เรื่องทั้งหมดโดย samart

สัมมนาการเสริมสร้างศักยภาพอาคารบางประเภทบางขนาดให้ปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3

พัทยา-(18 ก.พ. 59) ที่ โรงแรมเอ-วัน เดอะรอยัล ครูส นายเจนจบ สุขสด ผู้อำนวยการฝ่ายคุรภาพสิ่งแวดล้อมและห้องปฏิบัติการ กรมควบคุมมลพิษ เป็นประธานเปิดการสัมมนาการเสริมสร้างศักยภาพอาคารบางประเภทบางขนาดให้ปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3 โดยมี ผู้ประกอบการโรงแรม โรงพยาบาลและผู้ประกอบการอาคารชุด ในพื้นที่จังหวัด ชลบุรี และระยอง จำนวน 100 ราย เข้าร่วมสัมมนา

นายเจนจบ สุขสด ผู้อำนวยการฝ่ายคุรภาพสิ่งแวดล้อมและห้องปฏิบัติการ กรมควบคุมมลพิษ กล่าววว่า จากการประกอบกิจการอาคารบางประเภทบางขนาดที่บัญญัติตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 หรือที่เรียกว่า “อาคาร” ถูกกำหนดเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษมีผลให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารดังกล่าวมีหน้าที่ต้องควบคุมการปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะให้เป็นไปตามค่ามาตรฐานน้ำทิ้งที่กฎหมายกำหนด อาคารบางแห่งยังคงประสบปัญหาน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจมีสาเหตุต่างๆ เช่น ผู้ประกอบการไม่ทราบข้อกฎหมายว่าตนเข้าข่ายเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ หรือมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ประสิทธิภาพไม่เพียงพอ รวมถึงไม่มีพื้นที่สำหรับจัดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น

S__11059208

กรมควบคุมมลพิษได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือให้ปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมมีหน้าที่ให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายสิ่งแวดล้อมให้แก่แหล่งกำเนิดมลพิษ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจผ่านการจัดสัมมนาสำหรับผู้ประกอบการ และการให้คำแนะนำในพื้นที่เมื่อมีการร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษรการสัมมนาครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งช่องทางการให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารที่ถูกกำหนดให้เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ ให้สามารถทราบข้อมูลด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมจากอาคารบางประเภทบางขนาด หลักการบำบัดน้ำเสีย และสามารถนำไปพิจารณาปรับปรุงดูแลรักษาระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพและผ่านมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด

สมาคมพระเครื่องเมืองพัทยา มอบเงินช่วยเหลือสังคม และทุนการศึกษา

IMG_7300
สมาคมพระเครื่องเมืองพัทยา มอบเงินช่วยเหลือสังคม และทุนการศึกษา ให้กับมูลนิธิและโรงเรียนในเขตอำเภอบางละมุง เพื่อนำเงินที่ได้ไปต่อยอดทางการศึกษาให้กับเด็กๆ

IMG_7308

พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ โรงแรมฟลิปเปอร์เฮ้าส์ ซอย 7 ถนนพัทยาสาย 2 ทาง สมาคมพระเครื่องเมืองพัทยา นำโดย นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร เหรัญญิกสมาคมพร้อมคณะกรรมการสมาคมฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือสังคม และทุนการศึกษา ให้กับมูลนิธิ และโรงเรียนในเขตอำเภอบางละมุง โดยมี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ งามพิเชษฐ์ อดีต ส.ส.พรรคพลังชล นายเอกสิทธิ์พิเชษฐ์ เลขานุการสมาคมนักธุรกิจเมืองพัทยา ร่วมเป็นสักขีพยาน

IMG_7306

สำหรับในวันนี้มูลนิธิ และโรงเรียน ที่ได้เข้ารับเงินช่วยเหลือสังคมและทุนการศึกษา มีทั้งหมด 4 หน่วยงาน ได้แก่ โรงเรียนผู้รู้ ญ สส.80, ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และเด็กถูกล่วงละเมิด (บ้านครูจา), โรงเรียนอนุบาลหนองปรือ และโรงเรียนวัดเขาโพธิ์ทอง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 110,000 บาท

IMG_7303

จับตานโยบายห้ามมีกิจกรรมชายหาด แต่ “สีสันตะวันออก” กลับโผล่ออกร้านริมหาดพัทยา

จับตานโยบายห้ามมีกิจกรรมชายหาดพัทยาหลังภาคธุรกิจรวมตัวยื่นหนังสือร้องขอ แต่สุดท้ายงาน “สีสันตะวันออก 2559” โผล่ออกร้านริมทะเลพัทยา 120 ร้าน รองนายกพัทยาปวดหัวหวั่นหาบเร่แผงลอยกลับมา พร้อมประสานกำลังทหารดูแลความสงบเรียบร้อย

พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 13.30 น. นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา และนายบุญชัย ทันสมัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี ร่วมประชุมปรึกษาหารือและเตรียมความพร้อมในการดำเนินการจัดงานมหกรรมด้านการท่องเที่ยวระดับชาติ งานมหกรรมสีสันตะวันออกงานเทศกาลท่องเที่ยว “สีสันตะวันออก 2559” ครั้งที่ 2 โดยมีตัวแทน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก (ชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี-ตราด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ทหาร มทบ.14 ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตลอด จนส่วนงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุม 242 ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

IMG_7285

สำหรับกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกัน โดยมีเวทีกลางอยู่บริเวณลานกิจกรรมศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีช รวมทั้งการออกบูธจำหน่ายสินค้ากินพื้นที่ทางเดินเท้าสาธารณะริมชายทะเลพัทยา ระหว่างวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ ไฮไลท์สำคัญของงานอยู่ที่การออกร้าน OTOP ระดับ 4-5 ดาว ร้านอาหารขึ้นชื่อแบบปรุงสำเร็จและปรุงสุกในงาน แหล่งท่องเที่ยว ที่พักโรงแรม จาก 4 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราดจังหวัดละ 30 บูธ รวมทั้งสิ้น 120 บูธ กินพื้นที่ตลอดแนวถนนระยะกว่า 400 เมตร

โดยกิจกรรมนี้กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเป็นผู้เสนอโครงการและงบประมาณผ่านสำนักงบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมกว่า 3 ล้านบาท เพื่อผลักดันให้เกิดการส่งเสริมรายได้จากการท่องเที่ยว โดยแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยมี บริษัท อิมเมจ คอปอเรชั่น (ประเทศไทย) เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินจัดงานหลายช่วงหลายปีที่ผ่านมา

IMG_7288

ในที่ประชุมได้มีการนำเสนอรูปแบบจัดงานที่ปีนี้กำหนดในคอนเซ็ปต์ “สีสันตะวันออก สีสันของชีวิตคุณ” โดยทางตัวแทนบริษัทผู้จัดงานเผยว่าที่ผ่านมาได้จัดการแถลงข่าวจัดงานนี้ไปแล้ว โดยมี นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา และนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เข้าร่วม ขณะที่การหารือวันนี้เป็นการพิจารณาแนวทางในการเตรียมความพร้อมของงาน

โดยในส่วนของบริษัทออแกไนเซอร์ผู้จัดงานได้ขอรับการสนับสนุนกำลังพลในการดูแลความสงบเรียบ ร้อยและรักษาความปลอดภัย พร้อมขอทำการปิดถนนตั้งแต่ช่วงพัทยากลางถึงพัทยาใต้ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป เพื่อจัดเตรียมขบวนพาเหรด โดยมีการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดจราจรและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เนื่องจากอาจได้รับผล กระทบจากการสัญจรในช่วงเวลาดังกล่าว

IMG_7289

ด้านนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ได้เน้นย้ำกับบริษัทผู้จัดงานให้มีการกำหนดรูปแบบการจัดงานให้ดีที่สุดและลดปัญหาที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับผู้ประกอบการหาบเร่ แผงลอยที่อาจขนคนและสินค้าเข้ามาวางจำหน่ายในพื้นที่เป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวได้ โดยร้องขอให้มีการปรับแผนการดูแลใหม่ด้วยการสนธิกำลังจากหลายฝ่ายเข้าร่วม เพื่อดูแล รวมทั้งเฝ้าระวังเรื่องของความปลอด ภัย การจราจร และความสะอาดในระหว่างการจัดงานด้วย

มีรายงานว่าที่ผ่านมากิจกรรมสำคัญอย่างเทศกาลปีใหม่ หรือพัทยาเคาท์ดาวน์ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหลักที่เมืองพัทยาจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวจนติด 1 ใน 10 ของกิจกรรมที่ได้ รับความนิยมสูงสุด ได้มีกลุ่มภาคเอกชนเมืองพัทยาในนามสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา รวม ทั้งสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ได้ยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการถึงนายกเมืองพัทยาเพื่อร้องขอให้พิจารณายกเลิกการจัดกิจกรรมบริเวณริมชายหาดพัทยาอย่างเด็ดขาด เนื่องจากมองว่าการออกร้านจำหน่ายสินค้าริมชายพัทยานั้นไม่เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว เนื่องจากขาดความเป็นระเบียบจนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์อย่างรุนแรง รวมทั้งเป็นการทำลายสภาพแวดล้อมริมชายหาดพัทยาให้มีความเสื่อมโทรม

IMG_7295

ซึ่งกรณีดังกล่าวในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จึงได้มีนโยบายให้ทุกฝ่ายเพิ่มความเข้มงวดอย่างจริงจัง พร้อมเห็น ชอบร่วมกันกับเมืองพัทยาที่จะยกเลิกพื้นที่การจัดเทศกาลปีใหม่จากบริเวณริมชายหาดและไปใช้พื้นที่เฉพาะบริเวณท่าเทียบเรือบาลีฮายพัทยาใต้แทน โดยมีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครนับพันนายมาดูแลตลอดแนวชายหาด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการค้าขายตลอดแนว

โดยในส่วนของกิจกรรม “สีสันตะวันออก” จึงถือเป็นกิจกรรมแรกที่ได้เข้ามาจัดงานและออกร้านริมชาย หาดหลังมีนโยบายในช่วงที่ผ่านมา โดยมีการระบุว่ากิจกรรมนี้เป็นงานของกลุ่มจังหวัดที่จะเสริมสร้างการท่องเที่ยว กระทั่งมีการวิพากษ์วิจารณ์จากหลายส่วนว่ากิจกรรมนี้เหมาะสมต่อการยกเว้นหรือไม่

ผู้สื่อข่าวหนุ่มพัทยาติดลิฟท์ ชั้น 6 อพาร์ทเม้นท์ กู้ภัยฯ เร่งช่วยเหลือวุ่น

ผู้สื่อข่าวหนุ่มพัทยาขึ้นชั้น 6 อพาร์ทเม้นท์ หวังเก็บภาพเหตุไฟไหม้ ขาลงไฟดับลิฟท์ค้าง กู้ภัยฯพร้อมเพื่อนผู้สื่อข่าวรุดช่วยเหลือวุ่น

จากกรณีเมื่อเวลา 17.50 น. ของวันที่ 18 ก.พ.59 เกิดเหตุเพลิงไหม้สนามมวย “แม็กซ์มวยไทยสเตเดียม” ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท-พัทยา 42 ถนนสุขุมวิท พัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา นำรถน้ำดับเพลิงและรถกระเช้ากว่า 10 คัน รุดเข้าช่วยเหลือระงับเหตุโดยด่วน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างเกิดเหตุเพลิงไหม้อยู่นั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้สื่อข่าวติดอยู่ภายในลิฟท์ ของ เอส.เค อพาร์ทเม้นท์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ จึงนำกำลังเข้าช่วยเหลือ

S__19062905

จากตรวจสอบทราบว่า ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวติดอยู่ภายในลิฟท์ บริเวณชั้นที่ 5 เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์งัดประตูลิฟท์ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถช่วยเหลือนำออกมาได้สำเร็จ ทราบชื่อต่อมา นายธีระรักษ์ สุทธาธิวงษ์ อายุ 37 ปี ฉายา “ตั้ม เมืองแพ” ผู้สื่อข่าวประจำเมืองพัทยา

โดย นายธีระรักษ์ เล่าเหตุการณ์ระทึกว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขึ้นไปเก็บภาพเหตุการณ์ไฟไหม้บนชั้น 6 ของอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว หลังจากเสร็จกิจจึงกลับลงมาโดยใช้ลิฟท์ จากนั้นเหตุไม่คาดฝันจึงเกิดขึ้น ไฟเกิดดับจนลิฟท์ค้างอยู่ที่ชั้น 5 ตอนแรกก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะอาคารดังกล่าวยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ และยังไม่เปิดให้คนเข้าพัก จึงพยายามตั้งสติและโทรศัพท์แจ้งเพื่อนนักข่าวด้วยกันที่กำลังทำข่าวไฟไหม้ ก่อนทุบประตูลิฟท์และส่งเสียงขอความช่วยเหลือ จนเวลาผ่านไปกว่า 10 นาที จึงสามารถช่วยเหลือออกมาได้ ซึ่งเหตุการณ์ติดลิฟในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิต

S__19062896

เบื้องต้น ผู้สื่อข่าวรายนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และรีบกลับไปทำหน้าที่ทำข่าวต่อทันที ส่วนสาเหตุเกิดจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาตัดกระแสไฟฟ้า จนทำให้ลิฟท์เกิดค้างเป็นเหตุให้ผู้สื่อข่าวหนุ่มติดอยู่ในลิฟท์ดังกล่าว

เพลิงไหม้สนามมวย “แม็กซ์มวยไทยสเตเดียมพัทยา” เสียหายทั้งหลัง เจ้าของน้ำตาตก

พัทยา-(18 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 17.30 น. ร.ต.ท.อมรเทพ ใหม่มา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้สนามมวย “แม็กซ์มวยไทยสเตเดียม” ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท-พัทยา 42 ถนนสุขุมวิท พัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา นำรถน้ำดับเพลิงและรถกระเช้ากว่า 10 คัน เดินทางไปตรวจสอบ

IMG_7310

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียว ซึ่งเปิดเป็นสนามมวยมาตรฐานขนาดใหญ่ พบเพลิงกำลังลุกไหม้จากด้านหลังตัวอาคารอย่างรุนแรง มีกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้าเป็นจำนวนมาก และกำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงระเบิดอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่จึงกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกห่างเพราะเกรงอาคารจะถล่มลงมา พร้อมกับระดมฉีดน้ำดับเพลิงอย่างเร่งด่วน จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบพบว่าเพลิงได้เผาผลาญอาคารจนไหม้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้จัดการและพนักงานของแม็กซ์มวยไทย ได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวกตามร่างกายเล็กน้อยจำนวน 4 คน จึงรีบนำตัวส่ง รพ.เมืองพัทยา โดยมี นายนวัธ เตาะเจริญสุข ผู้บริหารแม็กซ์มวยไทย ยืนมองซากสนามมวยของตัวเองด้วยแววตาเศร้าสร้อย

IMG_7316

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีช่างมาเติมน้ำยาแอร์บริเวณด้านหลังอาคาร กระทั่งเวลาผ่านไปไม่นานได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นที่คอมเพรสเซอร์แอร์และเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ โชคดีที่ช่วงเวลานั้นสนามมวยยังไม่ได้เปิด แต่ในเวลา 19.00 น.วันเดียวกัน จะมีทัวร์จีนเดินทางมาดูมวยเป็นจำนวนมาก แต่ก็มาเกิดเหตุเพลิงไหม้เสียก่อน เบื้องต้นคาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่น่าจะต่ำกว่า 200 ล้านบาท

IMG_7312

ทางด้าน นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ที่เดินทางมาบัญชาการดับเพลิงยังจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เบื้องต้นพอจะทราบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้คร่าวๆ แล้ว โดยหลังจากนี้ได้สั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าโครงสร้างของอาคารจะถล่มลงมา

IMG_7335

สำหรับสนามมวย “แม็กซ์มวยไทยสเตเดียมพัทยา” ได้มีการทุ่มงบประมาณ 200 ล้านบาทในการก่อสร้าง และมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2557 โดยมี นายนวัธ เตาะเจริญสุข เป็นผู้บริหาร และนายปิยชาติ ศรีจันทร์ เป็นหุ้นส่วนใหญ่ ถือเป็นเวทีมวยที่ทันสมัยครบเครื่อง มีอุปกรณ์ต่างๆ ครบครัน ติดเครื่องปรับอากาศอย่างดีอีกต่างหาก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา

IMG_7339

IMG_7350

IMG_7363

IMG_7389

IMG_7410

IMG_7415

IMG_7422

IMG_7386

ฝ่ายปกครองบางละมุงลุยจับร้านเหล้าหรูลอบขายบารากู่-แหล่งเหล้าเถื่อนกลางวอล์กกิ้งสตรีท

พัทยา-(18 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 03.00 น. นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดป้องกันปราบปราม และนายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอ ได้ร่วมกันสนธิกำลังฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กว่า 30 นาย แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด เพื่อทำการออกตรวจสอบสถานบันเทิงในพื้นที่เมืองพัทยา ที่รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม

IMG_8936

จากการเข้าตรวจสอบ ร้านเดอะ อีซี่ เอ็นจอย ตั้งอยู่ทางลงชายหาดพัทยาเหนือ พบว่าร้านสูง 2 ชั้น ตกแต่งด้วยอุปกรณ์อย่างหรูหรา โดยยังเปิดจำหน่ายสุราเกินเวลาให้กับลูกค้าชาวไทยและต่างชาติเกือบเต็มร้าน ซึ่งในบางโต๊ะมีการนั่งสูบบารากู่สินค้าห้ามขายกันอย่างเมามัน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ทางร้านปิดเพลง และขอความร่วมมือให้ลูกค้าอยู่ในความสงบ เพื่อสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ ตรวจค้นครัวหลังร้าน สามารถยึดยาเส้นบารากู่จำนวน 5 กิโลกรัม เตาสูบ 8 เตา และอุปกรณ์ต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยมี นายวงศ์สถิต นาทองบ่อ อายุ 35 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน

IMG_8942

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกัน ได้เข้าตรวจสอบร้านเก็บตะวัน ยาดองสมุนไพร ตั้งอยู่ภายในวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ พบว่าร้านดังกล่าวก็ยังคงเปิดให้บริการ เมื่อเข้าตรวจภายในร้านพบนักเที่ยววัยรุ่นจำนวนมากนั่งดื่มยาดองอยู่ตามโต๊ะ พร้อมกับเต้นตามจังหวะเสียงเพลงอย่างสนุกสนาน ตรวจค้นบริเวณบันไดทางขึ้นเจอโหลยาดองหลากหลายสูตร อาทิเช่นนารีลำพึงสูตรเย็น นารีแก้ผ้า รวมทั้งสิ้นกว่า 70 ลิตร และยังพบเด็กอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดเข้ามาเที่ยวอยู่ 4 คน โดยมี น.ส.ณัฐพัชร์ ลิม อายุ 34 ปี รับเป็นเจ้าของกิจการ

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ตร.พัทยา จับหนุ่มโคราชพกปืนจิ๋ว-ยาไอซ์ คาด่าน

พัทยา-(18 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.ท.ไชยณรงค์ ไชยอินทร์ รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจ ได้ร่วมกันจับกุมนายชัยชนะ เฉลิมพงษ์ อายุ 38 ปี ชาวนครราชสีมา พร้อมของกลางอาวุธปืน บราวนิ่ง ขนาด 6.35 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนจำนวน 4 นัด และยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) สามารถจับกุมได้ที่ซอยกรมที่ดิน ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ร.ต.ท.ไชยณรงค์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนำกำลังตั้งด่านป้องกันเหตุอาชญากรรม ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา จากนั้นพบผู้ต้องหาขับขี่รถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ ท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกขอทำการตรวจค้น พบอาวุธปืนขนาดเล็กจิ๋วดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋ากางเกงด้านหลังและยังพบยาไอซ์บรรจุอยู่ภายในซองซิบ 1 ซอง จึงควบคุมตัวมายังสภ.เมืองพัทยา

สอบถาม นายชัยชนะ ให้การอ้างว่า อาวุธปืนและยาไอซ์เป็นของตนเองจริง โดยไม่คิดว่าทางเจ้าหน้าที่จะค้นเจอเพราะปืนนั้นเป็นปืนขนาดเล็กจิ๋วมาก แต่ตนเองก็พกไว้เพียงแค่ป้องกันตัวเท่านั้น ส่วนยาไอซ์ก็ซื้อมาเสพเอง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

“นางฟ้าจำแลง” ปันเงินเดือนซื้ออาหารช่วยเจ้าตูบที่ไร้บ้านนานกว่า 2 ปี

พัทยาก็มี ! “นางฟ้าหมาถนน” แบ่งเงิน 8,000-10,000 ทุกเดือน ซื้ออาหารให้น้องหมาจรจัดกว่า 80 ตัว วันเว้นวันหลังเลิกงานกว่า 2 ปี เผยทำด้วยรักไม่แคร์สายตาใคร แค่ทำแล้วมีความสุขก็โอเค คิดอยากให้มีหน่วยงานลงพื้นที่คุมกำเนิดก่อนขยายพันธุ์เพิ่มประชากรบานปลาย

ผู้สื่อข่าวได้รับทราบข้อมูลว่าในเมืองพัทยามีหญิงสาวคนหนึ่งเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนำอาหารมาให้สุนัขจรจัดบริเวณพื้นที่รกร้างหลังหลังห้างโลตัส พัทยาเหนือ ที่อาศัยอยู่เป็นกลุ่มรวมทั้งหมดกว่า 80 ตัว เกือบทุกตอนเย็นหลังเลิกงานมาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี จึงลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า
เมื่อไปถึงพบหญิงสาวคนดังกล่าวกำลังนำอาหารสุนัขแบบเม็ดผสมข้าวและเนื้อไก่คลุกให้สุนัขจรจัดกลุ่มหนึ่งอยู่ เมื่อสอบถามปรากฏว่าเธอไม่ต้องการจะออกสื่อ โดยไม่อยากออกหน้าหรือบอกชื่อและนามสกุล แต่พอผู้สื่อทำความเข้าใจถึงบทบาทการทำงาน เธอจึงให้ข้อมูลที่น่าสนใจมา โดยอ้างชื่อสมมุตว่า “นกแก้ว”

S__11042867

น.ส.นกแก้ว (นามสมมุต) บอกกับผู้สื่อข่าวว่าสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่แถวนี้มีประมาณ 3-4 ฝูง เฉลี่ยรวมแล้วกว่า 80 ตัว อาศัยอยู่บนพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่บริเวณหลังห้างโลตัสทะลุซอยไปจนถึงซอยโพธิสารตัดซอยสะอิ้ง ซึ่งแต่ละฝูงจะไม่ข้ามถิ่นกัน การให้อาหารก็ต้องทยอยให้ทีละจุด ซึ่งจะเดินทางมาให้อาหารสุนัขจรจัดเหล่านี้อยู่เป็นประจำ วันเว้นวัน แต่ถ้าวันไหนมีงานหรือติดธุระวันนั้นสุนัขเหล่านี้ก็ต้องหากินแบบอดๆ อยากๆ กันไป

เธอเล่าว่า เธอทำงานเป็นพนักงานอัตราจ้างอยู่ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา และมีกิจการส่วนตัว ซึ่งแต่ละเดือนจะเจียดเงินที่หามาได้ประมาณ 8,000-10,000 บาท เพื่อนำไปซื้ออาหารมาให้สุนัขเหล่านี้ ตอนแรกก็มาให้นานๆ ครั้ง พอนานวันเข้าก็รู้สึกสงสาร เพราะรู้ว่าสุนัขเหล่านี้เคยเป็นหมาเลี้ยงที่เคยมีเจ้าของแต่ถูกทอดทิ้ง ต่อมาก็มาบ่อยขึ้นจนเกือบจะทุกวัน โดยทำแบบนี้มาได้กว่า 2 ปีแล้ว

S__11042870

“ส่วนตัวมองว่าปัญหาเหล่านี้ เป็นปัญหาที่ปลายเหตุ ถ้าจะมองที่ต้นเหตุคือคนเรานี่แหละ คนที่เอาหมามาทิ้งเยอะมาก เพราะเลี้ยงไปไม่ถูกใจก็เอามาปล่อย ถ้าไม่มีความพร้อมอย่าไปเลี้ยงเลย เพราะพอพามาปล่อย หมาเหล่านี้ก็ผามพันธุ์ออกลูกหลานเพิ่มมากขึ้น ประชากรสุนัขจรจัดก็มากขึ้น ต่อไปก็จะหาทางแก้ไขได้ยาก”

น.ส.นกแก้ว บอกต่อว่าเธอจะทำแบบนี้ต่อไปโดยที่ไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง อาจมีคนมองว่าสร้างภาพว่าเป็นคนรักสัตว์ เพราะเวลาไปงานเลี้ยงที่ไหนหากมีเศษอาหารเหลือก็จะเก็บรวมไว้ให้สุนัขจรจัด แรกๆก็ไม่มีคนเข้าใจหาว่าทำเอาหน้าบ้าง ทำเพื่อเรียกร้องความสนใจบ้าง แต่ทุดวันนี้ไม่ได้แคร์หรือสนใจอะไรพวกนั้นแล้ว เรามาทำตรงนี้ เรามีความสุขเวลาเห็นหมามากินอาหารตรงนี้ก็รู้สึกสบายใจแล้ว สังคมจะน่าอยู่ ถ้าคนเรารู้จักช่วยเหลือและแบ่งปัน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยคุมกำเนิดสุนัขเหล่านี้ ไม่อย่างนั้นก็จะขยายพันธุ์เพิ่มประชากรสุนัขจรจัดขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก

ตร.พัทยา ตามรวบอดีตคนขับรถโรงแรม ออกตระเวนเช่ารถตามเต็นท์แล้วเชิดเผ่นหนี

พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 18.30 น.พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แถลงข่าวจับกุม นายกานต์ ปั้นบุญชู อายุ 41 ปี ชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาในคดีเช่ารถยนต์แล้วเชิดหลบหนี พร้อมของกลางรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กล 2334 ขอนแก่น และรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฮน-6807 กรุงเทพฯ โดยมี น.ส.วราภรณ์ สิงห์ค้อ อายุ 38 ปี ผู้เสียหายชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น และน้องชาย ชี้ให้จับกุม

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.วราภรณ์ อาชีพรับราชการในตำแหน่งธุรการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ จ.ขอนแก่น ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุขทัศน์ เพื่อขอให้ช่วยตามรถยนต์ของกลางทั้ง 2 คัน ที่นายกานต์ ผู้ต้องหารายนี้เช่ามาจากเต๊นท์รถที่ น.ส.วราภรณ์ กับเพื่อนร่วมหุ้นกันทำในเมืองขอนแก่น และสามารถจับสัญญาณ จีพีเอส.ของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ได้ว่าอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา ภายหลังจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา พร้อมกับผู้เสียหาย เดินทางไปตามสัญญาณจีพีเอส จนพบรถจอดอยู่บริเวณโกดังตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพัทยาใต้ และสามารถจับกุมนายกานต์ ได้ในเวลาต่อมา ก่อนสอบขยายผลตามไปยึดรถตู้อีก 1 คัน ที่ ห้างสรรพสินค้าโลตัส ใน อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

โดย น.ส.วราภรณ์ เล่าว่า เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว นายกานต์ ได้นำเอกสารสัญญาการขอเช่ารถยนต์ของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา มาทำการแสดงและอ้างว่าต้องการเช่ารถไปรับส่งลูกค้าชาวต่างชาติในพัทยา และขอเช่ารถตู้ในราคาเดือนละ 17,000 บาท ก่อนที่จะจ่ายเงินบางส่วนให้ กระทั่งเดือน ม.ค.ปีนี้ นายกานต์ นำเอกสารมาขอเช่ารถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ อีก 1 คัน ในราคา 23,000 บาทต่อเดือน พร้อมกับนัดหมายจ่ายเงินประกันจำนวน 20,000 บาทในวันที่ 5 ก.พ. ด้วยความเชื่อใจ และดูเป็นคนภูมิฐาน จึงยอมปล่อยรถไป แต่ภายหลังเจ้าตัวกลับติดต่อไม่ได้และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ไว้เป็นหลักฐาน และสามารถจับสัญญาณ จีพีเอส.ของรถว่ายังอยู่ในเมืองพัทยา จึงเข้าพบตำรวจและขอให้ช่วยไปจับกุมดังกล่าว
จากการสอบปากคำนายกานต์ ผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพว่า ในอดีตเคยเป็นพนักงานขับรถรับ-ส่งนักท่องเที่ยวของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา แต่ภายหลังเพราะพิษเศรษฐกิจจึงทำให้โดนปลดออกจากงานทำให้ไม่มีเงินใช้ จึงตัดสินใจไปเช่ารถยนต์แล้วเชิดหนี แล้วนำไปส่งต่อให้กับนายเศรษฐวุฒิ ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง เพื่อนร่วมแก๊ง เพื่อเอาไปขายต่อตามเต๊นท์รถย่านลาดกระบัง และ อ.สามโคก จต.ปทุมธานี ในราคาตกคันละประมาณ 70,000 – 100,000 บาท

ด้าน พ.ต.อ.สุขทัศน์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายกานต์ มีหมายจับในพื้นที่เมืองพัทยาจำนวน 2 หมาย และพื้นที่ธัญญะบุรีอีก 1 หมาย เบื้องต้นทำการควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย

ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง-ทหาร ลุยโค่นต้นกระท่อมบ้านกรรมการมัสยิ


พัทยา-(17 ก.พ. 59) เมื่อเวลา 18.00 น. นายประพันธ์ ประทุมชุมภู หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย เรืออากาศโทภรศิษฐ์ จิมรามวงศ์ ปลัดฝ่ายป้องกันปราบปราม สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.14 กว่า 20 นาย ได้เข้าตรวจสอบ้านเลขที่ 165/2 ภายในซอย 11 พรประภานิมิต ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังมีการร้องเรียนเข้ามาว่ามีการลักลอบปลูกต้นกระท่อม

IMG_8715

จากการตรวจสอบนายนนท์ธวัช บุญจั่น อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน มีตำแหน่งเป็นกรรมการมัสยิดยามีอุ้ลอิสลาม กำลังกวาดลานบ้านอยู่ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเอาไว้ก่อน โดยพบว่าต้นกระท่อมสูงประมาณ 6-7 เมตร สภาพนั้นเหลือเพียงแต่กิ่ง ส่วนใบนั้นถูกตัดไปจนเกลี้ยง ซึ่งปลูกไว้อยู่บริเวณประตูหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงนำอุปกรณ์ช่วยกันตัดทำร้ายทิ้ง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที สามารถโค่นต้นกระท่อมได้สำเร็จในที่สุด

IMG_8679

จากการสอบสวน นายนนท์ธวัช เจ้าของบ้าน ให้การว่า ต้นกระท่อมดังกล่าวได้ขึ้นมาเองตั้งแต่เมื่อ 25-30 ปี ก่อนที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ เมื่อใบกระท่อมขึ้นตามต้นก็จะรีบตัดทิ้งทันที ซึ่งบางครั้งก็มักจะมีคนมาขอตัดใบกระท่อมเอากินทำยาแก้โรคเบาหวานและความดัน ทั้งนี้ ก็เคยนำใบกระท่อมกินรักษาความดันเหมือนกัน โดยไม่มีเจตนาปลูกเพื่อขายและไปกระทำการผิดอื่นๆ

เบื้องต้นเปิดเผยว่า สำหรับ นายนนท์ธวัช ไม่มีเจตนานำไปกระทำความผิดจริง เนื่องจากต้นกระท่อมได้ขึ้นมาตั้งแต่ นายนนท์ธวัช ก่อนจะเข้ามาอาศัยในบ้านหลังนี้ โดยมีชาวบ้านพื้นที่ดังกล่าวเป็นพยานยืนยัน ว่าเจ้าตัวจะตัดทิ้งอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายนนท์ธวัช ไปลงบันทึกยังที่ว่าการอำเภอบางละมุง ก่อนจะปล่อยตัวกลับบ้านไป

ภาพ/ข่าว สมบอล คนไทย