังไม่สามารถให้รายละเอียดอะไรได้มากนัก เนื่องจากกำลังอยู่ในอาการตกใจ ทราบเพียงว่าบ้านพญาไม้หลังดังกล่าวปลูกมากว่า 10 ปี และกำลังจะเสร็จและเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ซึ่งตอนเกิดเหตุมีคนงานกำลังต่อเติมภายในด้านบนอยู่ จู่ๆ ได้เกิดไฟฟ้าช็อตและมีเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมเพลิงได้

image

ส่วนเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ไม่มีรายงานเกี่ยวกับผู้ได้รับบาด คาดมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จากนั้นจะทำการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 (ชลบุรี) เพื่อเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุหารายละเอียดและสรุปสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

สองแถวพัทยา โดนกลุ่ม นทท.แดนโรตี รุมทำร้ายจนขาหัก ตร.คาดสาเหตุสื่อสารไม่เข้าใจ

พัทยา-(6 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 03.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณโค้งปลาโลมาถนนพัทยา-นาเกลือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบ นายสมชาย อินทะสร้อย อายุ 38 ปี โชเฟอร์รถสหกรณ์สองแถวถูกรุ่มทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ฟกช้ำตามร่างกาย ขาขวาหักนอนร้องครวญครางขอความช่วยเหลืออยู่ข้างทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนตัวส่งโรงพยาบาลบางละมุง

สอบถาม นายสมชาย(โชเฟอร์สหกรณ์สองแถว) ทราบว่า ได้รับนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย 7 คนมาจากวอล์กกิ้งสตีท พัทยาใต้ โดยไม่รู้จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุจึงได้หยุดรถลงไปสอบถามนักท่องเที่ยวว่าจะเดินทางไหนจึงทราบว่ารถได้ผ่านที่พักของกลุ่มนักท่องเที่ยวไปแล้ว จึงได้พูดคุยสอบถามว่าจะให้ย้อนกลับไปส่งหรือไม่ แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวกลับเดินหนีไม่ยอมจ่ายค่ารถ ตนเองจึงรีบวิ่งตามไปพร้อมทั้งต่อว่าด้วยความโกธร ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวไม่พอใจเข้ามารุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ติดตามควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ซึ่งให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าโชเฟอร์สหกรณ์สองแถวได้ขว้างก้อนหินใส่ได้รับบาดเจ็บพร้อมทั้งโชว์บาดแผล จึงได้ต่อสู้ป้องกันตัว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าทีตำรวจจะได้สอบปากคำทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากการสื่อสารไม่เข้าใจกันจึงเป็นเหตุให้เข้าใจผิดและทำร้ายกันจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ภาพ/ข่าว Ku Salick

หนุ่มแดนโคนม เดินเที่ยววอล์กกิ้งสตีท พัทยา ถูกทำร้ายร่างกายเจ็บ


พัทยา-(6 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งมีนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้า ร้านเดอะ ไอรอน คลับ ภายในถนนวอล์กกิ้งสตีท พัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวทราบชื่อคือ นายอังเดร อายุ 24 ปี สัญชาติเดนมาร์ค ถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะแตก ฟกช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอาสาพาผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลเอง

สอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การว่านักท่องเที่ยวได้ทะเราะวิวาทกับนักท่องเที่ยวด้วยกันเองและวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือกับทางร้าน แต่ทางนักท่องเที่ยวได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าหน้าที่กล่าว และไม่ได้มีปัญหากับชาวต่างชาติเดียวกัน

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะพานักท่องเที่ยวไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลและจะพาพบ พนักงานสอบสอนเพื่อสอบปากคำและเดินทางตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้งว่าเหตุการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไรต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

บุกจับยาบ้าบ้านนาเกลือ “เบิร์ด โนรี” ไหวตัวหนีรอด รวบลูกค้า

พัทยา-(4 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 18.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย ร.ท.ภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม นายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทหาร มทบ.14 ร่วมกันวางแผนส่งสายลับเข้าล่อซื้อยาบ้า 5 เม็ด เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท จากนายเบิร์ด หรือเบิร์ด โนรี เอเย่นต์ยาเสพติด ย่านนาเกลือ โดยนัดหมายส่งกันบริเวณหน้าบ้านพักเลขที่ 419/52 ภายในซอย 14 นาเกลือ ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

หลังจากสายลับส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นายเบิร์ด เอเย่นต์ยาเสพติด ได้เกิดไหวตัวทันขับขี่รถจักรยานยนต์หนีไปได้อย่างหวุดหวิดโดยทิ้ง น.ส.ศิริพร เวียงจันทร์ อายุ 20 ปี แฟนสาว กำลังอุ้มลูกทารกแรกเกิด ยืนรับหน้าเจ้าหน้าที่เพียงลำพัง เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านพบยาบ้าจำนวน 5เม็ด ตกอยู่ที่พื้นบริเวณข้างบ้าน จึงได้ควบคุมตัว น.ส.ศิริพร ไว้สอบปากคำ

thumbnail_IMG_2233

นอกจากนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นห้องพักของ นายเบิร์ด อยู่นั้น ได้มี นายนฤพนธ์ ทรงแบน อายุ 28 ปีและนายนิรันดร์ มาณสูตร อายุ 31 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาบริเวณดังกล่าว แต่เมื่อทั้งสองคนเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้แสดงท่าทีมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงขอเข้าทำการตรวจค้นตัว แต่ผู้ต้องหาทั้งสองกลับขี่รถฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่เพื่อจะหลบหนี แต่ก็ถูกสกัดจับตัวได้ที่บริเวณกลางซอยทั้งสองคน จากการตรวจค้นพบยาบ้า 2 เม็ด ซุกซ่อนในกระเป๋าสะพายของ นายนฤพนธ์ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการสอบปากคำยังที่ว่าการอำเภอบางละมุง

จากการสอบปากคำ น.ส.ศิริพร ให้การว่า ยาเสพติดที่พบบริเวณข้างบ้านนั้นเป็นของ นายเบิร์ด สามี ซึ่งได้แอบลักลอบจำหน่ายให้กับวัยรุ่นในพื้นที่มาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว เนื่องจากต้องการหาเงินมาใช้ซื้อนมและของใช้ต่างๆ ให้กับลูกน้อยที่เพิ่งคลอดออกได้ไม่กี่เดือน แต่เธอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับนายเบิร์ด อย่างแน่นอนเพียงแต่ไม่สามารถพูดหรือห้ามปราม นายเบิร์ด ผู้เป็นสามีได้ ส่วน นายนฤพนธ์ และนายนิรันดร์ ยอมรับว่า ว่ายาบ้าที่พบนั้นเป็นของตนจริงซึ่งได้ซื้อต่อมาจาก นายเบิร์ด เพื่อที่จะนำมาเสพอีกที

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ น.ส.ศิริพร จึงนำตัวไปทำการตรวจหาสารเสพติด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดไว้ในครอบครองและเสพแก่ นายนฤพนธ์ และนายนิรันดร์ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วน นายเบิร์ด เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมขออำนาจศาลออกหมายจับในคดียาเสพติดต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

หลวงพ่อวัดดังเมืองพัทยาแทบช็อกหลังทำความสะอาดบ่อเลี้ยงปลา พบศพชายนิรนามลอยกลางบ่อ

พัทยา-(4 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 18.00 น. ร.ต.อ.จักรกฤษ จันตาคำ รองสว.สอบสวนสภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตในบ่อเลี้ยงปลา ภายในวัดชัยมงคลพระอารามหลวงพัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลับรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ของวัดพบศพผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้ากอดกิ่งไม้ภายในบ่อ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯใช้เวลากว่า 30 นาทีจึงนำศพขึ้นบนฝั่งได้ เป็นชายไทยอายุประมาณ 30-35 ปี ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ทราบเพียงชื่อเล่นนายเพชร เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า5-6 ชั่วโมง ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีนขายาว ตรวจสอบไม่พบเอกสารระบุตัวบุคคล

สอบถาม พระปราโมกข์ อภิชโย อายุ 60 ปี พระลูกวัด ทราบว่าในขณะที่ได้ทำความสะอาดบ่อเลี้ยงปลาได้พบร่างผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้า คิดว่าเป็นตุ๊กตาจึงใช้ไม้เกี่ยวเข้ามาถึงกลับต้องตกใจเมื่อพบว่าปลายไม้เป็นศพจึงได้ใช้เชื่อผูกไว้กับราวกั้นขอบบ่อป้องกันศพลอยไปไกลยากต่อการเก็บเคลื่อนย้าย ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบดังกล่าว

เบื้องต้นร.ต.อ.จักรกฤษ จันตาคำ รองสว.สอบสวนเจ้าของคดีได้ลงบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตคาดว่าผู้ตายน่าจะเดินแล้วพลัดตกลงไป ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯเก็บรักษายังโรงพยาบาลบางละมุงเพื่อรอญาติติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

กู้ภัยฯ ปั้มหัวใจหนุ่มนิรนามเดินอยู่บนถนนเกิดอาการไอชักท่ามกลางคนจำนวนมาก

พัทยา-(4 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 18.00 น. ร.ต.อ.จักรกฤษณ จันตาคำ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนหมดสติ เหตุเกิด หน้าร้านขายน้ำหอม เชฟท์เคมีและบรรจุภัณฑ์ เลขที่ 47/17-19พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งพร้อม มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ กำลังปั๊มหัวใจยื้อชีวิต ชายไทยสวมใส่เสื้อคอปรกสีขาว ลายทาง สวมกางเกงขายาวสีดำ เจ้าหน้าที่สว่างกว่า 10 นาย เข้าทำการช่วยเหลือ ยื้อชีวิตนาน กว่า 20 นาที แต่ไม่สามารถ ช่วยเหลือทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบ ร่างกายผู้ตาย ไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างได และ ไม่มีเอกสารระบุตัวบุคคลในกระเป๋ากางเกง 40 บาทเท่านั้น

จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงไม่ใครทราบว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน ก่อนจะมาเสียชีวิต เห็นว่าเดินไปมา อยู่บริเวณนั้น จากนั้นก็เดินกลับมาหน้าร้านขายน้ำหอม แล้วก็ไอจน อาเจียน ออกมาเป็นเลือดกองขนาดใหญ่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่สว่างจะมาถึงแล้วก็ทำการ ปั้มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล ทำให้เสียชีวิตด้งกล่าว

เบื้องต้นจากการสอบสวนด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายรูปในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานก่อน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ไม่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด คาดว่าน่าจะเกิดจากโรคประจำตัว ก่อนจะมาหมดสติ และเสียชีวิต อย่างไรตามจะให้มูลนิธิสว่างนำศพไปเก็บรักษา ที่ รพ.บางละมุง เพื่อติดหาญาติผู้เสียชีวิตแจ้งให้ทราบ และมาติดต่อรับศพไปทำพิธีทางศาสนา ต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

ฝ่ายปกครองบุกตรวจฉี่พนักงานเมืองพัทยา ซ้ำยังเจอคนขโมยสายไฟหลวงไปขาย

ฝ่ายปกครองบางละมุงบุกตรวจฉี่พนักงานเมืองพัทยาพบมีสีม่วง 14 คน หนึ่งในนั้นสารภาพขโมยสายไฟของหลวงไปหลายครั้งมูลค่ากว่า 6 แสนบาท

thumbnail_1462353421723

พัทยา-(4 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 15.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นอภ.บางละมุง จ.ชลบุรี สืบทราบว่ามีพนักงานประจำโรงเก็บพัสดุ ส่วนการโยธา สำนักการช่างเมืองพัทยา ตั้งอยู่ในซอยถั่วงอก ถนนชัยพรวิถี ต.หนองปรือ อ.บางะมุง ลักลอบเสพยาบ้าหลายคน จึงสั่งการให้นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง กับ ร.ท.ภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหาร มทบ.14 เดินทางไปตรวจสอบ

โดยเจ้าหน้าที่ได้อาศัยอำนาจตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/2559 ทำการสุ่มตรวจพนักงานประจำโรงเก็บพัสดุกว่า 30 คน พบมีชายไทยปัสสาวะสีม่วงซึ่งคาดว่าน่าจะมีสารเสพติดจำนวน 14 คน ซึ่งหนึ่งในนั้น (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) ให้การรับสารภาพว่า เสพยาบ้ามานานแล้ว พอไม่มีเงินก็จะแอบขโมยสายไฟในโรงเก็บไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าอยู่เป็นประจำ มูลค่ารวมๆ กันแล้วประมาณ 6 แสนบาท จึงควบคุมตัวทั้งหมดเพื่อรอดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

thumbnail_1462353422812

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหารเข้าตรวจร้านจำเนียรรับซื้อของของเก่า ตั้งอยู่เลขที่ 320/12 ถนนชัยพรวิถี ม.4 ต.นาเกลือ กับ ร้านศุภชัยรับซื้อของเก่า ตั้งอยู่เลขที่ 17/13 ม.8 ต.หนองปลาไหล ซึ่งเป็นสถานที่ที่พนักงานประจำโรงเก็บพัสดุให้การรับสารภาพว่านำสายไฟมาขาย แต่เบื้องต้นไม่พบหลักฐาน แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่มีใบอนุญาต และไม่จัดทำบัญชีผู้ขายของเก่า จึงควบคุมตัว น.ส.ศรีวิไล ผาจวง อายุ 39 ปี ผู้ดูแลร้านจำเนียร กับนายศุภชัย พรหมสิน อายุ 39 ปี เจ้าของร้านศุภชัย ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ต่างชาติเหวอ ! เจอหนุ่มอุ้มงูเหลือมพาดคอเสนอถ่ายรูป กลางบาร์เบียร์ข้างโรงพักพัทยา

พัทยา-(4 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ขณะที่ พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว อาสาสมัครชาวไทย และต่างชาติ ออกตรวจตราป้องกันเหตุกลุ่มมิจฉาชีพก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวต่างชาติ ตลอดแนวถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

เมื่อมาถึงบริเวณกลุ่มบาร์เบียร์ ข้างสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยาสังเกตพบ นายเอกพงศ์ แจ่มกมกมล อายุ 37 ปี กำลังเอางูเหลือม ขนาดยาวประมาณ 3 เมตร ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน ไปคล้องคอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกำลังนั่งดื่มกินอยู่ในร้าน โดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้นักท่องเที่ยวคนดังกล่าว แทบลำลักแอลกอฮอร์ พร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจเพราะกลัวถูกงูกัด ทางเจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าจับกุมทันที

จาการสอบถาม นายเอกพงศ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้นำงูเหลือมตัวดังกล่าว ตระเวนตามแหล่งกลุ่มบาร์เบียร์ชายหาดเมืองพัทยาและถนนวอล์กกิ้งสตรีท ไปเสนอชาวต่างชาติถ่ายรูปคู่กับงูเหลือมเป็นที่ระลึกครั้งละ 150 บาท โดยส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะนำมาพาดที่คอ หรือไม่ก็ทำท่าใช้ปากจูบกับงูเหลือม สำหรับงูเหลือมตัวดังกล่าว ได้ซื้อและเลี้ยงมานานแล้ว เมื่องูเริ่มตัวใหญ่ก็นำมาเร่ถ่ายรูปดังกล่าว

ภายหลังสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจึงควบคุมตัว นายเอกพงศ์ ผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี ส่วนงูเหลือมตัวดังกล่าวได้ไปยังส่งสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุงเพื่อดูแลรักษา

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย