อดีตตำรวจวัยเกษียนชาวสวิตเซอร์แลนด์ กินก๋วยเตี๋ยวไก่ เกิดหายใจไม่ออกดับอนาถคาโต๊ะ เพื่อนชาติเดียวกันมาช่วยล้วงคอพบเศษเส้นก๋วยเตี๋ยวติดคาเต็มปาก ด้านตำรวจยังไม่ฟันธงสาเหตุการตาย
พัทยา-(1 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 16.00 น. ร.ต.ท.นิวัตน์ เพ็งแคน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีชาวต่างชาติกินก๋วยเตี๋ยวแล้วเกิดเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุที่บริเวณหน้า “สบายๆ เก็สเฮ้าส์” ตั้งอยู่ในซอย 12 ถนนเลียบชายหาดจอมเทียน หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังตำรวจสายตรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพชายชาวต่างชาตินอนหงายเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าทางเข้าเก็สเฮ้าส์ ซึ่งมีโต๊ะ-เก้าอี้ตั้งไว้หลายชุดเพื่อให้ลูกค้าได้นั่งพักผ่อนและรับประทานอาหาร สอบสวนทราบชื่อต่อมา Mr.Meier Ernst Albert อายุ 58 ปี อดีตนายตำรวจเกษียณอายุ ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ภายในปากพบเศษเส้นก๋วยเตี๋ยวคาอยู่ในหลอดลมเล็กน้อย คาดว่าน่าจะเสียชีวิตไม่เกิน 1 ชั่วโมง
สอบปากคำ น.ส.จันจิรา สุขปรุง อายุ 32 ปี แฟนสาวของเพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองพร้อมกับแฟนหนุ่มชาวสวิตเซอร์แลนด์ และ Mr.Meier ผู้ตาย ที่เพิ่งเดินทางจากบ้านเกิดมาท่องเที่ยวในเมืองไทยไม่ถึง 1 เดือน ก่อนเกิดเหตุได้พากันเดินออกจากโรงแรมสาลิตา ในซอยเดียวกัน เพื่อมากินก๋วยเตี๋ยวไก่ ที่ร้านฝั่งตรงข้ามโรงแรมสบายๆ เก็สเฮ้าส์ โดย Mr.Meier ได้สั่งก๋วยเตี๋ยวไก่เส้นเล็กไม่ใส่ผัก ที่เคยชอบสั่งมารับประทานเป็นประจำมานั่งรับประทานที่โต๊ะหน้าทางเข้าเก็สเฮ้าส์ ซึ่งในระหว่างที่กำลังตั้งใจกินอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น
จู่ๆ Mr.Meier เกิดอาการหายใจติดขัดกะทันหันคล้ายโรคหอบกำเริบ ก่อนที่จะหมดสติจนหน้าฟุบลงกับโต๊ะ แฟนหนุ่มของตนจึงพยายามเข้าไปช่วยด้วยการจับ Mr.Meier แล้วใช้มือล้วงเข้าไปในปากจนพบว่า มีเส้นก๋วยเตี๋ยวติดคาอยู่ในปากเป็นจำนวนมาก จึงค่อยๆ ใช้มือถึงเส้นก๋วยเตี๋ยวออกมาจนทำให้ฟันปลอมหลุดออกมาด้วย ก่อนโทรศัพท์แจ้งไปยัง รพ.พัทยาเมโมเรียล เพื่อให้ส่งทีมแพทย์-พยาบาล มาช่วยแต่ก็ไม่อาจยื้อชีวิตไว้ได้ดังกล่าว
ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุของการเสียชีวิตน่าจะมาจากโรคประจำตัว เพราะจากการตรวจสอบประวัติพบว่าป่วยเป็นโรคหืดหอบ ส่วนประเด็นเส้นก๋วยเตี๋ยวติดคอจนขาดอากาศหายใจก็ไม่ได้ตัดทิ้งไป อย่างไรก็ตาม คงต้องส่งศพผู้ตายไปให้แพทย์ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อผ่าชันสูตรหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตให้รับทราบต่อไป