ห้วยใหญ่-(5 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 23.30 น. ร.ต.อ.ปิยะ บุญอ่อน รอง สว.สอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุฆาตกรรม มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดภายในอพาร์ทเม้นท์เจ๊ร่วม ม.1 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อนันต์ ภู่ระหงษ์ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายพิพัฒน์ ดวงสว่าง อายุ 27 ปี ลูกชายเสี่ยเจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างย่านจังหวัดระยอง ตรวจสอบมีบาดแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่ที่ศีรษะ นอนเสียชีวิตจมกองเลือด บนพื้นหน้าห้องหมายเลข 19 ชั้น 2 ของอพาร์ทเม้นท์ โดยมี น.ส.กาญจนา จุลกิ่ง อายุ 27 ปี แฟนสาวนั่งร้องไห้กอดศพด้วยความเสียใจ เจ้าหน้าที่ได้กั้นผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งใช้ผ้าปิดศพเพื่อป้องกันเป็นที่อุจาดตา

สอบสวน น.ส.กาญจนา (แฟนสาวผู้ตาย) ทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้ออกไปทำธุระด้านนอกตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ จนกระทั่งเวลาเกิดเหตุได้กลับมายังห้องพักหมายเลข 19 ในขณะที่กำลังจะไขกุญแจห้อง ได้มีชายวัยรุ่นซึ่งเป็นแฟนเก่าของตน ย่องเข้ามาด้านหลังแล้วใช้ของแข็ง ไม่ทราบว่าเป็นอะไรเนื่องจากขณะนั้นมืดมาก ทุบตีเข้าที่ศีรษะของผู้ตายจนล้มลงนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นหน้าห้อง ด้วยความตกใจสุดขีดจึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ ส่วนผู้ก่อเหตุรีบวิ่งไปขึ้นจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้างล่างหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สอบถามพยานในที่เกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่าก่อนเกิดเหตุนั้น ผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 25-30 ปี ได้ถือสุรามานั่งดื่มอยู่ข้างห้องเกิดเหตุ จึงสอบถามได้ความว่ามาหาแฟนสาวซึ่งพักอยู่ห้องหมายเลข 19 คือห้องของ น.ส.กาญจนา แต่เจ้าของห้องไม่อยู่และล็อคกุญแจไว้เข้าไม่ได้จึงนั่งดื่มสุรารออยู่ข้างห้อง จากนั้นจึงได้แยกย้ายเข้าที่พัก จนกระทั้งได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจึงรีบวิ่งออกมาตรวจสอบดังกล่าว

เบื้องต้น พ.ต.อ.อนันต์ ภู่ระหงษ์ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสายตรวจเขต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกไล่ล่า ติดตามที่ห้องพักและบริเวณใกล้เคียงคาดว่าคนร้ายยังหลบหนีไปได้ไม่ไกลมากนัก ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหนาที่กู้ภัยฯ ส่งชันสูตรยังสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ก่อนให้ญาติติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick

จยย.ชนท้าย รถยนต์สาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เจ็บสาหัส
พัทยา-(4 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 20.00 น.ร.ต.อ.วีรยุทธ กางกาละ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรายานยนต์ชนท้ายรถยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบนหน้า ร้านเจ๊จุก ถนนพัทยาเหนือฝั่งขาเข้าสุขุมวิท ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือ นายนิรุจ ภูมนัส อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนจมกองเลือดหายใจโรยริน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ทำการปั้มหัวใจผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วนก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลบางละมุง ข้างกันพบรถจักรยายยนต์ของผู้บาดเจ็บ ยี่ห้อซูซูกิ สเต็บ125 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน งษข 443 ชลบุรี ชนท้ายรถยนต์แบบแวน ยี่ห้อ อีซุซุ อเวนเจอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ษฮ 3533 กทม. เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ได้รับความความเสียหายยับเยิน ส่วนรถยนต์ได้รับความเสียหายเช่นกัน

สอบถาม นางธนิดา กลิ่นกมล อายุ 51 ปี ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ อยู่ในอาการตกใจทราบว่า ในขณะนั้นมีปริมาณรถติดเป็นจำนวนมากตนเองได้จอดรอสัญญาณไฟจราจร ได้มีแรงกระแทกอย่างรุนแรงและเสียงดังสนั่นจากด้านหลัง จึงลงมาตรวจสอบพบว่าจักรยานยนต์จนเข้าด้านท้ายอย่างจัง มีผู้บาดเจ็บนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นถนนจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือดังกล่าว

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พัทยา-(4 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 19.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม และนายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ได้นำกำลังฝ่ายปกครอง เข้าจับกุมตัว นายวิวัฒน์ วราเดช อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 1 ถุง น้ำหนักรวม 1 กรัม โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง กลางซอยดู๋ดี๋ ย่านพัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบมาว่านายวิวัฒน์ มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่จึงส่งสายลับนำเงินสดจำนวน 2,000 บาท ไปติดต่อขอล่อซื้อยาไอซ์จำนวน 1 กรัม โดยนัดหมายส่งกันที่บริเวณหอพักแห่งหนึ่ง ย่านพัทยากลาง เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายวิวัฒน์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์นำยาไอซ์ส่งให้กับสายลับ ทันทีเจ้าหน้าที่ซึ่งซุ่มตัวอยู่บริเวณดังกล่าว จึงแสดงตัวเข้าจับกุมไว้ได้พร้อมของกลาง จากนั้นได้ควบคุมตัว นายวิวัฒน์ ไปตรวจค้นห้องพัก หลังชุมชนวัดธรรมสามัคคี แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

สำหรับ นายวิวัฒน์ ได้พ้นโทษคดียาเสพติดออกมาได้ไม่ถึง 2 เดือน ก็มีพฤติกรรมหันเหกลับไปเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่เมืองพัทยาอีกครั้ง โดยจะใช้รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์เป็นยานพาหนะในการขับขี่ส่งยาเสพติด เนื่องจากรถค่อนข้างจะแรงกว่ารถจักรยานยนต์ปกติ เพื่อสะดวกในส่งยาเสพติดและให้ทันใจลูกค้าและง่ายในแหกด่านการหลบหนีเวลาเจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายวิวัฒน์ พร้อมของกลาง ส่งพนักงาน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(3 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 04.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้สืบทราบว่านายชาลี สินสายรัมย์ อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดและมักจะโพสต์เฟสบุ๊คอวดรวยอีกด้วย จึงสั่งการให้นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ร.ท.ภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม นายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังฝ่ายปกครองและชุดปราบปรามยาเสพติดอำเภอบางละมุง ออกสืบสวนหาข่าว

จนกระทั่งทราบว่า นายชาลี พักอาศัยอยู่ห้องพักแห่งหนึ่ง ย่านเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ เจ้าหน้าที่จึงส่งสายลับนำเงินจำนวน 600 บาท ติดต่อขอล่อซื้อยาบ้าจำนวน 3 เม็ด โดยนัดหมายกันที่ห้องพักของนายชาลี เมื่อสายลับส่งสัญญาณ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวบุกเข้าจับกุมทันที พบนายชาลี กำลังนั่งกินรับประทานอาหารอยู่กับแฟนสาวชาวลาว ตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 45 เม็ด และยาไอซ์จำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนใต้ตู้เย็น นอกจากนี้อายัดทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 5,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1องค์ สมุดธนาคาร 4 เล่ม ยอดเงินหมุนเวียนกว่า 1 แสนบาท เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนขยายผล จับกุมตัว นายวัชรินทร์ ปองไว้ อายุ 20 ปี และน.ส.วิภารัตน์ ยากลาง อายุ 28 ปี สองสามีภรรยา พร้อมยาบ้าจำนวน 200 เม็ด และยาไอซ์ 4 กรัม คารถเก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนส์-เทา ขณะจอดกำลังรถเก๋งส่งยาเสพติดให้กับลูกค้า บริเวณถนนเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวสองสามีภรรยารายนี้ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า-ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(3 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 09.30 น.ร.ต.อ.นิวัฒน์ เพ็งแคน รอง.สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันหลายคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนพัทยาเหนือ ใกล้เคียงท่ารถรุ่งเรืองทัวร์ ฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุบริเวณพบ รถยนต์ มิตซูบิชิ สตราด้า สีบอร์น ทะเบียน บษ-2650 เพชรบูรณ์ สภาพตัวรถด้านขวาได้รับความเสียหาย จอดขวางถนนอบู่บริเวณเลนซ้ายสุด ถัดมาบริเวณเลนกลางพบ รถยนต์ นิสสัน บิ๊กเอ็ม สีดำ ทะเบียน บจ-5656 ชัยนาท สภาพรถพังยับเยินทั้งคัน ประตูรถฝั่งคนขับเปิดอ้าออก และด้านท้ายชนอัดอยู่กับท้ายรถยนต์ โตโยต้า แคมรี่ สีขาว ทะเบียน กษ-6699 ชลบุรี ซึ่งได้รับความเสียหายบริเวณท้ายรถด้านขวา และบริเวณหน้ารถได้ชนอัดอยู่กับท้ายรถยนต์ โตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน ขธ-8507 ได้รับความเสียหายเล็กน้อย

นอกจากนี้ในที่เกิดยังพบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายอาทิตย์ สุคนธ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.22 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตเลือดไหลนองพื้น ข้าง รถนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีดำ จากการตรวจพบว่า เป็นรถของผู้เสียชีวิต

สอบสวน นายสุวิทย์ สวัสดิ์นที อายุ 37 ปี เจ้าของรถมิตซูบิชิ สตราด้า ซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณต้นคอ ได้เล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนและภรรยา จอดรถติดไฟแดงอยู่บริเวณเลนกลาง โดยจอดต่อจากรถยนต์โตโยต้า แคมรี่ จากนั้นรถของตนถูกกระแทกด้านท้ายอย่างแรงทำให้ตนได้บาดเจ็บ และเมื่อลงจากรถจึงพบกับศพผู้เสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้น จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมและตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่า รถนิสสัน บิ๊กเอ็ม ได้วิ่งมาด้วยความเร็วสูงและมีอาการส่ายไปมา ก่อนพุ่งชนอัดท้ายรถมิตซูบิชิ สตราด้า และไปฟาดกับรถโตโยต้า แคมรี่ จึงทำให้รถโตโยต้าแคมรี่ กระแทกอัดกับท้ายรถโตโยต้า วีโก้ ก่อนร่างคนขับ รถนิสสัน บิ๊กเอ็ม จะเด็นออกจากรถและกระแทกพื้นเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานฐาน ก่อนเคลื่อนย้ายรถยนต์ออกจากที่เกิดเหตุ และส่งมอบศพให้มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา นำไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.บางละมุง เพื่อรอญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

ภาพ/ข่าว เอี้ยก้วย พัทยา

พัทยา-(2 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับการร้องเรียนว่าบ้านพักเลขที่ 64 บ้านทุ่งกลม ม.14 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปมั่วสุมยาเสพติดกันจำนวนมาก จึงสั่งการให้ นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอบางละมุงหัวหน้าฝ่ายมั่นคง เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอบางละมุงฝ่ายป้องกันปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.14 ฝ่ายปกครอง และชุดปราบปรามยาเสพติดอำเภอบางละมุง เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปตรวจสอบบริเวณข้างบ้านหลังดังกล่าว พบมีกลุ่มวัยรุ่นกำลังมั่วสุมเสพยาเสพติดกันอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าไปจับกุม แต่ปรากฏว่ากลุ่มวัยรุ่นไหวตัวทันวิ่งหลบหนีออกไปทางทุ่งนาหลังบ้าน โดยทิ้งของกลางไว้เป็นอุปกรณ์การเสพกัญชาและยาบ้า จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากการขยายผลตรวจสอบภายในห้องพักบ้านหลังดังกล่าวพบ นายสุเทพ สินกลิ่น อายุ 23 ปี และน.ส.จันทร์จิรา เณรตากล้อง อายุ 25 ปี สองผัวเมีย ที่ป่วยเป็นโรคร้ายกำลังนอนอยู่ บริเวณโต๊ะพบกัญชา อุปกรณ์การเสพกัญชา ยาบ้า ยาไอซ์ และอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก

เบื้องต้น สองผัวเมียรายนี้ ยอมรับสารภาพว่า ได้เสพยาเสพติดหลายชนิดอาทิเช่น กัญชา ยาบ้า ยาไอซ์ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวพร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

เพลิงไหม้ห้องควบคุมไฟโรงแรมกลางเมืองพัทยาวอดลามท่อแอร์เสียหาย จนท.ระดมฉีดน้ำช่วยทัน เบื้องต้นยังประเมินความเสียหายไม่ได้

พัทยา-(1 มิ.ย. 59) เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพัทยาศูนย์พัทยาใต้ ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณชั้น 3 ของอาคารชิคทาวเวอร์ โรงแรมพัทยาดิสคัฟเวอร์รี่บีช จ.ชลบุรี จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เนื่องมาจากอยู่บริเวณแหล่งเศรษฐกิจกลางใจเมืองพัทยา

ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแตกตื่นกับเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ก่อนเจ้าหน้าที่จะระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงใช้เวลาเพียง 15 นาที เพลิงจึงสงบ ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบว่าต้นเพลิงมาจากห้องควบคุมไฟฟ้าของอาคาร ก่อนลุกลามไหม้ท่อแอร์จนได้รับความเสียหาย แต่เนื่องด้วยขณะเกิดเหตุสปริงเกอร์ฉีดน้ำทำงานตามปกติ ทำให้ความเสียหายอยู่ในวงจำกัด เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร

สอบสวนความเบื้องต้นจาก นาย ณ ภัทร ธิติโรจนะวัฒน์ กรรมการผู้จัดการโรงแรม เล่าว่า ต้นเพลิงมาจากแผงควบคุมที่ไม่เคยเปิดใช้ เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ด้วยระบบสปริงเกอร์ของเราทำงานปกติ ทำให้ไม่มีความเสียหายมากมายเท่าไรนัก แต่ขณะนี้ยังประเมินค่าความเสียไม่ได้ ต้องรอเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบอีกครั้งในเร็ววันนี้

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

พัทยา-(31 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 23.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพลอยปภัส เจริญอธิพัฒน์ อายุ 49 ปี เจ้าของร้านชาบูชื่อดังเมืองพัทยา อุ้มเจ้าเดซี่ สุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล สีขาว เพศเมีย อายุ 10 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของชาวต่างชาติ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

โดย นางพลอยปภัส ได้เล่าว่า วันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าเดซี่ สุนัขแสนรักของเธอกำลังวิ่งเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านพักซอยเพนียดช้างตามปกติ จากนั้นชายชาวฟินแลนด์ ได้ใช้กระป๋องน้ำอัดลมปาใส่เจ้าเดซี่ จนหัวแตกและมีแผลฉกรรจ์ที่บริเวณสันหลัง ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเข้าไปสอบถามถึงสาเหตุ ชายต่างชาติก็ได้ทำท่าทีไม่พอใจ พร้อมกับยกมือชูของลับ และยังท้าทายให้ไปแจ้งความกับตำรวจอีกด้วย นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ชายต่างชาติคนดังกล่าว ซึ่งพักอยู่ชั้น 8 คอนโดมิเนียมติดกับบ้านพักของเธอ ก็มักจะโยนข้าวของลงมาบริเวณหน้าบ้านพักของเธออีกด้วย

ทั้งนี้ จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เพื่อเอาผิดกับการกระทำกับชาวต่างชาติ โดยไม่ทราบสาเหตุในครั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนติดตามตัวชายต่างชาติคนดังกล่าวมาสอบปากคำพร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

พัทยา-(1 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวจมน้ำได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณสระว่ายน้ำของ โรงแรมอาเดียติค พาเลซ พัทยา ม.12 ต.หนองปรือ อ.บาละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยทีมแพทย์และกำลังเจ้าหน้าที่รีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เร่งทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือ MR.HAN MU อายุ 20 ปี นักศึกษาชาวจีน นอนหมดสติหายใจโรยรินอยู่ขอบสระ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมแพทย์ทำการปั้มหัวใจช่วยเพื่อยื้อชีวิต แต่ผู้บาดเจ็บขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยมีแฟนสาวยืนรอดูด้วยความเป็นห่วงอยู่ไม่ห่าง หลังจากรู้ว่าคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกันและเดินทางมาฮันนีมูนสิ้นลมหายใจ ถึงกับแทบเป็นลมนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ

สอบถาม นายสุทิศ อายุ 32 ปี สัญชาติพม่า พนักงานโรงแรม ทราบว่าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจึงรีบวิ่งมาตรวจสอบ พบว่ามีนักท่องเที่ยวจมน้ำอยู่จึงกระโดดลงไปช่วยขึ้นจากสระน้ำ แต่ผู้ประสพเหตุหมดสติ หายใจโรยริน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เข้าช่วยเหลือดังกล่าว

ภาพ/ข่าว Ku Salick

พัทยา-(31 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 31 พฤษภาคม 2559 พ.ต.ต.ศรัณยพงศ์ ใหมทองกุญธร สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุ นักท่องเที่ยวถูกก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ เสียทรัพย์สินไปกว่าแสนบาท เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านนินจาหมูกระทะ ถนนพัทยาสายสาม พัทยาเหนือ-พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวชาวจีนชื่อ นายซื่อ กว๋อ เหว่ย อายุ 43 ปี สัญชาติจีน เจ้าของอู่ต่อเรือแห่งหนึ่งของเมื่อเซี่ยงไฮ้ ของประเทศจีน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยมี นายสิรวิช โพธิ์แก้ว อายุ 25 ปี ไกด์เป็นล่ามแปลภาษา ว่าในขณะที่ตนพร้อมคณะทัวร์กำลังเดินข้ามถนนเพื่อมารับประทานอาหาร ได้มีชายวัยรุ่น 1 คนขับขี่จักรยานยนต์เข้า มาประกบก่อนกระชากสร้อยคอทองเคของ นายซื่อ กว๋อ เหว่ย มูลค่ากว่า 1แสนบาท ก่อนเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้น ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อดูรูปพรรณสัณฐานผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว Ku Salick