คลังเก็บป้ายกำกับ: ยาเสพติด

ฝ่ายปกครอง ทหาร บุกรวบสองผัวเมียป่วยโรคร้ายมั่วสุมเสพยาหลายชนิด

พัทยา-(2 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 23.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับการร้องเรียนว่าบ้านพักเลขที่ 64 บ้านทุ่งกลม ม.14 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปมั่วสุมยาเสพติดกันจำนวนมาก จึงสั่งการให้ นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอบางละมุงหัวหน้าฝ่ายมั่นคง เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอบางละมุงฝ่ายป้องกันปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.14 ฝ่ายปกครอง และชุดปราบปรามยาเสพติดอำเภอบางละมุง เดินทางไปตรวจสอบ

thumbnail_IMG_2964

เมื่อไปตรวจสอบบริเวณข้างบ้านหลังดังกล่าว พบมีกลุ่มวัยรุ่นกำลังมั่วสุมเสพยาเสพติดกันอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าไปจับกุม แต่ปรากฏว่ากลุ่มวัยรุ่นไหวตัวทันวิ่งหลบหนีออกไปทางทุ่งนาหลังบ้าน โดยทิ้งของกลางไว้เป็นอุปกรณ์การเสพกัญชาและยาบ้า จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากการขยายผลตรวจสอบภายในห้องพักบ้านหลังดังกล่าวพบ นายสุเทพ สินกลิ่น อายุ 23 ปี และน.ส.จันทร์จิรา เณรตากล้อง อายุ 25 ปี สองผัวเมีย ที่ป่วยเป็นโรคร้ายกำลังนอนอยู่ บริเวณโต๊ะพบกัญชา อุปกรณ์การเสพกัญชา ยาบ้า ยาไอซ์ และอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก

thumbnail_IMG_2981

เบื้องต้น สองผัวเมียรายนี้ ยอมรับสารภาพว่า ได้เสพยาเสพติดหลายชนิดอาทิเช่น กัญชา ยาบ้า ยาไอซ์ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวพร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

thumbnail_IMG_2968

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

กองปราบฯ รวบตัวหนุ่มรับจ้างขนยานรกเครือข่ายเรือนจำ ของกลางถูกทิ้งกลางวัดดังฝั่งธน

image

(1 มิ.ย. 58) เมื่อเวลา 11.15 น. ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผบช.ก. รรท.ผบก.ป. พร้อมพ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1บก.ป. พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รรท.ผกก.2บก.ป. พ.ต.อ.จิณวัตร ก้อนทองดี ผกก.สน.บุคคโล ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายเจษฎา แสวงหา อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 1 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่จ. 357/2559 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2559 ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์และย้าบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในร้านอาหารแบดบอย คาเฟ่ ถ.บางแสนล่าง ซอย12 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี

พ.ต.อ.จิรภพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ตำรวจสน.บุคคโล พบยาบ้า 40,000 เม็ดและยาไอซ์ 2 กก. ถูกทิ้งไว้บริเวณกระถางต้นไม้ด้านหน้าศาลาสวดศพ ภายในวันวัดสุทธาวาส ซอยตากสิน 24 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี จากการสอบถามพยานทราบว่ามีชาย 2 คนขับรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด ทะเบียน บพ 3056 แพร่ มาจอดรถทิ้งไว้บริเวณกลางซอยตากสิน 24 ก่อนหลบหนีไป เมื่อตรวจสอบภายในรถกระบะดังกล่าว พบบัตรประชาชน และสมุดบัญชีของนายเจษฎา นำไปสู่ศาลออกหมายจับนายเจษฎา ตำรวจ สน.บุคคโลจึงประสานตำรวจกองปราบร่วมติดตามจับกุม กระทั่งสืบทราบว่า นายเจษฎาหลบหนีไปอยู่ที่ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี และวันที่ 31 พฤษภาคม เวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่จึงสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว

image

ด้านนายเจษฎา รับสารภาพว่าตนขนยาจำนวนดังกล่าวจริง โดยก่อนหน้านี้เคยถูกจับกุมและได้รู้จักกับเสี่ยตง ชาวพม่า ในเรือนจำ เมื่อได้รับการปล่อยตัวตนก็หันมารับจ้างขนยาจากเสี่ยตง โดยรับมาจากจ.เชียงราย ได้ค่าจ้างครั้งละ 200,000 บาท ปกติจะรับจ้างขนแต่ยาบ้า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ขนยาไอซ์ ทำมาทั้งหมด 4 ครั้ง ครั้งแรกส่งที่ จ.ราชบุรี ครั้งที่ 2 ส่งที่จ.สุพรรณบุรี ครั้งที่ 3 ส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ยังไม่ได้ส่งก็เกิดเรื่องเสียก่อน เพราะหลังจากตนรับยาจาก จ.เชียงราย แล้วก็ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวมากับนายจะกือ (เพื่อนชาวไทยใหญ่) ซึ่งเป็นลูกน้องของเสี่ยตง โดยระหว่างทางพวกตนต้องการเข้าห้องน้ำจึงจอดรถภายในวัดดังกล่าว พบกลุ่มวัยรุ่นท่าทางพิรุธ คาดว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวน่าจะเข้าใจผิดว่าพวกตนเป็นคู่อริ จึงเปิดฉากยิงและไล่ฟันพวกตน ก่อนนายจะกือและตนจะทิ้งยาไว้ พร้อมหลบหนีไป กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว

นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้พบว่าเคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ สภ.เมืองเชียงราย เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2556 ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวออกมาเมื่อปีที่ผ่านมา เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.บุคคโล ก่อนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป

ตร.พัทยา รวบ “ขวัญ” วอล์กกิ้งสตรีท หัวใสทำยาไอซ์ปลอมหลอกขายนักท่องเที่ยว

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รวบ “ขวัญ” วอล์กกิ้งสตรีท ได้พร้อมของกลาง และอุปกรณ์การเสพยา จึงได้ควบคุมตัวไปยัง สภ.เมืองพัทยา ตรวจหาสารเสพติด สารภาพยาเสพติดนั้นเป็นเพียงสารส้มกับยาทันใจ ที่ทำมาไว้หลอกขายให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

พัทยา-(18 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ในขณะที่ ร.ต.อ.อัครชัย วงศ์คำโสม รองสว.จราจรสภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา ได้ทำการตั้งด่านตรวจสิ่งของผิดกฎหมาย บริเวณใต้สะพานต่างระดับแหลมบารีฮายพัทยาใต้ ม. 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้พบรถจักยายนต์ต้องสงสัย เป็นหญิงไทยขับขี่ด้วยความเร็วจึงได้ทำการเรียกตรวจค้น พบกระเป๋ามือถือภายในมีอุปกรณ์การเสพยา และค้นภายในตัวพบถุงซิปภายในบรรจุเกล็ดสีขาวตกผลึกลักษณะคล้ายยาไอซ์ จำนวน 3 ถุง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา และควบคุมตัวไปยัง สภ.เมืองพัทยา

IMG_3785

จากการสอบถาม นางขวัญ หรือขวัญ วอล์กกิ้งสตรีท บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า อุปกรณ์การเสพยาเป็นของตนจริง ส่วนเกล็ดสีขาวที่อยู่ภายในถุงซิปเป็นเพียงสารส้มผสมกับยาทันใจ ที่ทำขึ้นเพื่อนำไปหลอกขายให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในราคาถุงละ 1,000-2,000 บาท หลังทำการซื้อขายเสร็จจึงได้รีบหนีเกรงว่าลูกค้าจะรู้ว่าเป็นของปลอม จนวันนี้ได้มาถูกตำรวจจับกุม

เบื้องต้นเจ้าหน้าตำรวจได้ทำการยึดของกลางทั้งหมดไว้ พร้อมนำตัวไปตรวจหาสารเสพติด และตรวจของกลางว่าเป็นยาเสพติดของจริงหรือของปลอม และหากพบว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายจริงจะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว แบงค์ คนบ้า

ตร.บางละมุงแถลงข่าวกวาดล้างอาชญากรรม รวบโจรกระชากสร้อย เอเย่นยานรก พร้อมของกลาง

พัทยา-(13 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 16.30 น. พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พ.ต.ท.ธนเสฎฐ์ ประชาชัยศรี รอง ผกก.(สส.)พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดยรายแรกจับกุม นายนพรัต หรือปั้ม รัศมีเดือน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ พร้อมของกลาง รถจยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีม่วง-ขาว ทะเบียน 1กถ-6001 ชลบุรี หมวกกันน็อคสีเทาและรองเท้าแตะสีขาว

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์กระชากสร้อยนักท่องเที่ยว ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีผู้เสียหายจำนวนหลายราย ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและคำให้การของผู้เสียหาย ทราบว่า คนร้ายเป็นชายไทย ลักษณะท้วม ผิวดำแดง สูงประมาณ 180-190 ซม. มีตำหนิลายสักทีแขนซ้าย แต่งกายสีเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าเตะแบบคีบสีขาว สวมหมวกกันน็อคสีเทา เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนแกะรอยจึงทราบว่า คนร้ายผู้ก่อเหตุคือ นายนพรัต หรือปั้ม รัศมีเดือน พักอยู่ในซอยเนินพลับหวาน ซอยมาบยายเลีย 4/1 จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริงจึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

อีกรายร่วมกันจับกุม นายสุรศักดิ์ หรือพุด นาคนวล อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1,000 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายสุรศักดิ์ หรือพุด นาคนวล มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้า ในเขตพื้นที่ อ.บางละมุง จึงทำการสืบสวน กระทั่งต่อมา เมื่อวันที่ 11 พ.ค.59 สืบทราบว่า นายสุรศักดิ์ จะนำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าที่บริเวณ บ้านโป่งสะเก็ด ม.3 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จึงนำกำลังไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ นายสุรศักดิ์ ลักษณะรูปพรรณตรงตามที่สายลับได้แจ้งไว้ ยืนอยู่ริมถนนสาย 331 ม.3 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จึงแสดงตัวและทำการตรวจค้นจนพบยาบ้าของกลางดังกล่าว

สอบสวน นายสุรศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของ นายป๋า (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ซึ่งเป็นผู้สั่งการให้ตนไปเก็บมาจากริมถนนสายด่านผจญ-นิคมพัฒนาฯ เพื่อนำมารอจำหน่ายให้ลูกค้า จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว ส่วนนายป๋า ไหวตัวทันได้หลบหนีไป โดยในการส่งยาแต่ละครั้ง นายสุรศักดิ์ จะได้ค่าจ้างครั้งละ 500 บาท ทั้งนี้ จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนขยายผลเพื่อเร่งติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

ตร.พัทยา แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยานรก รวบผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้ากว่าหมื่นเม็ด

พัทยา-(10 พ.ค. 59) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.สมพาน สุขสำราญ รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท. ปวัชร์ชัย. สุดสคร. รอง ผกก.(ป.) ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ประกอบด้วย นายวรเพชร หรือกอล์ฟ วรรณศิริ อายุ 24 ปี (ส่งตัวแล้ว) พร้อมของกลางยาบ้า 4เม็ด, นายเอนก เนียมศรี อายุ 25 ปี และนายเอกลักษณ์ ละออเอี่ยม อายุ 24 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 200 เม็ด และตรวจยึดของกลางยาบ้า 10,000 เม็ด จากบริเวณเสาป้ายเครื่องหมายจราจร ข้างกำแพงหลังหมู่บ้านแกร์นด์โฮม ถ.บายพาสหนองมน ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี

ด้าน พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.59 เวลาประมาณ 02.00 น.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนำกำลัง ติดต่อล่อซื้อยาบ้าจาก นายวรเพชร หรือกอล์ฟ จำนวน 4 เม็ด จนสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง และนำตัวมาขยายผลติดต่อซื้อยาบ้าจำนวน 200 เม็ด จาก นายเอนก เนียมศรี และนายเอกลักษณ์ ละออเอี่ยม ซึ่งสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง จากนั้นได้ขยายผลติดต่อขอซื้อยาอีกจำนวน 10,000 เม็ด จากเอเย่นรายใหญ่รายหนึ่ง สามารถยึดของกลางไว้ได้เท่านั้น เนื่องจากไม่พบตัวผู้ต้องหา เพราะแก๊งยาเสพติดดังกล่าวนำยาบ้ามาวางไว้ ซึ่งยังไม่บอกสถานที่ พอวางเสร็จก็จะบอกสถานที่ให้มารับ จึงไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ จึงควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

บุกจับลูกทรพี ทุบตี พ่อ-แม่ ปางตาย หากไม่หาเงินมาให้ซื้อยาเสพ

ผู้สื่อข่าวรายงาน (26 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รรท.ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.เอนก นาคธร สว.กก.2 บก.ป. ร.ต.อ.จิรพัฒน์ เขียวศิริ รอง สว.กก.2.บก.ป. เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายพูนศุกดิ์ พากเพียร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.5 ต.ทุ่งนางโอก อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 25/2558 ลงวันที่ 23 ม.ค.58 ในความผิดฐาน “พรบ.ยาเสพติดให้โทษ(ครอบครองเมทแอมเฟตามีน)” ได้ที่ หน้าหมู่บ้านวราภิรมย์ ลำลูกกา คลอง3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

ร.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่าพบเห็นนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติดรายนี้หนีคดีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักของบิดามารดาซึ่งอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว อีกทั้งยังมีพฤติเสพยาเสพติดอย่างหนักจนบางครั้งเกิดอาการหลอนลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายบิดามารดารวมถึงทำลายสิ่งของภายในบ้าน ทำให้ชาวบ้านในละแวกหวาดกลัวและเกรงว่าหากปล่อยไว้อาจจะเป็นอันตรายแก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้กระจายกำลังลงพื้นที่ปลอมตัวเป็นเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าหมู่บ้านเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเมื่อพบผู้ต้องหารายนี้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในหมู่บ้านจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่นายพูนศักดิ์ เกิดไหวตัวพยายามวิ่งหนีฝ่าวงล้อม แต่ไม่เป็นผลถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุมตัวได้ดังกล่าว

ทั้งนี้ต่อมานายประยูร และ นางชม พากเพียร บิดา-มารดา ของนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้ ได้เดินทางมาที่ กองบังคับการปราบปราม โดยนายประยูรได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการหวาดกลัวว่า ตนนั้นประกอบอาชีพขับรถรับจ้างขนกระเบื้อง มีบุตรชายเพียง 2 คน โดยก่อนหน้านี้ครอบครัวของตนพอมีฐานะเนื่องจากบุตรชายคนเล็กเป็นคนขยันและเรียนเก่งจบการศึกษาระดับปริญญาโทได้ทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง คอยส่งเสียค่าใช้จ่ายภายในบ้านแต่ได้มาเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งในภายหลัง เหลือเพียงนายพูนศักดิ์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุตรคนโตแต่ไม่เคยช่วยทางบ้านทำมาหากิน มีแต่คอยขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ต่อมาระยะหลังครอบครัวตนเริ่มขาดสภาพคล่องทางการเงินทำให้ไม่มีเงินมาให้นายพูนศักดิ์ซื้อยาเสพ นายพูนศักดิ์ จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายตนและภรรยาอยู่เป็นประจำ โดยมีครั้งหนึ่งรุนแรงถึงขั้นหยิบก้อนหินขนาดใหญ่มาเพื่อหวังจะทุ่มใส่ตนหมายเอาชีวิต เพียงแค่ตนหาเงินมาซื้อยาเสพให้ไม่ได้ แต่ยังโชคดีที่ครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่สายตรวจขี่รถผ่านมาพอดีจึงทำให้ตนรอดตายอย่างหวุดหวิด

นายประยูร กล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานายพูนศักดิ์ ได้ใช้มีดและค้อนขู่บังคับให้นางชม ผู้เป็นมารดา ออกเดินตามหาตน เพื่อต้องการขอเงินไปซื้อยามาเสพ จนตนต้องหนีไปขอให้ตำรวจท้องที่มาช่วยเหลือ แต่เมื่อตำรวจมาถึงนายพูนศักดิ์ กลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวจึงได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในบ้านพร้อมกับนำเศษกระจกตู้ปลาที่ถูกทุบแตกนำมากรีดหน้าท้องจนเป็นแผลเหวอะหวะเพื่อขู่ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาภายในบ้าน จนตำรวจต้องยอมเจรจาตกลงล่าถอยออกไปเพราะเกรงว่านายพูนศักดิ์จะเป็นอันตรายมากกว่านี้ ส่วนตนและนางชมต้องหนีไปพักอาศัยที่บ้านของญาติชั่วคราวเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย กระทั่งมาทราบข่าวว่านายพูนศักดิ์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจับกุมตัวได้จึงเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามในวันนี้ ทั้งนี้ตนเองก็หวังว่าการถูกจับกุมในครั้งนี้ของบุตรชายจะทำให้เจ้าตัวสำนึกผิด และตนก็พร้อมจะให้อภัยลูกคนนี้ได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคมเสมอ

จากการสอบสวนนายพูนศักดิ์ ยังคงให้การวกวน โดยยอมรับว่าได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา พรบ.ยาเสพติด ตามหมายจับจริงเนื่องจากเครียดที่ตนถูกภรรยาคนปัจจุบันทิ้งไปมีคนอื่นจนต้องหันมาพึ่งยาเสพติดเพื่อไม่ให้เกิดความฟุ้งซ่าน แต่ยืนยันว่าไม่ได้ใช้กำลังทำร้ายร่างกายบิดามารดาแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าโกรธและไม่พอใจที่ทั้งสองคนนั้นมีส่วนที่ทำให้ตนต้องเลิกกับภรรยา อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้พบว่า ก่อนหน้านี้เคยต้องโทษในคดียาเสพติดมาแล้ว 6 ครั้ง และหนีการรายงานตัวระหว่างการคุมประพฤติจนถูกออกหมายจับในคดีล่าสุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เตรียมนำตัวส่งศาลอาญาธนบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว ปีโป้

เมืองพัทยาจัดโครงการปฏิบัติการพัทยาสีขาวเพื่อการจัดการปัญหายาเสพติดเมืองพัทยา ครั้งที่ 3

พัทยา-(26 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ ชุมชนต้นกระบก อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายวิสิฐศักดิ์ วงศ์วรชาติ หัวหน้าศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหายาเสพติดเมืองพัทยา ได้รับเกียรติเป็นประธานเปิดโครงการปฏิบัติการพัทยาสีขาวเพื่อการจัดการปัญหายาเสพติดเมืองพัทยา ครั้งที่ 3 โดยมีตัวแทนจาก 14 ชุมชน ในเขตเมืองพัทยา พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

IMG_1115

โดยโครงการดังกล่าวเมืองพัทยาได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค2 เจ้าหน้าที่ สอปส. และเชิญประธานชุมชนในเขตเมืองพัทยา ซึ่งมีตัวแทนจากชุมกระทิงลาย ชุมชนต้นกระบก ชุมชนชัยพรวิถี ชุมชนตลาดเก่านาเกลือ ชุมชนบ้านกระบก 33 ชุมชนบ้านหัวทุ่ง ชุมชนไปรษณีย์ ชุมชนโพธิสัมพันธ์ ชุมชนโรงไม้ขีด ชุมชนลานโพธิ์ ชุมชนวัดช่องลม ชุมชนหนองตะแบก ชุมชนหนองใหญ่บ้านบน ชุมชนแหลมราชเวช รวมทั้งหมด 14 ชุมชนเข้าร่วมรับฟังการอบรมให้ความรู้ พร้อมทั้งรับฟังปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับยาเสพติด จากวิทยากรจากหน่วยงานต่างๆ ที่ทางเมืองพัทยาเชิญมาเพื่อพัฒนาและจัดทำดัชนีชีวัดปัญหายาเสพติดของหมู่บ้าน ชุมชน บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด

ทั้งนี้เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนเป็นเครื่องมือในการประเมินสภาพปัญหายาเสพติดของหมู่บ้าน ชุมชน แนวโน้มความรุนแรงในการแพร่ระบาดของยาเสพติด และใช้ติดตามประเมินผลการดำเนินงานในการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดอีกด้วย

IMG_1136

โดยกิจกรรมครั้งนี้ทางเมืองพัทยาจะจัดเก็บข้อมูลพร้อมทั้งลงพื้นที่ประเมินรายละเอียดเกี่ยวกับชุมชนในด้านปัญหายาเสพติดเกี่ยวกับผู้ผลิต/ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ซึ่งหากพบว่าชุมชนใดมีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทางเมืองพัทยาก็จะส่งเจ้าหน้าที่ลงแก้ไขปัญหาพร้อมทั้งให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการแก้ไข้ปัญหายาเสพติดในชุมชนให้ลดน้อยลงหรือหมดไปจากเมืองพัทยา

ภาพ/ข่าว เอกชัย สุขวัฒนะ

ที่ปรึกษา สบ.10 แถลงผลการกวาดล้างอาชญากรรมช่วงสงกรานต์ ตรวจยึดอาวุธปืน ยาเสพติด เพียบ

ที่ปรึกษา สบ.10 แถลงผลการกวาดล้างอาชญากรรมช่วงสงกรานต์ ตรวจยึดอาวุธปืน และยาเสพติดจำนวนมาก หวังสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในแต่ละพื้นที่เพื่อความปลอดภัย

S__22954077

พัทยา-(12 เม.ย. 59) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา(สบ.10) พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ขนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง ร่วมแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาทิ ปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล ยาเสพติด และจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 1-10 เม.ย.59 โดยผลการจับกุมมีดังนี้

S__22954073

ในคดีอาวุธสงคราม จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลาง อาวุธปืนเอ็ม 16 เอ จำนวน 1 กระบอก, คดีอาวุธปืน(ธรรมดา)จับกุมผู้ต้องหา 145 ราย พร้อมของกลางอาวุธปืนจำนวน 152 กระบอก และกระสุนปืนอีก 982 นัด และสามารถบุกทลายแหล่งผลิตอาวุธปืนเถื่อนในพื้นที่ สภ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลาง เครื่องกลึงอาวุธปืน แท่นสว่าน ปากกาหนีบตั้งโต๊ะ มอเตอร์เจียร ปืนอัดลม และชิ้นส่วนในการประกอบปืนอีกจำนวนมาก

S__22954072

ส่วนคดีเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งหมด 480 คดี จับกุมผู้ต้องหา 493 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 17,113 เม็ด ยาไอซ์ 312.31 กรัม ยาอี 200 เม็ด และกัญชา 1,418.49 กรัม นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายได้อีก 1,472 หมาย

ภาพ/ข่าว รุ่ง อินดี้

ปลัดป้องกันฯ นำกำลังบุกทลายซุ้มวัยรุ่นมั่วสุม

ชาวบ้านร้องนายอำเภอบางละมุง วัยรุ่นมั่วสุ่มตั้งก๊วนบ้านร้างในชุมชนจนชาวบ้านหวาดกลัว ปลัดป้องกันฯ นำกำลังบุกทลายซุ้ม เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน

IMG_0608

พัทยา-(24 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 18.00 น. นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากเข้าไปมั่วสุ่ม ภายในบ้านร้าง ชุมชนโพธิ์สาร ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงสั่งการให้ เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำโดย ร.ต.อ.วุฒิกรณ์ ปลอดโปร่ง รองสวป. สภ.เมืองพัทยา เดินทางไปตรวจสอบ

IMG_0600

จากการไปตรวจสอบ ภายในบ้านร้างชุมชนดังกล่าว มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 20 คน กำลังมั่วสุ่มนั่งสูบบารากู่กันอย่างเมามันส์ แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุมต่างพากันแตกฮือ วิ่งหลบหนีไปคนละทิศทาง โดยเส้นทางชุมชนดังกล่าวเป็นพื้นที่กว้าง สามารถออกได้หลายเส้นทาง จึงเป็นการจับกุมที่ค่อนข้างจะยากลำบาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ชำนาญเส้นทางเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ติดตามวิ่งไล่ล่าจับกุมชายวัยรุ่นไว้ได้ ทั้งหมดรวม 7 คน นอกจากนี้ ยังตรวจค้นบริเวณบ้านร้าง เจอทั้ง อาวุธมีดพกสั้น มีดดาบยาว ท่อนเหล็ก เตาบารากู่ และอายัดรถจักรยานยนต์ 6 คันไว้ตรวจสอบอีกด้วย

IMG_0592

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาตรวจหาสารเสพติดในร่าง พบว่าเยาวชนใช้ยาเสพติดประเภทกัญชา1 ราย จึงส่งตัวไปบำบัดตามขั้นตอนกระขบวนการแพทย์ ส่วนเยาวชนที่เหลือได้เรียกผู้ปกครองมาว่ากล่าวตักเตือนและทำประวัติ ก่อนปล่อยตัวกลับบ้านไป ในส่วนของบ้านร้างเป็นเพิงไม้มุงหลังคาสังกะสี ซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุ่มของเยาวชน สอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ทราบว่าไม่มีผู้พักอาศัยแล้วโดยปล่อยร้างมานานแล้ว จึงทำการรื้อถอน เพื่อไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นกลับมามั่วสุ่มได้อีก

IMG_0588

นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า การจับกุมกลุ่มเยาวชนมั่วสุ่มในชุมชนกลางเมืองพัทยาแห่งนี้ สืบเนื่องจากได้มีชาวบ้านละแวกดังกล่าวได้เข้าร้องเรียนว่ามีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามั่วสุ่มจำนวนมาก สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านและเด็กนักเรียนอาศัยในชุมชน เพราะกลัวว่าอาจจะถูกวัยรุ่นชักชวนไปกระทำในทางที่ผิด จึงสั่งการให้ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันฯ นำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมดังกล่าว

ข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ ได้ร่วมกันทำการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวและรื้อถอนบ้านร้างซึ่งทำเป็นแหล่งมั่วสุ่ม ทำเอาชาวบ้านในละแวกดังกล่าวรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยมากขึ้น

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

หนุ่มเสพยาบ้าจนหลอนลากไม้หน้าสามตีสาวแฟมิลี่สาหัส

พัทยา-(4 มี.ค. 59) เมื่อเวลา 05.30 น. ร.ต.อ.บัญญัติ มาวัง รอง สวป.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิด ที่ห้องเช่าเลขที่ 318 ม. 13 ซอยวัดธรรม ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา

ที่เกิดเหตุพบ น.ส.ภัทราวดี ท่าเลิศ อายุ 25 ปี เช่าอยู่ที่ห้องดังกล่าว สภาพนอนจมกองเลือด ที่บริเวณใบหน้า มีแผล ถูกตีด้วยไม้หน้าสาม เป็นแผลฉกรรจ์อาการสาหัส ทางมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา ช่วยกันนำส่ง รพ.บางละมุง ส่วนตัวผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้โดยพักอยู่ห้องตรงข้ามกับผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายสมศักดิ์ ศรีแก้ว อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดหนองคาย พร้อมของกลางไม้หน้าสามเปื้อนเลือดที่ใช้ก่อเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน คนร้าย ให้การ สับสนพูดจาไม่รู้เรื่อง โดยอ้างว่าสาเหตุที่ทำเพราะได้คุยทางจิตกับหมอโดยหมอเป็นผู้สั่งให้ทำ บางทีก็ว่าผู้บาดเจ็บนั้นหลอกเมียให้ขายที่ดินและยังให้การว่าก่อนจะก่อเหตุได้เสพยาบ้าจำนวน 2 เม็ด

ภายหลังจากการสอบสวนจึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นคาดว่าผู้ก่อเหตุน่ามีอาการหลอนทางประสาท เนื่องจากเสพยาบ้า ประกอบกับอาจมีความเครียดเรื่องปัญหาครอบครัว จึงทำให้เกิดประสาทหลอนไล่ทำร้ายชาวบ้านดังกล่าว

ภาพ/ข่าว ซิก